ลัคกี้เซเว่นไทย ฟินสุด ๆ กับงาน 2012 Se7en Fan Tour in Bangkok


คุ้มค่าสมกับการรอคอยมานานกว่า 10 ปี กับงานแฟนมีตติ้งครั้งแรกในเมืองไทย 2012 Se7en Fan Tour in Bangkok ของนักร้องหนุ่มสุดเท่ห์ผู้ชายหมายเลข 7 SE7EN (เซเว่น) หรือ ชเว ดง อุค เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ แจ้งวัฒนะฮอลล์ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ที่งานนี้นอกหนุ่มเซเว่นเสิร์ฟความสนุก ความสุข ความใกล้ชิด ความรัก และความน่ารักให้กับชาวลัคกี้เซเว่นแบบจัดเต็มจนฟินนาเล่ไปตาม ๆ กัน ตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้ายของงานเลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องยกยอดความดีให้กับผู้จัดใจถึงอย่าง บริษัท SNPMediaHUB ที่นอกจากจะทำความฝันของชาวลัคกี้เซเว่นให้เป็นจริงแล้ว ยังทุ่มโปรดักชั่นแสง สี เสียงอลังการอย่างกับยกคอนเสิร์ตย่อมๆ มาให้ได้ชมกันแบบเต็มอิ่ม



































ลัคกี้เซเว่นชาวไทย ฟินแบบจัดเต็ม พี่เจ็ดยกความสุข ความสนุกมามอบให้ กับงานแฟนมีตติ้งที่ทุกคนรอคอย 2012 Se7en Fan Tour in Bangkok !!! (เอสเอ็นพี มีเดีย ฮับ)







          เริ่มต้นเปิดงานด้วยวีทีอาร์จากเพื่อนพ้องร่วมค่าย YG Entertainment ไม่ว่าจะเป็น PSY, 2NE1 และ BIGBANG ที่ร่วมแสดงความยินดีและให้กำลังใจงานแฟนมีทติ้งในครั้งนี้ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ ได้อย่างถล่มทลายแล้ว ยิ่งตอนที่สุดหล่อพระเอกของงานปรากฏตัวออกมาพร้อมกับเพลง Digital Bounce สาว ๆ ชาวลัคกี้เซเว่นยิ่งกรี๊ดกันแบบไม่คิดชีวิต และชูแท่งไฟเลข 7 สีเขียวให้สว่างพรึบไปทั่วทั้งฮอลล์ ทำเอา พี่เจ็ด หรือ SE7EN เป็นปลื้มร้องและเต้นกันสุดพลัง ซึ่งแค่เพลงแรกก็แดนซ์กันจนเวทีแทบลุกเป็นไฟซะแล้ว และก่อนจะไปสนุกกันต่อก็ขอพักทักทายกันแบบไทย ๆ ให้สาว ๆ ใจละลายว่า "สวัสดีครับ ผมชื่อเซเว่น ยินดีที่ได้รู้จักครับ" นอกจากนี้เจ้าตัวยังบอกต่อไปอีกว่าไม่เจอกันนานรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เจอกันในวันนี้ หวังว่าแฟน ๆ ทุกคนจะสนุกกับงานในคืนนี้ ก่อนจะนำเข้าสู่เพลงต่อไป ซึ่งพี่เจ็ดก็อ้อนขอให้ทุกคนร้องไปพร้อม ๆ กัน และเมื่อแฟน ๆ ตกปากรับคำเจ้าตัวก็ตอบแทนโดยการหยอดคำหวานให้ละลายไปอีกรอบว่า "ขอบคุณมากครับ ผมรักคุณ" แล้วก็เข้าสู่เพลงที่สอง When I Can't Sing ที่ลดดีกรีความฮอตและร้อนแรงมากับเพลงจังหวะช้า ๆ คลอไปกับเสียงอังกอร์ของชาวลัคกี้เซเว่นและป้ายโปรเจ็ค ALLWAYS BE YOUR ♥ "럭세" ที่แฟน ๆ ทุกคนพร้อมใจกันชู ยิ่งทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักและคิดถึง

          ต่อด้วยวีทีอาร์รวบรวมผลงานของ SE7EN ตั้งแต่เริ่มต้นเดบิวต์จนถึงผลงานอัลบั้มล่าสุด และความสำเร็จของหนุ่มคนนี้ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย จากนั้นวีเจ.เจนิกซ์ เจริญ แซ่จู ที่รับหน้าที่พิธีกรก็ออกมากล่าวต้อนรับเข้าสู่งานแฟนมีทติ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ก่อนที่จะเชิญตลอดงานและให้แฟน ๆ ตะโกนเรียกสุดหล่อพระเอกของงานกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งเพื่อพูดคุยกับแฟน ๆ โดยเจ้าตัวบอกว่ามีความสุขมาก ๆ กับการมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ และดีใจมาก ๆ ที่ได้ร้องเพลงให้ลัคกี้เซเว่นชาวไทยได้ฟังในค่ำคืนนี้ ส่วนในเรื่องการทำงานนั้นพี่เจ็ดบอกว่าก็ค่อนข้างยุ่งนิดนึง เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีมินิอัลบั้มที่สองที่ประเทศเกาหลี และมีผลงานในประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะมามีทแอนด์กรี๊ดกับแฟน ๆ ชาวไทย งานนี้เอ็มซีแอบเกริ่นถามว่าแฟน ๆ ชาวไทยต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้วมีคนที่ตรงสเป็คของ SE7EN บ้างหรือเปล่า เจ้าตัวตอบทันทีว่า "มี" แถมยังตบมุกด้วยว่าเสียดายที่เธอคนนั้นนั่งอยู่หลังสุดของฮอลล์เลยมองไม่เห็นหน้า เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งฮอลล์





          จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงพิเศษที่เปิดโอกาสให้แฟน ๆ ถามคำถามกับหนุ่ม SE7EN ด้วยตัวเอง โดยพิมพ์คำถามและส่งข้อความเข้ามายังหมายเลขโทรศัพท์ที่พิธีกรบอกไป โดยผู้ที่ส่งเข้ามาเร็วที่สุด 7 คนแรกนอกจากหนุ่ม SE7EN จะตอบคำถามที่ถามมาแล้วยังจะเป็นคนโทรศัพท์กลับไปหาผู้โชคดีด้วยตัวเองอีกด้วยซึ่งระหว่างที่พิธีกรทวนหมายเลขโทรศัพท์อยู่นั้นเจ้าตัวได้ยินคำว่า "เจ็ด" ก็รีบชี้มาที่ตัวเองพร้อมกับบอกพิธีกรและแฟน ๆ ว่า "พี่เจ็ด ผมชื่อพี่เจ็ด ผมรักคุณ" ทำเอาแฟน ๆ กรี๊ดกันถล่มทลายให้กับความน่ารักและขี้เล่นของผู้ชายคนนี้ 
          จากนั้นเอ็มซีก็จัดการต่อสายถึงผู้โชคดีคนแรกให้พี่เจ็ดได้เซย์ไฮ ซึ่งเจ้าตัวก็ทักทายเป็นภาษาไทยได้อย่างน่ารักน่าหยิกว่า "ฮัลโหลใครครับ อยู่ที่ไหนครับ" ส่วนคำถามนั้นผู้โชคดีถามว่า SE7EN รักแฟนชาวไทยมั้ย? ซึ่งพี่เจ็ดก็ตอบแบบไม่รีรอแถมยังเอาใจด้วยการตอบเป็นภาษาไทยอีกว่า "ผมรักแฟนไทยครับ"

          ส่วนคำถามของผู้โชคดีคนที่สองนั้นถามว่า ปีนี้จะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวมั้ย? เจ้าตัวบอกว่าปีนี้ยังไม่มีแพลน แต่ว่าปีหน้า 2013 กำลังวางแพลนอยู่ ต่อด้วยผู้โชคดีคนที่สามถามว่าก่อนขึ้นคอนเสิร์ตซ้อมร้องซ้อมเต้นหนักมั้ย? เจ้าตัวตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดีว่า ไม่ได้ซ้อมเลย แถมยังบอกอีกว่าที่ตอบแบบนี้เพราะตนเป็นคนจริงใจและพูดตรงไปตรงมาเสมอ แล้วแบบนี้จะไม่ให้แฟน ๆ รักพี่เจ็ดได้ยังไงไหว 

