พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เซเลบผู้คลั่งไคล้กระเป๋าแอร์เมส ราคานับล้าน


พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เซเลบผู้คลั่งไคล้กระเป๋าแอร์เมส ราคานับล้าน



พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เซเลบผู้คลั่งไคล้กระเป๋าแอร์เมส ราคานับล้าน

           ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในไอเทมประจำกายของผู้หญิงที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นคือ "กระเป๋า" ที่สามารถบ่งบอกถึงฐานะและรสนิยมของผู้ถือได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกระเป๋าหนังซูเปอร์แบรนด์ต้องยกให้กับ "แอร์เมส" ซึ่งถือเป็นกระเป๋าที่แพงที่สุดที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ปรารถนาที่จะครอบครอง
           และเมื่อค่ำคืนวันที่ 4 ธันวาคม รายการตีสิบจึงขอจับเข่าคุยกัน พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เซเลบฯ คนดัง ผู้ซึ่งคลั่งไคล้และหลงใหลกระเป๋าแบรนด์เนม "แอร์เมส" ซึ่ง ณ ตอนนี้เรียกได้ว่าเธอมีกระเป๋าเกือบ 40 ใบแล้ว และที่สำคัญแต่ละใบมีราคาถึงหลักแสน-ล้านเลยทีเดียว! 

พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เซเลบผู้คลั่งไคล้กระเป๋าแอร์เมส ราคานับล้าน
           สำหรับ พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ หรือ หมอเคท จบคณะแพทยศาสตร์ โดยเรียนเฉพาะทางด้านศัลยกรรมและเลเซอร์ที่ประเทศไทย หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางผิวหนังที่ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันทำงานเป็นแพทย์ด้านการเสริมความงามโดยเปิด "ของขวัญคลินิก" ซึ่งปัจจุบันมี 12 สาขาทั่วประเทศแล้ว
           โดย พญ.ของขวัญ เปิดเผยถึงความชื่นชอบกระเป๋าแบรนด์เนมให้ฟังว่า จริง ๆ แล้วผู้หญิงทุกคนก็คลั่งไคล้เรื่องความสวยความงามในทุก ๆ ด้าน ทั้งเสื้อผ้า นาฬิกา กระเป๋า รองเท้า รถ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าสำหรับรองเท้า ถ้าให้เอาเงินแสนไปเหยียบตนทำใจไม่ได้ เพราะรองเท้าเป็นส่วนที่ไม่ว่าจะระวังยังไงก็เลอะและเสียได้ง่าย ส่วนเสื้อผ้าสวย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องแพง ขอแค่รสนิยมดีก็พอ ดังนั้นราคาไม่ได้บ่งบอกความมีรสนิยมของเสื้อผ้าเสมอไป ในขณะที่กระเป๋าสามารถบ่งบอกสไตล์การแต่งตัวในวันนั้น ๆ ได้ เช่น ลุคเปรี้ยว หวาน เท่ ฯลฯ และการได้หิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมทำให้รู้สึกดี เป็นการตอบสนองความต้องการของตนเอง

พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เซเลบผู้คลั่งไคล้กระเป๋าแอร์เมส ราคานับล้าน

พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เซเลบผู้คลั่งไคล้กระเป๋าแอร์เมส ราคานับล้าน
           สำหรับยี่ห้อแอร์เมสที่คลั่งไคล้เป็นพิเศษนั้น คุณหมอ เล่าว่า ตนเป็นคนที่ชอบใช้ของดี ตอนที่เรียนจบใหม่ ๆ ก็ได้ทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งตนก็มีความสนใจด้านการตลาด ซึ่งแนวทางการตลาดที่ตนสนใจเป็นพิเศษคือของแบรนด์แอร์เมส เพราะเป็นแบรนด์ที่มีมาถึง 200 ปีแล้ว แต่ยังคงคลาสสิคไม่ตกยุคเลย และ ณ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนต่อคิวซื้อกระเป๋าที่ปารีสอย่างมากมาย โดยราคาจะขึ้นอยู่กับหนังที่ใช้ทำ ถ้าหนังธรรมดาก็ราว 3 แสนบาท ส่วนรุ่นเบอร์กิ้น ที่ทำจากหนังจระเข้ที่มีการเลี้ยงอย่างดี บุนวมไม่ให้ผิวของจระเข้ถลอกเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งมีราคานับล้านบาท

พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เซเลบผู้คลั่งไคล้กระเป๋าแอร์เมส ราคานับล้าน
           พญ.ของขวัญ เล่าต่อไปว่า กระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกตนได้มาจากพ่อและแม่ ซึ่งเป็นของขวัญหลังจากที่ตั้งใจเรียนมาอย่างหนักจนสามารถสอบติดแพทย์ได้ ซึ่งการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสำหรับตนถือเป็นการให้รางวัลชีวิต ไม่ใช่ความฟุ้งเฟ้อแต่อย่างใด แต่มันเป็นงานอดิเรกและเป็นสิ่งที่ตนรัก
พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เซเลบผู้คลั่งไคล้กระเป๋าแอร์เมส ราคานับล้าน
           ทั้งนี้ จากรสนิยมในกระเป๋าแบรนด์เนมนั้น ทำให้ พญ.ของขวัญ ถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น เจ้าตัวยอมรับว่า ตนรู้ดีว่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ รวมถึงเข้าใจและไม่เข้าใจ บางคนถึงกับกล่าวว่า "กระเป๋าแพง ๆ แบบนี้มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโง่ด้วย" ซึ่งตนก็อยากจะฝากไว้ด้วยว่า บางครั้งถ้าเราไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายหนึ่งโง่ มันเป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคล ที่เราไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น 
           ผู้หญิงและความสวยงามแม้จะเป็นของคู่กัน...แต่ก็ต้องอยู่ในระดับที่ "พอดี" ของแต่ละคน ซึ่งอยู่ในระดับแตกต่างกันไป เพราะถ้าหากตามกระแสแฟชั่นมากเกินไปโดยไม่ได้คำนึงถึงฐานะแล้วล่ะก็ มันอาจจะนำมาซึ่งความฟุ้งเฟ้อและกิเลสอย่างหาที่สุดไม่ได้นะจ๊ะ
 ประวัติแพทย์หญิงของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์
          ชื่อ-นามสกุล : แพทย์หญิงของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์
          ชื่อเล่น : เคท

ประวัติครอบครัว :
          บิดา : นพ.วิเศษ ฟูจิตนิรันดร์
          มารดา : นางฉวีวรรณ ฟูจิตนิรันดร์

การศึกษาและดูงาน : 
          - จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนปรีชานุศาสตร์ จังหวัดชลบุรี
          - จบปริญญาตรี คณะแพทย์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
          - จบอนุปริญญา วิทยาศาสตร์ผิวหนังจากวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์ ประเทศอังกฤษ
          - วุฒิบัตรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์การแพทย์ความงาม ประเทศสหรัฐอเมริกา
          - วุฒิบัตรศัลยกรรมเลเซอร์เฉพาะทาง ประเทศสหรัฐอเมริกา
การทำงาน : 
          - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์การแพทย์ความงาม
          - เจ้าของคลินิกความงาม ของขวัญคลินิก มีอยู่ 12 สาขา
          - ประธานกรรมการบริหารของขวัญคลินิก






