25สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตในปี2555
ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ สภาพอากาศเป็นอย่างไร คนไทยก็ชื่นชอบที่จะออกไปพักผ่อนตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อชาร์จแบตฯ เพิ่มพลังชีวิตให้กับตัวเอง จึงไม่แปลกที่พอถึงเทศกาลหยุดยาวทีไร สถานที่ท่องเที่ยวฮอต ๆ ทั่วประเทศจะเต็มไปด้วยผู้คนที่ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ เสพวิวสวย ๆ ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน หรือชิมอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ
นั่นแน่! อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าในปีนี้สถานที่ท่องเที่ยวฮิต ๆ จะมีที่ไหนบ้าง ถ้าอย่างนั้นก็ไปดู 25 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอต ในปี พ.ศ. 2555 ที่รวบรวมมาฝากกันเลยจ้า โดยเริ่มที่...
1. Art in Paradise พัทยา
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเก๋ ๆ ที่รวบรวมเอาภาพวาด 3 มิติ เอาไว้มากกว่า 140 ภาพ บนพื้นที่ประมาณ 5,800 ตารางเมตร โดยมีศิลปินชาวเกาหลีใต้ ชิน แจ ยอล (Shin Jae Yeoul) เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ ด้วยการเนรมิตพัทยาพัลลาเดียมเก่าให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดอลังการ ชนิดที่ว่าคนรักการถ่ายภาพมาเห็นเป็นต้องแชะภาพแบบนันสต๊อปเลยล่ะ นอกจากนี้ ยังแบ่งห้องแสดงภาพออกเป็น 10 ห้องด้วยกัน เพื่อจัดแสดงภาพให้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งแต่ละห้องก็มีดีไซน์แตกต่างกันออกไป
และข้อดีของที่นี่ คือ เขาอนุญาตให้ถ่ายรูปเล่นกับภาพศิลปะเหล่านั้นได้อย่างอิสระ โดยเขาจะมีการตัวอย่างการโพสท่าเอาไว้ให้ แต่ถ้าใครอยากสร้างสรรค์ท่าถ่ายรูปใหม่ ๆ ก็เชิญเต็มที่ เพราะแน่นอนว่าภาพวาดทุกชิ้นจะมีคุณค่ามากขึ้นก็ต่อเมื่อผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมกับภาพ ให้ภาพดูมีชีวิตชีวาและสมจริงมากยิ่งขึ้น รวบรวมพลังสร้างสรรค์ที่คุณมีแล้วครีเอทท่าตามต้องการได้เลย
2. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กรุงเทพฯ
ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน แต่ดูเหมือนว่าแหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ (ASIATIQUE, The Riverfront) จะทวีความแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจเพราะด้วยรูปลักษณ์ที่ตอบโจทย์ บวกกับบรรยากาศและทัศนียภาพที่แปลกใหม่ สวยงาม รวมถึงตกแต่งด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมในช่วง พ.ศ. 2450 ถึง พ.ศ. 2490 จึงไม่แปลกที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในระยะเวลาไม่นาน
และนอกจากสีสันแห่งประวัติศาสตร์ที่คุณจะได้ไปสัมผัสแล้ว เสน่ห์ย่านการค้ากว่า 1,500 ร้าน ก็พร้อมรองรับเติมเต็มความต้องการของนักท่องเที่ยวและคนหลากหลายกลุ่มได้อย่างครบครัน โดยแบ่งออกเป็น ย่านเจริญกรุง ประกอบไปด้วย ร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว และสินค้าของตกแต่งบ้าน อีกทั้งยังมีโรงละคร ที่รองรับผู้ชมได้กว่า 400 ที่นั่ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรมไทย กับหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ หรือโชว์สุดอลังการจากคาลิปโซ่ รวมถึงร้านอาหารชั้นนำ, ย่านกลางเมือง เป็นลานจัดกิจกรรมกลางแจ้ง และโซนอาหารนานาชาติ, ย่านโรงงาน เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ที่รวบรวมร้านอาหาร ผับ และร้านค้ามีสไตล์มากมาย และย่านริมน้ำ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแบบพาโนราม่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยทางเดินริมแม่น้ำที่ยาวกว่า 300 เมตร พบกับร้านอาหารมีระดับ มากมาย ทั้งอาหารญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน ไทย จีน และซีฟู้ด
3. Swiss Sheep Farm จ.เพชรบุรี
สวิส ชีพ ฟาร์ม (Swiss Sheep Farm) ฟาร์มแกะแห่งใหม่ใน "ชะอำ" จังหวัดเพชรบุรี ที่นี่คุณจะได้พบกับความน่ารักของฝูงแกะ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนฟู หนานุ่มนับสิบตัว ในบรรยากาศฟาร์มแบบสวิส ท่ามกลางหุบเขาแห่งความรัก ที่โอบล้อมคุณด้วยไออุ่นสไตล์ฟาร์มแบบยูโรคันทรี มีสนามหญ้าเขียว ๆ ลายล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อน อีกทั้งหนุ่มนักถ่ายกับสาวนักโพสก็ไม่ควรพลาด เพราะที่ Swiss Sheep Farm มีมุมเก๋ ๆ สวย ๆ แจ่ม ๆ ให้เลือกถ่ายรูปเพียบ ส่วนคู่รักที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายภาพแต่งงาน (Pre Wedding out Door) ที่นี่ก็ช่างเหมาะซะจริง ๆ
นอกจากนี้ คุณยังจะได้เพลิดเพลินไปกับการขี่ม้าชมวิวท่ามกลางทุ่งหญ้า และสนุกเต็มอิ่มกับกิจกรรมพิสูจน์รักแท้ที่สนุกสนานและสุดแสนโรแมนติก พร้อมทั้งคล้องกุญแจแห่งรักที่ได้กล่าวขานสืบต่อกันมาว่า คู่รักที่ได้มาคล้องกุญแจแห่งรักร่วมกัน จะสามารถครองความรักนิรันดร์ได้ และแน่นอนกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ คือ การไปเป็น "เด็กเลี้ยงแกะ" ด้วยการให้อาหาร รวมถึงถ่ายรูปคู่กับน้องแกะไว้เป็นที่ระลึกนั่นเอง ยังไม่หมดเท่านี้ Swiss Sheep Farm ยังมีของฝาก ของที่ระลึกน่ารัก ๆ ให้คุณได้เลือกช้อปไปฝากคนสนิท ส่วนเด็ก ๆ ก็จะได้เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นต่าง ๆ
4. เชียงคาน จ.เลย
อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดเลย ที่ยังคงอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขงผสมผสานกับความทันสมัยของโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัว ความเงียบสงบของเมือง ความน่ารักของผู้คน ที่ยังดำรงวิถีชีวิตแบบราบเรียบ และกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างแนบแน่นดีเยี่ยม รวมไปถึงทัศนียภาพริมฝั่งโขงที่สวยงาม คงเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้นักเดินทางมักแวะเวียนไปต้องมนต์เสน่ห์ ณ เชียงคาน
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวแจ่ม ๆ ของ เชียงคาน ได้แก่ วัดศรีคุณเมือง, วัดท่าแขก, พระพุทธบาทภูควายเงิน, พระใหญ่ภูคกงิ้ว, แก่งคุดคู้ และจุดชมวิวภูทอก ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้บ้านเรือนอาคารต่าง ๆ ภายในเชียงคาน จะแปรเปลี่ยนดัดแปลงมาทำโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แกลอรี่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายโปสต์การ์ด ฯลฯ แต่ความเป็น เชียงคาน ก็ยังคงอยู่เฉกเช่นวันวาน วัฒธรรมการตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้าแบบเมืองหลวงพระบาง ที่ เชียงคาน ก็มีให้เห็นเหมือนเคย ในช่วงเวลาประมาณ 06.00 – 06.30 น. จะมีผู้คนมารอใส่บาตรข้าวเหนียวยามเช้าเป็นประจำทุกวัน
5. ตลาดน้ำขวัญเรียม กรุงเทพฯ
อีกหนึ่งในตลาดน้ำแห่งใหม่ที่ผุดขึ้นเพื่อย้อนรอยวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนริมคลองแสนแสบ ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ระหว่างซอยเสรีไทย 60 และซอยรามคำแหง 187 เท่านั้น โดยถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดที่อยากจะจำลองชีวิตของชาวน้ำ เพื่อให้เป็นที่ระลึกแก่คนรุ่นหลัง ให้ได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตริมน้ำ และถึงแม้ว่าสองฝั่งคลองจะเป็นถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่ตลาดน้ำแห่งนี้ก็ยังคงมีความสงบในวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือกทำมากมาย ทั้งการย้อนอดีตชมวิถีชีวิตริมคลองแสนแสบ เลือกชิมอาหารอร่อยจากทั่วทุกภาค เลือกซื้อสินค้า OTOP ติดไม้ติดมือกลับบ้าน ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมแบบไทย ๆ และเรือโบราณมากมาย ที่คนรุ่นก่อนพร้อมใจกันมาแสดงให้ลูกหลานดูอย่างเต็มใจ
นอกจากนี้ จุดเด่นของตลาดน้ำขวัญเรียม ก็คือ สะพานเรือที่เชื่อมระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ ซึ่งเป็นตลาดน้ำแห่งแรกที่มีสะพานเรือเชื่อมต่อวัฒนธรรมให้อยู่ร่วมกัน รวมทั้งยังเปิดให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตทางน้ำ ด้วยการตักบาตรพระทางน้ำ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และมีการสวดมนต์เพื่อเป็นศิริมงคลแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
6. ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม หรือ ดอยม่อนแจ่ม เป็นส่วนหนึ่งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวทิวเขาซับซับซ้อน แถมยามค่ำคืนฟากฟ้าแวดล้อมไปด้วยดวงดารา ส่องแสงประกายระยิบระยับ จึงไม่แปลกที่ผู้คนต่างก็อยากไปสัมผัสกับความงดงาม
