เบื้องหลังเสียงอันไพเราะเสนาะหูบนเวทีเดอะวอยซ์ไทยแลนด์(The Voice Thailand)โดยวงเดอะบีกินส์"The Begins”

หากเอ่ยชื่อรายการประกวดการร้องเพลงอย่าง "เดอะ วอยซ์" (The Voice) เชื่อว่า ณ เวลานี้คนส่วนใหญ่คงจะต้องบอกว่ารู้จัก
      
        อาจจะไม่เคยดู แต่อย่างน้อยๆ ก็คงจะต้องได้ยินชื่อ
      
        ถึงตอนนี้เดอะวอยซ์เดินทางมาเกือบจะถึงรอบชิงชนะเลิศที่จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้แล้ว ซึ่งท่ามกลางกระแสชื่นชมมากมายที่มีต่อทั้งในส่วนของตัวรายการ, โค้ชทั้ง 4 ตลอดจนผู้เข้าแข่งขัน ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำงานอยู่ในฐานะเบื้องหลังที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน
      
        แต่แม้จะอยู่เบื้องหลังทว่าการทำงานของพวกเขาหาได้เป็นไปแบบเงียบๆ แต่อย่างใด ตรงกันข้ามออกจะเสียงดังเสียด้วยซ้ำในฐานะของวงดนตรีแบ็คอัพ
      
        กับวงดนตรีที่มีชื่อว่า "The Begins”

     
        สำหรับคนทั่วไปอาจจะไม่รู้จักพวกเขา แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบฟังเพลงแล้ว "The Begins” วงนี้ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก(หลัก)ทั้ง 5 อย่าง อภิชา สุขแสงเพ็ชร – ต๋อง (เบส), ศุภสิษฎ์ สกลธนารักษ์ – ฌอน (เปียโน), วุฒิ วงศ์สรรเสริญ – วุฒิ (กีต้าร์), กิติวัฒน์ แสงประทีป – ใหม่ (คีบอร์ด) และ Kelvin – มือกลองอิมพอร์ตที่เคยร่วมงานกับวงดังอย่าง Mary J. Blidge / Backstreet Boys / BoyzIIMen มาแล้วต้องถือว่าไม่ธรรมดา
      
        วันนี้ "นัดคุย" อาสาพาไปรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้น


       สำหรับจุดเริ่มต้นของวงนั้น "ต๋อง - วุฒิ" เล่าให้ฟังว่ามาจากนักแต่งเพลงชื่อดังอย่าง "บอย โกสิยพงษ์" ที่ได้นำ 3 ดาวรุ่งซึ่งเคยโชว์เสียงร้องในอัลบั้ม Boyd11 th คือ ฌอน วุฒิ และใหม่ มารวมตัวกับ ต๋อง อดีตโปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงอินดี้ชื่อดังหลายวงก่อนจะได้มือกลองอย่างเควินเข้ามาสมทบ ซึ่งที่ผ่านมาพวกเขาเคยมีอัลบั้มออกมาเล้วในสไตล์ Rhythm & Disco
      
        “ถ้าไปฟังเพลงของ The Begins จริงๆ จะไม่ค่อยมีเพลงรักนะ มีแต่เพลงให้กำลังใจเพลงบวกมากกว่า ที่ผ่านมาผมเป็นคนมองโลกด้านลบมาก ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่ Love is ผมก็ได้การอบรมจากพี่บอยว่าการมองด้านลบแล้วเอาด้านลบมาเผยแพร่คนฟังจะไม่ช่วยอะไร แต่จะเป็นการกดตัวเราเข้าไปอีก"
      
        "ควรที่จะเอาประสบการณ์ด้านความเจ็บปวดที่ผ่านมาเอามาเปลี่ยนเป็นด้านบวกมาเตือนคนมากกว่า เรียกว่าเป็นดิสโก้เพื่อชีวิตก็ว่าได้ คือเพลงขอบคุณหลายคนตอบมาว่าช่วยชีวิตเขาเขากำลังจะฆ่าตัวตายแล้วแต่เผอิญว่าเพลงนี้ดังขึ้นมาเขาก็หยุดและฟังเพลงนี้ มีมากกว่า 2 คนที่บอกเราแบบนี้”
      
