วีไอพี(VIP) : เจาะลึกเส้นทางความรัก... ปลื้ม - ทับทิม

 เรียกได้ว่าเป็นคู่รักที่ใครหลาย ๆ คน ให้ความสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว... สำหรับว่าที่เจ้าบ่าวอย่าง "ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย" บุตรชายสุดรักสุดหวงของอดีตนายกรัฐมนตรี "ชวน หลีกภัย" กับว่าที่เจ้าสาวสุดน่ารักอย่าง "ทับทิม มัลลิกา จงวัฒนา" ที่จูงมือกันเข้าพิธีหมั้นและรับพระราชทานน้ำสังข์ไปเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะจัดงานฉลองมงคลสมรสในวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้



            ส่วนในค่ำคืนวานนี้ (19 พฤศจิกายน) ทางรายการวีไอพี ก็ขอติดตามชีวิตของว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาว พร้อมสัมภาษณ์ถึงเส้นทางความรักของเขาทั้งคู่แบบหมดเปลือก... ว่าพวกเจอกันอย่างไร... และประทับใจอะไรซึ่งกันและกัน แล้วความรักของทั้งคู่นั้นหวานเจี๊ยบ หรือโรแมกติกแค่ไหน ไปชมกันเลยค่ะ

            เป็นที่ทราบกันดีว่า ทั้งคู่เป็นพิธีกรประจำรายการสุดฮอตทางอินเทอร์เน็ตอย่าง "VRZO" ซึ่งเป็นรายการที่เลือก 100 คน ที่ดูดีมาตอบคำถามในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งเป็นรายการที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่วัยรุ่น ทั้งนี้ ทางพิธีกรก็ขอบุกไปยังสถานที่ทำงานของพวกเขา โดยสองพิธีกรคู่รักก็กล่าวทักทายและพาเยี่ยมชมห้องทำงานสุดแสนจะสมถะให้ได้ชมกัน ...เมื่อได้ชมห้องทำงานกันพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงคิวสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวความรัก และความรู้สึกที่จะได้แต่งงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

            โดยหนุ่มปลื้ม เปิดเผยว่า ถ้าถามว่าเตรียมตัวอะไรแล้วบ้างในวันแต่งงาน จริง ๆ ก็มีคนติดต่อมาให้ทับทิมและตนเข้าคอร์สบ่าวสาว แต่ด้วยความที่งานยังเยอะอยู่ เลยหาเวลาไปไม่ได้ สำหรับงานแต่งที่จะถึงนี้ ถ้าบอกว่าไม่ตื่นเต้นเลยก็คงไม่ใช่ ก็มีตื่นเต้นบ้าง ส่วนงานหมั้นที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่ามันมีหลากหลายความรู้สึก ทั้งดีใจ ซึ้งใจ และตื้นตันใจ เพราะตนได้รับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพฯ ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างมาก แต่คนที่ตื่นเต้นที่สุดน่าจะเป็นคุณพ่อ เพราะท่านปลื้มใจกับพวกเรามาก นอกจากนี้ท่านยังช่วยดูแลทั้งงานหมั้น และงานแต่งงานของตนด้วย 

ปลื้ม ทับทิม

            "คุณพ่อดูแลให้หมด การ์ดแต่งงานก็ทำให้เอง เป็นงานวาดด้วยฝีมือของคุณพ่อ ไม่หวือหวา เรียบง่ายมาก ต้นทุนถึงแผ่นละ 2 บาท หรือเปล่าไม่รู้ แต่สำหรับผมมันมีค่ามาก คุณพ่อทำเองทั้งหมด ร่างแบบ จัดตัวอักษรเอง มันเป็นความภูมิใจของผมจริง ๆ " หนุ่มปลื้ม กล่าว