Change The Life Wins Beauty

indyพญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์...เปลี่ยนชีวิต พิชิตความงาม อดีตสาวบ้านๆ ที่ไม่เคยนึกฝันว่าสักวันจะกลายมาเป็นกูรู ผู้ให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนรูปโฉม ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้ใครก็ตามที่อยากสร้างลุคส์ใหม่ให้สวยขึ้นได้ในแบบที่คาดไม่ถึง
เชื่อว่ามีผู้อ่านหลายท่านสนใจ ใคร่อยากจะรู้จัก หมอสาว(แถมสวย) พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เธอคนนี้เป็นใคร ไฉนฉายแสงวิบวับ โฉบไปมาตามหน้าแม็กกาซีน รายการทีวี มีออกสื่อฯ ต่างๆ ให้เห็นอยู่เป็นนิจ และคงอีกจำนวนไม่น้อยที่อยากทราบคุณสมบัติพร้อมสรรพคุณดีกรีว่าเธอมีดีมากพอแค่ไหน ที่จะขอยกตัวเองให้เป็นกูรูด้านความงาม สมกับความมั่นใจและเชื่อถือได้ของคนไข้... มาทำความรู้จักสาวมั่นตัวแม่ ที่ฉีกบทบัญญัติของการเป็นแพทย์ พร้อมสเต็ปเมคโอเวอร์ ที่กว่าจะมาเป็นเธอจนถึงทุกวันนี้ไม่ยากและไม่ง่าย ในแบบไม่มีกั๊ก!
Start :ที่มาของแรงบันดาลใจ
จากความที่ไม่เคยคิดอยากเป็นหมอ แต่ เหมือนชีวิตถูกขีดเส้นไว้ให้สอบติด ‘แพทย์' แม้ใจไม่ถนัดรักษาอาการด้านเจ็บไข้ได้ป่วย แต่โชคช่วยให้ถูกโฉลกกับศาสตร์ของความงาม จึงเลือกที่จะทำด้วยใจรัก
"ตั้งแต่เด็กเลยคนจะชอบทักว่าคุณแม่ดูสาวและสวย แต่กับเรานี่มองผ่านทั้งที่เป็นแม่ลูกกัน จึงเหมือนเข้าใจไปเองว่าเราคงไม่สวย... คือ บ้านที่ชลบุรีเปิดคลินิกความงามมาร่วม 30 ปี คุณพ่อกับคุณแม่ท่านเป็นหมอด้วยกันทั้งคู่ เราก็อยู่กับนวัตกรรมเครื่องมือฯ ครีมบำรุง อะไรต่างๆ มาโดยตลอด แต่ไม่เคยอยากจะใส่ใจหรือคิดใช้ช่วยบำบัดให้ตัวเองดูดีขึ้นแม้แต่น้อย

