อนุมัติแล้ววีออสใหม่Vios 2013 ผ่านฉลุยคืนภาษีรถคันแรกพร้อมวิเคราะห์วีออสใหม่ Vios 2013หล่อล่ำขึ้น สปอร์ตเอาใจผู้ชายมากขึ้น และอีโค่คาร์Eco Car จากโตโยต้าToyota



Toyota  ออกโรงแถลง Toyota Vios 2013  ใหม่ ได้คืนภาษีรถคันแรกแน่หลัง สรรพสามิตไฟเขียว ย้ำเปิดตัวปีหน้าจี้ลูกค้าจองสิทธิก่อน


               นาย วิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โยต้า วีออส ใหม่ นั้นได้รับสิทธิภาษีรถยนต์คันแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางบริษัทฯได้ดำเนินการทุกอย่างตามข้อกำหนดของกรมสรรพสามิตอย่างครบถ้วนในการยื่นขอสิทธิ์ภาษีรถยนต์คันแรก โดยรถที่จะได้สิทธิรถคันตามตามเงื่อนไขของกรมสรรพสามิต ราคาไม่เกินหนึ่งล้านบาท เครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตร เป็นรถที่ประกอบในประเทศ มีการประกอบรถจริงบนสายพานการผลิต พร้อมทั้งได้มีการเสียภาษีในปี 2555 ซึ่งรถยนต์  Toyota Vios ใหม่ ได้ผ่านการตรวจสอบ และได้รับการอนุมัติจากกรมสรรพสามิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยลูกค้าที่ซื้อรถวีออสใหม่สามารถตรวจสอบการได้รับสิทธิคืนภาษีรถยนต์คันแรกได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพสามิต  https://firstcar.excise.go.th/
นายวิเชียร กล่าวเพิ่มเติมว่า "สำหรับการที่เรายังไม่สามารถเผยโฉมรถวีออส ใหม่ สู่สาธารณชนได้ในช่วงเวลานี้ เนื่องจากรถยนต์วีออสนั้นมีจำหน่ายอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ ซึ่งในการผลิตรถยนต์แต่ละโมเดลของโตโยต้าจะมีการกำหนดแผนการดำเนินงานในระยะยาวไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้การดำเนินงานทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้  การเผยโฉมรถยนต์วีออสรุ่นใหม่ในช่วงเวลานี้อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานตลอดจนการจำหน่ายรถยนต์วีออสรุ่นปัจจุบัน ที่ยังคงมีการจำหน่ายอยู่ในประเทศอื่นๆได้"
                "สำหรับการที่ทางโตโยต้าเปิดรับจองรถยนต์วีออสรุ่นใหม่ให้แก่ลูกค้าในเวลานี้นั้น เนื่องจาก วีออส เป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมของคนไทย โดยมียอดค้างจองที่สูงมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลลูกค้าโตโยต้า ที่มีความต้องการจะซื้อรถวีออสจริงๆ เราจึงได้เปิดรับจองรุ่นใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า
อย่างไรก็ตามทาง โตโยต้าก็ได้จัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์พร้อมราคาโดยละเอียดของรถยนต์ วีออส ใหม่ ให้กับลูกค้าที่สนใจ โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดได้ที่ โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 352 แห่ง ทั่วประเทศ"  นายวิเชียร กล่าวในที่สุด
