งานแต่งเป้ยปานวาด กับ ผู้กองป๊อป เรือเอกนิธิ กับพิธีแบบศาสนาอิสลาม
เข้าสู่ประตูวิวาห์เรียบร้อยแล้ว สำหรับนางร้ายสุดเซ็กซี่ เป้ย ปานวาด และ ป๊อป เรือเอกนิธิ ลูกชาย บิ๊กบัง พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ในเช้าวันนี้(28 เม.ย.) ที่โรงแรมสวิสโซเทล ปาร์คนายเลิศ โดยมีพิธีนิกะห์ หรือพิธีแต่งงานแบบศาสนาอิสลามตามที่ฝ่ายชายนับถือ เจ้าสาวใส่ชุดแต่งงานสีครีม คลุมศีรษะ หรือที่เรียกว่าฮิญาบ โดย สาวเป้ย มีชื่อเป็นภาษาอิสลามว่า นูรอัยน่า แปลว่า รัศมีแห่งดวงตา ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนสนิท อาทิ ครีม เปรมสินี,จอย ชลธิชา ฯลฯ มาร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น
ทั้งนี้ "เป้ย ป๊อบ"จะจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ขึ้นที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี กรุงเทพฯ เอ รอยัล เมอริเดียน ในวันที่ 2 มิถุนายน นี้
กว่าจะกลายมาเป็นวิวาห์สุดหวานชื่นในวันนี้ได้ จะมีความเป็นมาอย่างไร?
ล่าสุดรายงาน "5 เช้าข่าวดี" ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้ไปสัมภาษณ์เปิดใจ 2 พ่อลูก เรือเอกนิธิ และ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เกี่ยวกับเรื่องราวความรักที่กว่าจะกลายมาเป็นงานแต่งงานที่ลงตัวระหว่าง เป้ย ปานวาด กับ ผู้กองป๊อป
เจอกับคุณเป้ยได้ยังไง?
ผู้กองป๊อป: ผมเจอคุณปานวาดที่บ้านตัวเอง เพราะคุณปานวาดกับคุณแม่ผมเคยไปเจอกันที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และก็มีการพูดคุยกัน ต่อมาคุณแม่ก็เลยชักชวนมาทานข้าวที่บ้าน ผมก็เลยมาเจอกันตอนที่มาทานข้าวที่บ้าน
ผู้กองป๊อป: ผมเจอคุณปานวาดที่บ้านตัวเอง เพราะคุณปานวาดกับคุณแม่ผมเคยไปเจอกันที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และก็มีการพูดคุยกัน ต่อมาคุณแม่ก็เลยชักชวนมาทานข้าวที่บ้าน ผมก็เลยมาเจอกันตอนที่มาทานข้าวที่บ้าน
เมื่อพบเจอกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
ผู้กองป๊อป: ก็รู้สึกประทับใจนะครับ ผมสนใจเขาครั้งแรกตรงที่ความแตกต่างกับบทบาทที่อยู่ในจอโทรทัศน์ ก่อนหน้านี้ผมก็มองเขาในแบบนักแสดงคนหนึ่ง พอมาเจอกันเขาก็มีลักษณะและนิสัยที่ค่อนข้างแตกต่างจากในโทรทัศน์ครับ
ผู้กองป๊อป: ก็รู้สึกประทับใจนะครับ ผมสนใจเขาครั้งแรกตรงที่ความแตกต่างกับบทบาทที่อยู่ในจอโทรทัศน์ ก่อนหน้านี้ผมก็มองเขาในแบบนักแสดงคนหนึ่ง พอมาเจอกันเขาก็มีลักษณะและนิสัยที่ค่อนข้างแตกต่างจากในโทรทัศน์ครับ
รู้สึกชอบอะไรในตัวคุณเป้ย?
ผู้กองป๊อป: ผมเป็นคนชอบใช้แววตาและอารมณ์สัมผัสนะครับ ผมมองดูเขาแล้ว เห็นว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีด้วยแววตา การพูดจา การแสดงออก
ผู้กองป๊อป: ผมเป็นคนชอบใช้แววตาและอารมณ์สัมผัสนะครับ ผมมองดูเขาแล้ว เห็นว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีด้วยแววตา การพูดจา การแสดงออก
เดินหน้าจีบคุณเป้ยยังไง?