ทั้งนี้ ม่อนแจ่ม สถานที่พักแห่งใหม่ของโครงการหลวง เพิ่งเปิดตัวไม่เมื่อปลายปี พ.ศ. 2552 เป็นพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ 1,350 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยปรากฎโฉมในรูปแบบ"แคมปิ้ง รีสอร์ท" ที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว พร้อมชูความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย เช่น ในเต็นท์มีบริเวณส่วนตัว มีห้องน้ำส่วนตัว น้ำร้อน ไฟฟ้า และเครื่องใช้ครบครัน ประหนึ่งอยู่ในห้องพักโรงแรม แต่พิเศษกว่าตรงที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเพียงแค่คุณเปิดหน้าต่าง สายลมเย็น ๆ วิวขุนเขา สายหมอก ก็โผล่รอต้อนรับ แถมยามค่ำคืนดาวน้อยใหญ่จะค่อย ๆ ส่องประกายแวววับให้มองเพลิน ๆ
และที่สำคัญหากดื่มด่ำกับความงดงามของทัศนียภาพกันพักใหญ่ ท้องไส้ก็เริ่มร้องหาอาหารอร่อย ๆ อะ ๆ ไม่ต้องมองไปไหนไกล ที่ ม่อนแจ่ม มีร้านอาหารที่นำผลิตผลท้องถิ่นที่ปลูกเอง มาปรุงให้รับประทานกันด้วย ผัก ๆ สด ๆ หวานกรอบ หาชิมยากในเมืองกรุง และถ้ากินอิ่มแล้วอยากยืดแข้งขืดขา ก็สามารถไปเดินชมแปลงสตรอบอร์รีผลสีแดงสด หรือไปเดินเล่นรอบเขาที่มีวิวสวย ๆ ก็ได้ รวมไปถึงจะไปเดินศึกษาธรรมชาติ ณ ดอยม่อนล่อง ซึ่งเป็นจุดชมวิว ชมทะเลหมอก บนหน้าผา 1,460 เมตร มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้าง ชมพรรณไม้และดอกไม้ป่าหลากหลาย
7. เกาะล้าน จ.ชลบุรี
เกาะล้าน ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี อยู่ห่างจากชายฝั่งพัทยาเพียงแค่ 7 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ เพราะน้ำทะเลที่เกาะล้านนี้ใสมาก ๆ แถมยังเย็นชื่นใจอีกด้วย หรือจะเลือกไปดำน้ำดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำก็ไม่มีใครว่า
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะล้าน ที่สามารถดึงดูดให้ผู้คนต่างถิ่นแวะเวียนไปเที่ยว เช่น หาดตาแหวน หาดทรายยาวประมาณ 750 เมตร มีความงามทางธรรมชาติมาก เพราะมีหาดทรายที่ขาวสะอาดและน้ำทะเลใสสีคราม, หาดสังวาลย์ มีความสงบ จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่ชอบนอนอาบแดด, หาดทองหลาง ชายหาดขนาดเล็กเงียบสงบ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว, หาดแสม เป็นหาดทรายยาวประมาณ 700 เมตร มีโขดหินและพื้นป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีความสวยงาม เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและการเล่นน้ำ และไปกินลมชมวิวชิว ๆ สวย ๆ กันที่ "จุดชมวิวเขานม" เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเกาะ ฯลฯ
8. ภูกระดึง จ.เลย
ภูกระดึง หรือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สถานที่ท่องเที่ยวในตำนานที่ยังคงได้รับความนิยมเสมอ เพราะเหล่าบรรดาคู่รักมักควงแขนกันไปพิสูจน์รักแท้ ด้วยการเดินทางพิชิตยอดภูกระดึง เพราะการที่เราจะขึ้นไปถึงยอดได้ต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร คือขึ้นเขา 5 กิโลเมตร บวกทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร กว่าจะถึงที่หมาย -_-
สำหรับ ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปี จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาและหวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งทางอุทยานฯ จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 07.00 - 14.00 น. ของทุกวัน
ส่วนจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึง เช่น ผานกแอ่น ลานหินเล็ก ๆ มีสนต้นหนึ่ง ขึ้นโดดเด่นอยู่ริมหน้าผา เป็นจุดท่องเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้น ในทุกเช้าของหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันมาก, ผาหล่มสัก ถ้าไม่มาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ ก็เหมือนไม่ได้มาเยือนภูกระดึง ด้วยลักษณะแผ่นหินแปลกตากับโค้งกิ่งสนที่รองรับกันพอดิบพอดี นักท่องเที่ยวจึงนิยมจะใช้เป็นจุดชมวิว ดูดวงอาทิตย์ตกดิน และน่าจะถือได้ว่าเป็นภาพที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของที่นี่, ผาหมากดูก เป็นผาที่มีลานหินกว้างขวาง เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตกที่ใกล้ที่พักมากที่สุด ในช่วงต้นฤดูฝนจะมีดอกกระเจียวขึ้นเต็มทุ่งตามเส้นทางสู่ผาหมากดูก เป็นต้น และนอกจากที่เอ่ยมาแล้ว ภูกระดึงยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่งบรรยายกันไม่หมด ดังนั้น ใครที่ชอบเดินป่า ปีนเขา และสัมผัสธรรมชาติแบบถึงเนื้อถึงตัว "ภูกระดึง"คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่คุณจะพลาดไม่ได้ค่ะ
9. สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
สวนผึ้ง อำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และน้ำตก แถมการเดินทางก็สะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย ทั้งจากธรรมชาติสร้างและฝีมือมนุษย์รังสรรค์ ที่สำคัญมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะดีมาก ๆ บ้างก็ว่าเหมือนกับอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน บ้างก็ว่าเหมือนประเทศนิวซีแลนด์ ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง เช่น บ้านเทียนหอม สถานที่ท่องเที่ยวที่อบอวลไปด้วยความหอมละมุน พื้นที่กว้างขว้างมีมุมน่ารัก ๆ ให้โพสท่าถ่ายรูปกันอยู่หลายจุด บริเวณภายในร้านจะจุดเทียนหอมและเปิดเพลงเบา ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศในการเดินเล่นให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี, โป่งยุบ เป็นการยุบตัวของพื้นดินที่มีลักษณะเป็นหลุม มีความลึกประมาณ 3-5 เมตร ต้องเดินด้วยความระมัดระวังเพราะบางจุดนั้นลึกมากๆ เหมือนกับเป็นเหวขนาดย่อมๆ เลยก็ว่าได้ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก และไฮไลท์ที่สำคัญในการไปเที่ยวสวนผึ้ง นั่นก็คือ การไปชมฝูงแกะ ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างน่ารัก ฯลฯ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่าง ๆ เราได้กล่าวมาแล้ว เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจในการท่องเที่ยวทริปนี้ของเรา ที่ไม่ต้องซื้อหาแต่อย่างใด นั่นคือ บรรยากาศอันแสนสวยงามของธรรมชาติของสองข้างทาง ถนนที่โค้งลดเลี้ยวเห็นวิวภูเขาสลับไปมา เป็นดั่งภาพวาดในฝันที่บรรยายไม่ถูก หากแต่คุณต้องมาสัมผัสด้วยตัวคุณเองเท่านั้น
10. เกาะช้าง จ.ตราด
ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ น้ำทะเลสวย ๆ หาดทรายขาวละเอียดของ "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง"หรือที่ใคร ๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เกาะช้าง" ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะฮอตฮิตติดลมบนอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ที่ใครนึกอยากจะไปพักผ่อนคลายเครียดคิดถึง เนื่องจากสามารถไปเที่ยวตลอดทั้งปี เพราะความสวยงามของแต่ละฤดูที่เกาะช้างจะแตกต่างกันออกไป
ทั้งนี้ เกาะช้าง มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต แถมยังมีเกาะเล็ก เกาะใหญ่ มากกว่า 52 เกาะ ให้เลือกว่าจะไปนอนกินลมชมวิวสวย ๆ ที่ไหน อีกทั้งบนเกาะยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำแบบไม่มีเหงา ส่วนสภาพโดยรวมบนเกาะช้างนั้น มีพื้นที่กลางเกาะเป็นภูเขา และป่าดิบชื้น มีที่ราบอยู่ตามขอบเกาะก่อนถึงชายหาดของอ่าวต่าง ๆ ที่ราบเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว สวนยางพารา และสวนผลไม้อื่น ๆ เช่น เงาะ ทุเรียน ส้มโอ ฯลฯ ตลอดจนเปิดเป็นที่พัก ซึ่งเรื่องที่พักเกาะช้างนั้น ก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท บังกะโล หรือจะเป็นบ้านพักแบบธรรมดา ๆ ราคาประหยัด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
11. เชียงราย
เชียงราย...จังหวัดที่ตั้งอยู่เหนือสุดแดนสยาม หลบซ่อนสายตาผู้คนอยู่ในทิวเขา ที่รายล้อมโอบอุ้มความเขียวขจีของทรัพยากรทางธรรมชาติไว้ได้อย่างมิดชิด ทอดตัวผ่านขุนเขาสูงเสียดฟ้า มีความงามตระการตาของสายหมอกสีขาวจาง มีดอกไม้ที่บานสะพรั่ง และมีขนบธรรมเนียมประเพณีแบบล้านนาที่งดงาม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1805 โดย "พ่อขุนเม็งราย" ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา และยังคงมีกลิ่นอาย ร่องรอย ของซากเมืองที่มีความเจริญทางวัฒนธรรมและศิลปะในอดีต อยู่ตามริมแม่น้ำกก แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านเมือง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดเชียงราย มีมากมายให้ไปสัมผัสและเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็น วัดพระธาตุผาเงา วัดพระธาตุดอยเวา พระธาตุดอยตุง ไร่แม่ฟ้าหลวง พิพิธภัณฑ์อูบคำ ล่องเรือแม่น้ำกกชมหมู่บ้านกะเหรี่ยง ตลาดแม่สาย และในช่วงฤดูหนาวเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย บรรยากาศตามดอยต่าง ๆ จะหนาวเย็นสดชื่น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวย่าน ดอยตุง ดอยแม่สลอง ภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ยามเช้ามีโอกาสเห็นทะเลหมอกที่สวยงาม
12. ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว
ตลาดโรงเกลือ หรือ ตลาดชายแดนบ้านคลองลึก ตลาดการค้าชายแดนภาคตะวันออกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ใกล้กับด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ-ปอยเปต จังหวัดบันเตียนเมียนเจย ประเทศกัมพูชา มีสินค้านานาชนิดให้เลือกมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะเสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้า จึงไม่แปลกที่ผู้คนจากทั่วประเทศจะเดินทางไปช้อปปิ้งจนเสมอ
โดยในตลาดโรงเกลือมี 5 ตลาด คือ ตลาดโรงเกลือเก่า ตลาดเดชไทย ตลาดเทศบาล 2 (ตลาดโรงเกลือใหม่) ตลาดเทศบาล 3 (ตลาดโกลเดนเกต) และ ตลาดเบญจวรรณ ซึ่งมีร้านค้าประมาณ 3,000 ร้าน ในแต่ละวันมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท สำหรับสินค้าที่ตลาดโรงเกลือกว่า 80% จะเป็นสินค้ามือสอง จำพวกเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แว่นตา นาฬิกา เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าแบรนด์เนม ทั้งของแท้และของเทียม ซึ่งหากใครตาไม่ดีอาจจะได้ของเทียมในราคาเท่าของแท้ ถึงแม้ว่าจะแพงอยู่สักหน่อย แต่รับรองว่าราคาถูกกว่าซื้อมือหนึ่งแน่นอน
นอกจากนี้ ตลาดโรงเกลือ ก็มีสินค้าจำพวกเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างที่นอน หมอน มุ้ง เครื่องทองเหลือง หรือแม้กระทั่งพรมอีกด้วย รวมทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ที่เป็นสินค้าของไทยเอง หรือของทางเขมรเองก็มีให้ได้เลือกกัน แถมราคายังไม่แพงอีกต่างหาก อย่างไรก็ตาม ตลาดโรงเกลือ ซึ่งเปิดตั้งเวลา 07.00 – 20.00 น. ทุกวัน
13. เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
เขาใหญ่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับล้านคนต่อปี ส่วนใหญ่มักเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งใช้เวลาขับรถราว 3 ชั่วโมง โดยเฉพาะที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ป่าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย จนได้รับสมญานามว่าเป็น"อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน" เพราะเป็นป่าผืนใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย อีกทั้งยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม
และนอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อย่าง น้ำตกผากล้วยไม้, น้ำตกเหวสุวัต,น้ำตกเหวนรก, จุดชมทิวทัศน์เขาเขียว และเส้นทางเดินป่า 50 สาย ฯลฯ แล้ว บริเวณใกล้ ๆ กันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแจ่ม ๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น วังน้ำเขียว แหล่งโอโซนบริสุทธิ์ติดอันดับต้น ๆ ของโลก ปาลิโอ ถนนคนเดินสไตล์อิตาเลียน ที่ให้อารมณ์พอฟัดพอเหวี่ยงกับที่ Primo Posto จนดูเหมือนเป็นบ้านพี่เมืองน้องยังไงยังงั้น Sheep Land สัมผัสกับความน่ารักของแกะตัวเล็กตัวน้อยไปถึงตัวใหญ่ ที่สามารถลูบ จับ สัมผัสได้ จะอุ้ม จะกอด ทำได้หมด ไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด ฟาร์มโชคชัย สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแสนสนุก ที่คุณจะได้ร่วมสัมผัสกลิ่นไอของการทำฟาร์มโคนมมาตรฐาน เขาใหญ่พานอราม่า ฟาร์ม ที่เปิดให้เข้าชมวิธีการเพาะเห็ด และสามารถเลือกเก็บเห็ดมากมายหลายสายพันธุ์ด้วยมือของคุณเอง และ The Smoke House ร้านอาหารยุโรปและอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ที่มีลักษณะเป็นปราสาททรงยุโรปโบราณ ประหนึ่งว่าได้ไปเยือนดินแดนยุโรปแห่งใดแห่งหนึ่งมาก็มิปาน
14. ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
เมืองในหมอกที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันถึง เพราะนอกจากจะถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน เป็นรอยต่อชายแดนไทย - พม่า ทำให้มีฤดูหนาวอากาศเย็นจัดแล้ว วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน และสถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัดกลาง, วัดน้ำฮู, วัดพระธาตุแม่เย็น, น้ำตกหมอแปง, น้ำตกแม่เย็น, หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน (บ้านสันติชล), ถนนคนเดินปาย และสะพานประวัติศาสตร์ (ท่าปาย) สิ่งเหล่านี้ที่ดึงดูดนักเดินทางให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมืองปายได้นักต่อนัก
15. ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย แต่กลับขึ้นชื่อว่าเป็นดอยที่เที่ยวง่ายและสะดวกสบายที่สุด เพราะทุกที่สถานที่เที่ยวเด่นถูกเชื่อมต่อด้วยถนนลาดยางอย่างดี อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะไปเยี่ยมชมมากมาย เริ่มตั้งแต่กิโลเมตรที่ 1 นั่นก็คือ น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกที่สวยงามและสูงใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีน้ำไหลตลอดทั้งปี, กิโลเมตรที่ 8 น้ำตกแม่กลาง เป็นอีกหนึ่งน้ำตกสวยที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งพักผ่อน, กิโลเมตรที่ 8.5 ถ้ำบริจินดา ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามที่มีอายุนับล้านปี, กิโลเมตรที่ 21 น้ำตกวชิรธาร น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีน้ำตลอดทั้งปี
สถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ ภายในตกแต่งร่มรื่นสวยงาม มีโรงปลูกดอกไม้ผลเมืองหนาว และยังมีร้านอาหารและบ้านพักให้บริการ, กิโลเมตรที่ 30 น้ำตกสิริภูมิ เราจะเห็นสายน้ำตกสีขาวสองเส้นสวยงามมาก และห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ไปประมาน 4.5 กิโลเมตร ก็จะถึงดอยผาตั้ง หน้าผาหินสองลูกตั้งเด่นบนยอดเขา เป็นหนึ่งในจุดชมวิวสวยของดอยอินทนนท์, กิโลเมตรที่41 พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เหมาะสำหรับชมสวนดอกไม้ประดับ ชมวิวสวย และยังเป็นจุดชมวิวยามพระอาทิตย์อัสดงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของดอยอินทนนท์ และเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามเช่นกัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่คิดว่าอยากสัมผัสอากาศหนาวต้องเดินทางช่วงปลายปีเท่านั้น สำหรับดอยอินทนนท์แล้วสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
16. Santorini Park Cha-Am จ.เพชรบุรี
แหล่งช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ย่านหัวหิน–ชะอำ ที่มาพร้อมสโลแกน Amused Shopping Experience หรือ "สีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก" บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศอันงดงามของ เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ พร้อมสนุกไปกับเครื่องเล่นนานาชนิดที่สั่งตรงจากต่างประเทศ ที่นี่จะมอบสีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก ให้คุณประทับใจมิรู้ลืม
รวมถึงกริมมิกต่าง ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่พบเห็นได้บนเกาะซานโตรินี เช่น ทางเดินลายก้อนหินที่จะแทรกตัวอยู่ทั่วทั้งโครงการ ผสานเข้ากับลูกเล่นหลากหลายที่เสริมเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ งานประติมากรรมที่ใช้สอยได้ เราจึงเชื่อว่าทุกมุมของ "ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ" จะทำให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับการบันทึกภาพประทับใจอย่างมีความสุขในทุกบริเวณ
17. เชียงใหม่
เมืองใหญ่ที่นับว่าเป็นศูนย์กลางของจังหวัดในภาคเหนือ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว เพราะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เนื่องจากความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางด้านธรรมชาติอันงดงาม ด้านศิลปวัฒนธรรม และประเพณีของชาวเชียงใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์น่าประทับใจ และความพรั่งพร้อมในเรื่องสถานที่พักและบริการด้านการท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่หลากหลาย เป็นที่ดึงดูดคนมาท่องเที่ยวนับล้านคนในแต่ละปี ขอบอกว่าเที่ยวจังหวัดเดียวนี่คุ้มเกินคุ้ม เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พระธาตุดอยสุเทพ, วัดสวนดอก, สวนสัตว์เชียงใหม่, เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี, ดอยอินทนนท์ และดอยปุย เป็นต้น