 วิเคราะห์ Vios 2013 หล่อล่ำขึ้น สปอร์ตเอาใจผู้ชายมากขึ้น และ Eco Car จาก Toyota
จากภาพถ่ายที่หลุดรอดออกมา (จากที่ไหนซักแห่ง) ทำให้เราทราบว่า Vios รุ่นใหม่ที่จะ
เปิดตัวประมาณต้นปีหน้านั้นจะมีหน้าตาออกมาประมาณนี้ ซึ่งเป็นเทรนด์การออกแบบใหม่
-Keen look- ที่ถูกนำไปใช้กับรถ Toyota หลายๆ รุ่นทั่วโลกขณะนี้ ส่วน Eco car ที่ยัง
ไม่รู้ว่าจะถูกสร้างบนพื้นฐานเดียวกับ Vios หรือไม่ จะเปิดตัวในช่วง Q3 ของปี 2013
Vios ใหม่ปี 2013 จะเน้นลูกค้าผู้ชายมากขึ้น 100% หุ่นน่าจะเพรียวแต่ดูแข็งแรงขึ้นแบบ
Sonic sedan มีหน้าตาดุดัน (กำลังโมโหมาก) น่าจับตาเครื่องใหม่กลางอายุตลาด ถ้าไม่
สามารถเปิดตัวเครื่องใหม่ทันตั้งแต่ต้น
สำหรับ Vios รุ่นปัจจุบัน (Belta) ออกแบบตามรสนิยมผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านชาวญี่ปุ่น
ครับ ทำให้ผู้ชายรักความสปอร์ตเท่ มองแล้วหมดอารมณ์ แต่ก็ขายได้กับผู้หญิงและ
ผู้ชายที่เน้นการใช้งานได้ในวงกว้าง (โดยเฉพาะการได้ใช้ชื่อ Vios ขายในบ้านเรา)
ด้านรูปทรง ปัจจุบันยังไม่มีรถซีดานขนาด sub-compact ที่ถูกสร้างบนพื้นฐานแฮชแบ็ก
มีรูปทรงที่ลงตัวนัก แม้แต่ City เองก็ตามก็ยังมีด้านหน้าเหมาะกับรูปทรงแบบท้ายตัดมาก
กว่า ให้ดูจากครึ่งหน้าของ Civic Euro รุ่นก่อน CR-Z หรือ Honda Insight ซึ่งใช้สัดส่วนเดียวกับ
City (ขนาด, ความลาดเอียง, สัดส่วนเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ) เราไม่ได้บอกว่า City ปัจจุบัน
มีรูปร่างที่แย่มาก แต่แค่จะบอกว่าสัดส่วนของรูปทรงด้านหน้านั้นเหมาะสมกับด้านหลังที่ไม่มี
บั้นท้ายเลยมากกว่า


รูปทรงมองแล้วคล้าย Sonic ของ Chevrolet
Toyota Vios ในปี 2005 ไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะรูปทรงต้องอ้างอิงกับตลาดลูกค้าผู้หญิง
ที่เน้นด้านความสบายและความอเนกประสงค์ ดังนั้นพื้นที่ว่างของห้องโดยสาร และรูปลักษณ์ที่มีการ
ออกแบบที่เน้นความเป็นมิตร ดังนั้น Vios ที่ใช้รูปโฉม Belta ได้ทำออกมาดีที่สุดแล้วอย่างที่คน
สร้างตั้งใจ แต่ด้วยความที่สุดโต่งในทางนั้นจึงทำให้เกิดช่องว่างให้ Honda City รุกกลับในปี 2008
Honda City ที่เน้นสไตล์แบบที่คนไทยชอบโดยไม่ต้องอ้างอิงรสนิยมคนญี่ปุ่น Honda City สามารถ
ออกแบบได้อย่างชาญฉลาด มีความสมบูรณ์แบบรอบด้าน และทำให้ลูกค้าทั้งหญิงและชายชอบมาก
พอๆ กัน
Toyota จึงวางแผนในการผลิต Vios ในปี 2013 ให้ดูดีพอที่จะเอาชนะ Honda City ที่สามารถ
ตีโจทย์แตกทำให้ผู้บริโภคมีความพึงพอใจสูงสุด ง่ายที่สุดคือการหันกลับมาอีกด้าน ทำให้ Vios มี