       เพลงไหนที่ทำให้คนรู้จักเดอะ บีกินส์?
        "ก็มี 3 เพลงนะ ที่ติดชาร์ตสูงสุดเลยคือเพลงผิด (อัลบั้มที่แล้ว) สูงสุดใน Chill เป็นอันดับ 2 เพลงขอบคุณอันดับ 4 และความทรงจำอันดับ 6 แต่จริงๆ ปีนั้นเราไปดูชาร์ตที่เราออกเราปล่อยทั้งหมด 5เพลง แล้วไปดูชาร์ตของ Fat อ่ะ คือรวมยอดทั้งปีมี่คนเข้ามาเพลงเราอยู่ 1 ใน 10 ทั้งหมดเลยทั้ง 5 เพลง แต่ไม่ได้อยู่อันดับหนึ่งเลยแต่ว่าจะอยู่ที่สองจนถึงที่สิบก็อยู่ในทอปเทนหมดเลย"
      
       มาร่วมงานกับ "เดอะวอยซ์" ได้อย่างไร?
        "คือระหว่างทางที่เราทำอัลบั้มอยู่ Love is ก็มีความสัมพันธ์กับ Ture ก็มีคอนเสริต์ของทรูกับเอเอฟเขาก็มาติดต่อให้พี่ต๋องเป็นมิวสิคอิดิเตอร์ ของคอนเสิร์ตหลายคอนเสิร์ตพี่ต๋องก็พ่วงผมไปด้วย คือก็เริ่มจากตรงนั้น จนมาเจอโปรเจ็คต์ของเดอะวอยซ์ จนผู้ใหญ่ของทรูก็ชวนผมเข้าไปทำ คือวงบิกินส์นอกจาก 5 คนเล่นดนตรีแบ็คอัพแล้วก็ยังเป็นนักร้องทั้ง 5 คน บางซีนเราจะไม่เล่นแต่จะออกไปร้อง บางเพลงก็จะมีนักดนตรีแบ็คอัพเราที่ใช้ชื่อนามสกุลไปด้วยเลย"
      
       ยากไหมกับการเรียบเรียงดนตรีให้เข้ากับผู้ประกวดแต่ละคน?
        “ยากมากนะ เอาตั้งแต่รอบไลน์เลยนะ เราต้องดูคาแรกเตอร์ ดูว่าเหมาะกับแนวทางรูปแบบไหน จุดที่สวยที่สุดของคุณมันอยู่ตรงไหน เพื่อที่จะหาคีย์ให้ดีที่สุด ไม่ใช่สูงที่สุดหรือต่ำที่สุด แต่เป็นตรงกลาง คือมนุษย์จะมีจุดที่เสียงเพราะที่สุด คือเราต้องบอกผู้เข้าประกวดทุกคนต้องเชื่อใจเราต้องมาช่วยกันหาว่าจุดไหนของคุณสวยที่สุด เพื่อให้โค้ชอยากกดทุกคน"
      
        "คือเหมือนพวกผมแข่งกับโค้ชว่าจะเลือกใครดี ทั้งหมดนั่นก็คือความยากสุด ด้วยปริมาณ140 คนอย่างคุณเห็นที่บ้านมีแค่ 70 ใช่ไหม แต่จริงๆ แล้วมี140 คน คือไลน์ออดิชั่น คือผ่าน140 คนแต่ไม่ได้ออกอากาศ แต่ว่าคนที่ไม่ได้เข้ารอบไม่ได้แปลว่าเขาร้องไม่เก่งนะ แต่ว่าช่วงเวลาจังหวะมันไม่ให้ บางคนมาคนแรกโค้ชก็ไม่พร้อมจะกด แต่ร้องเก่งมากแต่ก็ย้อนมากดไม่ได้แล้ว"

       รอบ "แบทเทิล" ยิ่งหนักขึ้น เพราะต้องแข่งกันเอง...
        "ก็ทำให้ 2 คนหรือ 3 คนที่แบทเทิลกัน ในเพลงเดียวกันแล้วทำให้ดูดีทั้งหมด ผมอธิบายไม่ถูกอ่ะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย เราใช้เวลา แต่ว่าต้องทำให้เพราะทั้งคู่ มีเรียกมาซ้อมและมาร้องดู ก็ต้องยอมรับว่าเราต้องดีไซน์กับน้องด้วยว่าวันนี้คุณจะเป็นอย่างนี้ในท่อนนี้ เหมือนถ้าเป็นมวยมันต้องเทรนของใครของมัน แต่เราดันเป็นคนที่ต้องเทรนทั้งคู่ เหมือนออกคิวบู๊มากกว่า คนนี้ต้องเป็นอย่างนี้เพื่อจะชกไอ้นี่ ไอ้นี่ก็ต้องชกกลับ"
      
        "แต่ก็มีแหกโค้งบ้าง เราก็บอกแล้วเต็มที่ พี่ก็แค่เหมือนเป็นโค้ชที่แนะนำ"
      