18. สิมิลัน จ.พังงา
สิมิลัน หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เป็นหมู่เกาะกลางทะเลอันดามันที่เป็นเลิศในด้านความงามของปะการังใต้ท้องทะเล อยู่ที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา โดยคำว่า "สิมิลัน" เป็นภาษายาวีหรือมลายู แปลว่า เก้าหรือหมู่เกาะเก้า ซึ่งมีทั้งหมด 9 เกาะ เรียงลำดับจากเหนือมาใต้ ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี 2 เกาะติดกัน) เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก ( เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู ซึ่งหมู่เกาะเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความงามทั้งบนบกและใต้น้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ของท้องทะเล สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก มีปะการังที่มีสีสันสวยงามหลายชนิด ปลาหลากสีสันและหายาก
19. เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เกาะสมุย ที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวไทยห่างจากสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออก 84 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็ต่างขนานนามให้เกาะสมุยว่าเป็น "สวรรค์กลางอ่าวไทย" เนื่องจากเกาะสมุยมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น สวยงาม มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม อาทิเช่น น้ำทะเลใสบริสุทธิ์ หาดทรายขาวทอดขนานไปกับทิวต้นมะพร้าวริมชายหาด และนอกจากธรรมชาติชายทะเลแล้ว ยังมีน้ำตกที่มีน้ำใสเย็นเกือบตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวที่แสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของชาวท้องถิ่น
ทางด้านท้องทะเลรอบเกาะสมุยก็ยังมีแนวปะการังอยู่ทั่วไป มีแหล่งปะการังที่อุดมสมบูรณ์อยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ไม่เพียงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเท่านั้น เกาะสมุยยังพร้อมไปด้วยโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท สนามกอล์ฟ สปา ร้านอาหาร สถานบันเทิง บริการนำเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนเกาะสมุยแล้ว ต้องหวนกลับมาอีกครั้ง
20. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอด ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีอยู่สองข้างถนนสู่ทับเบิกสวยงาม ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกซากุระหรือ นางพญาเสือโครง สีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา
21. กาญจนบุรี
กาญจนบุรี จังหวัดหนึ่งในภาคกลางที่มีผู้คนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะเต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจ แหล่งอารยธรรมเก่าแก่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่ตั้งของสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าเขาลำเนาไพร ถ้ำ และน้ำตก อีกทั้งยังอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ 129 กิโลเมตร เท่านั้นเอง
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรีที่น่าสนใจ เช่น พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวร, อุทยานแห่งชาติถ้ำธารลอด, สวนผึ้ง, เขาแหลม, เขื่อนศรีนครินทร์, สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก, ช่องเขาขาดพิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ, อุทยานแห่งชาติไทรโยค และทางรถไฟสายมรณะ ฯลฯ
22. ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย
ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น อยู่ในพื้นที่เขตอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติด้วยลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลม เป็นแนวยาวที่ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า "ภูชี้ฟ้า" นั่นเอง สำหรับไฮไลท์สำคัญของภูชี้ฟ้า ต้องยกให้จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม อีกทั้งทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล
โดยในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมในหุบเขาเบื้องล่าง มีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก ท่ามกลางทุ่งหญ้า แซมด้วยทุ่งดอกโคลงเคลง (ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว) สวยงามราวกับภาพวาด อย่าบอกใครเชียว!!! และหากรอจนสายหมอกถูกความร้อนระเหยหมดแล้ว ก็ยังคงมองเห็นสายน้ำโขงไหลคดเคี้ยว ท่ามกลางป่าไม้ของฝั่งลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์อีกด้วย และหากมาเที่ยวภูชี้ฟ้าในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม เส้นทางขึ้นภูชี้ฟ้าจะผ่านป่าซากุระหรือต้นพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยงามมากอีกเช่นกัน
23. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
หัวหิน นับเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย จากแต่เดิมที่เป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง และได้ถูกเปลี่ยนแปลงจนกลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนติดทะเล ที่ติดอันดับความนิยมของประเทศในตอนนี้ อีกทั้งปัจจุบัน "หัวหิน" มีที่พัก รีสอร์ท และโรงแรมชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ทของชาวบ้านเอง หรือรีสอร์ทที่เป็นระดับห้าดาวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เสน่ห์ของหัวหินยังคงเป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนตลอดทั้งปี
อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงหัวหินหลายคนมักนึกถึงทะเล แต่จริง ๆ แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบเมืองอีกมากมาย เช่น พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน, พระราชวังบ้านปืน, สถานีรถไฟหัวหิน, เขาหินเหล็กไฟ, เขาตะเกียบ, หาดสวนสนประดิพัทธ์, ตลาดโต้รุ่งหัวหิน, เพลินวาน, The Cicada Market ตลาดปล่อยของสุดเก๋, ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม และตลาดฉัตรศิลา
24. เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
เกาะสงบ ๆ อีกแห่งทางฝั่งตะวันออกของประเทศไทย เดินทางเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ก็จะพบกับน้ำทะเลสวย ๆ หาดทรายขาว ๆ โดยเกาะสีชังเป็นเกาะใหญ่ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชา ประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ บนเกาะสีชังและแม้จะไม่มีชายหาดสวยงามลือชื่อ เหมือนกับเกาะแก่งอื่น ๆ ของเมืองไทย แต่ทัศนียภาพก็งดงาม แถมมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่รอให้นักเที่ยวทั้งหลายไปเยือนกันด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น พระจุฑาธุชราชฐาน (ท่าวัง), ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, ช่องเขาขาด และหาดถ้ำเขาพัง ฯลฯ
25. อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
อัมพวา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม บรรยากาศของที่นี่จะร่มรื่นไปด้วยสวนผสมริมน้ำ ทั้งลิ้นจี่ มะม่วง มะพร้าว มะละกอ กล้วย ส้มโอ ฯลฯ สารพัดผลไม้รอให้เรามาชื่นชม โดยเราสามารถหลบร้อนไปลงเรือล่องคลองชมสวน สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ชิมผลไม้ต่าง ๆ หรือซื้อกลับไปกินบ้านให้ชื่นฉ่ำใจก็ได้ไม่มีใครว่า หรือจะเลือกปั่นจักรยานเช่าถีบไปคู่ขนานกับท้องร่องก็ได้อรรถรสอีกแบบหนึ่ง แต่ไฮไลท์เด็ด ๆ ของที่นี่คือ การชมและชิมอาหารหลากหลายที่ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดริมคลอง เปิดตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00 - 20.00 น. ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ และมีรถเข็นขายของบนบกด้วย บรรยากาศสบาย ๆ มีเพลงฟัง จากเสียงตามสายของชาวชุมชน ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิงห้อยในยามค่ำคืนได้
และนี่คือ "25 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอต ในปี 2555" ที่คนไทยจากทั่วทั้งประเทศนิยมออกเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อน เติมกำลังใจ คลายเครียดให้กับตัวเองกัน เอ...แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ ในปี 2555 นี้ได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวไทยที่ไหนกันมาบ้างหรือเปล่า?
