เรื่องย่อพร้อมรีวิวLife of Pi ชีวิตอัศจรรย์ของพาย


หลังจากปล่อย ตัวอย่างแรกออกมาให้แฟน ๆ ได้ดูกันแล้ว ล่าสุดทางค่ายหนังก็ปล่อยตัวอย่างหนังมาใหม่ของภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากจาก หนังสือขายดีของ ยาน มาร์เทล กับภาพยนตร์เรื่อง Life of Pi ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่รอดจากภัยทางทะเลได้อย่างน่าเหลือ เชื่อ ภาพยนตร์มีการพัฒนาเทคนิคสำหรับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ด้วยรูปแบบภาพ 3 มิติ ภาพยนตร์เรื่อง Life of pi เป็นประสบการณ์ที่มีมนต์เสน่ห์น่าหลงใหล สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างน่าประทับใจและพาผู้ชมไปสู่การค้นพบที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม


Life of pi
           Life of Pi ว่าด้วยเรื่องเล่าของ "พาย" ชายชาวอินเดียที่นับถือถึง 3 ศาสนา คือ ฮินดู คริสต์ และอิสลาม เล่า เรื่องเหตุการณ์เรือแตก ที่ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังกับบรรดาสิงสาราสัตว์นานาชนิด และ "ริชาร์ด พาร์เกอร์" เสือเบงกอลตัวมหึมาถึง 227 วัน พายต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังกับเจ้าสัตว์ร้ายนี้โดยใช้ความรู้ ไหวพริบ และศรัทธาทั้งหมดเพื่อให้มีชีวิตรอด 
Life of Pi
            เมื่อคนกับสัตว์ล่องแพไปถึงชายฝั่งเม็กซิโก ริชาร์ด พาร์เกอร์ก็หนีเข้าป่าไปไม่มีใครได้พบเห็นอีกเลย เจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นที่ซักถามพายไม่ยอมเชื่อเรื่องเล่าของเขา และกดดันให้พายบอก "ความจริง" หลังจากถูกบังคับขู่เข็ญอยู่หลายชั่วโมง พายจึงยอมเล่าเรื่องอีกเรื่อง ซึ่งประหลาดน้อยกว่า ธรรมดาสามัญมากกว่า ทว่าเรื่องไหนกันแน่ที่เป็นความจริง..
           Life of  Pi 20 ธันวาคมนี้ เตรียมพบกับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ในรูปแบบ 3 มิติ และเรื่องราวของแรงบันดาลใจ ในการเอาชีวิตรอดโดยอั่ง ลี่
life of pi
life of pi
life of pi
life of pi
life of pi
life of pi
life of pi
life of pi
life of pi
รีวิว Life of Pi หนังที่ให้อะไรกับคนดูมากกว่าความบันเทิงvote  ติดต่อทีมงาน
Life of Pi ชิวิตอัศจรรย์ของพาย (Pi อ่านว่า พาย หรือ พี ที่มาของชื่อนี้ไปดูเองในหนัง) แรกเริ่มเดิมทีนั้นว่ากันว่า เฮียมาโนช (M. Night Shyamalan) จาก The Sixth Sense จะมาทำหน้าที่ผู้กำกับเพราะเฮียมาโนชแกเป็นคนอินเดีย และหนังเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวของคนอินเดีย แต่คงเป็นเพราะผลงงานของแกนับวันยิ่งดิ่งลงเหวไปเรื่อย สุดท้าย เก้าอี้สำหรับผู้กำกับก็ตกเป็นของ  Ang Lee ผู้กำกับรางวัลออสการ์ จากเรื่อง Brokeback Mountain โดยได้นักแสดงนำหน้าใหม่เอี่ยมอ่องอย่าง Suraj Sharma


