ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ กับวิธีคิด พลิกชีวิตสู่ CEO หมื่นล้านผ่านรายการ "พราวไนท์" ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี

 เมื่อความคิดเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นแรงผลักดันให้ชีวิตประสบความสำเร็จ นั่นจึงทำให้มนุษย์เงินเดือนธรรมดา ๆ คนหนึ่งในอดีต อย่าง "ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ" กลายเป็น CEO เงินล้าน อย่างเช่นทุกวันนี้ และ ดร.ประสิทธิ์ ก็ได้มาเปิดเผยทุกเรื่องราวความสำเร็จของเขา ผ่านรายการ "พราวไนท์" ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม

            ทั้งนี้ ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ปัจจุบันคือ CEO หนุ่มไฟแรงของวงการเงินทุนหลักทรัพย์ เขาเป็น 1 ใน 5 ของ CEO ที่ได้รับเงินเดือนสูงที่สุดในประเทศไทยจากการจัดอันดับในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งเขาบอกว่า กว่าจะได้มาถึงขนาดนี้มาจากการเรียนรู้ของเขาเอง เพราะสมัยก่อนเขาเป็นเพียงเด็กหาดใหญ่ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แต่มีความฝันว่าอยากรวย และเป็นคนชอบตัวเลขมาตั้งแต่เล็ก ๆ ก็เลยพยายามศึกษาเรื่องต่าง ๆ มาโดยตลอด
            เมื่อถามว่าแล้วทำเช่นไร ดร.ประสิทธิ์ จึงก้าวมาถึงระดับนักธุรกิจที่เรียกได้ว่าเป็นระดับ "ดารา" ได้ เจ้าตัวบอกว่า การจะเป็นดาราในบริษัทได้นั้นต้องเป็นผู้ที่ทำเงินสูงสุดในกับองค์กรและไม่มีความเสี่ยง ใครทำเงินได้นั้นคือ "ดาราอมตะ" ซึ่งที่เขาทำได้เป็นเพราะเขารู้ว่า หากจะไปจับปลาควรจะไปจับที่ไหน และนั่นจะทำให้บริษัทเห็นคุณค่าในตัวเองเป็นสินทรัพย์ เป็นการสร้างมูลค่าตัวเองให้เพิ่มขึ้น 

            และเหตุการณ์ที่ทำให้คนให้การยอมรับว่า ดร.ประสิทธิ์ เป็นดาวของวงการหุ้นจริง ๆ ก็คือ การที่เขาเสี่ยงตายว่ายน้ำฝ่าน้ำท่วมในอำเภอหาดใหญ่ ไปเคาะขายหุ้น 600 ล้านให้ลูกค้าได้สำเร็จก่อนหมดเวลาซื้อขายหุ้น เรียกได้ว่าได้ใจลูกค้าสุด ๆ ในครั้งนั้น และทำให้เขาได้รับข้อเสนอซื้อตัวจากนักธุรกิจมากมาย บ้างก็ให้ 5 ล้านบ้าง 10 ล้านบ้าง จนถึง 30 ล้านก็ยังมี 

            แต่ใช่ว่า ดร.ประสิทธิ์ จะเลือกทำงานให้คนที่ให้เงินมากที่สุด ตรงกันข้าม ดร.ประสิทธิ์ ใช้แนวคิด "ขอเป็นคนเลือกนาย ไม่ใช่ให้นายเลือก" โดยยิงคำถามใส่ทุก ๆ คนที่ยื่นข้อเสนอให้เขา แล้วรอฟังคำตอบกลับมา เพื่อดูแนวคิด วิธีแก้ปัญหาของคน ๆ นั้น ปรากฏว่า คนที่ตอบได้ตรงใจ ดร.ประสิทธิ์ ที่สุดคือคนที่จะให้เงินเขาเพียงแค่ 5 ล้านบาทเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นข้อเสนอที่น้อยที่สุด แต่ ดร.ประสิทธิ์ ก็ตัดสินใจเลือกทำงานให้เขา 
            เมื่อถามว่า ดร.ประสิทธิ์ จะเลือกเจ้านายแบบไหน เขาตอบอย่างไม่ลังเล ว่า "หนึ่ง ต้องเก่ง สอง ต้องดี เก่ง ต้องเก่งกว่าผม และต้องเป็นคนดีด้วย แต่โชคดีที่ผมเจอคนดีเยอะ เวลาทำงานเลยแฮปปี้"