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
และ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
นั่นแน่! อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าในปีนี้สถานที่ท่องเที่ยวฮิต ๆ จะมีที่ไหนบ้าง ถ้าอย่างนั้นก็ไปดู 25 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอต ในปี พ.ศ. 2555 ที่รวบรวมมาฝากกันเลยจ้า โดยเริ่มที่...
1. Art in Paradise พัทยา
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเก๋ ๆ ที่รวบรวมเอาภาพวาด 3 มิติ เอาไว้มากกว่า 140 ภาพ บนพื้นที่ประมาณ 5,800 ตารางเมตร โดยมีศิลปินชาวเกาหลีใต้ ชิน แจ ยอล (Shin Jae Yeoul) เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ ด้วยการเนรมิตพัทยาพัลลาเดียมเก่าให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดอลังการ ชนิดที่ว่าคนรักการถ่ายภาพมาเห็นเป็นต้องแชะภาพแบบนันสต๊อปเลยล่ะ นอกจากนี้ ยังแบ่งห้องแสดงภาพออกเป็น 10 ห้องด้วยกัน เพื่อจัดแสดงภาพให้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งแต่ละห้องก็มีดีไซน์แตกต่างกันออกไป
และข้อดีของที่นี่ คือ เขาอนุญาตให้ถ่ายรูปเล่นกับภาพศิลปะเหล่านั้นได้อย่างอิสระ โดยเขาจะมีการตัวอย่างการโพสท่าเอาไว้ให้ แต่ถ้าใครอยากสร้างสรรค์ท่าถ่ายรูปใหม่ ๆ ก็เชิญเต็มที่ เพราะแน่นอนว่าภาพวาดทุกชิ้นจะมีคุณค่ามากขึ้นก็ต่อเมื่อผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมกับภาพ ให้ภาพดูมีชีวิตชีวาและสมจริงมากยิ่งขึ้น รวบรวมพลังสร้างสรรค์ที่คุณมีแล้วครีเอทท่าตามต้องการได้เลย
2. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กรุงเทพฯ
ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน แต่ดูเหมือนว่าแหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ (ASIATIQUE, The Riverfront) จะทวีความแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจเพราะด้วยรูปลักษณ์ที่ตอบโจทย์ บวกกับบรรยากาศและทัศนียภาพที่แปลกใหม่ สวยงาม รวมถึงตกแต่งด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมในช่วง พ.ศ. 2450 ถึง พ.ศ. 2490 จึงไม่แปลกที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในระยะเวลาไม่นาน
และนอกจากสีสันแห่งประวัติศาสตร์ที่คุณจะได้ไปสัมผัสแล้ว เสน่ห์ย่านการค้ากว่า 1,500 ร้าน ก็พร้อมรองรับเติมเต็มความต้องการของนักท่องเที่ยวและคนหลากหลายกลุ่มได้อย่างครบครัน โดยแบ่งออกเป็น ย่านเจริญกรุง ประกอบไปด้วย ร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว และสินค้าของตกแต่งบ้าน อีกทั้งยังมีโรงละคร ที่รองรับผู้ชมได้กว่า 400 ที่นั่ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรมไทย กับหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ หรือโชว์สุดอลังการจากคาลิปโซ่ รวมถึงร้านอาหารชั้นนำ, ย่านกลางเมือง เป็นลานจัดกิจกรรมกลางแจ้ง และโซนอาหารนานาชาติ, ย่านโรงงาน เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ที่รวบรวมร้านอาหาร ผับ และร้านค้ามีสไตล์มากมาย และย่านริมน้ำ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแบบพาโนราม่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยทางเดินริมแม่น้ำที่ยาวกว่า 300 เมตร พบกับร้านอาหารมีระดับ มากมาย ทั้งอาหารญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน ไทย จีน และซีฟู้ด
3. Swiss Sheep Farm จ.เพชรบุรี
สวิส ชีพ ฟาร์ม (Swiss Sheep Farm) ฟาร์มแกะแห่งใหม่ใน "ชะอำ" จังหวัดเพชรบุรี ที่นี่คุณจะได้พบกับความน่ารักของฝูงแกะ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนฟู หนานุ่มนับสิบตัว ในบรรยากาศฟาร์มแบบสวิส ท่ามกลางหุบเขาแห่งความรัก ที่โอบล้อมคุณด้วยไออุ่นสไตล์ฟาร์มแบบยูโรคันทรี มีสนามหญ้าเขียว ๆ ลายล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อน อีกทั้งหนุ่มนักถ่ายกับสาวนักโพสก็ไม่ควรพลาด เพราะที่ Swiss Sheep Farm มีมุมเก๋ ๆ สวย ๆ แจ่ม ๆ ให้เลือกถ่ายรูปเพียบ ส่วนคู่รักที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายภาพแต่งงาน (Pre Wedding out Door) ที่นี่ก็ช่างเหมาะซะจริง ๆ
นอกจากนี้ คุณยังจะได้เพลิดเพลินไปกับการขี่ม้าชมวิวท่ามกลางทุ่งหญ้า และสนุกเต็มอิ่มกับกิจกรรมพิสูจน์รักแท้ที่สนุกสนานและสุดแสนโรแมนติก พร้อมทั้งคล้องกุญแจแห่งรักที่ได้กล่าวขานสืบต่อกันมาว่า คู่รักที่ได้มาคล้องกุญแจแห่งรักร่วมกัน จะสามารถครองความรักนิรันดร์ได้ และแน่นอนกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ คือ การไปเป็น "เด็กเลี้ยงแกะ" ด้วยการให้อาหาร รวมถึงถ่ายรูปคู่กับน้องแกะไว้เป็นที่ระลึกนั่นเอง ยังไม่หมดเท่านี้ Swiss Sheep Farm ยังมีของฝาก ของที่ระลึกน่ารัก ๆ ให้คุณได้เลือกช้อปไปฝากคนสนิท ส่วนเด็ก ๆ ก็จะได้เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นต่าง ๆ
4. เชียงคาน จ.เลย
อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดเลย ที่ยังคงอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขงผสมผสานกับความทันสมัยของโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัว ความเงียบสงบของเมือง ความน่ารักของผู้คน ที่ยังดำรงวิถีชีวิตแบบราบเรียบ และกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างแนบแน่นดีเยี่ยม รวมไปถึงทัศนียภาพริมฝั่งโขงที่สวยงาม คงเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้นักเดินทางมักแวะเวียนไปต้องมนต์เสน่ห์ ณ เชียงคาน
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวแจ่ม ๆ ของ เชียงคาน ได้แก่ วัดศรีคุณเมือง, วัดท่าแขก, พระพุทธบาทภูควายเงิน, พระใหญ่ภูคกงิ้ว, แก่งคุดคู้ และจุดชมวิวภูทอก ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้บ้านเรือนอาคารต่าง ๆ ภายในเชียงคาน จะแปรเปลี่ยนดัดแปลงมาทำโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แกลอรี่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายโปสต์การ์ด ฯลฯ แต่ความเป็น เชียงคาน ก็ยังคงอยู่เฉกเช่นวันวาน วัฒธรรมการตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้าแบบเมืองหลวงพระบาง ที่ เชียงคาน ก็มีให้เห็นเหมือนเคย ในช่วงเวลาประมาณ 06.00 – 06.30 น. จะมีผู้คนมารอใส่บาตรข้าวเหนียวยามเช้าเป็นประจำทุกวัน
5. ตลาดน้ำขวัญเรียม กรุงเทพฯ
อีกหนึ่งในตลาดน้ำแห่งใหม่ที่ผุดขึ้นเพื่อย้อนรอยวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนริมคลองแสนแสบ ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ระหว่างซอยเสรีไทย 60 และซอยรามคำแหง 187 เท่านั้น โดยถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดที่อยากจะจำลองชีวิตของชาวน้ำ เพื่อให้เป็นที่ระลึกแก่คนรุ่นหลัง ให้ได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตริมน้ำ และถึงแม้ว่าสองฝั่งคลองจะเป็นถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่ตลาดน้ำแห่งนี้ก็ยังคงมีความสงบในวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือกทำมากมาย ทั้งการย้อนอดีตชมวิถีชีวิตริมคลองแสนแสบ เลือกชิมอาหารอร่อยจากทั่วทุกภาค เลือกซื้อสินค้า OTOP ติดไม้ติดมือกลับบ้าน ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมแบบไทย ๆ และเรือโบราณมากมาย ที่คนรุ่นก่อนพร้อมใจกันมาแสดงให้ลูกหลานดูอย่างเต็มใจ
นอกจากนี้ จุดเด่นของตลาดน้ำขวัญเรียม ก็คือ สะพานเรือที่เชื่อมระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ ซึ่งเป็นตลาดน้ำแห่งแรกที่มีสะพานเรือเชื่อมต่อวัฒนธรรมให้อยู่ร่วมกัน รวมทั้งยังเปิดให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตทางน้ำ ด้วยการตักบาตรพระทางน้ำ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และมีการสวดมนต์เพื่อเป็นศิริมงคลแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
6. ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม หรือ ดอยม่อนแจ่ม เป็นส่วนหนึ่งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวทิวเขาซับซับซ้อน แถมยามค่ำคืนฟากฟ้าแวดล้อมไปด้วยดวงดารา ส่องแสงประกายระยิบระยับ จึงไม่แปลกที่ผู้คนต่างก็อยากไปสัมผัสกับความงดงาม
ทั้งนี้ ม่อนแจ่ม สถานที่พักแห่งใหม่ของโครงการหลวง เพิ่งเปิดตัวไม่เมื่อปลายปี พ.ศ. 2552 เป็นพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ 1,350 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยปรากฎโฉมในรูปแบบ"แคมปิ้ง รีสอร์ท" ที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว พร้อมชูความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย เช่น ในเต็นท์มีบริเวณส่วนตัว มีห้องน้ำส่วนตัว น้ำร้อน ไฟฟ้า และเครื่องใช้ครบครัน ประหนึ่งอยู่ในห้องพักโรงแรม แต่พิเศษกว่าตรงที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเพียงแค่คุณเปิดหน้าต่าง สายลมเย็น ๆ วิวขุนเขา สายหมอก ก็โผล่รอต้อนรับ แถมยามค่ำคืนดาวน้อยใหญ่จะค่อย ๆ ส่องประกายแวววับให้มองเพลิน ๆ