       แต่ละเพลงใช้เวลาเรียบเรียงนานมั้ย?
        "มันก็พูดลำบาก เพราะบางทีนักร้องมันมีคาเรกเตอร์อยู่แล้ว มันก็จะง่าย องค์ประกอบมันอยู่ที่เพลงที่เลือกด้วยว่ามันแบ่งกันแล้วมัยลงตัวมั้ย ก็ใช้เวลาต่างกันไป มียาก ง่าย ต่างกันไป ผมก็ต้องให้เครดิตเพื่อนๆ นักดนตรี งานก็จะเร็วขึ้น นักดนตรีไม่ใช่แค่เรา 3 คนคิด นักดนตรีทั้งหมดก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ออกมาโอเค"
      
       มีไหม ที่เจอคนที่ใช่สำหรับวงเรา?
        "เยอะครับแล้วก็ไม่เข้ารอบด้วย และคนที่เข้ารอบไปก็เยอะที่เราทำออกมาแล้วเราชอบ บางทีเราอินหนักนะ เสียใจว่าทำไมโค้ชไม่กด บางทีคุยกับโค้ช คือมันติดกันเลยไม่รู้จะกดใคร เพราะมันฟังทั้งวัน วันละประมาณคือเราถ่ายช่วงไลน์ 4 วัน วันละประมาณ 30 - 40 คน ครับ โค้ชก็ฟังๆ จนเบลอก็มีครับ"
      
       มีแอบน้อยใจมั้ย มีแต่คนชมรายการ ชมโค้ช ชมคนแข่ง..?
        "จะน้อยใจทำไม เพราะผมว่ารายการเดอะวอยซ์เป็นรายการที่คนข้างหลังออกเยอะที่สุดแล้วนะ เค้าก็ให้เกียรติเรามากนะ พี่เจนิเฟอร์ คิ้ม ก็พยายามพูดถึงเรา ก็พยายามอวยเรา เพราะเห็นเราทำงานหนักมากจริงๆ ทั้งวง ซึ่งเราก็ขอบคุณแล้ว ถามว่าน้อยใจมั้ย น้อยใจก็บ้าแล้วอ่ะ (หัวเราะ) เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด"
      
        "คนที่อยู่ข้างหลังก็พยายามทำให้คนที่อยู่ข้างหน้าดูดีที่สุด ไม่คิดอยู่แล้วว่าชั้นทำแล้วต้องได้หน้า เรื่องคำชม ฝากเตือนหลายๆ คน ว่าการจะมารอนั่งฟังคนชม จะทำให้เราเหลิง ถ้าเค้าชมเราก็หัวโต ถ้าเค้าด่าเราก็นอยด์อีก สู้ไม่ต้องไปสนใจมัน ทำตัวเองให้เต็มที่ที่สุดดีกว่า"
      
       แล้วทางวงเองมีแผนที่จะทำอะไรต่อไป?
        “ก็ยังทำงานต่อไปครับ ยังมุ่งมั่นที่จะทำต่อไป เพราะฉะนั้น อย่าหยุด อย่ายอมแพ้ อย่าท้อ ในการทำสิ่งดีๆ ต่อไป พวกเรามีเจตนาดีที่จะนำเสนอเพลงดีๆ เพื่อสังคม ผมรู้สึกว่า ดนตรีมีไว้เพื่อความสุข เรารักที่จะถ่ายถอดสิ่งดีๆ ออกไป พวกเรามีความสุขที่จะทำมันต่อไป ทุกคนทำเพลงอยากให้ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ถ้าให้เราเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเพื่อประสบความสำเร็จผมว่าเราทำแบบนี้ดีกว่า แต่ว่าถ้าเราทำอันนั้นแล้วอันนี้ไม่ได้ก็คงเลือกบ้างว่าจะทำอะไร ไม่ทำอะไร เราเชื่อว่าสุภาษิตของโบราณ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน”
      
        “ผม 2 คนรวมรวมชัช ตอนนี้มีรายการพ่วงอีกรายการหนึ่ง คือ หัวใจยังเต้น ของช่องไทยพีบีเอสเป็นรายการดนตรีคนพิการ ออนแอร์วันเสาร์ 5 โมงครึ่ง เรารวมเอาคนพิการมาออดิชั่นแล้วก็รวมวง จะมีคอนเสิร์ตวั นที่ 23 ธันวาคม แล้วระหว่างที่ซ้อมคอนเสิร์ตก็จะมีถ่ายทำเป็นเรียลิตี้ไปเรื่อยๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่เราอยากทำ เราก็ทำไปด้วยกัน และก็ปีหน้าจะมีจังหวะจะเดิน รวมนักดนตรีทั้งประเทศไปถ่ายทำมาเพลงเดียวกัน อันนี้เป็นพี่ต๋องกับชัช”
      
