ย้อนเหตุการณ์เด่น 20 ข่าวฮอตที่สุดแห่งปี 2555
อีกไม่กี่วันก็จะก้าวขึ้นสู่พุทธศักราช 2556 กันแล้ว ช่วงเวลา 300 กว่าวันที่ผ่านมา มีเรื่องราวข่าวสารมากมายเกิดขึ้นในประเทศไทย มีหลาย ๆ เหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงในกระแสสังคมกันอย่างกว้างขวาง และยังคงอยู่ในความทรงจำของคนไทย วันนี้ขอประมวล 20 ข่าวเด็ดประเด็นฮอตที่เกิดขึ้นในรอบปีมังกรทอง มาย้อนเล่าซ้ำอีกครั้ง ลองดูกันว่าเหตุการณ์ไหนถูกยกให้เป็น ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ที่สุดของข่าวแห่งปี 2555 กันบ้าง
เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
ตะลึงทั้งเมือง! USA เตือนขบวนการก่อการร้ายบุกไทย-บึ้มสุขุมวิท 71
เพิ่งฉลองปีใหม่ได้ไม่นาน ประเทศไทยก็งานเข้าเสียแล้ว เมื่อในช่วงปลายเดือนมกราคม ทางการสหรัฐอเมริกาประกาศเตือนว่ามีกลุ่มผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ในประเทศไทย และอาจก่อเหตุร้ายขึ้น แถมถัดมาอีกไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 จุด บริเวณถนนสุขุมวิท 71 ทำให้มือวางระเบิดชาวอิหร่านขาขาดจนคนตกอกตกใจทั่วเมือง ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไทยต้องควานหาตัวผู้ร่วมกระบวนการเครือข่ายฮิซบอลเลาะห์กันวุ่น และยังยึดสารแอมโมเนียไนเตรต ปุ๋ยยูเรีย ซึ่งเป็นสารประกอบระเบิดจากบ้านเช่าหลังหนึ่งได้เป็นจำนวนมาก แต่ในที่สุดก็โชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เพราะกลุ่มก่อการร้ายใช้ประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น ไม่ได้หวังก่อเหตุร้ายแรง ในที่สุดสหรัฐอเมริกาจึงประกาศยกเลิกคำเตือนก่อการร้าย
เดือนมีนาคม
ช็อกแฟนมวย! บัวขาว ประกาศแตกหัก ค่าย ป.ประมุข
แฟนมวยไทยไฟต์ช็อกไปตาม ๆ กัน เมื่อ บัวขาว ป.ประมุข หรือ สมบัติ บัญชาเมฆ นักชกไทยชื่อก้องโลก ดีกรีเจ้าของแชมป์ K-1 ที่ประเทศญี่ปุ่น 2 สมัย ฉายา "ดำ ดอทคอม" หายตัวไปจากค่าย ป.ประมุข ทั้งที่มีคิวจะทำศึกไทยไฟต์ที่ประเทศฝรั่งเศสในอีกไม่กี่วัน ก่อนที่ต่อมา บัวขาว จะออกมาแถลงข่าวขอฉีกสัญญากับค่าย ป.ประมุข โดยอ้างว่ามีปัญหาอาการบาดเจ็บ และคงไม่สามารถขึ้นชกตามโปรแกรมที่วางไว้ได้ ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่าจริง ๆ บัวขาว ไม่พอใจเรื่องสัญญา และการจ่ายค่าตัวที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้ค่าย ป.ประมุข ของกำนันแก๊ นายประมุข โรจนตัณฑ์ เร่งเคลียร์ใจกับ บัวขาว เป็นการด่วน แต่ดูเหมือนจะไม่มีสัญญาณตอบรับจากฝั่งนักชกชื่อดังเท่าใดนัก
กระทั่งในเดือนเมษายน บัวขาว ป.ประมุข กลับทำเซอร์ไพรส์แฟนมวยด้วยการปรากฏตัวบนเวทีมวยไทยไฟต์ที่พัทยา และสาดแข้งจนน็อกคู่ต่อสู้ได้ ทำเอาค่าย ป.ประมุข เคืองจัด ประกาศฟ้องร้องบัวขาว รวมทั้งผู้จัดไทยไฟต์ที่ทำผิดสัญญา พ.ร.บ.มวย ให้บัวขาวขึ้นชกโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท เรื่องราวยิ่งบานปลายมากขึ้น บัวขาว ก็ขอพักใจกลับไปบวชเงียบ ๆ ที่บ้านเกิด ก่อนกลับมาเคลียร์ปัญหายุ่ง ๆ อีกครั้ง จนในที่สุด กกท. ก็มีคำสั่งเพิกถอนทะเบียนมวย บัวขาว เป็นเวลา 6 เดือน ที่ขึ้นชกไทยไฟต์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากค่าย ป.ประมุข ขณะเดียวกัน บัวขาว ก็เปิดอกเจรจากับค่าย ป.ประมุข อีกครั้ง และครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงเรื่องค่าตัวกันได้ ขณะที่ค่าย ป.ประมุข ก็ยอมถอนฟ้องทุกกรณี
แต่ทว่ามหากาพย์อันแสนวุ่นนี้ยังไม่จบ เพราะอีกไม่กี่วันต่อมา บัวขาว ก็ออกมาประกาศแขวนนวม เนื่องจากสัญญากับค่าย ป.ประมุข ยังไม่ลงตัว บัวขาว จึงตัดสินใจพึ่งศาล และศาลก็ได้นัดคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง ในที่สุด ศาลก็วินิจฉัยยกฟ้องคู่กรณีทุกฝ่าย พร้อมสั่งให้ บัวขาว กลับมาชกมวยได้อีกครั้ง เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ รวมทั้งเคลียร์เรื่องสัญญาที่ไม่ลงตัวด้วย วุ่นวายนานกว่า 4 เดือน สุดท้ายเรื่องนี้ก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
เดือนเมษายน
ชุ่มฉ่ำ! อาโออิ นำทัพสาดความสุขดับร้อน ฉลองสงกรานต์บุรีรัมย์
งานสงกรานต์ไหนที่ว่าแน่ยังต้องชิดซ้าย เมื่อเจ้าของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่าง "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประกาศก้องจะนำ "โซระ อาโออิ" นางเอกหนังเอวีคนดังจากแดนอาทิตย์อุทัยมาร่วมฉลองสงกรานต์ที่สนามนิวไอโมบาย สเตเดี้ยม จังหวัดบุรีรัมย์ ให้จงได้ ทำเอาหนุ่ม ๆ สยิวกิ้วเปลี่ยนแผนแพ็กกระเป๋าจองตั๋วทัวร์บุรีรัมย์ในช่วงสงกรานต์แทบไม่ทัน และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อ อาโออิ นำทีมศิลปินสาวเซ็กซี่ทั้งจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขึ้นเวทีคอนเสิร์ต พร้อมร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์กับแฟน ๆ ที่มาร่วมงานนับหมื่นคนอย่างสนุกสนาน แต่ที่น่าอิจฉาสุด ๆ เห็นจะเป็นหนุ่มผู้โชคดีที่เป็นแฟนคลับของสาวอาโออิได้ขึ้นเวทีไปสัมผัสตัวเป็น ๆ อย่างใกล้ชิด ทำเอาอุณหภูมิวันสงกรานต์ที่บุรีรัมย์ร้อนฉ่าด้วยความอิจฉาตาร้อนเลยเชียวล่ะ
เดือนพฤษภาคม
ฝันสลาย! วอลเลย์สาวไทยชวดไปโอลิมปิก คว้าแชมป์ AVC ปลอบใจ
ให้แฟน ๆ ลูกยางได้ลุ้นกันสุดตัว เมื่อนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยมีโปรแกรมลงสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เพื่อคว้าสิทธิ์ไปโอลิมปิกเกมส์ รอบสุดท้าย ซึ่งหากทำได้จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกยางไทย และสาวไทยก็มีลุ้นไปเหยียบสนามลอนดอนเกมส์เสียด้วย โดยมีโอกาสสูงถึง 83.33% ขอเพียงแค่ทีมสาวญี่ปุ่น เจ้าภาพ ไม่พลิกพ่าย เซอร์เบีย คาบ้าน 2-3 เซต แต่สุดท้ายเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง สาวญี่ปุ่น พ่าย เซอร์เบีย ไปด้วยสกอร์ 2-3 เซต ทำเอาแฟน ๆ วอลเลย์บอลน้ำตาตกอดไปเกาะขอบสนามเชียร์ที่อังกฤษ
อย่างไรก็ตาม แม้สาวไทยจะผิดหวังในครั้งนี้ แต่ก็ยิ่งเป็นแรงฮึดสู้ในรายการต่อไป เห็นได้จากการที่สาวไทยงัดฟอร์มสุดยอดตบเอาคืน ญี่ปุ่น ไปได้ 3-2 เซต ในรายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2012 เมื่อเดือนกรกฎาคม แถมยังคว่ำ โดมินิกัน และจีนได้อีกต่างหาก จนคว้าอันดับ 4 มาครอง ตามมาด้วยการคว้าแชมป์ AVC Asian cup 2012 ในเดือนกันยายนที่ย้ำแค้นจีนในรอบชิงชนะเลิศไปอย่างสุดมันส์ 3-1 เซต งานนี้แม้อกหักจากโอลิมปิก แต่แฟน ๆ ชาวไทยก็ได้รางวัลปลอบใจที่มีค่าที่สุด เพราะปีนี้สาวไทยงัดฟอร์มออกมาได้ระเบิดระเบ้อจริง ๆ ขอปรบมือดัง ๆ
ระเบิดความมันส์! เลดี้ กาก้า คนดัง โชว์คอนเสิร์ต อิน ไทยแลนด์
ชั่วโมงนี้ไม่มีศิลปินระดับโลกคนใดจะถูกจับตามองมากไปกว่า เลดี้ กาก้า ซูเปอร์สตาร์สุดมั่นคนนี้อีกแล้ว ไม่ว่าเธอจะแต่งชุดอะไร ย่างกรายไปทางไหน ทำอะไร คุยกับใคร ก็อยู่ในความสนใจของสื่อทุกฝีก้าว และก็เป็นข่าวดีของแฟน ๆ ชาวไทย ที่ เลดี้ กาก้า ตัดสินใจเดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยกลางสนามราชมังคลากีฬาสถาน ในชื่อคอนเสิร์ต "เลดี้ กาก้า เดอะ บอร์น ดิส เวย์ บอลล์" (Lady Gaga The Born This Way Ball) เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ทำเอาสาวกลิตเติ้ลมอนสเตอร์อยู่ไม่สุข ตามติดเกาะขอบเวทีกันเรือนหมื่น เรียกได้ว่ามั่นจนหยดสุดท้ายไม่ห่วงเสื้อผ้าหน้าผมที่แต่งองค์ทรงชฎากันเลยทีเดียว
เดือนมิถุนายน