ความสปอร์ตมากขึ้น แต่รถเล็กนั้น สามารถทำให้ดูสปอร์ตได้ยากเพราะมีสัดส่วนของรถเล็กเป็นกรอบ
ที่ทำให้ก้าวข้ามลำบาก แม้แต่ตัว City เองก็ตาม รูปร่างก็ยังไม่สมบูรณ์แบบเพราะด้านหน้าที่ดูสปอร์ต
แต่เหมือนกับการยืมช่วงหน้ามาจากรถ hatchback รุ่นอื่นของค่าย ยังไม่เข้ากับด้านหลังนัก ดังนั้น
โจทย์ของ Vios ค่อนข้างที่จะยากลำบาก ในการสร้างรถรุ่นใหม่ ที่จะต้องมีรุ่นซีดานเป็นตัวยืนหลัก
Nissan ยังต้องยืดฐานล้อออกไปให้ถึง 2600 mm ถึงจะได้พื้นที่เพียงพอที่จะเล่นกับรูปทรงแบบยาวๆ
ได้บ้าง แต่รถเล็กที่สั้น ถ้าจะให้เข้ากันทั้งคันก็ต้องใช้รูปทรงกลมช่วยแบบ Vios ปี 2005
จมูกด้านหน้าของรถสมัยใหม่ช่วยให้แนวสันของฝากระโปรงหน้ายื่นไปข้างหน้าได้มากขึ้น ด้วยการ
ยืดกระโปรงหน้าไปข้างหน้าให้สุดแล้วตัดตรงลงมาข้างล่าง ไม่ต้องทำปลายจมูกให้กลมมนเหมือนกระสุน
(ให้นึกถึงปลายจมูกของ Mitsubishi Lancer EX) Chevrolet Sonic ก็มีรูปแบบๆนี้ และในปีหน้า
Ford Fiesta ไมเนอร์เชนจ์ ที่จะใช้กระจังหน้าทรงPower dome ก็จะตัดตรงลงข้างล่างตรงปลายจมูกเช่นกัน
(ถ้ายังคงใช้ปลายจมูกแบบมนๆ ก็ต้องทำให้ฝากระโปรงหน้ากดต่ำลงอย่างรวดเร็ว แบบ City ซึ่งก็จะทำให้ไม่
เข้ากันกับสัดส่วนด้านหลังของรถ) ภาพรวมตัวรถจึงดูบึกบึนขึ้น ไม่หนีจาก Chevrolet Sonic เท่าไหร่
และสลับภาพรถหน้ามนๆ กลมๆ แบบเดิม ที่มีแนวกระโปรงหน้าสูงและพุ่งทะยานไปข้างหน้ามากขึ้น


สำหรับภายในน่าจะมีการย้ายเรือนไมล์กลับมาสู่ตำแหน่งหลังพวงมาลัย เพราะตำแหน่ง
ตรงกลางช่วยเพิ่มความสบายและความปลอดภัยในการมองดูเรือนไมล์ก็จริง เหมาะกับลูกค้า 
ผู้หญิง
แต่โดยวัดจากอารมณ์ ฝั่งลูกค้าผู้ชายไม่ค่อยชอบ หรือไม่ตอบรับดีเท่าไหร่นัก
เดือนตุลาคม จะมีรถโกจิ ของ Vios ที่สามารถวิ่งในเมืองไทยแล้ว 30 คัน
(ไม่รู้ว่าจะวิ่งออกมานอกโรงงานให้ถ่าย spyshot หรือไม่)
ภายในปลายปี 2012 จะได้เห็นในงาน Motor show หรือไม่ คิดว่า Toyota น่าจะนำเอาต้นแบบ
Dear Qin มาโชว์มากกว่าที่จะเริ่มเปิดตัว Vios รุ่นใหม่สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้สิทธิ์รถคันแรก 
เพราะ
เนื่องจาก เดิมยอดการสั่งซื้อ Vios รุ่นปัจจุบันก็มากมายจนผลิตไม่ทันอยู่แล้ว จึงไม่มีความ 
จำเป็นที่จะต้อง
เร่งรีบเปิดตัวรุ่นปี 2013 และจะทำให้เกิดปัญหากับลูกค้าที่จองรุ่นเดิมก่อนหน้าอีกมากมายด้วย 
ที่อาจจะต้อง
การได้รุ่นใหม่แทนที่จะเป็นรุ่นเดิม สุดท้ายถ้าขอเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ก็อาจจะทำได้ แต่ก็จะทำให้ 
รุ่นเดิมที่
ผลิตออกมาแล้วขายออกลำบาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สุดแล้วแต่ Toyota จะตัดสินใจ ซึ่งไม่อาจคาดเดา 
ได้