       มีอะไรจะฝากถึงแฟนเพลงบีกินส์มั้ย?
        "เดอะบีกิน แฟนเรามีไม่เยอะ แต่เค้าติดตามก็ดีใจ แล้วอยากให้ไปฟังเพลงเรา เพลงเราอาจจะทำให้เรารู้จักมากขึ้น เพลงเราอาจจะฟังแว้บเดียวแล้วแบบคืออะไร แต่ถ้าลองนั่งฟัง หยุดฟังเราจริงๆ ผมว่าคุณก็อาจจะชอบเพลงเรา และมีอะไรใหม่ๆ ในการฟังเพลงมากขึ้น แต่ว่าถ้าให้เวลาเราบ้าง คุณอาจจะชอบเราก็ได้"
      
        "ก็ฝากเพลงใหม่ที่กำลังจะปล่อย ปีหน้า ชื่อ เพลง แฮปปี้เอนดิ้ง แต่ว่าเนื้อเพลงขึ้นว่า ฉากสุดท้ายก็ไม่สมหวัง พี่ตรัยช่วยเขียนเนื้อ เพลงนี้เป็นแบบเลิกกันแล้ว แต่ถ้าให้เลือกใหม่ก็ยังจะเป็นแฟนกับเธอเหมือนเดิม พี่ต๋องเป็นคนร้อง แต่ก็อย่าลืมติดตามเพลงเก่าๆ ที่ปล่อยออกไปแล้วได้ในยูทูป"
      
        "ผมเชื่อว่าถ้าใครได้ฟังไม่ว่าคุณจะอยู่ในอารมณ์ไหน เพลงเดอะบีกินส์ เป็นอาหารชีวจิตชนิดหนึ่ง คุณจะมีความสุข มันอาจจะไม่อร่อย มันจะบำรุงจิตคุณ ไม่ว่าคุณจะอารมณ์ไหน ลองไปชิมทางหูดู แล้วจิตคุณจะเบิกบาน"

Song :  สิ่งที่เธอขาด     Album :    สิ่งที่เธอขาด (Single)   Artist :   The Begins

Song : สิ่งที่เธอขาด Lyrics
Album : สิ่งที่เธอขาด (Single)
Artist : The Begins
[ เนื้อเพลง สิ่งที่เธอขาด ]
นั่งมอง…เธอร้องไห้ เพราะว่าคนที่รักไม่เคยสนเคยแคร์ซักนิดเลย
นั่งฟัง…เธอระบาย ว่าเคยสุขเพียงใดและเจ็บมากเท่าไรในตอนนี้
แม้จะรู้และเข้าใจ เธอเท่าไร ฉันก็เป็น แค่เพื่อนเธอ
สิ่งที่เธอขาดนั้น ฉันแทนไม่ได้
ความอบอุ่นนั้น ทดแทนกันไม่ได้
สิ่งที่เพื่อนคนนี้ ทำให้ได้
คือนั่งฟังเพลงและร้องไห้…ไปกับเธอ
อยู่อย่างนี้…ไม่ไปไหน
รักที่…เธอให้เขาไป ไม่เคยเผื่อเหลือไว้ ให้กับตัวเธอเองซักนิดเดียว
ฉันอยากจะปลอบให้เธอหาย…เศร้า
แต่ก็ไม่มีถ้อยคำที่ดีพอเลยในตอนนี้
แม้จะรู้และเข้าใจ (รู้และเข้าใจ)
แม้จะเห็นใจเธอมาก…เท่าไร
ฉันก็เป็น…แค่เพื่อนเธอ
สิ่งที่เธอขาดนั้น ฉันแทนไม่ได้
ความอบอุ่นนั้น ทดแทนกันไม่ได้
สิ่งที่เพื่อนคนนี้ ทำให้ได้
คือนั่งฟังเพลงและร้องไห้…ไปกับเธอ
อยู่อย่างนี้…ไม่ไปไหน
สิ่งที่เพื่อนคนนี้ (นั้น) ทำให้ได้
คือนั่งฟังเพลงและร้องไห้…ไปกับเธอ
อยู่อย่างนี้(ที่ตรงนี้) ไม่ไปไหน
===============================================
สิ่งที่เพื่อนคนนี้ ทำให้ได้
คือนั่งฟังเพลงและร้องไห้…ไปกับเธอ…!!

Credit : manager.co.th,artist.you2play.com,p-radio.com,Youtube.com
เรียบเรียง : Ruengdd.com