สาวอุทัยกลายเป็น"ซินเดอเรลล่าไทยแลนด์"(Cinderella Thailand)ในรายการตีสิบ



           โบราณเขาว่าไว้ว่า "แข่งเรือแข่งพายแข่งได้...แต่แข่งบุญวาสนามันแข่งกันไม่ได้" ซึ่งสุภาษิตดังกล่าว น่าจะเป็นคำที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่พรหมลิขิตบันดาลให้เจอผู้ชายที่หลงรักเธอตั้งแต่แรกเห็น และได้เข้ามาตีสนิทพร้อมจีบจนสามารถมัดใจเธอได้สำเร็จ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า ชายคนนี้เป็นใครมาจากไหน แต่เมื่อความสัมพันธ์คืบหน้า ชายหนุ่มคนนี้จึงจำเป็นต้องเปิดเผยถึงเรื่องครอบครัว ที่ทำให้หญิงสาวคนนี้เป็นต้องอึ้ง! เนื่องจากครอบครัวของชายคนนี้เป็นถึงระดับอภิมหาเศรษฐีเลยทีเดียว เธอจึงกลายเป็นหนูตกโรงสีข้าวโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะ 

           และในวันนี้จึงขอนำเรื่องราวน่ารัก ๆ ของพวกเขาจากรายการตีสิบ (3 เมษายน) มาฝากกัน มาดูกันซิว่า ชีวิตที่เปรียบดั่งนิยายเรื่องซินเดอเรลล่าของสาวคนนี้ จะต้องเจออะไรบ้าง แล้วจะมีแม่เลี้ยงใจร้ายคอยกลั่นแกล้งบ้างหรือเปล่าน้า...

           โดยหญิงสาวผู้โชคดีดังกล่าวมีชื่อเสียงเรียงนามว่า "ร้อยตำรวจตรีหญิง ณธัญวิชญ์ ชุมโกมนต์ กินเนสส์ " หรือชื่อว่า "คุณธัญญ่า" ซึ่งเธอได้เล่าเรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรักให้ฟังว่า ตนเป็นชาวอุทัยธานีแต่กำเนิด และก่อนหน้าที่จะพบกับสามี ตนเป็นพยาบาลตำรวจมาก่อน ซึ่งตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว แต่ยศก็ยังอยู่ ส่วนฐานะทางครอบครัวของตนก็ไม่ได้ร่ำรวย พอมีพอใช้ แต่ไม่ได้ลำบาก 

           คุณธัญญา เล่าย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ว่า ตนเดินทางไปเที่ยวอิตาลีกับเพื่อนที่เมืองฟลอเรนซ์  โดยตั้งใจจะพักยาว ๆ ประมาณ 1 เดือน พอไปถึงเพื่อนก็ได้พาไปชมพิพิธภัณฑ์อุฟฟิชี ที่เก็บงานศิลปะล้ำค่าในยุคกลาง ซึ่งข้างหน้าพิพิธภัณฑ์นั้นมีรูปปั้นเดวิด (ชายเปลือย) ผลงานชิ้นเอกของ "ไมเคิล แองเจโล" ที่มีอายุยาวนานกว่า 3 ศตวรรษ และด้วยความที่ตนเป็นคนทะลึ่งและซน ๆ จึงพยายามทำท่าเหมือนกำลังจับอวัยวะเพศของเดวิด ให้เพื่อน ๆ ถ่ายรูปให้ และจังหวะนั้นเองที่สามีของตนเห็นตนเป็นครั้งแรก 






           "หลังจากนั้นพอออกจากพิพิธภัณฑ์ ตนกับเพื่อนก็เดินทางไปทานพิซซ่ากัน แต่เราไม่ได้ไปร้านสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะเพื่อนอยู่ที่นี่มานาน เลยพาไปกินร้านอาหารท้องถิ่นที่อร่อยมาก ๆ ซึ่งเป็นร้านเดียวกันกับที่เขาไปกิน แต่ตนไม่รู้หรอกนะว่าเขาของตนแอบสะกดรอยมาหรือเปล่า (หัวเราะ) พอกินได้สักพักตนก็เริ่มอิ่ม เพราะพิซซ่าถาดใหญ่มาก แต่ด้วยความที่ตนเป็นคนงกและเสียดายของ เลยพยายามกินต่อจนหมด กินไปกระแทกตัวไปจะได้กินได้เยอะ ๆ พอเขาเห็นเขาก็หัวเราะ และคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก ๆ เลยส่งเพื่อนให้มาคุยด้วย และหลังจากนั้นเราก็นัดกินข้าวกัน" 

           คุณธัญญ่า เล่าให้ฟังต่อว่า ตอนนั้นตนรู้ว่าแค่ว่า เขาชื่อ "แพททริค" แต่ไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไร เป็นใครมากจากไหน ซึ่งตอนนั้นเราก็สนุก เพราะมีคนพาเที่ยว พาไปเดินเล่น ไปกินข้าวกันบ้าง แต่ตนก็ยังไม่ได้คิดอะไรกับเขา กระทั่งวันที่ตนจะกลับเมืองไทย เขาก็บอกตนว่า ไอไลค์ยู ซึ่งตนก็เลยรู้ว่า เขาเริ่มจีบตนแล้ว พอวันกลับจริง ๆ เขาก็ถามตนว่าจะไปถึงเมืองไทยกี่โมง ไปแล้วจะทำอะไรต่อ ถามสั้น ๆ เพียงเท่านั้น แล้วเราก็บอกลากัน และพอตนมาถึงเมืองไทย ก็ตกใจเพราะเขาบินมารอตนก่อน จากนั้นเขาโทรนัดตนไปกินข้าวที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ซึ่งกว่าจะนัดกันได้ก็ยากลำบากเหมือนกัน เพราะตนพูดภาษาอังกฤษห่วยมาก คุยกับเขาไป ก็เปิดดิกชันนารี่ไป (หัวเราะ)

