ในหลวงเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ประชาชนชื่นชมพระบารมีในวันที่่ 5 ธันวาคม 2555





          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต แล้ว โดยประชาชนเรือนแสนต่างสวมเสื้อเหลือง โบกธง ตลอดสองเส้นทางที่เสด็จฯ โดยต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง


















ในหลวงเสด็จสีหบัญชร


          ในหลวงเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงมีพระราชดำรัส ขอบใจประชาชนชาวไทยที่พรั่งพร้อมกันมา ปลื้มใจมีกำลังใจมากขึ้น ขอให้ประชาชนยึดคุณธรรม ความพร้อมเพรียงทำให้บ้านเมืองอยู่รอด

          เมื่อเวลาประมาณ 10 .00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า โสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทร กิติคุณ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์ พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระที่นั่ง อนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เพื่อเสด็จฯออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.2555 ณ สีหบัญชร
          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพักตร์แจ่มใส ทรงแย้มพระโอษฐ์ให้กับประชาชนที่มาเฝ้าฯรอรับเสด็จฯบริเวณชั้นล่างของอาคารเฉลิมพระเกียรติ โดยต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง รวมทั้งหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติที่ได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

          โดยขบวนเสด็จพระราชดำเนินในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เคลื่อนออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ผ่านทางประตู 8 ด้านหน้าตลาดวังหลัง ไปตลอดเส้นทางถนนพรานนก ด้านข้างโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเมื่อเสด็จพระราชดำเนินเคลื่อนผ่าน ประชาชนที่มารอเฝ้าชื่นชมพระบารมี ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง โดยต่างโบกธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ คู่กับธงไตรรงค์ กันอย่างพร้อมเพียง ด้วยความจงรักภักดี ขณะที่ประชาชนหลายคนกลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และร้องไห้ด้วยความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยก่อนหน้าที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ จะเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ประชาชนทั้งริม 2 ฝั่งถนน ต่างพร้อมใจกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติอีกด้วย

          จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร ความว่า

           "คำอวยพรและคำปฏิญาณสัญญา ที่ทุกท่านได้กล่าวนั้น เป็นที่ประทับใจมาก ขอขอบใจ และประทับใจท่านทั้งหลาย ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคนที่พรั่งพร้อมกันมาด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต ความปรารถนาดีและความพร้อมเพรียงกันของทุกท่าน อย่างที่ได้เห็นในวันนี้ ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมากขึ้น ด้วยความเชื่อเสมอว่า ความเมตตาปรารถนาดีของท่านต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญ ที่จะทำให้ความพร้อมเพรียงให้เกิดขึ้น ดีขึ้น ทั้งในหมู่คณะ และในชาติบ้านเมือง แต่ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมอันนี้ มีคุณธรรมข้อนี้ ประจำอยู่ในจิตใจ ก็จะมีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และธำรงค์มั่นคงต่อไป ได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน"

          "ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครอง รักษาท่าน และชาติไทย ให้มีแต่ความผาสุข ร่มเย็น ยั่งยืน ต่อไป"

          ขณะที่ สำนักข่าวบีบีซีของประเทศอังกฤษ เผยแพร่ข่าวพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยระบุใจความตอนหนึ่งว่า ขบวนแถวของคนไทยจำนวนมาก ริม 2 ฝั่งถนนของกรุงเทพมหานคร ภายนอกของพระบรมมหาราชวัง รอเฝ้าฯ รับเสด็จในพระราชพิธีนี้ ซึ่งในหลวงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก เป็นระยะเวลา 65 ปี

          โดยบีบีซี ยังระบุว่า ในหลวง ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย แม้ในภาวะทีมีปัญหาทางการเมือง หรือประสบภาวะอุทกภัย อย่างไรก็ตาม พระองค์ได้ทรงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา


07.00 น. ประชาชนทยอยเฝ้ารอรับเสด็จฯ ในหลวงล้นลานพระรูป-รพ.ศิริราช

          ประชาชนทยอยเดินทางเฝ้ารอรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเต็มลานพระราชวังดุสิตแล้ว ต่างพร้อมใจกันร้องเพลงสดุดีมหาราชาถวาย

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (5 ธันวาคม) ประชาชนจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศทยอยเดินทางมายังลานพระราชวังดุสิต โดยต่างพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองเพื่อเฝ้ารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จออกมหาสมาคมงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2555 ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในวันนี้ ซึ่งบางครอบครัวเดินทางมาจากต่างจังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงภาคใต้ตอนล่างสุดของประเทศ ทั้งสตูล ปัตตานี นราธิวาส ที่มาจับจองพื้นที่บริเวณด้านหน้าลานพระราชวังดุสิตตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา  ซึ่งขณะนี้มีประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาจนเต็มลานพระราชวังดุสิตแล้ว