(แต่ถ้าจองรุ่นเดิมแล้วสุดท้ายในปีหน้าไม่มีรุ่นเดิมส่งมอบได้ ก็น่าจะเป็นรุ่นใหม่ส่งมอบได้ไม่มี 
ปัญหา)
เครื่องยนต์ 1NZ-FE ตัวเดิมหรือ 1NR-FE ที่เป็น Dual VVTi เลยหรือไม่ต้องติดตาม ซึ่งต้องขึ้น 
อยู่กับว่า
Toyota จะมอง Eco car ที่เป็น sedan ของคู่แข่ง เป็นเสี้ยนหนามมากแค่ไหน ซึ่งตัว Toyota เองยัง 
ไม่
มีแผนจะทำ eco car sedan ในขณะนี้ (และน่าจะไม่มีเลย) สำหรับลูกค้าในตลาดซีดานขนาดเล็ก 
จะต้อง
มองทั้ง City, Sonic, Fiesta sedan, 2 sedan ซึ่งปัจจุบัน Vios รุ่นเดิมก็ยังพอสามารถยันเอาไว้ได้อยู่
และตัวถังใหม่ที่สวยกว่าเดิมก็สามารถทำตลาดได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ แต่จุดที่น่า 
สนใจคือกระแส
ของ eco car sedan ทั้ง Almera, Brio sedan และ Mirage sedan ถ้า Toyota ยังไม่มีสินค้ามาอุด
รอยโหว่ตรงนี้ก็ต้องทำให้ Vios มีความน่าดึงดูดใจมากขึ้น และจุดขายต้องน่าสนใจแม้ลูกค้า 
จะต้องจ่ายแพงขึ้น
ซึ่งเครื่องยนต์ที่ดีก็เป็นจุดที่ eco car ยังไม่มี ----------ปัจจุบัน Vios ก็เป็นรุ่นที่ต้องใช้รุ่น 
พื้นฐานในการ
ต่อสู้กับ Almera ของ Nissan อยู่แล้ว ----------- แต่ที่ผ่านมา Toyota ยังไม่มีเครื่อง NR 
ขนาด 1500cc
อาจจะต้องรอ tooling เสร็จก่อนเท่านั้น ถึงจะสามารถเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ได้ในภายหลัง


สิ่งที่น่าสนใจคือ Eco car Hatchback ของ Toyota ที่ต้องลงทุนขั้นต่ำ 5,000 ล้านบาท ซึ่งก็มีทั้งการลง
ทุนด้านโรงงานและ tooling ชิ้นส่วนใหม่ ถ้าการพัฒนา Eco car สามารถทำก่อน หรือทำได้พร้อมๆ กับ
Vios ก็จะเป็นการประหยัดต้นทุนของ Vios ไปด้วย เพราะการหยิบยืม หรือ carry over ชิ้นส่วนจาก eco car
มาใช้ ย่อมไม่ผิด ถ้าแรกเริ่มเป็นการลงทุนให้กับ eco car จนเลยจำนวนขั้นต่ำที่ 5,000 ล้าน ดังนั้นที่มาของ
eco car ที่มีกระแสมาจากเว็บแห่งหนึ่งที่อ้างข้อมูลจากวงใน ว่า Agya รถระดับ A segment ภายใต้ฝีมือ
ของ Daihatsu จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำ eco car สำหรับเมืองไทย จึงค่อนข้างจะเป็นข้อมูลที่สับสน
เพราะวิศวกรรมหลักของ Vios ไม่สามารถใช้ร่วมกับวิศวกรรมของ Daihatsu ได้อยู่แล้ว เพราะทั้งสองค่าย
มีมาตรฐานที่แตกต่างกัน คือเป็นเครือเดียวกัน แต่ก็ยังไม่ใช่บริษัทเดียวกันอยู่ดี และ A segment ก็ไม่ควรที่
จะนำมาแชร์พื้นฐานร่วมกับ Vios ซึ่งเป็น B segment อยู่ดี
Nissan ก็เคยคิดแบบ Toyota
ในการนำเอา Almera เข้ามานั้น นิสสัน มอเตอร์ เองก็เคยคิดว่า ซีดานขนาดใหญ่รุ่นนี้ควรที่จะพัฒนาและ
ผลิตเพื่อจำหน่ายเป็นรถยนต์ในพิกัด 1500cc และขายควบคู่กับ March 1200cc เช่นกัน แต่หลังจากผ่าน