ก็อตทาเลนต์ฉาว! สาวไทยโชว์ (ศิลปะ?) นมวาดรูป
กระแสตอบรับดังเปรี้ยงปร้างตั้งแต่ออกอากาศเพียงสัปดาห์แรก ทำให้หลายคนมองว่า รายการ ไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2 น่าจะไปได้สวย แต่แล้วในสัปดาห์ที่ 3 แฟนรายการทั่วประเทศต้องมาชะงักกับโชว์ปิดท้ายของรายการที่สาวร่างบางนาม "ปอนด์ ดวงใจ จันทร์เสือน้อย"ออกมาถอดเสื้อผ้าใช้นมวาดรูปบนผืนผ้ากลางเวที ทำเอาคณะกรรมการและผู้ชมในห้องส่งตาค้าง แต่ทว่า 2 หนุ่มคอมเมนเตเตอร์อย่าง "โจ จิรายุส" กับ "โญ ภิญโญ" กับปล่อยไฟเขียวให้ผ่านด้วยวลีเด็ด "มันเป็นศิลปะ ผมให้ผ่าน" เล่นเอาสาวเบนซ์ พรชิตา กรรมการสาวเพียงคนเดียวนั่งไม่ติด ลุกตามไปต่อว่าดัง ๆ ถึงหลังเวทีที่ปล่อยให้โชว์นี้ผ่านเข้ารอบ และแน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เสียเละเทะในโลกอินเทอร์เน็ต
เรื่องฉาวนี้ยังต่อความยาวสาวความยืดต่อ เมื่อ ปอนด์ ดวงใจ ออกมาเปิดใจว่า เธอเป็นนักเต้นโคโยตี้ และมีคนจ้างเธอ 10,000 บาท ให้ขึ้นมาแสดงโชว์นี้บนเวที ทำเอาชาวไซเบอร์จวกยับว่า ทีมงานเวิร์คพอยท์จัดฉากเพื่อเรียกเรตติ้งหรือไม่ คล้อยหลังไม่นาน บอสใหญ่แห่งเวิร์คพอยท์ เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล จึงต้องออกมาชี้แจงแถลงไขว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าผู้เข้าแข่งขันคนดังกล่าวจะขึ้นมาเปลือยอกวาดรูป เข้าใจว่าจะใช้ร่างกายวาดรูปธรรมดาเท่านั้น พร้อมกับยืนยันไม่ได้จัดฉากเพื่อเรียกเรตติ้งอย่างที่คนว่ากันไป และขอโทษขอโพยสังคมที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
เรียกได้ว่าการแสดงฉาวชุดนี้ถูกพูดถึงกันมากกว่าการแสดงที่สุดแสนจะประทับใจหลาย ๆ ชุดเสียอีก แต่สุดท้ายแล้ว ปอนด์ ดวงใจ ก็ไม่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไป และผู้ที่คว้าแชมป์ก็คือ ยอดนักกายกรรมปีนผ้า "เล้ง ราชนิกร แก้วดี" นั่นเอง
ยูโรจอดำ...สงครามห้ำหั่นชิงผลประโยชน์? ของ แกรมมี่-ทรู
คอลูกหนังที่อดตาหลับขับตานอนเพื่อจะดูเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ต้องสะดุดกึกตั้งแต่นัดแรก เมื่อถ่างตาตื่นขึ้นมาตอนตี 2 แล้วพบแต่เพียงตัวหนังสือหราอยู่บนหน้าจอสีฟ้า ๆ สรุปใจความได้ว่า "ขออภัยที่ให้รับชมไม่ได้" บริษัท ทรู วิชั่นส์ ก็เลยถูกลูกค้าที่จ่ายแพ็กเกจเดือนละหลายพันบาทสวดยับ ต้องกลับลำไปเจรจากับ บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) (GRAMMY) แทบไม่ทัน แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะทางแกรมมี่ชี้แจงว่า หากปล่อยสัญญาณให้ ทรู ก็จะละเมิดข้อตกลงที่ทำสัญญาไว้กับสหพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป (ยูฟ่า) และเสี่ยงต่อการถูกบอกเลิกสัญญาที่จะทำให้คนไทยเจอ "จอดำ" ทั้งประเทศ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทรู จึงหวังพึ่งศาลปกครอง แต่ศาลก็ไม่รับคำร้อง สุดท้าย ทรู ต้องยอมเสียค่าปรับเซ่นจอดำวันละ 2 หมื่นบาทไปจนจบการแข่งขัน แต่เรื่องวุ่น ๆ ทั้งหมดนี้ก็ถูกแฟนบอลชาวไทยวิจารณ์เหมือนกันว่า นี่คือศึกการแย่งชิงผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ดูเหมือนคนไทยเป็นเพียงแค่ตัวประกันเสียมากกว่า
เดือนกรกฎาคม
โอลิมปิกดราม่า! ฤทธิ์ไอบ้าทำไทยชวดเหรียญทอง – ทัพพาราลิมปิกกู้หน้าแทน
ปัญหาจอดำยังตามมาหลอกลอน แม้แต่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ กีฬาเพื่อมวลมนุษยชาติ ที่คนไทย (ไร้เสาอากาศ) พลาดชมอีกแล้ว และน่าเสียดายจริง ๆ ที่ผลงานของนักกีฬาไทยต้องบอกว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก เพราะคว้าได้เพียง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง โดยเหรียญเงินแรกได้จาก น้องแต้ว พิมศิริ ศิริแก้ว ในกีฬายกน้ำหนัก ตามมาด้วย 1 เหรียญทอง จาก น้องเล็ก ชนาธิป ซ้อนขำ ที่สุดแสนจะเสียดาย เพราะน่าจะได้อย่างน้อยเหรียญเงินด้วยซ้ำ ถ้าไม่พลาดถูกคู่ต่อสู้ชาวสเปนทำ 5 แต้มรวดในไม่กี่วินาทีสุดท้าย จนชวดเข้าชิงเหรียญทองไปอย่างน่าเจ็บใจ แม้กระทั่ง เจ้าไอ เป็นเอก การะเกตุ นักเทควันโดขวัญใจสาว ๆ ก็เจอลูกเตะในวินาทีสุดท้ายจนหยิบเหรียญทองแดงไม่สำเร็จ
แต่ที่ทำให้คนไทยทั้งชาติเสียดายปนเจ็บจี๊ดในหัวใจสุด ๆ ก็คือ การที่ แก้ว พงษ์ประยูร นักมวยร่างเล็กทีมชาติไทย พ่าย โจวซื่อหมิง (ซูชิหมิง) จากจีนในรอบชิงชนะเลิศไปอย่างค้านสายตา แม้แต่สื่อชื่อดังของอังกฤษยังตั้งคำถามถึงความไม่โปร่งใสของกรรมการที่ตัดสินการชกคู่นี้ และวิจารณ์ว่า แก้ว ถูกปล้นชัยชนะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เพียงวิจารณ์กันแซดว่า สงสัยสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบ้า) จะทำพิษนักชกไทยด้วยเสียแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็เกิดความน่ากังขาในการชกของหลายคู่
อย่างไรก็ตาม แม้ทีมโอลิมปิกจะชวดเหรียญทอง แต่นักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ทีมชาติไทยก็สามารถสร้างชื่อเสียงกู้หน้าให้ประเทศไทยได้ ด้วยการคว้า 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง จาก พัทธยา เทศทอง และทีมบ็อคเซีย, รุ่งโรจน์ ไทยนิยม, สายสุนีย์ จ๊ะนะ, ประวัติ วะโฮรัมย์, สายชล คนเจน, โสภา อินทเสน และ ศุภชัย โกยทรัพย์ ทำให้ธงชาติไทยได้โบกสะบัดในลอนดอนพร้อมกับเพลงชาติไทยที่ดังกระหึ่มจากเสียงเชียร์ของคนไทยที่ไปให้กำลังใจนักกีฬาถึงขอบสนาม ขอปรบมือให้ดัง ๆ เลย
เดือนสิงหาคม
โกวิท หัวใจสลาย...อุบัติเหตุคร่าชีวิต น้องมายด์ จากไปไม่มีวันกลับ
เช้ามืดของวันที่ 9 สิงหาคม คงเป็นวันที่ โกวิท วัฒนกุล ดาราอาวุโสชื่อดังจะไม่มีวันลืมเลือน เมื่อต้องสูญเสีย น้องมายด์ มาธวี วัฒนกุล บุตรสาววัย 21 ปี อย่างไม่มีวันกลับจากอุบัติเหตุรถยนต์ตกสะพานต่างระดับรัชวิภา โดย โกวิท แถลงทั้งน้ำตาด้วยความเสียใจที่ น้องมายด์ จากไปอย่างกะทันหัน สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่ติดตามข่าวนี้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์กรณีของ น้องมายด์ แล้ว ก็ยังมีข่าวรถตกทางต่างระดับ รวมทั้งทางด่วน ปรากฏให้เห็นตามมาอีก ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งป้องกัน ด้วยการติดตั้งป้ายเตือน และติดตั้งหมอนกันกระแทกตามจุดเสี่ยงทางแยกตัววาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำสอง
ไหวป่ะ! พลอย เฌอมาลย์ เลี่ยงภาษี ออกมาเคลียร์ที สะเทือนถึงดวงดาว
"พลอย เฌอมาลย์" ดาราสาวคนดังที่ปีนี้มาแรงสุด ๆ กับบทบาท "แม่หญิงเรไร" จากละครเรื่องขุนศึก แต่ทว่า ปีนี้กลับเป็นปีที่สาวพลอยเจอมรสุมข่าวฉาวรุมเร้าหนักสุด ๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ออแกไนซ์ออกมาแฉเกี่ยวกับเงินค่าตัวในงานอีเวนท์ จนสาวพลอยต้องออกมาโต้ แต่โต้กันท่าไหนไม่รู้ วิวาทะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของสาวพลอย กลับเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องการเสียภาษีให้กับแผ่นดินซะได้ ทำเอาชาวเน็ตวิจารณ์แซดว่า ดารานักแสดงใช้ชื่อคนอื่นเพื่อยื่นเงินรายได้แทน เท่ากับเจตนาเลี่ยงภาษี อีกทั้งสาวพลอยยังใช้คำพูดหยาบคายต่อว่าคู่กรณี จนชาวเน็ตรับไม่ได้ประกาศจะแบนสาวพลอยกันเลย
ไม่ปล่อยให้เรื่องบานปลายเนิ่นนาน สาวพลอยก็รีบออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวทั้งน้ำตาว่า ขอโทษกับคำพูดแรง ๆ ที่ออกไป พร้อมกับเคลียร์ข่าวเรื่องเลี่ยงภาษีที่ดูจะยังไม่เคลียร์เท่าไหร่นัก ทางกรมสรรพากรก็เลยต้องออกมาชี้แจงถึงกรณีนี้ พร้อมกับเตรียมไล่ตรวจสอบการยื่นภาษีของดารานักแสดงคนอื่น ๆ ด้วย เรียกได้ว่าโดนหางเลขไปทั่ววงการมายากันก็ครั้งนี้