            เมื่อถามถึงการพบหน้ากันครั้งแรกของทั้งคู่ หนุ่มปลื้มเผยว่า ตนเชื่อว่าความรักของตนเป็นเรื่องพรหมลิขิต เพราะวันแรกที่เราเจอกัน ตนมีแพลนไปถ่ายรายการ VRZO ที่สยาม แต่กำหนดเดิมคือไม่ใช่ไปถ่ายวันนั้น ส่วนทับทิมเองก็บอกว่า จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้ตั้งใจมาสยามเหมือนกัน แต่ตัดสินใจมาในวินาทีสุดท้าย ตนคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมาสยามในเวลาเดียวกัน และเจอกันครั้งแรกในวันนั้น... ซึ่งการเจอกันครั้งแรกเป็นการเจอกันในฐานะพิธีกรกับผู้ถูกสัมภาษณ์ โดยตนเข้าไปสัมภาษณ์ตามสคริปท์ ส่วนทับทิมก็เล่นมุก พร้อมตอบอย่างฉะฉาน ตนเลยประทับใจตั้งแต่เห็นครั้งแรก

ปลื้ม ทับทิม

            ส่วนด้านทับทิม เล่าว่า ตนรู้จักพี่ปลื้มตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งตอนแรกที่ยังไม่เคยเห็นตัวจริง ตนคิดว่าพี่ปลื้มเป็นคนดูแข็ง ๆ พูดตรง ๆ แต่พอคุยกันในวันนั้น เขาดูน่ารัก ตั้งใจทำงาน และดูแอคทีฟมาก ๆ
            หลังจากนั้น หนุ่มปลื้มก็ทราบว่า ทัมทิมเป็นเพื่อนสนิทกับหญิงแม้น ซึ่งหญิงแม้นถือว่าเป็นน้องสาวที่สนิทมาก ๆ คนหนึ่ง จึงติดต่อผ่านหญิงแม้น และได้คุยแชทกับทัมทิมในเฟซบุ๊ก จากนั้นก็ติดต่อให้ทับทิมเป็นมาพิธีกรคู่ ตั้งแต่รายการ VRZO ep. 4 เป็นต้นมา และเมื่อทำงานร่วมกัน ก็ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งคู่ทำงานด้วยกันอย่างลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และต่างคนก็ต่างประทับใจซึ่งกันและกัน จนค่อย ๆ ก่อตัวเป็นคำว่าปลื้ม...ชอบ... และ "รัก" กันในที่สุด

            "มันเหมือนกับผูกพันกัน เรามองตากันก็รู้ใจ รู้นะว่าเขาเสียใจ หน้าแบบนี้แปลว่าเขาเหนื่อย และความรู้สึกแบบนี้ ก็ค่อย ๆ สะสมอยู่ในใจ... จนมารู้สึกตัวอีกทีในวันที่ทับทิมป่วย ทำให้ผมรู้สึกว่า เฮ้ย ทับทิมหายไปไหน ตอนนี้ป่วยแล้วอาการเป็นอย่างไร กินข้าวกินยาอะไรหรือยัง... ซึ่งทับทิมก็บอกกับผมว่า เขาก็รู้สึกกับผมแบบนี้เหมือนกัน" ว่าที่เจ้าบ่าว เผย

            ต่อด้วยคำถามที่ใครหลาย ๆ คนอยากรู้คือ เมื่อทับทิมพบคุณพ่อคุณแม่ของปลื้มแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง... ทับทิม กล่าวว่า คุณแม่พี่ปลื้มเขาก็จะมาดูแลพี่ปลื้มในกองบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งตนก็เคยสวัสดีท่าน และทักทายมาพอสมควร ส่วนคุณแม่ก็น่ารัก ใจดี เอ็นดูและเป็นกันเองกับตนมาก ด้านคุณพ่อพี่ปลื้ม ก็อารมณ์ดี มีมุกมาแซวตนด้วย ซึ่งตนประทับใจมาก ๆ ขณะที่ปลื้มก็กล่าวถึงครอบครัวของทับทิมว่า  มันมากกว่าคำว่าดี... เพราะตนประทับใจ และรู้สึกว่าครอบครัวทับทิมน่ารักกับตนมาก ๆ 