          ส่วนคำถามที่สี่ถามว่า อีก 10 ปีหนุ่ม SE7EN จะทำอะไร? ซึ่งคำตอบของพี่เจ็ดก็ทำให้แฟน ๆ ชาวไทยมีความหวัง เมื่อเจ้าตัวบอกว่า อีก 10 จะมาเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย เพราะอีก 10 ปีผู้ชายหมายเลข 7 คนนี้จะยังร้องเพลงให้แฟน ๆ ได้ฟังนั่นเอง และคำถามจากผู้โชคดีคนที่ห้าถามว่า 7 สิ่งสำคัญในชีวิตของพี่เจ็ดคืออะไร? แต่เจ้าตัวขอตอบสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตนั่นก็คือ "ความรัก" ซึ่งไม่ใช่แค่รักอย่างเดียวจะต้องมีจิตใจและความจริงใจอีกด้วย นอกจากจะหล่อแล้วยังโรแมนติกอีกต่างหาก 
          ส่วนคำถามจากผู้โชคดีคนที่หกซึ่งถือว่าเป็นคำถามไฮไลท์ที่ชาวลัคกี้เซเว่นอยากรู้นักอยากรู้หนาว่าพี่เจ็ดจะแต่งงานเมื่อไหร่? ทำเอาเจ้าตัวเขินไปเลยทีเดียวก่อนจะตอบว่า "ยังไม่ได้คิด แต่มั่นใจว่าไม่ใช่ปีนี้" ตอบแบบนี้ไม่รู้ว่าหวานใจตัวจริงรู้เข้าจะว่ายังไงละเนี้ย และปิดท้ายด้วยคำถามจากผู้โชคดีคนที่เจ็ดถามว่าชอบทานอะไรมากที่สุด? ซึ่งของโปรดที่หนุ่มคนนี้ชอบทานก็คือไก่นึ่งร้อน ๆ นั่นเอง 
          จากนั้นทีมงานก็ดับไฟพร้อมกับให้ผู้โชคดีทั้ง 7 นำเค้กก้อนโตขึ้นมาบนเวทีเพื่อเซอร์ไพรส์วันเกิดย้อนหลังให้กับ SE7EN เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำเอาเจ้าตัวยิ้มแก้มปริและกล่าวขอบคุณไม่หยุดกับเซอร์ไพรส์ที่ทุกคนมอบให้ ก่อนจะเป่าเทียนและมอบซีดีพร้อมลายเซ็นให้แฟน ๆ เป็นที่ระลึกพร้อมกอดอุ่น ๆ อีกคนละหนึ่งทีให้แฟนๆ ที่อยู่ภายในฮอลล์อิจฉาด้วย  

          ต่อด้วยโชว์ช่วงที่สองกับเพลงแดนซ์สุดมันส์อย่าง Better Together ให้แฟน ๆ ลุกขึ้นมาขยับแข้งขาออกลีลาไปพร้อมๆ กัน ต่อด้วยเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง Come Back to Me ที่คราวนี้พี่เจ็ดก็มีเซอร์ไพรส์มามอบให้แฟน ๆ โดยมอบกุหลาบขาว 7 ดอกให้กับแฟน ๆ โดยเจ้าตัวเดินลงจากเวทีมามอบให้เองกับมือเลยทีเดียว 

          จบเพลงพี่เจ็ดขอตัวลงไปพักซับเหงื่อซักครู่ ระหว่างรอนั้นพิธีกรก็ได้นำของรางวัลที่หนุ่ม SE7EN เตรียมมามอบให้แฟนคลับผู้โชคดีมากมาย อาทิ เสื้อยืดพร้อมลายเซ็น อัลบั้มพร้อมลายเซ็น ชุดกิ๊ฟเซ็ทเครื่องสำอาง แต่ที่พิเศษสุด ๆ ก็คือฟิกเกอร์เซรามิครูป SE7EN ที่เจ้าตัวเป็นคนสั่งทำมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ที่สำคัญมีตัวเดียวในโลกเท่านั้น 