เดือนกันยายน
บอส วรยุทธ ทายาทกระทิงแดง ซิ่งรถหรูชนตำรวจดับ
อุบัติเหตุรถสปอร์ตสีดำสุดหรูพุ่งชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 40 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ จนร่างกระเด็นเสียชีวิตกลางถนน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน เป็นอีกหนึ่งข่าวรถชนที่ถูกวิจารณ์ยับในรอบปี นั่นเพราะหลังจากเกิดเหตุ ผู้ขับขี่รถสปอร์ตกลับขับรถหนีไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว กระทั่งตำรวจไล่ตามรอยคราบน้ำมันเครื่องจนไปพบว่ารถคันดังกล่าวจอดอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของนายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าสัวกระทิงแดง มหาเศรษฐีคนหนึ่งของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ กลับนำตัวคนขับรถของบ้านอยู่วิทยามามอบตัวแทน โดยอ้างว่าเป็นผู้ขับรถชนดาบตำรวจ แต่เมื่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ คนขับรถกลับตอบอะไรไม่ได้ จนภายหลัง บอส วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทคนเล็กของนายเฉลิม จะได้เข้ามอบตัว โดยรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุเอง แต่ที่หลบหนีมาเพราะตกใจกลัว งานนี้ พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ จึงถูก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. สั่งเด้งทันที โทษฐานหาแพะรับผิดแทนเท่ากับว่าไม่สนใจใยดีลูกน้องเลย ส่วนคดีนี้ก็ยังดำเนินการอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
วิบากกรรมในไร่ส้ม...เจ้าพ่อข่าว เจอข้อกล่าวหาซะเอง
งานเข้าจัง ๆ กับผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" ในฐานะกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่ามีความผิดฐานร่วมกันยักยอกเงินโฆษณาที่ได้รับเกินกว่าสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เป็นเหตุให้บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้รับความเสียหายถึง 138,790,000 บาท ซึ่ง สรยุทธ ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ว่า ได้จ่ายเงินคืน อสมท ครบถ้วนแล้ว และไม่ได้ให้สินบนพนักงาน อสมท แต่ประการใด โดยพร้อมต่อสู้กับคดีเพื่อพิสูจน์ความจริง
อย่างไรก็ตาม การที่ สรยุทธ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลเรื่องการทุจริตเช่นนี้ ทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ, คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ออกมาเรียกร้องให้ สรยุทธ ในฐานะสื่อมวลชนยุติบทบาทการเป็นพิธีกรข่าวทางช่อง 3 ชั่วคราว เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้รับการตอบสนอง ร้อนถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องร่อนหนังสือขอความร่วมมือสมาชิกให้เลี่ยงทำธุรกรรมกับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด เพราะมีพฤติกรรมเข้าข่ายคอร์รัปชั่น ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวว่า เอเยนซี่หลายรายเตรียมจะถอนโฆษณาออกจากรายการของนายสรยุทธด้วย แต่เจ้าตัวก็ออกมายืนยันว่ายังไม่มีสปอนเซอร์รายใดจะถอนโฆษณา และยังยืนยันจะนั่งดำเนินรายการทางช่อง 3 ต่อไป
ปริศนาคดีหมอสุพัฒน์ ที่ยังรอวันพิสูจน์ความจริง
จากคดีคนหายกลายเป็นคดีปริศนาฆาตกรรม? สะท้านเมืองที่ถูกขุดคุ้ยตามมา เมื่อครอบครัวของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย และ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ 2 สามีภรรยา สงสัยว่าการหายตัวไปของคนทั้งคู่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอหมายศาลเข้าไปขุดค้นไร่สับปะรดของ นพ.สุพัฒน์ ที่จังหวัดเพชรบุรี จนพบโครงกระดูกของคนงานชาวพม่า แต่การสืบสวนยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อยังไม่พบโครงกระดูกของ 2 สามีภรรยาที่หายตัวไป เจ้าหน้าที่จึงเข้าขุดค้นภายในไร่อีกหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งพบโครงกระดูกเพิ่มอีก 2 ศพ แต่เมื่อตรวจดีเอ็นเอกลับปรากฏว่าไม่ใช่ 2 สามีภรรยาที่ตามหากัน
อีกด้านหนึ่ง นายสุเทพ เลาหะวัฒนะ และคนงานชาวพม่า ก็ออกมาแฉว่า นพ.สุพัฒน์ มีพฤติกรรมเหี้ยมโหด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งตามล่าตัว นพ.สุพัฒน์ รวมทั้ง นางสาววิลสา จันทรบัญชร ภรรยาคนที่ 3 ที่หลบหนี กระทั่งสามารถจับกุม นพ.สุพัฒน์ ได้ แต่เจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย เช่นเดียวกับ นางสาววิลสา ที่ยอมเข้ามอบตัวในภายหลังก็ปฏิเสธในเรื่องดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ส่งตัว นพ.สุพัฒน์ และภรรยา ไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดเพชรบุรี ในฐานะผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา แม้กระทั่ง นายเอก และนายอัคร เลาหะวัฒนะ บุตรชายทั้ง 2 คนของ นพ.สุพัฒน์ ก็ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้เช่นกัน สรุปได้ว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่า 2 สามีภรรยาที่เรียกได้ว่าเป็นผู้จุดประเด็นให้เกิดคดีครั้งนี้อยู่ที่ไหน ถูกฆาตกรรมไปแล้วหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องไขปริศนากันต่อไป
เดือนตุลาคม
ปลดเกียร์ว่าง! เดินหน้า 3G ปฏิวัติวงการไอทีที่คนไทยรอจนเซ็ง
ผัดผ่อนมาหลายครา ในที่สุด การประมูลใบอนุญาต 3G คลื่นความถี่ 2.1 GHz ก็ได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม โดยบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค จำกัด ในเครือเอไอเอส, บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ในเครือทรู และบริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค ในเครือดีแทค ต่างเข้าร่วมชิงเค้ก 3G อย่างคึกคัก แม้ก่อนจะถึงวันประมูลจะมีองค์กรต่าง ๆ ออกมายื่นศาลปกครองให้มีคำสั่งระงับการประมูล เพราะเห็นความไม่ชอบมาพากลว่าจะเกิดการฮั้วในการประมูลครั้งนี้ อีกทั้งกฎเกณฑ์ เงื่อนไขต่าง ๆ ที่ กสทช. กำหนดก็ยังดูไม่เรียบร้อย อาจทำให้ผู้บริโภคเสียเปรียบได้ แต่ศาลปกครองก็ไม่ได้มีคำสั่งระงับยับยั้ง ยังคงให้การประมูลเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่หลายฝ่าย รวมทั้ง กสทช. เอง เชื่อว่าการประมูลคงเป็นไปอย่างดุเดือด มีสิทธิ์ข้ามวันข้ามคืนแน่นอน
แต่ทว่า...ผ่านพ้นไปเพียง 6 ชั่วโมง การประมูลก็จบลงในรอบที่ 7 เมื่อไม่มีผู้เสนอราคาอีก รวมมูลค่าประมูลเพียง 41,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากราคาตั้งต้นแค่ 2.77% ซึ่งต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ความเคลือบแคลงเรื่องการฮั้วประมูลจึงเกิดขึ้นอีก เพราะดูเหมือนบริษัทเอกชนทั้ง 3 แห่ง จะแบ่งเค้กกันได้ลงตัว วุ่นวายกันอยู่หลายสัปดาห์ ในที่สุด กสทช. ก็ประกาศรับรองผลการประมูล และออกใบอนุญาตให้ทั้ง 3 บริษัท พร้อมกับย้ำว่าค่าบริการถูกลงแน่นอน คนไทยก็ต้องจับตาดูกันต่อไป
ช็อกวงการเพลง! เอ๋ พัชรา แวงวรรณ ฆ่าตัวตายในสหรัฐฯ