มารู้สึกตัวอีกทีเพื่อนคนนั้นคนนี้ มีหนุ่มๆ มาจีบ เรายังนั่งมึนทั้งอ้วนและดำ ฟันก็เหยิน เรียกว่านึกภาพไม่ออกว่าความงามสำหรับเราเป็นแบบไหน? กระทั่งสอบติดแพทย์ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งที่กรุงเทพฯ สภาพเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงฯ อย่างที่เห็นในละครยังไงยังงั้น... ตื่นเต้น ชื่นชมคนกรุงเทพฯ ว่าทำไมเขาถึงสวยขาวกันจัง ตัวเรางี้เป็นยัยเพิ้ง ที่ใครเห็นร้อยคน ก็มองเมินผ่านทั้งร้อยคน แต่ไม่คิดเป็นปมด้อยหรือแอบน้อยใจอะไรนะ รู้สึกแค่ว่า ‘เด็กกรุงเทพฯคงเป็นคนละเชื้อพันธุ์กับต่างจังหวัดอย่างเรา' คือ เหมือนยอมรับในโชคชะตา โดยหารู้ไม่ว่าเป็นความคิดที่ผิด!!! 
การศึกษาสอนให้คนฉลาด เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เปรียบเทียบตัวเองกับเด็กกรุงเทพฯคนอื่น จึงรู้ว่าเราต้องเปลี่ยน พบเรียนจบเทอมแรกกลับถึงบ้านที่ชลบุรี ในคลินิกมีสารพัดเครื่องมือความงามอะไรนำมาใช้ทำกับตัวเองหมด ทั้งยิงเลเซอร์ ทรีตเม้นท์ ผลักวิตามิน ลดความอ้วน บำรุง AHAเพื่อให้ตัวขาวใส ฯลฯ เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกสิ่งอย่าง จนเริ่มดูดีขึ้น ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคย!(เน้นเสียงหนัก) คุณพ่อคุณแม่งงมากที่ลูกสาวคนเดียวหันมาใส่ใจดูแลตัวเองขนาดนี้ เพราะท่านไม่เคยส่งเสริมด้วยอยากให้เราสดใสน่ารักแบบเด็กๆ 
...พอเปิดเทอมสอง เชื่อมั๊ย? ไม่มีใครจำได้ เพราะขาวขึ้น หุ่นดีขึ้น เริ่มมีคนเข้ามาจีบ เพื่อนสาวยังมีมาขอเคล็ดลับ ยิ่งทำให้เรามั่นใจ เรียกได้ว่าสลัดหลุดจากคราบ ‘สาวบ้านๆ หน้าตาดูย่ำแย่' ทิ้งไปชนิดไม่มีเหลือ"