ปลื้ม ทับทิม

            ส่วนความประทับใจซึ่งกันและกัน สาวทับทิม กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตนคิดไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ว่าหากจะคบผู้ชายแบบจริง ๆ จัง ๆ ถึงขั้นแต่งงาน สิ่งแรกที่ต้องดูคือเรื่องความกตัญญู เพราะหากมีคำว่ากตัญญูแล้ว ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่นแล้ว เพราะเขาไม่มีทางจะไปทำเรื่องไม่ดีแน่นอน สำหรับสิ่งที่ประทับใจสุด ๆ ในตัวพี่ปลื้ม นอกจากความรักที่มีให้ตนแล้ว ก็เป็นเรื่องการให้เกียรติตน และผู้อื่น ซึ่งพี่ปลื้มให้เกียรติทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย เรียกได้ว่าเป็นคนที่ให้เกียรติคนที่สุดในโลกที่ตนเคยเจอเลยก็ว่าได้ (หนุ่มปลื้ม กล่าวเสริมว่า เรื่องให้เกียรติ คุณพ่อตนสอนมา หากไม่ให้เกียรติคนอื่น เราก็ไม่มีวันจะได้รับเกียรติเหมือนกัน)

            ขณะที่หนุ่มปลื้ม เผยความประทับใจในตัวทับทิมว่า ตนชอบผู้หญิงเก่ง แล้วทับทิมเขาเป็นคนมีความสามารถรอบด้าน อย่างเช่น เขาเรียนจบนิเทศน์ศาสตร์มา แต่ในกอง VRZO ไม่มีใครทำบัญชีเป็น เขาก็เป็นคนทำเองหมด ทั้งเอกสาร สปอนเซอร์ รายรับรายจ่ายทุกอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักคำว่าบัญชีมาก่อน แต่ทับทิมก็สามารถทำได้

            เมื่อถามว่า หนุ่มปลื้ม เป็นคนสวีทไหม สาวทับทิมกล่าวในทันทีว่า "ห่างไกลกับคำนี้มาก"แต่ถึงอย่างไร หนุ่มปลื้มก็ทำเซอร์ไพรส์ขอทับทิมแต่งงานกลางห้างได้อย่างน่ารัก... และโรแมนติก ซึ้งจนเรียกน้ำตาของใครหลาย ๆ คนได้เลยล่ะ
            ส่วนเรื่องการแต่งงาน หนุ่มปลื้มกล่าวว่า ตนไม่ได้ขออะไรแบบเซอร์ไพรส์หรือโรแมนติกเลย ตนรู้แค่ว่าวันนั้นตนเหนื่อยมาก และกำลังกินข้าวคลุกปลาทู ซึ่งหน้าตาคล้ายอาหารแมว เอาปลาทูมาคลุกขยี้กับข้าว เป็นอาหารฝีมือทับทิม แล้วจู่ ๆ ตนก็มองทับทิมและบอกว่า "แต่งงานกันไหม" ซึ่งทับทิมก็ตกใจ แต่เมื่อรู้ว่าตนพูดจริงจัง ก็เลยไปปรึกษาผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เพราะเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่

ปลื้ม ทับทิม

            นอกจากนี้ ว่าที่บ่าวสาวก็ยังได้เผยถึงงานอดิเรก โดยหนุ่มปลื้มบอกว่า เวลาว่างของเขาก็คุยแต่เรื่องงาน เขามีความสุขที่ได้ทำงาน ปรับนู่นนิด ปรับนี่หน่อย ส่วนสาวทับทิมหากว่างเมื่อไรก็จะจับพู่กัน วาดรูปต่าง ๆ และได้โชว์ภาพวาดซึ่งเป็นรูปม้าที่สวยสง่า สีขาว โดยเธอบอกว่าเป็นการ์ดวันเกิดของคุณแม่พี่ปลื้มที่เธอวาดให้ ซึ่งม้าสีขาวตัวนั้นก็เปรียบเสมือนแม่พี่ปลื้ม นอกจากนี้ สาวทับทิม ยังโชว์ทักษะด้านดนตรีไทย ด้วยการเล่นระนาดให้ฟังด้วย