Life of Pi เป็นเรื่องราวของ Pi หนุ่มชาวอินเดีย ที่นับถือศาสนา 3 ศาสนาในเวลาเดียวกัน คือ คริสต์ อิสลาม และฮินดู (เหตุผลไปดูเองในหนัง) ซึ่งที่บ้านมีสวนสัตว์เป็นของตัวเอง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้จำเป็นต้องขายสัตว์เหล่านั้นให้กับสวนสัตว์ของเมริกา โดยใช้เรือญี่ปุ่นในการขนบรรดาสัตว์นานาชนิดข้ามฟ้าข้ามทะเล แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ซึ่งทำให้เรือต้องอัปปางจมทะเล แต่ Pi รอดจากเรือล่ม โดยติดอยู่ที่เรือชูชีพลำหนึ่ง เขาใช้ชีวิตอยู่ในเรือชูชีพอยู่หลายวันจนในที่สุดเรือก็เข้าสู้ชายฝั่งแม็กซิโก จากนั้นมีชาวญี่ปุ่นมาสัมภาษณ์ Pi ว่าทำไมเรือถึงล่ม และเขารอดมาได้อย่างไร Pi เล่าว่า เรือชูชีพลำนั้น มีทั้ง เสือเบงกอ ม้าลาย ลิงอุรังอุตัง และหมาไฮยีน่า แต่คนญี่ปุ่นกลับไม่เชื่อเรื่องที่ Pi เล่า โดยอ้างว่า มันเกินจริง และอัศจรรย์เกินไป Pi จึงเล่าอีกเรื่องที่คล้ายๆกันแต่ดูธรรมดากว่า สมเหตุสมผลมากกว่า เรื่องไหนจริง เรื่องไหนหลอก เกิดอะไรขึ้นในเรือชูชีพลำนั้น Pi เอาชีวิตรอดมาได้อย่างไร คงต้องไปติดตามกันเองในหนัง


บทดี ต้องขอชมเลยว่า บทหนังเรื่องนี้ดีมากๆ สมแล้วที่ได้รับว่าเป็นหนังสือที่ควรอ่านก่อนตาย โดยการเล่าเรื่องที่มีเสน่ห์ตั้งแต่เริ่มเรื่อง แฝงความตลกขบขันเป็นระยะๆ โดยมีเรื่องราวของ ศาสนา ความเชื่อ ความศรัธา ที่เป็นสิ่งหยึดเหนี่ยวจิตใจของคนเรา ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เป็นที่หยึดเหนี่ยวจิตใจเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์หรือมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ การดิ้นรนเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิต ถ้าตกอยู่ในสถาการณ์ที่ไม่มีทางเลือก ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองได้อยู่รอด ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจริงในชีวิตมนุษย์ และกลายเป็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ นั่นคือ แฝงอะไรต่อมิอะไรให้เราได้เก็บไปคิดมากมาย ถึงแม้ว่าจะดูหนังจบไปแล้วก็ตาม


ภาพสวย ต้องยอมรับว่า Ang Lee เป็นผู้กำกับที่มีความละเอียดอ่อนจริงๆ ใส่ใจและเน้นรายละเอียดของแต่ละฉากและทำออกมาได้สวยงามอย่างมีชั้นเชิง ถึงแม้ว่าหลายๆฉากจะดูเกินจริงไปหน่อย อาจเป็นเพราะทุกอย่างมันเกิดจากการเล่าเรื่องของตัวละครหลัก ที่คนฟังจะต้องจินตนาการตาม ภาพที่ออกมาเลยตระการตาเป็นพิเศษ ไม่ว่าเป็น การเคลื่อนไหวที่สวยงามของเหล่าสัตว์นานานชนิดในตอนต้นของเรื่อง ความสดใสของท้องทะเลสีฟ้า หรือจะเป็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่กระทบกับหน้าน้ำบนท้องทะเล แสงระยิบระยับของหมู่ดาวสะท้อนลงสู่แผ่นน้ำจนสามารถมองเห็นหมู่แมงกระพรุนลอยเรืองแสงอยู่เบื้องล่างใต้น้ำอันใสสะท้อน พระจันทร์ที่เด่นสง่าบนท้องฟ้า ช่างเป็นภาพที่งดงามเหลือเกิน หรือจะเป็นฝูงปลาบิน และปลาอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงความสวยงามของเกาะที่มีฝูงเมียแคทอีกด้วย เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกรายละเอียดเลยก็ว่าได้


เอฟเฟคเยี่ยม ว่ากันว่า Life of Pi ใช้ซีจีเกือบทั้งเรื่อง จุดเด่นมันอยู่ตรงที่ สิงสาราสัตว์ต่างๆ แทบจะแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนจริง อันไหนซีจี สมจริงมาก และฉากเรือล่ม ก็ทำออกมาได้สมจริง ตื่นเต้น ลุ้นระทึกไปกับตัวละคร อีกเรื่องที่น่ายกย่องก็คือ ฉากสามมิติไม่ได้เน้นฉากที่ของพุ่งเข้าสู่ผู้ชม แต่กลับเน้นความสวยสดงดงามและความสมจริงของทุทกล้องมากกว่า จนลืมนึกไปเลยว่าสวมแว่นสามมิติอยู่

ซาวน์เพราะ ดนตรีประกอบตอนต้นเรื่องเพราะดี กลิ่นอายอินเดียลอยมาแต่ไกล รวมไปถึงซาวน์ที่ทำให้ตื่นเต้น กดดัน หดหู่ เศร้า สงสาร ทำออกมาได้อย่างลงตัว เพราะหนังทำให้คนดูอินไปกับตัวละคร


การแสดงโอเค Suraj Sharma นักแสดงหน้าใหม่ที่ฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา คงไปฟัดไปเหวี่ยงกันกับ Tom Holland จาก The impossible กันเอาเอง ว่าใครจะได้เป็นดาวรุ่งแห่งปี แต่ภาษี Suraj Sharma น่าจะดีกว่า เพราะการแสดงฉากธรรมดาตอนจีบสาวก็ทำออกมาได้อย่างน่ารัก ส่วนตอนท้อ สิ้นหวัง เหนื่อย กลัว ทุกกริยาท่าทาง Suraj Sharma สื่ออกมาทางอารมณ์ สายตา คำพูด จัดเต็มไม่มีกั๊ก ส่วนนักแสดงคนอื่นๆก็ประปราย ทำออกมาได้ดีกันทุกคน


ตัดต่อถือธรรมดาไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรือซับซ้อน ในตอนต้นเรื่องมีการตัดสลับไปมาระหว่างการเล่าเรื่องของอดีตและปัจจุบัน ไหลลื่นไม่มีสะดุด อย่างที่บอกว่ามีการแทรกความตลกมาเป็นระยะๆ พอกลางเรื่องหนังเน้นไปที่การผจญภัยอย่างเดียว ไม่มีการตัดสลับเล่าเรื่องให้เสียอรรถรส พอช่วงท้าย ซึ่งเป็นจุดไคลแม็กซ์ จะเป็นการตัดสลับไปมาระหว่างการเล่าเรื่องของอดีตกับปัจจุบัน หนังมีการหักมุมแต่ไม่ถึงกับหักแบบหัวล้มหัวคว่ำ แนะนำให้ตั้งใจดูดีๆ ทุกๆคำพูดมีความหมาย ความสมเหตุสมผล ความเป็นไปได้ ความเชื่อ แล้วคุณจะได้อะไรกลับมาคิดเป็นการบ้านหลังจากดูเรื่องนี้จบแน่นอน

สิ่งที่ได้เห็น สิ่งที่ได้ฟัง มันอาจจะไม่ใช่ในแบบที่เราคิดก็ได้ แล้วคุณล่ะ เลือกที่จะเชื่อแบบไหน



Credit : movie.zubzip.com,คุณamity monster@Pantip.com,Youtube.com
เรียบเรียง : Ruengdd.com