คอเพลงยุค 80 ช็อกไปตาม ๆ กัน เมื่อมีข่าวว่า เอ๋ พัชรา แวงวรรณ อดีตนักร้องนำวงโอเวชั่น เจ้าของฉายา "แหบเสน่ห์" ในวัย 48 ปี เสียชีวิตในสภาพแขวนคอภายในบ้านพักของเธอที่นครลอสแองเจลิส ท่ามกลางความคลางแคลงใจของญาติพี่น้องที่เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เพราะไม่มีมูลเหตุที่ เอ๋ พัชรา จะฆ่าตัวตายได้เลย แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ก็ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าเป็นการฆาตกรรม จึงสรุปว่า อดีตนักร้องคนดังฆ่าตัวตาย ก่อนจะส่งศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดสายไหม ในวันที่ 2 พฤศจิกายน โดยมีแฟนเพลงมาร่วมงานศพเป็นจำนวนมาก ขณะที่เพื่อนนักร้องในค่ายนิธิทัศน์ก็ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตเพื่อรำลึกถึง เอ๋ พัชรา แวงวรรณ เป็นครั้งสุดท้าย
เดือนพฤศจิกายน
บารัค โอบามา...พญาอินทรีเยือนประเทศไทย
หลังจากได้รับเลือกตั้งให้นั่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสมัยที่ 2 ได้เพียงไม่กี่วัน นายบารัค โอบามา ก็ได้เดินทางมาเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย ทำเอาคนตื่นเต้นกันทั่วบ้านทั่วเมืองที่จะได้มีโอกาสต้อนรับผู้นำคนสำคัญที่มีบทบาทอย่างยิ่งในโลกปัจจุบัน และเมื่อพญาอินทรีมาเยือนไทยทั้งทีก็ไม่ต้องแปลกใจว่า การคุ้มกันจะเป็นไปอย่างเข้มงวดมากแค่ไหน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะภาพที่ บารัค โอบามา ยืนแถลงข่าวเคียงข้าง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ถูกตีข่าวไปทั่วโลก เพราะแสดงให้เห็นว่า ชาติอาเซียนกำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในเวทีโลก แม้แต่พญาอินทรียังต้องรีบเข้ามาตีซี้เลย
จุดไม่ติด! ม็อบ เสธ.อ้าย สลายง่ายเกินคาด
ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม สำหรับการชุมนุมขับไล่รัฐบาลขององค์การพิทักษ์สยาม นำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ณ สนามม้านางเลิ้ง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำให้ เสธ.อ้าย ประกาศจัดการชุมนุมอีกครั้ง ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 24 พฤศจิกายน โดยตั้งเป้าให้ผู้ชุมนุม 1 ล้านคนออกมากดดันรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ลาออก ทำเอาฟากรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งระดมกำลังตำรวจจากทุกสารทิศมาดูแลม็อบ พร้อมกับปิดถนนรอบรัฐสภา และทำเนียบรัฐบาลล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่ถึงวันชุมนุม รวมทั้งการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อควบคุมสถานการณ์
กระทั่งถึงวันชุมนุม เค้าลางความรุนแรงกลับเริ่มขึ้นตั้งแต่ 8 โมงเศษ ๆ เมื่อผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่เกิดการปะทะกัน ในที่สุดเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาให้ผู้ชุมนุมล่าถอย ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นโดยที่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าฝั่งตรงข้ามเป็นคนเริ่มก่อน จนสาย ๆ สถานการณ์จึงสงบลง แม้บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความตึงเครียด แต่แล้วการปะทะกันยังเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงบ่าย สุดท้ายแล้วในช่วงเย็นเวลา 5 โมงกว่า ๆ เสธ.อ้าย จึงขึ้นเวทีประกาศยุติการชุมนุม โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ปราบม็อบทำเกินกว่าเหตุ พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยวลีเด็ด "เสธ.อ้าย ตายแล้ว" ทำเอาคนเมาท์กันไป "ม็อบ เสธ.อ้าย มาเร็ว เคลมเร็วจริง ๆ"
เดือนธันวาคม
ทั่วไทยปลื้มปีติ ในหลวงเสด็จออกสีหบัญชร เสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง
คงไม่มีเรื่องใดที่จะทำให้หัวใจของพสกนิกรชาวไทยปลื้มปีติได้มากไปกว่าเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม ที่ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองเดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตั้งแต่ช่วงกลางดึก ด้วยหวังจะได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ซึ่งตลอดเส้นทางที่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่าน ประชาชนที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ อยู่สองข้างทางต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง จนน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณหลั่งออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ในวโรกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำรัสขอให้คนไทยมีความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน สร้างความพร้อมเพรียงให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ และชาติบ้านเมือง เพื่อที่บ้านเมืองจะได้อยู่รอดปลอดภัยและดำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ซึ่งเป็นพระราชดำรัสที่คนไทยจะจดจำใส่ใจและนำไปปฏิบัติ
รถคันแรกแหกโค้งลดภาษี...จองทะลุเป้า รถทะลักเมือง
เอาใจคนมีฝันที่ปรารถนาจะมีรถคันแรกเป็นของตัวเองอย่างสุด ๆ กับนโยบายคืนภาษีให้กับผู้ซื้อรถคันแรกที่กระแสตอบรับมาแรงเกินความคาดหมาย ทำให้ยอดจองรถใหม่วิ่งแรงแซงโค้งทะลุเป้า 5 แสนคันไปเป็นที่เรียบร้อย และมั่นใจว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการ ยอดจองรถคันแรกพุ่งฉิวถึง 1 ล้านคันอย่างแน่นอน จึงไม่น่าแปลกใจที่กรมสรรพสามิตในแต่ละท้องที่จะมีประชาชนจำนวนมากยืนรอต่อแถวเพื่อทำเรื่องขอลดภาษีจนยาวเฟื้อย แถมยังทำให้กรมการขนส่งผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ไม่ทัน รวมทั้งไม่มีหมวดอักษรรองรับจนต้องออกหมวดอักษรใหม่เป็นตัวเลขตามตัวตัวอักษรภาษาไทยอีก 2 ตัว เพื่อรองรับปริมาณรถอีกนับล้านคันจะออกมาวิ่งบนท้องถนนในช่วงปีนี้
งานนี้ แม้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์จากโครงการรถคันแรกแบบเต็มกระเป๋า แต่ก็คงต้องเตรียมใจก่ายหน้าผากกับภาระที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องหนี้สินของตัวเอง แต่ยังมีเรื่องส่วนรวมอย่าง "รถติด" ปัญหาเบสิกของประเทศไทยที่สงสัยว่าจะไม่มีรัฐบาลไหนแก้ปัญหาได้ และยิ่งจะมีรถออกมาพร้อมกันอีกกว่า 1 ล้านคัน ก็เชื่อได้เลยว่า รถคันแรกน่าจะทำพิษขยายอาณาเขตรถติดได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว
ตื่นโลกแตก แค่เรื่องแหกตา...มายา ยัน เดินหน้าสู่ยุคใหม่
ปิดท้ายด้วยข่าวลือระดับโลกที่ท็อปฮิตแรงที่สุด เมื่อประชากรหลายล้านคนทั่วโลกพากันเชื่อว่า วันที่ 21 ธันวาคม 2555 จะเป็นวันสิ้นโลก เนื่องจากเป็นการเขียนปฏิทินวันสุดท้ายของชาวมายา ซ้ำยังมาตรงกับปรากฏการณ์พายุสุริยะอีกด้วย ยิ่งตอกย้ำให้คนที่เชื่อกระแสข่าวนี้ยิ่งหวาดผวาเข้าไปใหญ่ คนจำนวนไม่น้อยทั่วโลกพากันเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่เชื่อว่าจะเป็นที่หลบภัยได้หากโลกต้องแตกจริง ๆ ขณะที่หลาย ๆ คน ซื้อหาเสบียงตุนไว้ รวมทั้งเทียนไข เพราะกลัวว่าดวงอาทิตย์จะดับ แม้ชาวมายาจะออกมาย้ำว่า การสิ้นสุดของปฏิทินนั้นแสดงให้เห็นว่ายุคเก่าสิ้นสุดลงแล้ว จากนี้ไปโลกจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ไม่ใช่เรื่องวันสิ้นโลกอย่างที่คนร่ำลือกัน
แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเรื่องวันสิ้นโลกก็เป็นเพียงเรื่องแหกตาที่ทำให้คนหลงเชื่อสติแตกแทน เหมือนกับกระแสข่าวลืออื่น ๆ เพราะโลกที่มีอายุมานานกว่าหลายพันล้านปีก็ยังคงดำรงให้มนุษย์ได้อยู่อาศัยต่อไป แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ก็ดูท่าว่า อีกไม่นานก็จะมีข่าวลือระดับโลกแนวนี้ผุดออกมาให้คนขวัญอ่อนตื่นตระหนกกันอีกหลายระลอกเป็นแน่
...12 เดือนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเรื่องราวข่าวสารมากมาย ทั้งเรื่องราวอันแสนน่าประทับใจ และเรื่องน่าเศร้า แล้วเรื่องไหนข่าวใดเป็นที่สุดของเพื่อน ๆ ในปีนี้กันบ้าง ลองแชร์ความคิดเห็นกันดูนะคะ
เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
ตะลึงทั้งเมือง! USA เตือนขบวนการก่อการร้ายบุกไทย-บึ้มสุขุมวิท 71
เพิ่งฉลองปีใหม่ได้ไม่นาน ประเทศไทยก็งานเข้าเสียแล้ว เมื่อในช่วงปลายเดือนมกราคม ทางการสหรัฐอเมริกาประกาศเตือนว่ามีกลุ่มผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ในประเทศไทย และอาจก่อเหตุร้ายขึ้น แถมถัดมาอีกไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 จุด บริเวณถนนสุขุมวิท 71 ทำให้มือวางระเบิดชาวอิหร่านขาขาดจนคนตกอกตกใจทั่วเมือง ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไทยต้องควานหาตัวผู้ร่วมกระบวนการเครือข่ายฮิซบอลเลาะห์กันวุ่น และยังยึดสารแอมโมเนียไนเตรต ปุ๋ยยูเรีย ซึ่งเป็นสารประกอบระเบิดจากบ้านเช่าหลังหนึ่งได้เป็นจำนวนมาก แต่ในที่สุดก็โชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เพราะกลุ่มก่อการร้ายใช้ประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น ไม่ได้หวังก่อเหตุร้ายแรง ในที่สุดสหรัฐอเมริกาจึงประกาศยกเลิกคำเตือนก่อการร้าย
เดือนมีนาคม
ช็อกแฟนมวย! บัวขาว ประกาศแตกหัก ค่าย ป.ประมุข
แฟนมวยไทยไฟต์ช็อกไปตาม ๆ กัน เมื่อ บัวขาว ป.ประมุข หรือ สมบัติ บัญชาเมฆ นักชกไทยชื่อก้องโลก ดีกรีเจ้าของแชมป์ K-1 ที่ประเทศญี่ปุ่น 2 สมัย ฉายา "ดำ ดอทคอม" หายตัวไปจากค่าย ป.ประมุข ทั้งที่มีคิวจะทำศึกไทยไฟต์ที่ประเทศฝรั่งเศสในอีกไม่กี่วัน ก่อนที่ต่อมา บัวขาว จะออกมาแถลงข่าวขอฉีกสัญญากับค่าย ป.ประมุข โดยอ้างว่ามีปัญหาอาการบาดเจ็บ และคงไม่สามารถขึ้นชกตามโปรแกรมที่วางไว้ได้ ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่าจริง ๆ บัวขาว ไม่พอใจเรื่องสัญญา และการจ่ายค่าตัวที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้ค่าย ป.ประมุข ของกำนันแก๊ นายประมุข โรจนตัณฑ์ เร่งเคลียร์ใจกับ บัวขาว เป็นการด่วน แต่ดูเหมือนจะไม่มีสัญญาณตอบรับจากฝั่งนักชกชื่อดังเท่าใดนัก
กระทั่งในเดือนเมษายน บัวขาว ป.ประมุข กลับทำเซอร์ไพรส์แฟนมวยด้วยการปรากฏตัวบนเวทีมวยไทยไฟต์ที่พัทยา และสาดแข้งจนน็อกคู่ต่อสู้ได้ ทำเอาค่าย ป.ประมุข เคืองจัด ประกาศฟ้องร้องบัวขาว รวมทั้งผู้จัดไทยไฟต์ที่ทำผิดสัญญา พ.ร.บ.มวย ให้บัวขาวขึ้นชกโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท เรื่องราวยิ่งบานปลายมากขึ้น บัวขาว ก็ขอพักใจกลับไปบวชเงียบ ๆ ที่บ้านเกิด ก่อนกลับมาเคลียร์ปัญหายุ่ง ๆ อีกครั้ง จนในที่สุด กกท. ก็มีคำสั่งเพิกถอนทะเบียนมวย บัวขาว เป็นเวลา 6 เดือน ที่ขึ้นชกไทยไฟต์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากค่าย ป.ประมุข ขณะเดียวกัน บัวขาว ก็เปิดอกเจรจากับค่าย ป.ประมุข อีกครั้ง และครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงเรื่องค่าตัวกันได้ ขณะที่ค่าย ป.ประมุข ก็ยอมถอนฟ้องทุกกรณี
แต่ทว่ามหากาพย์อันแสนวุ่นนี้ยังไม่จบ เพราะอีกไม่กี่วันต่อมา บัวขาว ก็ออกมาประกาศแขวนนวม เนื่องจากสัญญากับค่าย ป.ประมุข ยังไม่ลงตัว บัวขาว จึงตัดสินใจพึ่งศาล และศาลก็ได้นัดคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง ในที่สุด ศาลก็วินิจฉัยยกฟ้องคู่กรณีทุกฝ่าย พร้อมสั่งให้ บัวขาว กลับมาชกมวยได้อีกครั้ง เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ รวมทั้งเคลียร์เรื่องสัญญาที่ไม่ลงตัวด้วย วุ่นวายนานกว่า 4 เดือน สุดท้ายเรื่องนี้ก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
เดือนเมษายน
ชุ่มฉ่ำ! อาโออิ นำทัพสาดความสุขดับร้อน ฉลองสงกรานต์บุรีรัมย์
งานสงกรานต์ไหนที่ว่าแน่ยังต้องชิดซ้าย เมื่อเจ้าของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่าง "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประกาศก้องจะนำ "โซระ อาโออิ" นางเอกหนังเอวีคนดังจากแดนอาทิตย์อุทัยมาร่วมฉลองสงกรานต์ที่สนามนิวไอโมบาย สเตเดี้ยม จังหวัดบุรีรัมย์ ให้จงได้ ทำเอาหนุ่ม ๆ สยิวกิ้วเปลี่ยนแผนแพ็กกระเป๋าจองตั๋วทัวร์บุรีรัมย์ในช่วงสงกรานต์แทบไม่ทัน และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อ อาโออิ นำทีมศิลปินสาวเซ็กซี่ทั้งจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขึ้นเวทีคอนเสิร์ต พร้อมร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์กับแฟน ๆ ที่มาร่วมงานนับหมื่นคนอย่างสนุกสนาน แต่ที่น่าอิจฉาสุด ๆ เห็นจะเป็นหนุ่มผู้โชคดีที่เป็นแฟนคลับของสาวอาโออิได้ขึ้นเวทีไปสัมผัสตัวเป็น ๆ อย่างใกล้ชิด ทำเอาอุณหภูมิวันสงกรานต์ที่บุรีรัมย์ร้อนฉ่าด้วยความอิจฉาตาร้อนเลยเชียวล่ะ
เดือนพฤษภาคม
ไทย ชนะ คิวบา
ฝันสลาย! วอลเลย์สาวไทยชวดไปโอลิมปิก คว้าแชมป์ AVC ปลอบใจ
ให้แฟน ๆ ลูกยางได้ลุ้นกันสุดตัว เมื่อนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยมีโปรแกรมลงสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เพื่อคว้าสิทธิ์ไปโอลิมปิกเกมส์ รอบสุดท้าย ซึ่งหากทำได้จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกยางไทย และสาวไทยก็มีลุ้นไปเหยียบสนามลอนดอนเกมส์เสียด้วย โดยมีโอกาสสูงถึง 83.33% ขอเพียงแค่ทีมสาวญี่ปุ่น เจ้าภาพ ไม่พลิกพ่าย เซอร์เบีย คาบ้าน 2-3 เซต แต่สุดท้ายเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง สาวญี่ปุ่น พ่าย เซอร์เบีย ไปด้วยสกอร์ 2-3 เซต ทำเอาแฟน ๆ วอลเลย์บอลน้ำตาตกอดไปเกาะขอบสนามเชียร์ที่อังกฤษ
อย่างไรก็ตาม แม้สาวไทยจะผิดหวังในครั้งนี้ แต่ก็ยิ่งเป็นแรงฮึดสู้ในรายการต่อไป เห็นได้จากการที่สาวไทยงัดฟอร์มสุดยอดตบเอาคืน ญี่ปุ่น ไปได้ 3-2 เซต ในรายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2012 เมื่อเดือนกรกฎาคม แถมยังคว่ำ โดมินิกัน และจีนได้อีกต่างหาก จนคว้าอันดับ 4 มาครอง ตามมาด้วยการคว้าแชมป์ AVC Asian cup 2012 ในเดือนกันยายนที่ย้ำแค้นจีนในรอบชิงชนะเลิศไปอย่างสุดมันส์ 3-1 เซต งานนี้แม้อกหักจากโอลิมปิก แต่แฟน ๆ ชาวไทยก็ได้รางวัลปลอบใจที่มีค่าที่สุด เพราะปีนี้สาวไทยงัดฟอร์มออกมาได้ระเบิดระเบ้อจริง ๆ ขอปรบมือดัง ๆ
ระเบิดความมันส์! เลดี้ กาก้า คนดัง โชว์คอนเสิร์ต อิน ไทยแลนด์
ชั่วโมงนี้ไม่มีศิลปินระดับโลกคนใดจะถูกจับตามองมากไปกว่า เลดี้ กาก้า ซูเปอร์สตาร์สุดมั่นคนนี้อีกแล้ว ไม่ว่าเธอจะแต่งชุดอะไร ย่างกรายไปทางไหน ทำอะไร คุยกับใคร ก็อยู่ในความสนใจของสื่อทุกฝีก้าว และก็เป็นข่าวดีของแฟน ๆ ชาวไทย ที่ เลดี้ กาก้า ตัดสินใจเดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยกลางสนามราชมังคลากีฬาสถาน ในชื่อคอนเสิร์ต "เลดี้ กาก้า เดอะ บอร์น ดิส เวย์ บอลล์" (Lady Gaga The Born This Way Ball) เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ทำเอาสาวกลิตเติ้ลมอนสเตอร์อยู่ไม่สุข ตามติดเกาะขอบเวทีกันเรือนหมื่น เรียกได้ว่ามั่นจนหยดสุดท้ายไม่ห่วงเสื้อผ้าหน้าผมที่แต่งองค์ทรงชฎากันเลยทีเดียว
เดือนมิถุนายน
ก็อตทาเลนต์ฉาว! สาวไทยโชว์ (ศิลปะ?) นมวาดรูป