            จากความรู้สึกดี ๆ ของทั้งคู่ ที่ค่อย ๆ ก่อตัวจนกลายเป็นความรัก... พวกเขาบอกว่า ที่เขาแต่งงานเพราะเขามั่นใจในตัวของกันและกัน ว่าจะเป็นคนที่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขตลอดชีวิต เพราะตลอดเวลาที่รักกันมา พวกเขาไม่เฟค เป็นตัวของตัวเอง รักในตัวตนของกันและกัน ความรักเลยดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเป็นธรรมชาติ ส่วนคำถามที่ว่า แต่งงานกันเร็วไปไหม หนุ่มปลื้ม บอกว่าเขาทำงานตั้งแต่อายุ 16 ไม่ได้ขอเงินพ่อแม่เลย จนถึงตอนนี้ก็ทำงานร่วม 9 ปีแล้ว ซึ่งตนมั่นใจว่า ตนมั่นคงพอที่จะดูแลใครสักคน ส่วนทับทิมก็บอกว่า เธอมั่นใจพี่ปลื้ม ที่มีความคิด และมุมมองที่ไกล มั่นคง อีกทั้งยังมีเป้าหมายในชีวิต และพร้อมที่จะวิ่งไปสู่จุดหมายนั้น ๆ ได้ 

            สำหรับแพลนฮันนีมูน พวกเขากล่าวว่า ยังไม่มีคำนี้อยู่ในสมองเลย เพราะหลังจากแต่งงานวันรุ่งขึ้นตอนเช้าเขาก็ถ่ายรายการกันต่อ ดูเหมือนคิวจะยาวไปถึงปีใหม่ ส่วนสาวทับทิมก็กล่าวว่า ตอนนี้งานกำลังไหลมาเทมา ถ้าจะไปเที่ยว เราไปเที่ยวเมื่อไรก็ได้ ส่วนเรื่องมีทายาทนั้น หนุ่มปลื้มบอกว่า อย่างต่ำก็คงอีก 5-6 ปี เพราะตอนนี้ยังสนุกกับงานที่ทำอยู่ แต่ถ้าถามว่าอยากมีกี่คน ตนอยากมี 2 คนกำลังดี และอยากให้ลูกผู้หญิงเป็นพี่ ลูกผู้ชายเป็นน้อง (ยิ้ม)
ปลื้ม ทับทิม

            ท้ายนี้ ทั้งคู่ ก็ได้ฝากข้อคิดในเรื่องของความรักให้ฟังว่า.. รักในวัยเรียนเป็นรักที่เกิดขึ้นได้ ใคร ๆ ก็มีความรักในวัยเรียนทั้งนั้น แต่ก็ควรรักแล้วให้เกิดความเจริญงอกงาม ไม่ควรดึงกันลงไป...

            ... เส้นทางความรักของทั้งคู่ ถึงแม้ว่าจะไม่หวือหวาเหมือนคู่อื่นสักเท่าไรนัก แต่ความรักของทั้งคู่ดูเรียบง่าย และราบลื่น เต็มไปด้วยความรัก และความสุขจริง ๆ เลยล่ะ ยังไงกระปุกดอทคอมก็ขออวยพรให้ว่าที่บ่าวสาว ปลื้ม-ทับทิม ด้วยนะคะ ขอให้รักกันยาวนาน มีความสุขในชีวิตคู่มาก ๆ เลยจ้า..


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ วีไอพี โพสต์โดย คุณ c สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม