คนจีนแห่เที่ยวไทย ตามรอยหนังดังลอสต์ อิน ไทยแลนด์ (Lost in Thailand)

เป็นที่น่าปลื้มใจจริง ๆ ที่ประเทศไทยของเราถูกเลือกเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศมาแล้วหลายเรื่อง อย่างล่าสุดกับภาพยนตร์แนวตลก/ผจญภัย ของจีนแผ่นดินใหญ่ เรื่อง ลอสต์ อิน ไทยแลนด์ (Lost in Thailand) ที่ได้มาถ่ายทำในประเทศไทยเกือบทั้งเรื่อง และที่สำคัญคือ เป็นภาพยนตร์ฟอร์มไม่ยักษ์แต่กลับโกยรายได้ไม่หยุด ทุบสถิติภาพยนตร์ที่เปิดตัวสูงสุดประจำเดือนธันวาคมเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดจากการฉายวันเดียวตลอดกาลในจีน โค่นรายได้ที่ ทรานสฟอร์เมอร์ 3 (Transformer 3) ทำไว้ในจีนไปเรียบร้อยแล้ว 









ตัวอย่าง Lost in Thailand
           โดยรายงานของ ฟิล์ม บิสสิเนสส์ เอเชีย (Film Bussiness Asia) ระบุว่า Lost in Thailand สามารถกวาดรายได้จากการฉาย 8 วัน หลังเปิดตัววันแรก เมื่อ 12 ธันวาคม ไปถึง 450 ล้านหยวน หรือราว 2,166 ล้านบาท โดยเฉพาะเมื่อวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม เพียงวันเดียว สามารถทำรายได้ถึง 100 ล้านหยวน หรือ 500 ล้านบาท สร้างสถิติทำรายได้สูงสุดวันเดียวตลอดกาล ทำลายสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศของจีน

           อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จถล่มทลายของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ชาวจีนหลายคนที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ อยากเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกใช้เป็นโลเคชั่นหลักของเรื่่องนี้ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีชาวจีนมาตามรอยภาพยนตร์เรื่องนี้กันแล้ว และโพสต์ภาพอวดคนอื่นในโซเชียลเน็ตเวิร์กด้วย จึงคาดว่าจะมีชาวจีนแผ่นดินใหญ่มาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้นเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้








           สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand กำกับและนำแสดงเองโดยดาวตลกชื่อดังของจีนชื่อ ซูเจิ้ง (Xu Zheng) เป็นเรื่องราวของ ซู (Zu) ที่รับบทโดยซูเจิ้ง ได้แข่งขันกับ โบ (Bo) คู่แข่งทางธุรกิจในบริษัทเพื่อตามตัวเจ้านายให้เซ็นเอกสารที่จะกำหนดชะตาทางการเงินของพวกเขา เวลาของพวกเขาเหลือน้อยลงเต็มที่ แต่ปรากฏว่าเจ้านายของเขาหนีไปอยู่ จ.เชียงใหม่ จังหวัดหนึ่งในภาคเหนือของประเทศไทย

           ซูจึงนั่งเครื่องไปลงกรุงเทพฯ ก่อนที่จะรู้ว่าโบแอบสะกดรอยติดตามเขามาโดยใช้สัญญาณโทรศัพท์ของเขา ดังนั้น ซูจึงเปลี่ยนกระเป๋ากับ หวัง ชายที่นั่งข้าง ๆ เขาบนเครื่อง ต่อมา หวังได้รู้ว่าถูกสลับกระเป๋าจึงออกตามหาซูเพื่อเอากระเป๋าคืน แต่ปรากฏว่าของสำคัญของทั้งคู่หายไป นั่นคือ พาสปอร์ตของซูและเงินของหวัง ทั้งคู่ไม่มีทางเลือกจึงต้องเป็นเพื่อนร่วมทางกันนั่งรถไฟไปเชียงใหม่
 

           ในระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่ได้พบเห็นศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นอันดีงามของประเทศไทย ผ่านการผจญภัยมากมาย ทั้งคู่ได้ล่วงรู้ความลับของซึ่งกันและกันและการนำมาซึ่งการตั้งคำถามสำคัญว่าอะไรคือสิ่งที่ชีวิตควรให้ความสำคัญก่อน...

ภาพยนตร์ Lost in Thailand ได้ถ่ายทำตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในไทยทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต โดยแฝงมุกตลก ความสนุกสนานไว้ ขณะที่ภาพยนตร์กำลังโด่งดัง จึงเกิดเป็นกระแสแบบปากต่อปากไปทั่วประเทศจีน ทำให้ชาวจีนอยากมาสัมผัสบรรยากาศในเมืองไทยตามภาพยนตร์ ทั้งการปล่อยโคมลอย นั่งรถตุ๊กตุ๊ก Spa ไทย และชมการแสดงของช้าง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวคริสต์มาสถึงปีใหม่นี้ ขณะที่บางคนวางแผนจะไปในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน
ทั้งนี้ สถิติจาก www.ctrip.com เว็บไซต์ท่องเที่ยวใหญ่ของจีน พบว่า ในเดือน ธ.ค. จำนวนนักท่องเที่ยวที่สมัครเดินทางไปเที่ยวไทยทั้งในรูปแบบตามคณะทัวร์และเดินทางท่องเที่ยวส่วนตัวสูงถึง 1 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ทัวร์ท่องเที่ยวไทยในช่วงวันตรุษจีนปีนี้ก็ถูกจองเต็มไปกว่าร้อยละ 50 แล้ว  นอกจากนี้ ในเดือน ธ.ค. จำนวนนักท่องเที่ยวที่จองทัวร์เชียงใหม่เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ปัจจุบันตั๋วเครื่องบินที่ไปเชียงใหม่และโรงแรมระดับ 5 ดาวในเชียงใหม่ถูกจองแทบไม่เหลือ


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก chinesemov.comคุณ FilmFestivalVideos สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เรียบเรียง : Ruengdd.com