ไมโลสุนัขพันธุ์เทอร์เรียร์ผสมที่คอยทำหน้าที่เป็นสุนัขนำทาง ดูแล และเป็นดวงตาให้กับเจ้าเอ็ดดี้คู่ซี้ตาบอด


ซึ้ง! มะหมาอังกฤษสุดผูกพัน คอยดูแลคู่ซี้ตาบอดไม่ห่าง
เอ็ดดี้ - ไมโล 

          นอกจากสุนัข จะเป็นเพื่อนซี้สี่ขาที่แสนซื่อสัตย์ต่อมนุษย์อย่างเรา ๆ แล้ว มันก็ยังดูแลเพื่อนสุนัขด้วยกันเองเป็นอย่างดี เฉกเช่นเรื่องราวที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ที่จะพาคุณ ๆ ไปสัมผัสความน่ารักและสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของไมโลและเอ็ดดี้ มะหมาเพื่อนรัก 2 ตัว ที่ถึงแม้ตัวหนึ่งจะตาบอดไป แต่เพื่อนตูบอีกตัวก็คอยเฝ้าดูแลไม่ห่าง...

          วันที่ 7 มีนาคม 2556 เว็บไซต์มิร์เรอร์ของอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวสุดน่าประทับใจของเจ้าไมโล สุนัขพันธุ์เทอร์เรียร์ผสมวัย 6 ขวบ ที่คอยทำหน้าที่เป็นสุนัขนำทาง ดูแล และเป็นดวงตาให้กับเจ้าเอ็ดดี้ มะหมาเพื่อนรักที่เติบโตมาด้วยกัน แต่ดันปัญหาทางสุขภาพ จนทำให้มันตาบอดไปเมื่อปีที่แล้ว

ซึ้ง! มะหมาอังกฤษสุดผูกพัน คอยดูแลคู่ซี้ตาบอดไม่ห่าง

          โดย แองจี้ เบเกอร์ - สเตดแฮม ชาวเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศอังกฤษ เจ้าของของสุนัขคู่ซี้ ได้เล่าว่า "ทั้งไมโลและเอ็ดดี้เป็นเพื่อนรักกัน พวกมันเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อปีที่แล้ว ฉันรู้สึกได้ว่าเอ็ดดี้เริ่มมองไม่เห็นสิ่งต่าง ๆ หลังจากที่มันเริ่มเดินชนข้าวของ เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันรู้สึกเศร้าและฉันก็รู้ว่าไมโลก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติและเศร้าซึมลง"

ซึ้ง! มะหมาอังกฤษสุดผูกพัน คอยดูแลคู่ซี้ตาบอดไม่ห่าง

          หลังจากเอ็ดดี้ตาบอดแล้ว ไมโลก็ก้าวเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้ดูแลเอ็ดดี้ โดยที่ไม่เคยได้รับการฝึกมาก่อน มันทำหน้าที่เป็นเหมือนดวงตาของเอ็ดดี้ คอยช่วยดึงเอ็ดดี้เอาไว้ในยามที่เอ็ดดี้เดินออกนอกเส้นทาง ก่อนที่มันจะคอยเดินนำทางเอ็ดดี้ไปยังที่ต่าง ๆ พาไปป่าที่พวกมันชอบไปเล่นด้วยกันก่อนที่เอ็ดดี้จะตาบอด โดยเจ้าเอ็ดดี้นั้นจะชอบลงเล่นน้ำ แต่ไมโลก็จะคอยเฝ้ามองไม่ให้คลาดสายตาอยู่บนฝั่ง และจะคอยเล่นแหย่เอ็ดดี้เป็นระยะ นอกจากนี้ ไมโลจะคอยเฝ้าดูเอ็ดดี้อยู่เสมอ และจะคอยนั่งข้าง ๆ คอยพยุงดูแลให้เอ็ดดี้รู้สึกเหมือนกับว่ายังมีใครคอยเคียงข้างตลอดเวลา อีกทั้งคอยเลียหน้าเอ็ดดี้ นอนหลับด้วยกัน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแทบทุกนาที เรียกได้ว่า มันทั้งสองไม่เคยจะห่างกันเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ดี แองจี้ได้เปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วเคยมีช่วงที่เอ็ดดี้และไมโลห่างกันไปสักพักอยู่ คือเมื่อไมโลป่วยเป็นโรคโลหิตจางจากภาวะที่เกิดการทําลายเม็ดเลือดแดงก่อนอายุขัย จึงทำให้ไมโลต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และไปโรงพยาบาลเพื่อเปลี่ยนถ่ายเลือดเป็นประจำ ซึ่งในช่วงนั้น เอ็ดดี้ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เพราะไม่มีไมโลแล้ว แต่ท้ายที่สุด เจ้าไมโลก็ได้กลับบ้านพร้อมสุขภาพที่แข็งแรง มาคอยดูแลเจ้าเอ็ดดี้เรื่อยมา