ผู้กองป๊อป: หลังจากที่เจอกันครั้งแรก เวลาไปทานอาหารกับเพื่อนๆ พวกเขาก็จะช่วยสนับสนุนนิดหน่อย ก็มีโอกาสนัดมาทานอาหารกัน ต่อมาก็ได้แลกเบอร์โทรศัพท์ เริ่มโทรคุยกันครับ (หัวเราะเขินๆ)
ผู้กองป๊อป: หลังจากที่เจอกันครั้งแรก เวลาไปทานอาหารกับเพื่อนๆ พวกเขาก็จะช่วยสนับสนุนนิดหน่อย ก็มีโอกาสนัดมาทานอาหารกัน ต่อมาก็ได้แลกเบอร์โทรศัพท์ เริ่มโทรคุยกันครับ (หัวเราะเขินๆ)
ข่าวบอกว่า คบเร็ว-แต่งงานเร็ว คิดยังไงบ้าง?
ผู้กองป๊อป: จริงๆ ก็คบกันเกือบปีแล้วครับ ประมาณ 8-9 เดือนครับ (อะไรทำให้ตัดสินใจแต่งงานกัน?) จริงๆ เวลาก็ไม่ใช่คำตอบของทุกเรื่องนะครับ ส่วนตัวผมเองเป็นคนค่อนข้างให้ความสำคัญกับความรู้สึกตัวเองและการใช้ชีวิตร่วมกันกับคนอื่นค่อนข้างเยอะ ถ้าอยู่กันคนนั้นแล้วรู้สึกว่าใช่ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ก็ไม่จำเป็นต้องคบกันนานครับ อีกส่วนหนึ่งก็ที่ตัวคุณเป้ยเอง เพราะระหว่างที่เราคบหากัน เราเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างมาก ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงนิสัยที่แท้จริงของกันและกันอย่างรวดเร็ว
ผู้กองป๊อป: จริงๆ ก็คบกันเกือบปีแล้วครับ ประมาณ 8-9 เดือนครับ (อะไรทำให้ตัดสินใจแต่งงานกัน?) จริงๆ เวลาก็ไม่ใช่คำตอบของทุกเรื่องนะครับ ส่วนตัวผมเองเป็นคนค่อนข้างให้ความสำคัญกับความรู้สึกตัวเองและการใช้ชีวิตร่วมกันกับคนอื่นค่อนข้างเยอะ ถ้าอยู่กันคนนั้นแล้วรู้สึกว่าใช่ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ก็ไม่จำเป็นต้องคบกันนานครับ อีกส่วนหนึ่งก็ที่ตัวคุณเป้ยเอง เพราะระหว่างที่เราคบหากัน เราเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างมาก ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงนิสัยที่แท้จริงของกันและกันอย่างรวดเร็ว
เห็นบอกว่ามีเพื่อนๆ เริ่มแซวให้แต่งงาน?
ผู้กองป๊อป: คือกลุ่มเพื่อนๆ ผมก็จะแต่งงานมีชีวิตคู่กันเยอะแล้วครับ มีลูกโตกันแล้ว พวกเขาก็จะแซวว่า ถ้ายังรักสนุกอยู่แบบนี้ ไม่คิดจริงจังกับชีวิต การเริ่มต้นชีวิตครอบครัวมันคงจะไม่เกิดขึ้นสักที ก็เลยกลับมาคิดว่าตัวเองก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ถ้ามันมีช่วงเวลาที่เหมาะสมก็คว้าโอกาสนั้นมาครับ
ผู้กองป๊อป: คือกลุ่มเพื่อนๆ ผมก็จะแต่งงานมีชีวิตคู่กันเยอะแล้วครับ มีลูกโตกันแล้ว พวกเขาก็จะแซวว่า ถ้ายังรักสนุกอยู่แบบนี้ ไม่คิดจริงจังกับชีวิต การเริ่มต้นชีวิตครอบครัวมันคงจะไม่เกิดขึ้นสักที ก็เลยกลับมาคิดว่าตัวเองก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ถ้ามันมีช่วงเวลาที่เหมาะสมก็คว้าโอกาสนั้นมาครับ
เล่าช่วงเวลาที่ไปขอคุณเป้ยแต่งงานหน่อย?