Change : จัดหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง
แม้จะมองคนอื่นว่าสวยกว่า แต่ไม่คิดชิงดีชิงเด่นกับใคร พอเริ่มจับทริคได้ว่า ‘ความงามไม่จำเป็นต้องมีตั้งแต่กำเนิด' ก็เกิดปฏิวัติตัวเองเสียยกใหญ่ คราวนี้ละเธอ ‘ไม่ยอมหยุดสวย'
"คนที่กำลังจำนนอยู่กับสภาพแย่ๆ ของตัวเองจะไม่รู้เลยว่าถ้าคุณดูดีขึ้น จะมีความสุขมากขนาดไหน เหมือนเช่นที่ตัวหมอเคยเจอกับตัวเองมาเกือบยี่สิบปี ก็ไม่เคยรู้ว่า ‘ความสวย' จะช่วยให้มีโอกาสดีๆ อะไรบ้างเดินเข้ามาในชีวิต ...
หากนึกไม่ออกลองจินตนาการถึง ผีเสื้อสมุทรกลายร่างเป็นอั้ม-พัชราภา เพียงชั่วข้ามคืน ชีวิตจะ หลั่น.. ล๊า มีความสุขขนาดไหน? ไม่มีทางรู้จนกว่าจะยืนอยู่ยังจุดๆ นั้น ...ทีนี้เมื่อทำสำเร็จจะกลับลงมาใหม่ก็ไม่ได้แล้วนะ เพราะรับความรู้สึกของรสชาติ ‘ความสวย' และ ‘ความโทรม' ว่าอยู่จุดไหนแล้วสบายใจกว่ากัน
เมื่อก่อนที่ไม่คิดทำอะไรให้กับตัวเองเลย เพราะไม่เคยมีคนบอกว่านวัตกรรมความงามจะช่วยให้ดูดีขึ้นได้ ผลที่ออกมาจะ ‘อเมซิ่ง' ถึงขนาดนี้ ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือจริงๆ เรียกว่าเดินไปไหนคนเกินครึ่งต้องเหลียว ยังเสียดายว่าหากรู้ จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียแต่เนิ่นๆ โดยไม่รอจนเข้ามหา'ลัยก่อน
ถามว่า ใครเป็นคนกำหนดว่าหมอต้องใส่แว่น เป็นเด็กเรียน เรียบร้อย ด้วยลุคส์ตัวเองคนอาจมองดูเหมือนแรง คนเราพอสวยขึ้นจะเริ่มมั่นใจ และยิ่งมากขึ้น มากขึ้นไปเรื่อยๆ เรียกว่าแรงได้อีก แบบไม่รู้ตัว
หากมีใครมาทักว่าสวยเพราะศัลยกรรม ก็จะบอกกลับไปว่า ‘ยังดีที่ทำแล้วสวยขึ้น ผิดกับบางคนที่ทำมากแค่ไหนก็ยังดูไม่ดี' ซึ่งที่ทำทั้งหมดยังไม่เรียกว่า ‘ศัลยกรรม' แต่เป็นการนำนวัตกรรมความงามมาช่วย"
Step : จัดเต็มทุกสเต็ปความงาม แต่ยังไม่เสร็จสรรพ
จากจุดเริ่มจนถึงปัจจุบัน เธอได้ค้นพบว่า เวชศาสตร์ของความงาม นั้นสรรค์สร้างให้คนสวยขึ้นได้จริงๆ
"ทำอะไรให้กลับตัวเองมามากน้อยแค่ไหนหรือคะ เริ่มจากปรับรูปหน้าตัวเองก่อน เบาๆตั้งแต่สักคิ้วสามมิติ ต่อขนตาถาวร ฉีดฟิลเลอร์ให้จมูกโด่งและเติมคางให้ยาวขึ้น โบท็อกซ์หน้าเรียว ฉีดสลายไขมันเพื่อลดมุมป้านที่กรามให้หน้าแคบเล็กลง ที่ไม่อยากศัลยกรรมถาวรก็เพราะ ในเมื่อเรามีทางเลือกที่ไม่ต้องเจ็บตัว ปั้นแต่งให้เป็นทรงที่ชอบได้ แถมบอกทุกคนได้ว่าไม่ผ่านมีดหมอ ส่วนยิงเลเซอร์และRF ทำอยู่ตลอด
สเต็ปสูงขึ้นมาอีกขั้น คือฉีดเซลล์กรอบหน้าเพื่อสร้างคอลลาเจน จะช่วยยกรอบวงหน้าให้ตึงขึ้น ฉีด 2 ปี/ครั้ง เป็นเทคโนโลยีใหม่ ช่วยดึงหน้าผากโหนกเด่นขึ้นด้วย แล้วก็มีร้อยทองเข้าที่ใบหน้าข้างละเส้นโดยให้โปรเฟสเซอร์ที่อเมริกาทำให้ รวมถึงฉีดสเต็มเซลล์บำบัดเป็นการรักษาโรคภูมิแพ้ซึ่งช่วยกระชับรูขุมขนให้หน้าเด้งตึงขึ้นได้