การคิดอย่างหนักหน่วง ทางนิสสัน ได้เลือกที่จะให้ Almera ถูกผลิตและจำหน่ายในประเทศในฐานะรถยนต์
eco car sedan 1200cc เท่านั้น เนื่องจากเหตุผลเกี่ยวกับความไม่มั่นใจที่จะสามารถผลิต March เพียง
อย่างเดียวให้ได้ 100,000 ยูนิตต่อปีตามข้อกำหนดการผลิตรถ eco car ของรัฐบาล ดังนั้น Almera จึง
รุ่นเครื่องยนต์ 1500cc จึงถูกส่งออกจำหน่ายให้กับบางประเทศเท่านั้น ในขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ 1200cc
ถูกกำหนดให้ต้องทำตลาดเป็นหลักไว้ก่อน กระทั่งการส่งออกในชื่อ Nissan Latio ไปประเทศญี่ปุ่นในเดือน
ที่ผ่านมา ก็มีเพื่อรองรับจุดประสงค์ดังกล่าว ทั้งๆ ที่เสียงตอบรับในญี่ปุ่นไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากราคาขายที่สูง
กว่า March แบบคนละ level แต่ถูกจำกัดเพียงเครื่องยนต์ขนาด 1200cc เท่านั้นเอง ซึ่งตัวถังของ Almera
เองตามแผนการ ควรจะมีราคาขายไม่ต่างจาก Vios ถึงจะได้กำไรพอสมควร จึงเท่ากับว่า Almera ที่ขายใน
เมืองไทยขณะนี้ ขายราคาถูกกว่าที่ควรจะเป็นนั่นเอง


หากใช้พื้นฐานร่วมกับ Vios ไม่ใช่รถ Daihatsu
รถยนต์ที่ใช้ตัวถังร่วมระหว่าง 4 ประตูและ 5 ประตูในปัจจุบัน มีพื้นฐานสองแบบ แบบที่หนึ่งคือการพัฒนา
รุ่น 5 ประตูก่อนแล้วก่อนเพิ่ม variant ที่เป็นรุ่น 4 ประตูในภายหลัง และแบบที่สอง สลับกันคือพัฒนารุ่น
4 ประตูก่อนแล้วค่อยเริ่มพัฒนารุ่น 5 ประตูทีหลัง
สำหรับตลาดรถเล็กในปัจจุบัน รถ Hatchback 5 ประตูเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากกว่ารถซีดานทั้งในฝั่ง
ญี่ปุ่น และยุโรป ดังนั้นหากรถรุ่นหนึ่ง จะริเริ่มผลิตรุ่น 5 ประตูก่อน ก็จะต้องมีฐานตลาดหลักอยู่ในสองตลาด
หลักนี้ นี่คือเหตุผลที่ Vitz รุ่นใหม่ หรือ Yaris ใหม่ไม่สามารถมาเมืองไทยได้ เนื่องจากเป็นรถที่พื้นฐานทำ
ตลาดสำหรับประเทศที่นิยมรถแฮชแบ็ก 5 ประตู พื้นฐานไม่เหมาะที่จะวางแผนผลิตซีดานร่วมกันไปด้วย
เพราะจะมีผลลัพท์ที่ออกมาไม่ต่างจาก Yaris รุ่นปัจจุบัน ที่ทำให้ Vios กลายเป็นรถซีดานกลมๆ ที่ทำให้
ความรู้สึกเร้าใจสำหรับผู้ชายหมดไป และการผลิตแบบที่แยกขาดระหว่างรถทั้งสองรุ่นแบบ Soluna Vios
และ Vizt รุ่นที่ 1 ก็มีต้นทุนสูงมากไป (Jazz และ City รุ่นปัจจุบันก็ต้องยอมลงทุนสูงเพื่อไม่ให้เจอปัญหา
แบบ Jazz รุ่นที่ 1 กับ City) การพัฒนาจึงควรที่จะทำร่วมกัน 2 รุ่นตั้งแต่เริ่ม แต่ซีดานก็ควรจะเป็นรุ่นหลัก
ในการพัฒนา เพราะซีดานที่เร้าใจ เมื่อถูกเปลี่ยนด้านท้ายให้เป็น 5 ประตู ก็ยังคงความเร้าใจได้เหมือนเดิม หรือ
ยิ่งกว่าเดิม แต่รถ 5 ประตูที่เร้าใจ ไม่สามารถเพิ่มท้ายแบบซีดานให้กลายเป็นรถที่เร้าใจพอๆ กันได้
เนื่องจากพื้นฐานการออกแบบรถ 5 ประตู เป็นรถที่สัดส่วนจบในตัวโดยสมบูรณ์แล้วนั่นเอง แบบไขมันอิ่มตัว
รูปร่างที่เพิ่มเติมออกมาจึงดูเหมือนจะเป็นอวัยวะส่วนเกินที่ผิดเพื้ยนของร่างกาย และการจะเปลี่ยนแปลงสัดส่วน
ใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หน้าจรดท้ายเพื่อให้เป็นซีดานนั้น ยากและลงทุนสูงมาก ซึ่งแม้แต่ Almera หรือ City ที่
ถูกแปลงโฉมทั้งคันจากรถ 5 ประตู ก็ยังพบจุดที่ไม่ลงตัวเยอะมาก และ Nissan เอง ถ้าทำได้ ก็อยากขาย Almera
รุ่น 1.5L เพื่อที่จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำให้สมกับต้นทุนการพัฒนาที่แพงกว่าปกติ
ทุกอย่างจึงลงตัวมากสำหรับ Toyota หากสามารถผลิต Vios ใหม่เป็นแบบหลัก และใช้โครงสร้างร่วมกับ Eco car
ในขณะที่ค่า tooling ทั้งหมดเป็นต้นทุนที่อยู่ในบัญชี eco car เพื่อให้ผ่านเกณฑ์ของ BOI แต่ Vios พลอยได้
รับผลบุญไปด้วย เพียงแต่ Toyota มั่นใจมากกว่า Nissan ตรงที่ Eco car สามารถผลิตได้ 100,000 คันต่อปี
ส่วน Vios นั้นสามารถอยู่ในตลาด 1500cc เดิมๆ ต่อไป ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาเป็น eco car sedan แบบที่
Almera จำเป็นต้องขายด้วยเครื่อง 1200cc
การใช้โครงสร้างร่วมกับ Eco car ถ้าครึ่งคันแรกใช้โครงสร้างร่วมกันก็จะประหยัดที่สุด ยืนยันจากการที่ส่วนใหญ่
ทุกค่ายตัดสินใจทำแบบนั้นเหมือนๆ กัน แต่ที่ผ่านๆ มา ส่วนใหญ่จะเป็นรถ Hatchback แต่ได้รับการเสริมท้าย
ซีดานในภายหลัง แต่สำหรับ Vios ที่มีการพัฒนาที่เมืองไทยเป็นหลัก และเป็นที่แรกของโลก ดังนั้นรุ่นซีดานจึง
เป็นพื้นฐานหลัก ส่วน Eco car hatchback ก็จะเป็นรถซีดานที่ถูกตัดท้ายออกไป ซึ่งรูปทรงของรถต้นแบบ Toyota
Dear Qin ทั้งรุ่น sedan และ hatchback ทำแบบนั้นเช่นเดียวกัน และ Dear Qin sedan ก็เป็นต้นแบบของ
Vios แน่นอน 100% มีเพียงแต่ hatchback ที่ยังไม่รู้ว่าจะได้เป็น eco car จริงๆ รึเปล่า แต่ดูองค์ประกอบต่างๆ
ไม่มีอะไรเหมาะสมไปมากกว่านั้นอีกแล้ว
แต่ถึง Eco car ของ Toyota จะมาเป็นรถ Daihatsu A segment จริงๆ ก็น่าจับตาดูแผนการที่เตรียมไว้สำหรับ
รถยนต์ Hatchback B segment ใหม่ที่อาจจะมาเป็นรถ Hybrid คู่แข่งโดยตรงของ Jazz Hybrid ในอนาคต
ก็ได้ เท่ากับว่า Toyota วางเดิมพันไว้กับตลาดรถยนต์ Hybrid มากกว่า Eco car ซึ่งเป็น move ที่เราไม่คาดคิด
แต่ถ้าจะให้ตลาด Eco car สนุกขึ้น เราขอให้ Eco car เป็นรถ Hatchback พื้นฐานเดียวกับ Vios ที่จะรองรับ
ระบบ Hybrid ในอนาคต แบบนั้นท่าทางจะดีกว่า เพราะ Agya คงทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ตัวรองเมื่อเทียบกับรูปลักษณ์
ของรถ Eco car ทุกคันในตลาดขณะนี้
 Credit : ทีมงาน Sanook! Auto , เน็ดคุงmewminorchange.com
เรียบเรียง : Ruengdd.com