          บรรยากาศขณะนี้ หลายคนได้มีกิจกรรมสันทนาการ เพื่อรอเวลาเฝ้ารอรับเสด็จฯ ด้วยการเล่นดนตรีบทเพลงพระราชนิพนธ์ บางคนจับกลุ่มคุยกัน ทั้งที่มาจากต่างถิ่น และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งนี้ เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ประชาชนทุกคน ต่างพร้อมใจกันลุกขึ้นยืน โบกธง และร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

          สำหรับการเข้ามาในลานพระราชวังดุสิต ตำรวจได้นำรั้วเหล็กมากั้นและเปิดช่องทางให้เดินเข้า ขณะที่บริเวณฟุตปาธของถนนโดยรอบ มีการติดตั้งจอภาพแอลซีดีขนาดใหญ่ไว้โดยตลอด เพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธีในครั้งนี้ได้ชมการถ่ายทอดสดด้วย 

เฝ้ารับเสด็จ

          ขณะที่บรรยากาศที่โรงพยาบาลศิริราช มีประชาชนเดินทางมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา บริเวณใต้อาคารเฉลิมพระเกียรติไปจนถึงถนนพรานนกด้านข้างกำแพงโรงพยาบาลศิริราชเรื่อยไปตลอด 2 ข้างทางจนถึงแยกศิริราชเพื่อรอเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ที่จะเสด็จพระราชดำเนินออกจากที่ประทับไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ในเวลาประมาณ 09.40 น. โดยใช้ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนได้ชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

หมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2555

           เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร  เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต หลังจากนั้นเสด็จขึ้นชั้น 2 ทรงฉลององค์ครุย

           เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท 

           เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้ว พนักงานรัวกรับ เปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่งทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด

           เมื่อสิ้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูล พระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้าที่พระที่นั่งอนันตสมาคม 

           เวลาต่อมา นายกรัฐมนตรีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ตามด้วยประธานรัฐสภาและประธานศาลฎีกา หลังจากนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนที่ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพจะถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมถวายความเคารพพร้อมกัน
           ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอบ เมื่อจบแล้ว ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึกประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

นครบาลเผยเส้นทางขบวนเสด็จฯ จากโรงพยาบาลศิริราช ยังพระที่นั่งอนันตสมาคม 

          กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บช.น. เปิดเผยเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ในเวลาประมาณ 10.00 น. ขบวนเสด็จฯ จะใช้ความเร็ว 30 ก.ม./ช.ม.เพื่อให้ประชาชนได้ชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด 

          โดยใช้เส้นทางจากโรงพยาบาลศิริราช มายังถนนอรุณอมรินทร์ ขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เข้าถนนราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าถนนนครสวรรค์ ต่อเนื่องแยกนางเลิ้ง เข้าถนนพิษณุโลก เลี้ยวขวาแยกพาณิชยการ เข้าถนนพระราม 5 ไปเลี้ยวซ้ายที่ถนนราชวิถี และซ้ายเข้าถนนอู่ทองใน จากนั้นรถพระที่นั่งจะเลี้ยวเข้าประตูทวยเทพสโมสร ประตูด้านหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม

          สำหรับในการเสด็จพระราชดำเนินกลับก็จะใช้เส้นทางเดิม

ปิดถนน

บก.จร. เตรียมปิดเส้นทางจราจรเพิ่ม รองรับประชาชนเรือนแสน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ บก.จร. ได้ปิดเส้นทางจราจร 4 เส้นทางหลักแล้ว คือ ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกวัดเบญจมพิตร ผ่านลานพระบรมรูปฯ - แยก พล.1 ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชยการ สะพานชมัยมรุเชษฐ์ แยกมิสกวัน - แยกวังแดง บริเวณถนนราชดำเนิน แยกสวนมิสกวัน - สะพานมัฆวาน

          อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีจำนวนมากขึ้น บก.จร. จะปิดเส้นทางเพิ่มเติมบนถนนกรุงเกษม ตั้งแต่สะพานมัฆวาน - แยกประชาเกษม และแยกมัฆวานถึง - จ.ป.ร. ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางจะรองรับประชาชนได้กว่า 200,000 คน




พสกนิกร

ในหลวงเสด็จสีหบัญชร

ในหลวงเสด็จสีหบัญชร



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก 
   


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์ , ครอบครัวข่าว 3 ไทยพีบีเอส , Instagram onizugolf, runz_thanapon, pompamme, jajarlalah, newffer,  smintacy,  peko_park 
คลิปวีดีโอ Youtube.com
เรียบเรียง : Ruengdd.com