ส่วนเรือนร่าง เป็นคนอ้วนง่ายมาก รู้ว่าเทคโนโลยีไหนดี เห็นผลไว ได้ผลจริง ก็จัดการเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับอาจารย์มารักษาที่คลินิก แล้วให้ทำตัวเราเองด้วย ตั้งแต่ดูดไขมันที่แขน เอว หน้าท้อง และส่วนเกินต่างๆ ฉีดโบท็อกซ์ลดน่อง คาร์บ็อกซี่นี้หมอจิ้มให้ตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน ส่วนหน้าอกนี้ของจริงค่ะน้ำหนักลดอย่างไรก็ไม่มีลง เป็นความภูมิใจที่สุดอย่างหนึ่ง คือเราไม่ได้จัดตารางความงามให้ตัวเอง แต่ถ้ารู้สึกว่าด้อยจุดไหนจะรีบแก้ไขทันที ก็มีที่รักษาให้ตัวเองไม่ได้คือ ‘จัดฟัน' ยังอยู่ในกระบวนการที่เรียกว่า สวยไม่เสร็จ(หัวเราะ)
จริงๆ มองตัวเองว่าสวยขึ้นแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ความที่ต้องแนะนำคนไข้ จึงยิ่งต้องทำโน่นนี้ เพื่อจะได้อธิบายให้คนไข้ฟังได้ถูก ไม่นึกว่าสิ่งที่ทำจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นแบบเรา"
Expert : ความถนัดในการรักษา
ความที่พร้อมทุกนวัตกรรมเครื่องมือทำสวย แต่ใช่ว่าคลินิกอื่นจะไม่มี จึงต้องสู่กันที่ฝีมือและความแตกต่าง ด้วยเทคนิคที่ยากจะลอกเลียนแบบ
"วางแนวทางรักษาของตัวเองไว้ว่าจะชัดเจน ในการที่จะเปลี่ยนคนๆ คนหนึ่งให้เป็นอีกคนหนึ่งแบบพลิกฝ่ามือ โดยที่ไม่สังเกตได้คนเดียว ทำแล้วคนอื่นต้องทักหมด นั้นจะถือว่าการรักษาประสบความสำเร็จ ทุกบาทที่คนไข้จ่ายต้องคุ้มค่า ไม่อยากเป็นหมอผิวหนังแบบผิวเผินที่ทำได้แต่เรื่องเบาๆ อย่าง รักษาสิว ฝ้า ฯลฯ ชอบที่จะเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ไปเลย
เมื่อเราแนะนำคนไข้ให้สวย ก็ต้องเป็นแบบอย่างให้คนไข้ดู ว่ารักษาด้วยเครื่องมือนี้ผลจะออกมาเป็นอย่างนี้(ชี้ที่หน้าตัวเอง) เครื่องมือทุกอย่างในคลินิกลองใช้มาหมด เพื่อจะบอกคนไข้ได้ว่าหากทำแล้วจะรู้สึกอย่างไร
จริงๆ แล้วคลินิกไหนมีเงินก็ซื้อเครื่องเจ๋งๆ แพงๆ ได้จริง แต่ที่คลินิกเราไม่ได้ใส่ใจเฉพาะนวัตกรรมใหม่ล่าสุด จะดูที่ผลลัพธ์เป็นหลัก หากเครื่องมือใดตอบโจทย์ของคนไข้ได้ดีที่สุดจึงซื้อ นอกจากการเลือกใช้เครื่องมือแล้ว ต้องสู้กันที่ฝีมือการรักษาด้วย เพราะคนไข้ไม่สนหรอกว่าใช้เครื่องอะไร เขาสนใจแค่ปัญหาที่เห็นหายหรือไม่
สำหรับตัวหมอเอง ชอบที่ใช้การรักษาแบบผสมผสานจุดเด่นที่ทำอยู่คือ ดูดไขมันแบบครบวงจร กับการร้อยทอง และเซลล์บำบัดซึ่งลองกับตัวเองแล้วว่าได้ผลดี"