            กระทั่งอายุ 30 กว่าปี ดร.ประสิทธิ์ ที่เรียนจบปริญญาเอกแล้วก็ได้เป็น CEO แล้วการที่ก้าวขึ้นมาติดอันดับต้น ๆ ของประเทศได้นั้น ไม่ใช่เพราะตัวเขาคนเดียว แต่เป็นเพราะเขามีทีมเวิร์กที่เก่งด้วย และเขาก็ไม่ได้คิดว่าทุกอย่างต้องประสบความสำเร็จทั้งหมด 

            "ทุกคนผิดพลาดได้ แต่เมื่อผิดพลาดแล้วก็ต้องถือว่าเป็นประสบการณ์ ต้องถอยหลังมา 1 ก้าว แล้วก็เดินต่อไป หยิบสิ่งที่ผิดนั้นมานั่งคิด ห้ามท้อ ถอยมาแค่ดูว่าสิ่งที่ผิดคืออะไร เราจะแก้อย่างไร เพราะนี่คือประสบการณ์ที่ทำให้เราเก่งขึ้น" CEO คนดังบอก

            พร้อมกันนี้ ทางรายการพราวไนท์ ก็ได้พาไปเปิดบ้าน ดร.ประสิทธิ์ ให้ทุกคนได้ชมด้วย ซึ่งทุกการตกแต่งในบ้านนั้นเป็นไปตามหลักฮวงจุ้ยทั้งสิ้น แต่ที่น่าตื่นตะลึงก็คือ กระเป๋าหลุยส์ วิตตอง หลายร้อยใบที่วางเรียงรายอยู่ในตู้ ถือเป็นของสะสมที่ ดร.ประสิทธิ์ รักที่สุด 

            อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวก็ย้ำว่า ตัวเองไม่ได้เป็นคนฟุ่มเฟือย การจะซื้ออะไรต้องขึ้นอยู่กับว่าตัวเองหาเงินได้เท่าไรด้วย ถ้ามีเงิน 10 บาท ทำบุญ 1 บาท ซื้อของ 1 บาท เราก็ยังมีเงินเก็บอยู่ ก็ถือเป็นการซื้อความสุขให้กับตัวเอง ทั้งนี้ เงินที่หามาได้ เขาจะนำมาให้พ่อแม่ สร้างความสุขให้พ่อแม่ก่อนเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยครอบครัว และสังคม เช่น สร้างโรงเรียน สร้างวัด สถานที่ปฏิบัติธรรม ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส ปัจจุบันนี้เขาก็มีโรงเรียนเป็นของตัวเองด้วย เป็นการทำบุญที่เขาทำมาโดยตลอด

            "การให้บุญไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แค่เราพูดกันดี ๆ พูดธรรมะกัน ปลอบใจเพื่อน ให้เกียรติเพื่อน นั่นคือบุญมหาศาลที่จะเกิดขึ้น จงสะสมมันทุกวัน มันจะแปลงเป็นอริยทรัพย์ให้กับเรา แล้วเราจะมีกัลยาณมิตร ให้สิ่งไหน สิ่งนั้นก็ตอบแทนกลับมาหาเรา เราให้สมบัติไป วันหนึ่งสมบัติก็มา แต่เราไม่ต้องรอให้วันที่สมบัติมานะ รอว่าวันนี้เรามีความสุขไหมกับการที่เราให้เงินไป ถ้าเราตอบว่าเรามีความสุข นั่นคือเราประสบความสำเร็จของการเป็นผู้ให้ที่ดี" ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ก้าวทิ้งท้ายด้วยข้อคิดที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Passion To Proud