กระแสตอบรับดังเปรี้ยงปร้างตั้งแต่ออกอากาศเพียงสัปดาห์แรก ทำให้หลายคนมองว่า รายการ ไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2 น่าจะไปได้สวย แต่แล้วในสัปดาห์ที่ 3 แฟนรายการทั่วประเทศต้องมาชะงักกับโชว์ปิดท้ายของรายการที่สาวร่างบางนาม "ปอนด์ ดวงใจ จันทร์เสือน้อย"ออกมาถอดเสื้อผ้าใช้นมวาดรูปบนผืนผ้ากลางเวที ทำเอาคณะกรรมการและผู้ชมในห้องส่งตาค้าง แต่ทว่า 2 หนุ่มคอมเมนเตเตอร์อย่าง "โจ จิรายุส" กับ "โญ ภิญโญ" กับปล่อยไฟเขียวให้ผ่านด้วยวลีเด็ด "มันเป็นศิลปะ ผมให้ผ่าน" เล่นเอาสาวเบนซ์ พรชิตา กรรมการสาวเพียงคนเดียวนั่งไม่ติด ลุกตามไปต่อว่าดัง ๆ ถึงหลังเวทีที่ปล่อยให้โชว์นี้ผ่านเข้ารอบ และแน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เสียเละเทะในโลกอินเทอร์เน็ต
เรื่องฉาวนี้ยังต่อความยาวสาวความยืดต่อ เมื่อ ปอนด์ ดวงใจ ออกมาเปิดใจว่า เธอเป็นนักเต้นโคโยตี้ และมีคนจ้างเธอ 10,000 บาท ให้ขึ้นมาแสดงโชว์นี้บนเวที ทำเอาชาวไซเบอร์จวกยับว่า ทีมงานเวิร์คพอยท์จัดฉากเพื่อเรียกเรตติ้งหรือไม่ คล้อยหลังไม่นาน บอสใหญ่แห่งเวิร์คพอยท์ เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล จึงต้องออกมาชี้แจงแถลงไขว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าผู้เข้าแข่งขันคนดังกล่าวจะขึ้นมาเปลือยอกวาดรูป เข้าใจว่าจะใช้ร่างกายวาดรูปธรรมดาเท่านั้น พร้อมกับยืนยันไม่ได้จัดฉากเพื่อเรียกเรตติ้งอย่างที่คนว่ากันไป และขอโทษขอโพยสังคมที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
เรียกได้ว่าการแสดงฉาวชุดนี้ถูกพูดถึงกันมากกว่าการแสดงที่สุดแสนจะประทับใจหลาย ๆ ชุดเสียอีก แต่สุดท้ายแล้ว ปอนด์ ดวงใจ ก็ไม่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไป และผู้ที่คว้าแชมป์ก็คือ ยอดนักกายกรรมปีนผ้า "เล้ง ราชนิกร แก้วดี" นั่นเอง
ยูโรจอดำ...สงครามห้ำหั่นชิงผลประโยชน์? ของ แกรมมี่-ทรู
คอลูกหนังที่อดตาหลับขับตานอนเพื่อจะดูเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ต้องสะดุดกึกตั้งแต่นัดแรก เมื่อถ่างตาตื่นขึ้นมาตอนตี 2 แล้วพบแต่เพียงตัวหนังสือหราอยู่บนหน้าจอสีฟ้า ๆ สรุปใจความได้ว่า "ขออภัยที่ให้รับชมไม่ได้" บริษัท ทรู วิชั่นส์ ก็เลยถูกลูกค้าที่จ่ายแพ็กเกจเดือนละหลายพันบาทสวดยับ ต้องกลับลำไปเจรจากับ บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) (GRAMMY) แทบไม่ทัน แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะทางแกรมมี่ชี้แจงว่า หากปล่อยสัญญาณให้ ทรู ก็จะละเมิดข้อตกลงที่ทำสัญญาไว้กับสหพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป (ยูฟ่า) และเสี่ยงต่อการถูกบอกเลิกสัญญาที่จะทำให้คนไทยเจอ "จอดำ" ทั้งประเทศ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทรู จึงหวังพึ่งศาลปกครอง แต่ศาลก็ไม่รับคำร้อง สุดท้าย ทรู ต้องยอมเสียค่าปรับเซ่นจอดำวันละ 2 หมื่นบาทไปจนจบการแข่งขัน แต่เรื่องวุ่น ๆ ทั้งหมดนี้ก็ถูกแฟนบอลชาวไทยวิจารณ์เหมือนกันว่า นี่คือศึกการแย่งชิงผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ดูเหมือนคนไทยเป็นเพียงแค่ตัวประกันเสียมากกว่า
เดือนกรกฎาคม
โอลิมปิกดราม่า! ฤทธิ์ไอบ้าทำไทยชวดเหรียญทอง – ทัพพาราลิมปิกกู้หน้าแทน
ปัญหาจอดำยังตามมาหลอกลอน แม้แต่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ กีฬาเพื่อมวลมนุษยชาติ ที่คนไทย (ไร้เสาอากาศ) พลาดชมอีกแล้ว และน่าเสียดายจริง ๆ ที่ผลงานของนักกีฬาไทยต้องบอกว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก เพราะคว้าได้เพียง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง โดยเหรียญเงินแรกได้จาก น้องแต้ว พิมศิริ ศิริแก้ว ในกีฬายกน้ำหนัก ตามมาด้วย 1 เหรียญทอง จาก น้องเล็ก ชนาธิป ซ้อนขำ ที่สุดแสนจะเสียดาย เพราะน่าจะได้อย่างน้อยเหรียญเงินด้วยซ้ำ ถ้าไม่พลาดถูกคู่ต่อสู้ชาวสเปนทำ 5 แต้มรวดในไม่กี่วินาทีสุดท้าย จนชวดเข้าชิงเหรียญทองไปอย่างน่าเจ็บใจ แม้กระทั่ง เจ้าไอ เป็นเอก การะเกตุ นักเทควันโดขวัญใจสาว ๆ ก็เจอลูกเตะในวินาทีสุดท้ายจนหยิบเหรียญทองแดงไม่สำเร็จ
แต่ที่ทำให้คนไทยทั้งชาติเสียดายปนเจ็บจี๊ดในหัวใจสุด ๆ ก็คือ การที่ แก้ว พงษ์ประยูร นักมวยร่างเล็กทีมชาติไทย พ่าย โจวซื่อหมิง (ซูชิหมิง) จากจีนในรอบชิงชนะเลิศไปอย่างค้านสายตา แม้แต่สื่อชื่อดังของอังกฤษยังตั้งคำถามถึงความไม่โปร่งใสของกรรมการที่ตัดสินการชกคู่นี้ และวิจารณ์ว่า แก้ว ถูกปล้นชัยชนะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เพียงวิจารณ์กันแซดว่า สงสัยสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบ้า) จะทำพิษนักชกไทยด้วยเสียแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็เกิดความน่ากังขาในการชกของหลายคู่
อย่างไรก็ตาม แม้ทีมโอลิมปิกจะชวดเหรียญทอง แต่นักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ทีมชาติไทยก็สามารถสร้างชื่อเสียงกู้หน้าให้ประเทศไทยได้ ด้วยการคว้า 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง จาก พัทธยา เทศทอง และทีมบ็อคเซีย, รุ่งโรจน์ ไทยนิยม, สายสุนีย์ จ๊ะนะ, ประวัติ วะโฮรัมย์, สายชล คนเจน, โสภา อินทเสน และ ศุภชัย โกยทรัพย์ ทำให้ธงชาติไทยได้โบกสะบัดในลอนดอนพร้อมกับเพลงชาติไทยที่ดังกระหึ่มจากเสียงเชียร์ของคนไทยที่ไปให้กำลังใจนักกีฬาถึงขอบสนาม ขอปรบมือให้ดัง ๆ เลย
เดือนสิงหาคม
โกวิท หัวใจสลาย...อุบัติเหตุคร่าชีวิต น้องมายด์ จากไปไม่มีวันกลับ
เช้ามืดของวันที่ 9 สิงหาคม คงเป็นวันที่ โกวิท วัฒนกุล ดาราอาวุโสชื่อดังจะไม่มีวันลืมเลือน เมื่อต้องสูญเสีย น้องมายด์ มาธวี วัฒนกุล บุตรสาววัย 21 ปี อย่างไม่มีวันกลับจากอุบัติเหตุรถยนต์ตกสะพานต่างระดับรัชวิภา โดย โกวิท แถลงทั้งน้ำตาด้วยความเสียใจที่ น้องมายด์ จากไปอย่างกะทันหัน สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่ติดตามข่าวนี้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์กรณีของ น้องมายด์ แล้ว ก็ยังมีข่าวรถตกทางต่างระดับ รวมทั้งทางด่วน ปรากฏให้เห็นตามมาอีก ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งป้องกัน ด้วยการติดตั้งป้ายเตือน และติดตั้งหมอนกันกระแทกตามจุดเสี่ยงทางแยกตัววาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำสอง
ไหวป่ะ! พลอย เฌอมาลย์ เลี่ยงภาษี ออกมาเคลียร์ที สะเทือนถึงดวงดาว
"พลอย เฌอมาลย์" ดาราสาวคนดังที่ปีนี้มาแรงสุด ๆ กับบทบาท "แม่หญิงเรไร" จากละครเรื่องขุนศึก แต่ทว่า ปีนี้กลับเป็นปีที่สาวพลอยเจอมรสุมข่าวฉาวรุมเร้าหนักสุด ๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ออแกไนซ์ออกมาแฉเกี่ยวกับเงินค่าตัวในงานอีเวนท์ จนสาวพลอยต้องออกมาโต้ แต่โต้กันท่าไหนไม่รู้ วิวาทะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของสาวพลอย กลับเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องการเสียภาษีให้กับแผ่นดินซะได้ ทำเอาชาวเน็ตวิจารณ์แซดว่า ดารานักแสดงใช้ชื่อคนอื่นเพื่อยื่นเงินรายได้แทน เท่ากับเจตนาเลี่ยงภาษี อีกทั้งสาวพลอยยังใช้คำพูดหยาบคายต่อว่าคู่กรณี จนชาวเน็ตรับไม่ได้ประกาศจะแบนสาวพลอยกันเลย
ไม่ปล่อยให้เรื่องบานปลายเนิ่นนาน สาวพลอยก็รีบออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวทั้งน้ำตาว่า ขอโทษกับคำพูดแรง ๆ ที่ออกไป พร้อมกับเคลียร์ข่าวเรื่องเลี่ยงภาษีที่ดูจะยังไม่เคลียร์เท่าไหร่นัก ทางกรมสรรพากรก็เลยต้องออกมาชี้แจงถึงกรณีนี้ พร้อมกับเตรียมไล่ตรวจสอบการยื่นภาษีของดารานักแสดงคนอื่น ๆ ด้วย เรียกได้ว่าโดนหางเลขไปทั่ววงการมายากันก็ครั้งนี้
เดือนกันยายน
บอส วรยุทธ ทายาทกระทิงแดง ซิ่งรถหรูชนตำรวจดับ