Status : บทบาทหน้าที่และชีวิตนับร้อยที่ต้องดูแล
ด้วยวัยที่เพิ่งแตะเลขสาม แต่ต้องสวมใส่ไว้หลายมงกุฎ ไม่ได้สร้างความหวั่นไหวหรือทำให้เธอท้อแท้ใจ กลับกลายเป็นพลังผลักดันให้มุ่งสู่จุดหมายที่ฝันไว้
"พอจบแพทย์ใหม่ๆ ก็ใช้ชีวิตเป็นหมอพาร์ทไทม์ตามคลินิกความงามต่างๆ ก็มองเห็นแง่มุมการบริหารผนวกกับวิธีการรักษาในแบบของเราไม่ตรงกับคอนเซ็ปของคลินิกนั้นๆ จึงเป็นแรงผลักดันให้เริ่มสร้างคลินิกของตัวเอง โดยหุ้นร่วมกับเพื่อนสนิทซึ่งเป็นกลุ่มแพทย์ด้วยกัน เปิด ‘ของขวัญคลินิก' เปิดครั้งแรกทีเดียว 3 สาขา และด้วยความที่ยังเด็กมากจบแพทย์มาได้เพียงปีเดียว ทำให้มีสาขาหนึ่งไม่ประสบความสำเร็จ ต้องปิดตัวลงเพราะดูแลไม่ทั่วถึง เหลือเฉพาะที่ดูแลไหวจริงๆ
ช่วงแรกๆอึดมากรักษากันแบบเช้าจรดค่ำ พอคนไข้เริ่มติด ช่วยบอกปากต่อปาก กิจการก็ดีขึ้น ปัจจุบันมีทั้งหมด 9 สาขา เรียกได้ว่าสร้างมากับมือ ติดต่อเองทุกอย่าง ตั้งแต่บริษัทยา หาซื้อและลองเครื่องมือแพทย์ รับสมัครพนักงาน เลือกแพทย์ประจำคลินิก ตกแต่งบรรยากาศภายในให้เป็นคลินิกที่คนอยากเข้า ฯลฯ งานทุกชิ้นผ่านมือมาหมด ถือเป็นความรับผิดชอบโดยเฉพาะคนไข้ และทีมงานทุกคน เปรียบเสมือนญาติสนิทที่ต้องใส่ใจอย่างใกล้ชิด
ถามว่าจุดนี้พอใจหรือยัง? ทุกอย่างต้องมีก้าวต่อไปเสมอ ตราบที่ยังมีลมหายใจอยู่ นี้ก็กำลังเตรียมทำพ็อคเก็ตบุคส่วนตัว บอกเล่าถึงนวัตกรรมที่มีประโยชน์ให้กับคนไข้ได้รู้ ชนิดเปลี่ยนคุณจากหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว เชื่อว่าใครอยากเปลี่ยนลุคส์ เล่มนี้จะเป็นประโยชน์มากๆ"
Vision : มุมมองที่มีต่อตลาดความงามในเมืองไทย
"การเสริมความงามต้องปรับที่ทัศนคติของคนทำด้วย ถือเป็นการลงทุนให้ตัวเองที่คุ้มค่า คือทำได้แต่อย่าเสพติด ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายเป็นโรคจิต จุดเริ่มต้นต้องมีความเชื่อก่อนว่าทุกคนสวยได้ในแบบที่คุณเป็น ปัญหาใหญ่ของผู้หญิงไทย นอกจากผิวคล้ำ ฝ้าเพราะเป็นเมืองร้อนแล้ว ยังมีเรื่องความอ้วน ซึ่งสาวๆ ให้ความสนใจกันมาก
คิดว่าฟุ่มเฟือยเกินไปไหมที่ใครซักคนคิดเปลี่ยนตัวเองเพียงเพราะว่าอยากสวย? ถ้าเป็นการลงทุนให้ตัวเองดูดีขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่ต้องประหยัด หากคุณกล้าที่จะซื้อรถแพงๆ เที่ยวต่างประเทศ ก็ควรกล้าที่จะลงทุนกับตัวเอง ขอให้เชื่อว่าผู้ที่เป็นหมอสามารถช่วยคุณได้แน่นอน ศีกษาข้อมูลเยอะๆ เชื่อว่าปลอดภัย หากมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นหมอนี้แหละที่จะโดนก่อน
ปัจจุบันมีสถาบันความงาม คลินิกเล็ก คลินิกใหญ่ เกิดขึ้นเยอะมาก ถือเป็นทางเลือกในการใช้บริการ แต่ละแห่งพยายามจะสร้างจุดขายให้ตัวเอง ถามว่ากลัวหรือไม่? ต้องบอกว่ามั่นใจและเชื่อมั่นในคุณภาพบริการของเรา ด้วยเทคนิครักษาที่เห็นผลได้จริงและยากที่จะเลียนแบบ
คนไข้ที่คิดจะลองรักษาเล็กๆ น้อยๆ อย่าทำ...จะรักษาทั้งทีทำให้เต็มที่ เอาให้เห็นผลได้จริง จะได้ไม่เสียดายเงิน เรียกว่า หล่อ-สวยให้ถึงที่สุด ไม่สุดอย่าทำ"