และที่สำคัญหากดื่มด่ำกับความงดงามของทัศนียภาพกันพักใหญ่ ท้องไส้ก็เริ่มร้องหาอาหารอร่อย ๆ อะ ๆ ไม่ต้องมองไปไหนไกล ที่ ม่อนแจ่ม มีร้านอาหารที่นำผลิตผลท้องถิ่นที่ปลูกเอง มาปรุงให้รับประทานกันด้วย ผัก ๆ สด ๆ หวานกรอบ หาชิมยากในเมืองกรุง และถ้ากินอิ่มแล้วอยากยืดแข้งขืดขา ก็สามารถไปเดินชมแปลงสตรอบอร์รีผลสีแดงสด หรือไปเดินเล่นรอบเขาที่มีวิวสวย ๆ ก็ได้ รวมไปถึงจะไปเดินศึกษาธรรมชาติ ณ ดอยม่อนล่อง ซึ่งเป็นจุดชมวิว ชมทะเลหมอก บนหน้าผา 1,460 เมตร มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้าง ชมพรรณไม้และดอกไม้ป่าหลากหลาย
7. เกาะล้าน จ.ชลบุรี
เกาะล้าน ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี อยู่ห่างจากชายฝั่งพัทยาเพียงแค่ 7 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ เพราะน้ำทะเลที่เกาะล้านนี้ใสมาก ๆ แถมยังเย็นชื่นใจอีกด้วย หรือจะเลือกไปดำน้ำดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำก็ไม่มีใครว่า
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะล้าน ที่สามารถดึงดูดให้ผู้คนต่างถิ่นแวะเวียนไปเที่ยว เช่น หาดตาแหวน หาดทรายยาวประมาณ 750 เมตร มีความงามทางธรรมชาติมาก เพราะมีหาดทรายที่ขาวสะอาดและน้ำทะเลใสสีคราม, หาดสังวาลย์ มีความสงบ จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่ชอบนอนอาบแดด, หาดทองหลาง ชายหาดขนาดเล็กเงียบสงบ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว, หาดแสม เป็นหาดทรายยาวประมาณ 700 เมตร มีโขดหินและพื้นป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีความสวยงาม เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและการเล่นน้ำ และไปกินลมชมวิวชิว ๆ สวย ๆ กันที่ "จุดชมวิวเขานม" เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเกาะ ฯลฯ
8. ภูกระดึง จ.เลย
ภูกระดึง หรือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สถานที่ท่องเที่ยวในตำนานที่ยังคงได้รับความนิยมเสมอ เพราะเหล่าบรรดาคู่รักมักควงแขนกันไปพิสูจน์รักแท้ ด้วยการเดินทางพิชิตยอดภูกระดึง เพราะการที่เราจะขึ้นไปถึงยอดได้ต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร คือขึ้นเขา 5 กิโลเมตร บวกทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร กว่าจะถึงที่หมาย -_-
สำหรับ ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปี จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาและหวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งทางอุทยานฯ จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 07.00 - 14.00 น. ของทุกวัน
ส่วนจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึง เช่น ผานกแอ่น ลานหินเล็ก ๆ มีสนต้นหนึ่ง ขึ้นโดดเด่นอยู่ริมหน้าผา เป็นจุดท่องเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้น ในทุกเช้าของหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันมาก, ผาหล่มสัก ถ้าไม่มาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ ก็เหมือนไม่ได้มาเยือนภูกระดึง ด้วยลักษณะแผ่นหินแปลกตากับโค้งกิ่งสนที่รองรับกันพอดิบพอดี นักท่องเที่ยวจึงนิยมจะใช้เป็นจุดชมวิว ดูดวงอาทิตย์ตกดิน และน่าจะถือได้ว่าเป็นภาพที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของที่นี่, ผาหมากดูก เป็นผาที่มีลานหินกว้างขวาง เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตกที่ใกล้ที่พักมากที่สุด ในช่วงต้นฤดูฝนจะมีดอกกระเจียวขึ้นเต็มทุ่งตามเส้นทางสู่ผาหมากดูก เป็นต้น และนอกจากที่เอ่ยมาแล้ว ภูกระดึงยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่งบรรยายกันไม่หมด ดังนั้น ใครที่ชอบเดินป่า ปีนเขา และสัมผัสธรรมชาติแบบถึงเนื้อถึงตัว "ภูกระดึง"คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่คุณจะพลาดไม่ได้ค่ะ
9. สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
สวนผึ้ง อำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และน้ำตก แถมการเดินทางก็สะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย ทั้งจากธรรมชาติสร้างและฝีมือมนุษย์รังสรรค์ ที่สำคัญมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะดีมาก ๆ บ้างก็ว่าเหมือนกับอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน บ้างก็ว่าเหมือนประเทศนิวซีแลนด์ ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง เช่น บ้านเทียนหอม สถานที่ท่องเที่ยวที่อบอวลไปด้วยความหอมละมุน พื้นที่กว้างขว้างมีมุมน่ารัก ๆ ให้โพสท่าถ่ายรูปกันอยู่หลายจุด บริเวณภายในร้านจะจุดเทียนหอมและเปิดเพลงเบา ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศในการเดินเล่นให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี, โป่งยุบ เป็นการยุบตัวของพื้นดินที่มีลักษณะเป็นหลุม มีความลึกประมาณ 3-5 เมตร ต้องเดินด้วยความระมัดระวังเพราะบางจุดนั้นลึกมากๆ เหมือนกับเป็นเหวขนาดย่อมๆ เลยก็ว่าได้ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก และไฮไลท์ที่สำคัญในการไปเที่ยวสวนผึ้ง นั่นก็คือ การไปชมฝูงแกะ ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างน่ารัก ฯลฯ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่าง ๆ เราได้กล่าวมาแล้ว เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจในการท่องเที่ยวทริปนี้ของเรา ที่ไม่ต้องซื้อหาแต่อย่างใด นั่นคือ บรรยากาศอันแสนสวยงามของธรรมชาติของสองข้างทาง ถนนที่โค้งลดเลี้ยวเห็นวิวภูเขาสลับไปมา เป็นดั่งภาพวาดในฝันที่บรรยายไม่ถูก หากแต่คุณต้องมาสัมผัสด้วยตัวคุณเองเท่านั้น
10. เกาะช้าง จ.ตราด
ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ น้ำทะเลสวย ๆ หาดทรายขาวละเอียดของ "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง"หรือที่ใคร ๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เกาะช้าง" ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะฮอตฮิตติดลมบนอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ที่ใครนึกอยากจะไปพักผ่อนคลายเครียดคิดถึง เนื่องจากสามารถไปเที่ยวตลอดทั้งปี เพราะความสวยงามของแต่ละฤดูที่เกาะช้างจะแตกต่างกันออกไป
ทั้งนี้ เกาะช้าง มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต แถมยังมีเกาะเล็ก เกาะใหญ่ มากกว่า 52 เกาะ ให้เลือกว่าจะไปนอนกินลมชมวิวสวย ๆ ที่ไหน อีกทั้งบนเกาะยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำแบบไม่มีเหงา ส่วนสภาพโดยรวมบนเกาะช้างนั้น มีพื้นที่กลางเกาะเป็นภูเขา และป่าดิบชื้น มีที่ราบอยู่ตามขอบเกาะก่อนถึงชายหาดของอ่าวต่าง ๆ ที่ราบเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว สวนยางพารา และสวนผลไม้อื่น ๆ เช่น เงาะ ทุเรียน ส้มโอ ฯลฯ ตลอดจนเปิดเป็นที่พัก ซึ่งเรื่องที่พักเกาะช้างนั้น ก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท บังกะโล หรือจะเป็นบ้านพักแบบธรรมดา ๆ ราคาประหยัด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
11. เชียงราย
เชียงราย...จังหวัดที่ตั้งอยู่เหนือสุดแดนสยาม หลบซ่อนสายตาผู้คนอยู่ในทิวเขา ที่รายล้อมโอบอุ้มความเขียวขจีของทรัพยากรทางธรรมชาติไว้ได้อย่างมิดชิด ทอดตัวผ่านขุนเขาสูงเสียดฟ้า มีความงามตระการตาของสายหมอกสีขาวจาง มีดอกไม้ที่บานสะพรั่ง และมีขนบธรรมเนียมประเพณีแบบล้านนาที่งดงาม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1805 โดย "พ่อขุนเม็งราย" ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา และยังคงมีกลิ่นอาย ร่องรอย ของซากเมืองที่มีความเจริญทางวัฒนธรรมและศิลปะในอดีต อยู่ตามริมแม่น้ำกก แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านเมือง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดเชียงราย มีมากมายให้ไปสัมผัสและเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็น วัดพระธาตุผาเงา วัดพระธาตุดอยเวา พระธาตุดอยตุง ไร่แม่ฟ้าหลวง พิพิธภัณฑ์อูบคำ ล่องเรือแม่น้ำกกชมหมู่บ้านกะเหรี่ยง ตลาดแม่สาย และในช่วงฤดูหนาวเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย บรรยากาศตามดอยต่าง ๆ จะหนาวเย็นสดชื่น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวย่าน ดอยตุง ดอยแม่สลอง ภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ยามเช้ามีโอกาสเห็นทะเลหมอกที่สวยงาม
12. ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว
ตลาดโรงเกลือ หรือ ตลาดชายแดนบ้านคลองลึก ตลาดการค้าชายแดนภาคตะวันออกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ใกล้กับด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ-ปอยเปต จังหวัดบันเตียนเมียนเจย ประเทศกัมพูชา มีสินค้านานาชนิดให้เลือกมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะเสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้า จึงไม่แปลกที่ผู้คนจากทั่วประเทศจะเดินทางไปช้อปปิ้งจนเสมอ
โดยในตลาดโรงเกลือมี 5 ตลาด คือ ตลาดโรงเกลือเก่า ตลาดเดชไทย ตลาดเทศบาล 2 (ตลาดโรงเกลือใหม่) ตลาดเทศบาล 3 (ตลาดโกลเดนเกต) และ ตลาดเบญจวรรณ ซึ่งมีร้านค้าประมาณ 3,000 ร้าน ในแต่ละวันมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท สำหรับสินค้าที่ตลาดโรงเกลือกว่า 80% จะเป็นสินค้ามือสอง จำพวกเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แว่นตา นาฬิกา เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าแบรนด์เนม ทั้งของแท้และของเทียม ซึ่งหากใครตาไม่ดีอาจจะได้ของเทียมในราคาเท่าของแท้ ถึงแม้ว่าจะแพงอยู่สักหน่อย แต่รับรองว่าราคาถูกกว่าซื้อมือหนึ่งแน่นอน
นอกจากนี้ ตลาดโรงเกลือ ก็มีสินค้าจำพวกเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างที่นอน หมอน มุ้ง เครื่องทองเหลือง หรือแม้กระทั่งพรมอีกด้วย รวมทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ที่เป็นสินค้าของไทยเอง หรือของทางเขมรเองก็มีให้ได้เลือกกัน แถมราคายังไม่แพงอีกต่างหาก อย่างไรก็ตาม ตลาดโรงเกลือ ซึ่งเปิดตั้งเวลา 07.00 – 20.00 น. ทุกวัน
13. เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
เขาใหญ่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับล้านคนต่อปี ส่วนใหญ่มักเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งใช้เวลาขับรถราว 3 ชั่วโมง โดยเฉพาะที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ป่าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย จนได้รับสมญานามว่าเป็น"อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน" เพราะเป็นป่าผืนใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย อีกทั้งยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม
และนอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อย่าง น้ำตกผากล้วยไม้, น้ำตกเหวสุวัต,น้ำตกเหวนรก, จุดชมทิวทัศน์เขาเขียว และเส้นทางเดินป่า 50 สาย ฯลฯ แล้ว บริเวณใกล้ ๆ กันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแจ่ม ๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น วังน้ำเขียว แหล่งโอโซนบริสุทธิ์ติดอันดับต้น ๆ ของโลก ปาลิโอ ถนนคนเดินสไตล์อิตาเลียน ที่ให้อารมณ์พอฟัดพอเหวี่ยงกับที่ Primo Posto จนดูเหมือนเป็นบ้านพี่เมืองน้องยังไงยังงั้น Sheep Land สัมผัสกับความน่ารักของแกะตัวเล็กตัวน้อยไปถึงตัวใหญ่ ที่สามารถลูบ จับ สัมผัสได้ จะอุ้ม จะกอด ทำได้หมด ไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด ฟาร์มโชคชัย สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแสนสนุก ที่คุณจะได้ร่วมสัมผัสกลิ่นไอของการทำฟาร์มโคนมมาตรฐาน เขาใหญ่พานอราม่า ฟาร์ม ที่เปิดให้เข้าชมวิธีการเพาะเห็ด และสามารถเลือกเก็บเห็ดมากมายหลายสายพันธุ์ด้วยมือของคุณเอง และ The Smoke House ร้านอาหารยุโรปและอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ที่มีลักษณะเป็นปราสาททรงยุโรปโบราณ ประหนึ่งว่าได้ไปเยือนดินแดนยุโรปแห่งใดแห่งหนึ่งมาก็มิปาน
14. ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
เมืองในหมอกที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันถึง เพราะนอกจากจะถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน เป็นรอยต่อชายแดนไทย - พม่า ทำให้มีฤดูหนาวอากาศเย็นจัดแล้ว วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน และสถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัดกลาง, วัดน้ำฮู, วัดพระธาตุแม่เย็น, น้ำตกหมอแปง, น้ำตกแม่เย็น, หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน (บ้านสันติชล), ถนนคนเดินปาย และสะพานประวัติศาสตร์ (ท่าปาย) สิ่งเหล่านี้ที่ดึงดูดนักเดินทางให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมืองปายได้นักต่อนัก
15. ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย แต่กลับขึ้นชื่อว่าเป็นดอยที่เที่ยวง่ายและสะดวกสบายที่สุด เพราะทุกที่สถานที่เที่ยวเด่นถูกเชื่อมต่อด้วยถนนลาดยางอย่างดี อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะไปเยี่ยมชมมากมาย เริ่มตั้งแต่กิโลเมตรที่ 1 นั่นก็คือ น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกที่สวยงามและสูงใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีน้ำไหลตลอดทั้งปี, กิโลเมตรที่ 8 น้ำตกแม่กลาง เป็นอีกหนึ่งน้ำตกสวยที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งพักผ่อน, กิโลเมตรที่ 8.5 ถ้ำบริจินดา ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามที่มีอายุนับล้านปี, กิโลเมตรที่ 21 น้ำตกวชิรธาร น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีน้ำตลอดทั้งปี
สถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ ภายในตกแต่งร่มรื่นสวยงาม มีโรงปลูกดอกไม้ผลเมืองหนาว และยังมีร้านอาหารและบ้านพักให้บริการ, กิโลเมตรที่ 30 น้ำตกสิริภูมิ เราจะเห็นสายน้ำตกสีขาวสองเส้นสวยงามมาก และห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ไปประมาน 4.5 กิโลเมตร ก็จะถึงดอยผาตั้ง หน้าผาหินสองลูกตั้งเด่นบนยอดเขา เป็นหนึ่งในจุดชมวิวสวยของดอยอินทนนท์, กิโลเมตรที่41 พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เหมาะสำหรับชมสวนดอกไม้ประดับ ชมวิวสวย และยังเป็นจุดชมวิวยามพระอาทิตย์อัสดงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของดอยอินทนนท์ และเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามเช่นกัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่คิดว่าอยากสัมผัสอากาศหนาวต้องเดินทางช่วงปลายปีเท่านั้น สำหรับดอยอินทนนท์แล้วสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
16. Santorini Park Cha-Am จ.เพชรบุรี
แหล่งช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ย่านหัวหิน–ชะอำ ที่มาพร้อมสโลแกน Amused Shopping Experience หรือ "สีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก" บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศอันงดงามของ เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ พร้อมสนุกไปกับเครื่องเล่นนานาชนิดที่สั่งตรงจากต่างประเทศ ที่นี่จะมอบสีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก ให้คุณประทับใจมิรู้ลืม
รวมถึงกริมมิกต่าง ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่พบเห็นได้บนเกาะซานโตรินี เช่น ทางเดินลายก้อนหินที่จะแทรกตัวอยู่ทั่วทั้งโครงการ ผสานเข้ากับลูกเล่นหลากหลายที่เสริมเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ งานประติมากรรมที่ใช้สอยได้ เราจึงเชื่อว่าทุกมุมของ "ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ" จะทำให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับการบันทึกภาพประทับใจอย่างมีความสุขในทุกบริเวณ
17. เชียงใหม่
เมืองใหญ่ที่นับว่าเป็นศูนย์กลางของจังหวัดในภาคเหนือ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว เพราะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เนื่องจากความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางด้านธรรมชาติอันงดงาม ด้านศิลปวัฒนธรรม และประเพณีของชาวเชียงใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์น่าประทับใจ และความพรั่งพร้อมในเรื่องสถานที่พักและบริการด้านการท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่หลากหลาย เป็นที่ดึงดูดคนมาท่องเที่ยวนับล้านคนในแต่ละปี ขอบอกว่าเที่ยวจังหวัดเดียวนี่คุ้มเกินคุ้ม เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พระธาตุดอยสุเทพ, วัดสวนดอก, สวนสัตว์เชียงใหม่, เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี, ดอยอินทนนท์ และดอยปุย เป็นต้น