อุบัติเหตุรถสปอร์ตสีดำสุดหรูพุ่งชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 40 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ จนร่างกระเด็นเสียชีวิตกลางถนน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน เป็นอีกหนึ่งข่าวรถชนที่ถูกวิจารณ์ยับในรอบปี นั่นเพราะหลังจากเกิดเหตุ ผู้ขับขี่รถสปอร์ตกลับขับรถหนีไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว กระทั่งตำรวจไล่ตามรอยคราบน้ำมันเครื่องจนไปพบว่ารถคันดังกล่าวจอดอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของนายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าสัวกระทิงแดง มหาเศรษฐีคนหนึ่งของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ กลับนำตัวคนขับรถของบ้านอยู่วิทยามามอบตัวแทน โดยอ้างว่าเป็นผู้ขับรถชนดาบตำรวจ แต่เมื่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ คนขับรถกลับตอบอะไรไม่ได้ จนภายหลัง บอส วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทคนเล็กของนายเฉลิม จะได้เข้ามอบตัว โดยรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุเอง แต่ที่หลบหนีมาเพราะตกใจกลัว งานนี้ พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ จึงถูก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. สั่งเด้งทันที โทษฐานหาแพะรับผิดแทนเท่ากับว่าไม่สนใจใยดีลูกน้องเลย ส่วนคดีนี้ก็ยังดำเนินการอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
วิบากกรรมในไร่ส้ม...เจ้าพ่อข่าว เจอข้อกล่าวหาซะเอง
งานเข้าจัง ๆ กับผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" ในฐานะกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่ามีความผิดฐานร่วมกันยักยอกเงินโฆษณาที่ได้รับเกินกว่าสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เป็นเหตุให้บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้รับความเสียหายถึง 138,790,000 บาท ซึ่ง สรยุทธ ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ว่า ได้จ่ายเงินคืน อสมท ครบถ้วนแล้ว และไม่ได้ให้สินบนพนักงาน อสมท แต่ประการใด โดยพร้อมต่อสู้กับคดีเพื่อพิสูจน์ความจริง
อย่างไรก็ตาม การที่ สรยุทธ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลเรื่องการทุจริตเช่นนี้ ทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ, คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ออกมาเรียกร้องให้ สรยุทธ ในฐานะสื่อมวลชนยุติบทบาทการเป็นพิธีกรข่าวทางช่อง 3 ชั่วคราว เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้รับการตอบสนอง ร้อนถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องร่อนหนังสือขอความร่วมมือสมาชิกให้เลี่ยงทำธุรกรรมกับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด เพราะมีพฤติกรรมเข้าข่ายคอร์รัปชั่น ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวว่า เอเยนซี่หลายรายเตรียมจะถอนโฆษณาออกจากรายการของนายสรยุทธด้วย แต่เจ้าตัวก็ออกมายืนยันว่ายังไม่มีสปอนเซอร์รายใดจะถอนโฆษณา และยังยืนยันจะนั่งดำเนินรายการทางช่อง 3 ต่อไป
ปริศนาคดีหมอสุพัฒน์ ที่ยังรอวันพิสูจน์ความจริง
จากคดีคนหายกลายเป็นคดีปริศนาฆาตกรรม? สะท้านเมืองที่ถูกขุดคุ้ยตามมา เมื่อครอบครัวของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย และ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ 2 สามีภรรยา สงสัยว่าการหายตัวไปของคนทั้งคู่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอหมายศาลเข้าไปขุดค้นไร่สับปะรดของ นพ.สุพัฒน์ ที่จังหวัดเพชรบุรี จนพบโครงกระดูกของคนงานชาวพม่า แต่การสืบสวนยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อยังไม่พบโครงกระดูกของ 2 สามีภรรยาที่หายตัวไป เจ้าหน้าที่จึงเข้าขุดค้นภายในไร่อีกหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งพบโครงกระดูกเพิ่มอีก 2 ศพ แต่เมื่อตรวจดีเอ็นเอกลับปรากฏว่าไม่ใช่ 2 สามีภรรยาที่ตามหากัน
อีกด้านหนึ่ง นายสุเทพ เลาหะวัฒนะ และคนงานชาวพม่า ก็ออกมาแฉว่า นพ.สุพัฒน์ มีพฤติกรรมเหี้ยมโหด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งตามล่าตัว นพ.สุพัฒน์ รวมทั้ง นางสาววิลสา จันทรบัญชร ภรรยาคนที่ 3 ที่หลบหนี กระทั่งสามารถจับกุม นพ.สุพัฒน์ ได้ แต่เจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย เช่นเดียวกับ นางสาววิลสา ที่ยอมเข้ามอบตัวในภายหลังก็ปฏิเสธในเรื่องดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ส่งตัว นพ.สุพัฒน์ และภรรยา ไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดเพชรบุรี ในฐานะผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา แม้กระทั่ง นายเอก และนายอัคร เลาหะวัฒนะ บุตรชายทั้ง 2 คนของ นพ.สุพัฒน์ ก็ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้เช่นกัน สรุปได้ว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่า 2 สามีภรรยาที่เรียกได้ว่าเป็นผู้จุดประเด็นให้เกิดคดีครั้งนี้อยู่ที่ไหน ถูกฆาตกรรมไปแล้วหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องไขปริศนากันต่อไป
เดือนตุลาคม
ปลดเกียร์ว่าง! เดินหน้า 3G ปฏิวัติวงการไอทีที่คนไทยรอจนเซ็ง
ผัดผ่อนมาหลายครา ในที่สุด การประมูลใบอนุญาต 3G คลื่นความถี่ 2.1 GHz ก็ได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม โดยบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค จำกัด ในเครือเอไอเอส, บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ในเครือทรู และบริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค ในเครือดีแทค ต่างเข้าร่วมชิงเค้ก 3G อย่างคึกคัก แม้ก่อนจะถึงวันประมูลจะมีองค์กรต่าง ๆ ออกมายื่นศาลปกครองให้มีคำสั่งระงับการประมูล เพราะเห็นความไม่ชอบมาพากลว่าจะเกิดการฮั้วในการประมูลครั้งนี้ อีกทั้งกฎเกณฑ์ เงื่อนไขต่าง ๆ ที่ กสทช. กำหนดก็ยังดูไม่เรียบร้อย อาจทำให้ผู้บริโภคเสียเปรียบได้ แต่ศาลปกครองก็ไม่ได้มีคำสั่งระงับยับยั้ง ยังคงให้การประมูลเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่หลายฝ่าย รวมทั้ง กสทช. เอง เชื่อว่าการประมูลคงเป็นไปอย่างดุเดือด มีสิทธิ์ข้ามวันข้ามคืนแน่นอน
แต่ทว่า...ผ่านพ้นไปเพียง 6 ชั่วโมง การประมูลก็จบลงในรอบที่ 7 เมื่อไม่มีผู้เสนอราคาอีก รวมมูลค่าประมูลเพียง 41,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากราคาตั้งต้นแค่ 2.77% ซึ่งต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ความเคลือบแคลงเรื่องการฮั้วประมูลจึงเกิดขึ้นอีก เพราะดูเหมือนบริษัทเอกชนทั้ง 3 แห่ง จะแบ่งเค้กกันได้ลงตัว วุ่นวายกันอยู่หลายสัปดาห์ ในที่สุด กสทช. ก็ประกาศรับรองผลการประมูล และออกใบอนุญาตให้ทั้ง 3 บริษัท พร้อมกับย้ำว่าค่าบริการถูกลงแน่นอน คนไทยก็ต้องจับตาดูกันต่อไป
ช็อกวงการเพลง! เอ๋ พัชรา แวงวรรณ ฆ่าตัวตายในสหรัฐฯ
คอเพลงยุค 80 ช็อกไปตาม ๆ กัน เมื่อมีข่าวว่า เอ๋ พัชรา แวงวรรณ อดีตนักร้องนำวงโอเวชั่น เจ้าของฉายา "แหบเสน่ห์" ในวัย 48 ปี เสียชีวิตในสภาพแขวนคอภายในบ้านพักของเธอที่นครลอสแองเจลิส ท่ามกลางความคลางแคลงใจของญาติพี่น้องที่เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เพราะไม่มีมูลเหตุที่ เอ๋ พัชรา จะฆ่าตัวตายได้เลย แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ก็ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าเป็นการฆาตกรรม จึงสรุปว่า อดีตนักร้องคนดังฆ่าตัวตาย ก่อนจะส่งศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดสายไหม ในวันที่ 2 พฤศจิกายน โดยมีแฟนเพลงมาร่วมงานศพเป็นจำนวนมาก ขณะที่เพื่อนนักร้องในค่ายนิธิทัศน์ก็ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตเพื่อรำลึกถึง เอ๋ พัชรา แวงวรรณ เป็นครั้งสุดท้าย