ผู้กองป๊อป: (เขิน) ค่อนข้างธรรมดาครับ ไปทานอาหารคุยกันตามปกติ ผมก็พูดขอขึ้นมา ไม่ได้โรแมนติกอะไร แต่ก็รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับทั้งคู่ครับ อาจเป็นเพราะเป็นทหารด้วย อยากจะคุกเข่าของแต่งงานแต่เขิน ก็เลยขอแต่งงานไปแบบตรงๆ ชัดเจนเลย (แล้ววินาทีนั้นคุณเป้ยเป็นยังไง?) เขาก็นิ่งไปสักพักหนึ่ง ใช้เวลาพอสมควร คือผมมองแววตาเขาก็รู้คำตอบแล้ว แต่คุณเป้ยอาจจะช็อกไปกับคำขอแต่งงานของผม แต่เขาก็ตอบกลับมาตรงๆ ครับ
ผู้กองป๊อป: (เขิน) ค่อนข้างธรรมดาครับ ไปทานอาหารคุยกันตามปกติ ผมก็พูดขอขึ้นมา ไม่ได้โรแมนติกอะไร แต่ก็รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับทั้งคู่ครับ อาจเป็นเพราะเป็นทหารด้วย อยากจะคุกเข่าของแต่งงานแต่เขิน ก็เลยขอแต่งงานไปแบบตรงๆ ชัดเจนเลย (แล้ววินาทีนั้นคุณเป้ยเป็นยังไง?) เขาก็นิ่งไปสักพักหนึ่ง ใช้เวลาพอสมควร คือผมมองแววตาเขาก็รู้คำตอบแล้ว แต่คุณเป้ยอาจจะช็อกไปกับคำขอแต่งงานของผม แต่เขาก็ตอบกลับมาตรงๆ ครับ
ท่านพบกับคุณเป้ยเมื่อไหร่?
พลเอกสนธิ: ก็พบกันช่วงหลังๆ ครับ เพราะผมเป็นคนอยู่บ้านน้อย ทำงานเช้ากับมืด ก็เลยมีโอกาสเจอกันน้อย แต่ตอนพบเจอกันก็เห็นคุณเป้ยน่ารักครับ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง อันนี้เป็นสิ่งสำคัญในคนยุคปัจจุบัน ส่วนเรื่องลูกจะชอบพอใคร ก็ถ้าเห็นดีเห็นงามกันก็คงโอเคครับ
พลเอกสนธิ: ก็พบกันช่วงหลังๆ ครับ เพราะผมเป็นคนอยู่บ้านน้อย ทำงานเช้ากับมืด ก็เลยมีโอกาสเจอกันน้อย แต่ตอนพบเจอกันก็เห็นคุณเป้ยน่ารักครับ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง อันนี้เป็นสิ่งสำคัญในคนยุคปัจจุบัน ส่วนเรื่องลูกจะชอบพอใคร ก็ถ้าเห็นดีเห็นงามกันก็คงโอเคครับ
ท่านถูกใจลูกสะใภ้คนนี้ตรงไหน?
พลเอกสนธิ: เคยคุยกับคุณเป้ยตอนทานอาหารกัน ปกติคนที่เข้ามาคุยกับผมจะกลัวนะ แต่คุณเป้ยมีความมั่นใจเข้ามาคุยกันก็โอเค เราก็คิดว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ก็ยอมรับครับ
พลเอกสนธิ: เคยคุยกับคุณเป้ยตอนทานอาหารกัน ปกติคนที่เข้ามาคุยกับผมจะกลัวนะ แต่คุณเป้ยมีความมั่นใจเข้ามาคุยกันก็โอเค เราก็คิดว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ก็ยอมรับครับ
ท่านคิดยังไงกับการคบหาและแต่งงานกันเร็ว?
พลเอกสนธิ: คือสมัยก่อนจะหนักกว่านี้อีกครับ คนไม่เคยเจอหน้ากันยังต้องมาแต่งงานกันเลย ทำให้ผมคิดว่าจะช้าหรือเร็วก็ไม่สำคัญหรอกครับ ผมว่าช่วงจุดเริ่มต้นของความรักเป็นช่วงเวลาที่จริงจังและมีความแข็งแกร่งในตัวของมันเอง
พลเอกสนธิ: คือสมัยก่อนจะหนักกว่านี้อีกครับ คนไม่เคยเจอหน้ากันยังต้องมาแต่งงานกันเลย ทำให้ผมคิดว่าจะช้าหรือเร็วก็ไม่สำคัญหรอกครับ ผมว่าช่วงจุดเริ่มต้นของความรักเป็นช่วงเวลาที่จริงจังและมีความแข็งแกร่งในตัวของมันเอง
Post a Comment