          หลังจากแนะนำของรางวัลไปเสร็จเรียบร้อยก็เชิญเจ้าตัวขึ้นมามอบรางวัลให้กับผู้โชคดีที่จับรายชื่อกันสด ๆ บนเวที เริ่มจากรางวัลเสื้อยืดพร้อมลายเซ็น 40 ตัว ซึ่งนอกจากจะได้รับกับมือพี่เจ็ดแล้วยังได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันเป็นที่ระลึกอีกด้วย เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มสุด ๆ ก่อนจะให้เซเว่นจับรายชื่อผู้โชคดีขึ้นมาอีก 10 คนที่จะได้รับรางวัลเป็นซีดีพร้อมลายเซ็น แต่จะมีเพียง 1 ใน 10 ผู้โชคดีที่จะได้ฟิกเกอร์เซรามิคไป โดยกติกาก็คือใครที่แดนซ์ได้เด็ดโดนใจพี่เจ็ดมากที่สุดก็รับรางวัลพิเศษไปเลย ซึ่งพอดนตรีมาสาว ๆ ก็วาดลีลากันไม่ยั้งแดนซ์กันกระจายจน SE7EN อดใจไม่ไหวร่วมแจมไปกับแฟน ๆ ด้วย แต่มีสองสาวที่ลีลาสูสีกินกันไม่ลงจน SE7EN ต้องให้แฟน ๆ ช่วยตัดสินจากเสียงกรี๊ด ผลปรากฏว่าสาวอวบที่แดนซ์ได้เซ็กซี่ได้เสียงกรี๊ดไปอย่างท่วมท้นเป็นเดอะวินเนอร์ได้รับฟิคเกอร์เซรามิคไป ต่อด้วยจับรายชื่อผู้โชคดีที่จะได้รับรางวัล 3 ชิ้นสุดท้ายเป็นมินิอัลบั้มล่าสุดจากญี่ปุ่น Somebody Else หนึ่งรางวัล, มินิอัลบั้มแรกในเกาหลี Digital Bounce หนึ่งรางวัล และกิ๊ฟเซ็ทเครื่องสำอางพร้อมเสื้อยืดคอนเสิร์ตเซเว่นลิมิเต็ทอิดิชั่นที่สกรีนด้านหลังคำว่า CREW อีกหนึ่งรางวัล 

          จากนั้นเจ้าตัวได้เอ่ยถึงความรู้สึกในงานครั้งนี้ว่า งานวันนี้สนุกมาก และรู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานแฟนมีทติ้งและใกล้ชิดกับแฟน ๆ ชาวไทยทุกคน จากนั้นเอ็มซีก็คืนเวทีให้กับผู้ชายหมายเลข 7 ได้มอบความสนุกให้กับแฟน ๆ ในช่วงสุดท้าย 3 เพลงรวด เริ่มจาก I Love You Echo's ต่อด้วย La La La ที่เจ้าตัวให้แฟน ๆ ช่วยกันร้องท่อนฮุคไปพร้อม ๆ กันซะดังกระหึ่มฮอลล์ และปิดท้ายด้วยเพลง Passion ที่เจ้าตัวโชว์สเต็ปแดนซ์และท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวกับท่าหกสูงเลข 7 ได้อย่างเท่สุด ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะบอกขอบคุณและโบกมือลาแฟน ๆ ไป 

          แต่ลัคกี้เซเว่นที่ยังติดลมไม่หนำใจตะโกนเรียก "เซเว่น เซเว่น เซเว่น" เจ้าตัวก็กลับขึ้นมาอีกครั้งในช่วงสุดท้ายฟินาเล่ กับการไฮไฟท์ กอด และถ่ายภาพกับแฟน ๆ โซน A1, A2 และผู้โชคดีที่ซื้อบัตรพรีเซลอีก 50 คน อย่างใกล้ชิดแนบแน่นฟิน!! ไปตาม ๆ กัน ก่อนที่เจ้าตัวจะกล่าวทิ้งท้ายย้ำอีกครั้งว่าดีใจมากและขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่มาในวันนี้ หวังว่าจะได้เจอกันอีกเร็ว ๆ นี้แล้วจะหาเวลามาเมืองไทยอีกบ่อย ๆ พร้อมกับบอกลากันแบบไทย ๆ มัดใจแฟนๆ อีกรอบว่า "ขอบคุณครับ See you next time ผมรักคุณ" 
          แหม!!!! เล่นหยอดคำหวานแบบนี้จะไม่ให้ลัคกี้ชาวไทยรักผู้ชายหมายเลย 7 คนนี้ก็คงไม่ได้ เรียกว่าปิดฉากแฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกอย่างเป็นทางการในรอบ 10 ปี ที่ฟินทั้ง ศิลปิน และแฟนคลับกันเลยทีเดียว































ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

Credit : Kapook.com,Youtube.com
เรียบเรียง : Ruengdd.com