เดือนพฤศจิกายน
บารัค โอบามา...พญาอินทรีเยือนประเทศไทย
หลังจากได้รับเลือกตั้งให้นั่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสมัยที่ 2 ได้เพียงไม่กี่วัน นายบารัค โอบามา ก็ได้เดินทางมาเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย ทำเอาคนตื่นเต้นกันทั่วบ้านทั่วเมืองที่จะได้มีโอกาสต้อนรับผู้นำคนสำคัญที่มีบทบาทอย่างยิ่งในโลกปัจจุบัน และเมื่อพญาอินทรีมาเยือนไทยทั้งทีก็ไม่ต้องแปลกใจว่า การคุ้มกันจะเป็นไปอย่างเข้มงวดมากแค่ไหน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะภาพที่ บารัค โอบามา ยืนแถลงข่าวเคียงข้าง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ถูกตีข่าวไปทั่วโลก เพราะแสดงให้เห็นว่า ชาติอาเซียนกำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในเวทีโลก แม้แต่พญาอินทรียังต้องรีบเข้ามาตีซี้เลย
จุดไม่ติด! ม็อบ เสธ.อ้าย สลายง่ายเกินคาด
ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม สำหรับการชุมนุมขับไล่รัฐบาลขององค์การพิทักษ์สยาม นำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ณ สนามม้านางเลิ้ง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำให้ เสธ.อ้าย ประกาศจัดการชุมนุมอีกครั้ง ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 24 พฤศจิกายน โดยตั้งเป้าให้ผู้ชุมนุม 1 ล้านคนออกมากดดันรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ลาออก ทำเอาฟากรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งระดมกำลังตำรวจจากทุกสารทิศมาดูแลม็อบ พร้อมกับปิดถนนรอบรัฐสภา และทำเนียบรัฐบาลล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่ถึงวันชุมนุม รวมทั้งการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อควบคุมสถานการณ์
กระทั่งถึงวันชุมนุม เค้าลางความรุนแรงกลับเริ่มขึ้นตั้งแต่ 8 โมงเศษ ๆ เมื่อผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่เกิดการปะทะกัน ในที่สุดเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาให้ผู้ชุมนุมล่าถอย ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นโดยที่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าฝั่งตรงข้ามเป็นคนเริ่มก่อน จนสาย ๆ สถานการณ์จึงสงบลง แม้บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความตึงเครียด แต่แล้วการปะทะกันยังเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงบ่าย สุดท้ายแล้วในช่วงเย็นเวลา 5 โมงกว่า ๆ เสธ.อ้าย จึงขึ้นเวทีประกาศยุติการชุมนุม โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ปราบม็อบทำเกินกว่าเหตุ พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยวลีเด็ด "เสธ.อ้าย ตายแล้ว" ทำเอาคนเมาท์กันไป "ม็อบ เสธ.อ้าย มาเร็ว เคลมเร็วจริง ๆ"
เดือนธันวาคม
ทั่วไทยปลื้มปีติ ในหลวงเสด็จออกสีหบัญชร เสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง
คงไม่มีเรื่องใดที่จะทำให้หัวใจของพสกนิกรชาวไทยปลื้มปีติได้มากไปกว่าเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม ที่ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองเดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตั้งแต่ช่วงกลางดึก ด้วยหวังจะได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ซึ่งตลอดเส้นทางที่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่าน ประชาชนที่เฝ้าฯ รับเสด็จฯ อยู่สองข้างทางต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง จนน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณหลั่งออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ในวโรกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำรัสขอให้คนไทยมีความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน สร้างความพร้อมเพรียงให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ และชาติบ้านเมือง เพื่อที่บ้านเมืองจะได้อยู่รอดปลอดภัยและดำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ซึ่งเป็นพระราชดำรัสที่คนไทยจะจดจำใส่ใจและนำไปปฏิบัติ
รถคันแรกแหกโค้งลดภาษี...จองทะลุเป้า รถทะลักเมือง
เอาใจคนมีฝันที่ปรารถนาจะมีรถคันแรกเป็นของตัวเองอย่างสุด ๆ กับนโยบายคืนภาษีให้กับผู้ซื้อรถคันแรกที่กระแสตอบรับมาแรงเกินความคาดหมาย ทำให้ยอดจองรถใหม่วิ่งแรงแซงโค้งทะลุเป้า 5 แสนคันไปเป็นที่เรียบร้อย และมั่นใจว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการ ยอดจองรถคันแรกพุ่งฉิวถึง 1 ล้านคันอย่างแน่นอน จึงไม่น่าแปลกใจที่กรมสรรพสามิตในแต่ละท้องที่จะมีประชาชนจำนวนมากยืนรอต่อแถวเพื่อทำเรื่องขอลดภาษีจนยาวเฟื้อย แถมยังทำให้กรมการขนส่งผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ไม่ทัน รวมทั้งไม่มีหมวดอักษรรองรับจนต้องออกหมวดอักษรใหม่เป็นตัวเลขตามตัวตัวอักษรภาษาไทยอีก 2 ตัว เพื่อรองรับปริมาณรถอีกนับล้านคันจะออกมาวิ่งบนท้องถนนในช่วงปีนี้
งานนี้ แม้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์จากโครงการรถคันแรกแบบเต็มกระเป๋า แต่ก็คงต้องเตรียมใจก่ายหน้าผากกับภาระที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องหนี้สินของตัวเอง แต่ยังมีเรื่องส่วนรวมอย่าง "รถติด" ปัญหาเบสิกของประเทศไทยที่สงสัยว่าจะไม่มีรัฐบาลไหนแก้ปัญหาได้ และยิ่งจะมีรถออกมาพร้อมกันอีกกว่า 1 ล้านคัน ก็เชื่อได้เลยว่า รถคันแรกน่าจะทำพิษขยายอาณาเขตรถติดได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว
ตื่นโลกแตก แค่เรื่องแหกตา...มายา ยัน เดินหน้าสู่ยุคใหม่
ปิดท้ายด้วยข่าวลือระดับโลกที่ท็อปฮิตแรงที่สุด เมื่อประชากรหลายล้านคนทั่วโลกพากันเชื่อว่า วันที่ 21 ธันวาคม 2555 จะเป็นวันสิ้นโลก เนื่องจากเป็นการเขียนปฏิทินวันสุดท้ายของชาวมายา ซ้ำยังมาตรงกับปรากฏการณ์พายุสุริยะอีกด้วย ยิ่งตอกย้ำให้คนที่เชื่อกระแสข่าวนี้ยิ่งหวาดผวาเข้าไปใหญ่ คนจำนวนไม่น้อยทั่วโลกพากันเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่เชื่อว่าจะเป็นที่หลบภัยได้หากโลกต้องแตกจริง ๆ ขณะที่หลาย ๆ คน ซื้อหาเสบียงตุนไว้ รวมทั้งเทียนไข เพราะกลัวว่าดวงอาทิตย์จะดับ แม้ชาวมายาจะออกมาย้ำว่า การสิ้นสุดของปฏิทินนั้นแสดงให้เห็นว่ายุคเก่าสิ้นสุดลงแล้ว จากนี้ไปโลกจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ไม่ใช่เรื่องวันสิ้นโลกอย่างที่คนร่ำลือกัน
แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเรื่องวันสิ้นโลกก็เป็นเพียงเรื่องแหกตาที่ทำให้คนหลงเชื่อสติแตกแทน เหมือนกับกระแสข่าวลืออื่น ๆ เพราะโลกที่มีอายุมานานกว่าหลายพันล้านปีก็ยังคงดำรงให้มนุษย์ได้อยู่อาศัยต่อไป แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ก็ดูท่าว่า อีกไม่นานก็จะมีข่าวลือระดับโลกแนวนี้ผุดออกมาให้คนขวัญอ่อนตื่นตระหนกกันอีกหลายระลอกเป็นแน่
...12 เดือนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเรื่องราวข่าวสารมากมาย ทั้งเรื่องราวอันแสนน่าประทับใจ และเรื่องน่าเศร้า แล้วเรื่องไหนข่าวใดเป็นที่สุดของเพื่อน ๆ ในปีนี้กันบ้าง ลองแชร์ความคิดเห็นกันดูนะคะ
Post a Comment