18. สิมิลัน จ.พังงา
สิมิลัน หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เป็นหมู่เกาะกลางทะเลอันดามันที่เป็นเลิศในด้านความงามของปะการังใต้ท้องทะเล อยู่ที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา โดยคำว่า "สิมิลัน" เป็นภาษายาวีหรือมลายู แปลว่า เก้าหรือหมู่เกาะเก้า ซึ่งมีทั้งหมด 9 เกาะ เรียงลำดับจากเหนือมาใต้ ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี 2 เกาะติดกัน) เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก ( เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู ซึ่งหมู่เกาะเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความงามทั้งบนบกและใต้น้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ของท้องทะเล สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก มีปะการังที่มีสีสันสวยงามหลายชนิด ปลาหลากสีสันและหายาก
19. เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เกาะสมุย ที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวไทยห่างจากสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออก 84 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็ต่างขนานนามให้เกาะสมุยว่าเป็น "สวรรค์กลางอ่าวไทย" เนื่องจากเกาะสมุยมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น สวยงาม มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม อาทิเช่น น้ำทะเลใสบริสุทธิ์ หาดทรายขาวทอดขนานไปกับทิวต้นมะพร้าวริมชายหาด และนอกจากธรรมชาติชายทะเลแล้ว ยังมีน้ำตกที่มีน้ำใสเย็นเกือบตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวที่แสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของชาวท้องถิ่น
ทางด้านท้องทะเลรอบเกาะสมุยก็ยังมีแนวปะการังอยู่ทั่วไป มีแหล่งปะการังที่อุดมสมบูรณ์อยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ไม่เพียงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเท่านั้น เกาะสมุยยังพร้อมไปด้วยโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท สนามกอล์ฟ สปา ร้านอาหาร สถานบันเทิง บริการนำเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนเกาะสมุยแล้ว ต้องหวนกลับมาอีกครั้ง
20. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอด ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีอยู่สองข้างถนนสู่ทับเบิกสวยงาม ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกซากุระหรือ นางพญาเสือโครง สีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา
กาญจนบุรี จังหวัดหนึ่งในภาคกลางที่มีผู้คนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะเต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจ แหล่งอารยธรรมเก่าแก่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่ตั้งของสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าเขาลำเนาไพร ถ้ำ และน้ำตก อีกทั้งยังอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ 129 กิโลเมตร เท่านั้นเอง
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรีที่น่าสนใจ เช่น พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวร, อุทยานแห่งชาติถ้ำธารลอด, สวนผึ้ง, เขาแหลม, เขื่อนศรีนครินทร์, สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก, ช่องเขาขาดพิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ, อุทยานแห่งชาติไทรโยค และทางรถไฟสายมรณะ ฯลฯ
22. ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย
ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น อยู่ในพื้นที่เขตอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติด้วยลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลม เป็นแนวยาวที่ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า "ภูชี้ฟ้า" นั่นเอง สำหรับไฮไลท์สำคัญของภูชี้ฟ้า ต้องยกให้จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม อีกทั้งทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล
โดยในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมในหุบเขาเบื้องล่าง มีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก ท่ามกลางทุ่งหญ้า แซมด้วยทุ่งดอกโคลงเคลง (ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว) สวยงามราวกับภาพวาด อย่าบอกใครเชียว!!! และหากรอจนสายหมอกถูกความร้อนระเหยหมดแล้ว ก็ยังคงมองเห็นสายน้ำโขงไหลคดเคี้ยว ท่ามกลางป่าไม้ของฝั่งลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์อีกด้วย และหากมาเที่ยวภูชี้ฟ้าในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม เส้นทางขึ้นภูชี้ฟ้าจะผ่านป่าซากุระหรือต้นพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยงามมากอีกเช่นกัน
23. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
หัวหิน นับเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย จากแต่เดิมที่เป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง และได้ถูกเปลี่ยนแปลงจนกลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนติดทะเล ที่ติดอันดับความนิยมของประเทศในตอนนี้ อีกทั้งปัจจุบัน "หัวหิน" มีที่พัก รีสอร์ท และโรงแรมชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ทของชาวบ้านเอง หรือรีสอร์ทที่เป็นระดับห้าดาวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เสน่ห์ของหัวหินยังคงเป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนตลอดทั้งปี
อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงหัวหินหลายคนมักนึกถึงทะเล แต่จริง ๆ แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบเมืองอีกมากมาย เช่น พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน, พระราชวังบ้านปืน, สถานีรถไฟหัวหิน, เขาหินเหล็กไฟ, เขาตะเกียบ, หาดสวนสนประดิพัทธ์, ตลาดโต้รุ่งหัวหิน, เพลินวาน, The Cicada Market ตลาดปล่อยของสุดเก๋, ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม และตลาดฉัตรศิลา
24. เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
เกาะสงบ ๆ อีกแห่งทางฝั่งตะวันออกของประเทศไทย เดินทางเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ก็จะพบกับน้ำทะเลสวย ๆ หาดทรายขาว ๆ โดยเกาะสีชังเป็นเกาะใหญ่ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชา ประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ บนเกาะสีชังและแม้จะไม่มีชายหาดสวยงามลือชื่อ เหมือนกับเกาะแก่งอื่น ๆ ของเมืองไทย แต่ทัศนียภาพก็งดงาม แถมมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่รอให้นักเที่ยวทั้งหลายไปเยือนกันด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น พระจุฑาธุชราชฐาน (ท่าวัง), ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, ช่องเขาขาด และหาดถ้ำเขาพัง ฯลฯ
25. อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
อัมพวา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม บรรยากาศของที่นี่จะร่มรื่นไปด้วยสวนผสมริมน้ำ ทั้งลิ้นจี่ มะม่วง มะพร้าว มะละกอ กล้วย ส้มโอ ฯลฯ สารพัดผลไม้รอให้เรามาชื่นชม โดยเราสามารถหลบร้อนไปลงเรือล่องคลองชมสวน สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ชิมผลไม้ต่าง ๆ หรือซื้อกลับไปกินบ้านให้ชื่นฉ่ำใจก็ได้ไม่มีใครว่า หรือจะเลือกปั่นจักรยานเช่าถีบไปคู่ขนานกับท้องร่องก็ได้อรรถรสอีกแบบหนึ่ง แต่ไฮไลท์เด็ด ๆ ของที่นี่คือ การชมและชิมอาหารหลากหลายที่ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดริมคลอง เปิดตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00 - 20.00 น. ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ และมีรถเข็นขายของบนบกด้วย บรรยากาศสบาย ๆ มีเพลงฟัง จากเสียงตามสายของชาวชุมชน ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิงห้อยในยามค่ำคืนได้
และนี่คือ "25 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอต ในปี 2555" ที่คนไทยจากทั่วทั้งประเทศนิยมออกเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อน เติมกำลังใจ คลายเครียดให้กับตัวเองกัน เอ...แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ ในปี 2555 นี้ได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวไทยที่ไหนกันมาบ้างหรือเปล่า?
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
และ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
Post a Comment