           "เมื่อธัญญ่าไปโรงแรมโอเรียนเต็ลก็ต้องตกใจ เพราะธัญญ่าบอกพนักงานไปว่าขอพบคุณแพททริค จากนั้นก็มีพนักงานมาขอตรวจดูพาสปอร์ตธัญญ่า ตรวจอะไรหลายอย่าง ซึ่งในใจธัญญ่าตอนนั้นคิดว่า เขาน่าจะเป็นพนักงานบริษัทที่เจ้านายจ่ายเงินให้เวลามาเมืองไทย และทางบริษัทคงจะรวยน่าดู" 

           หลังจากนั้น เธอก็ได้ไปเที่ยวกับเขา ไปไหว้พระบุญ รวมไปจนถึงปรึกษากันเรื่องศาสนา ชวนนั่งสมาธิ ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส ซึ่งคุณธัญญ่า บอกว่า ตนในฐานะตนชาวพุทธ รู้สึกประทับใจมาก ที่เห็นชาวต่างชาติศรัทธาในศาสนาของเรา จากความประทับใจจุดนี้นี่เองที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรัก... 

           "พอตนรู้ตัวว่าเริ่มจะรักเขาแล้ว เลยคิดว่าน่าจะรู้ได้แล้วว่าครอบครัวของเขาเป็นใครมาจากไหน แล้วเขามีภรรยาแล้วหรือยัง เพราะตอนนั้นเขาอายุประมาณ 46 ปี อีกทั้งยังเฟรนด์ลี่นิสัยดี แต่ยังไม่แต่งงาน ตนคิดว่ามันทะแม่ง ๆ เลยไปสืบจนทราบว่า เขาไม่ใช่เกย์ อดีตของเขาเป็นเพลย์บอยสุดฮอต มีแฟนมาเยอะมากแต่ไม่เคยตกลงปลงใจกับใครเลย พอธัญญ่ารู้ว่าเขาโสด เลยถามว่าครอบครัวของเขาเป็นใคร ซึ่งเขาก็ถามธัญญ่าว่า รู้จัก "สเตาต์ เบียร์ดำกินเนสส์" หรือเปล่า ธัญญ่าก็ตอบว่า เปล่า เขาเลยถามต่อว่า รู้จักกินเนสส์บุ๊กหรือเปล่า ธัญญ่าก็พนักหน้า เขาก็บอกเลยว่า เขาชื่อเต็มคือ โลเอล แพททริค กินเนสส์ เป็นลูกชายคนสุดท้องของตระกูลแบงค์สวิสและตระกูลเบียร์เก่าแก่ของยุโรป เมื่อธัญญ่าได้ยินดังนั้น ก็นึกในใจว่า เขาจะมาจริงใจกับธัญญ่าหรอ" 

           คุณธัญญ่า บอกว่า ตอนแรกที่ตนรู้ ตนตกใจมาก และคิดว่าเขารวยขนาดนี้ เขาจะมีใครก็ได้ จะรักใครก็ได้ แล้วเขาจะมาจริงใจกับตนแน่หรอ ตนเลยถามเขาไปว่า "เธอเป็นใครกันแน่เนี่ย ฉันกลัวแล้วนะที่จะรักเธอ" เขาก็ตอบตนว่า อย่ากลัวเลยที่จะรัก ซึ่งในตอนนั้นตนก็พยายามหาเหตุผลต่าง ๆ นานา มาพูดให้เขาฟังว่า ตนแตกต่างกับเขาแค่ไหน ตนเป็นคนธรรมดาไม่มีอะไรเลย แต่เขาบอกว่า เขาไม่ได้รักตนเพราะว่าตนเป็นใครมากจากไหน เขารักตนในแบบที่ตนเป็น เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่จะรักเขาเลย และเขารับรองว่าจะไม่ทำร้ายตน จะไม่ทำให้ตนผิดหวัง พร้อมกันนี้เขายังบอกด้วยว่า... เขาอายุมากแล้ว เธอพร้อมจะดูแลฉันไหม ฉันพร้อมจะดูแลและรักเธอไปตลอดชีวิต จากนั้นตนก็ตกลงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน และไปจดทะเบียนสมรสกับที่สวิตเซอร์แลนด์ 

           นับจากนั้นชีวิตของหญิงสาวธรรมดา ๆ คนหนึ่งก็ดูเหมือนจะไปได้สวย ทุกอย่างเหมือนเรื่องราวในนิยาย แต่เมื่อเธอต้องไปพบเจอญาติของเขาที่นอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส คราวนี้แหละ เรื่องราวของนังซิน(ซินเดอเรลล่า)หลังรองเท้าแก้วหลุด ก็ได้เริ่มต้นขึ้น... โดยคุณธัญญ่า กล่าวว่า เขาพาตนไปแนะนำกับญาติพี่น้อง ไม่มีใครชอบตนเลย เพราะตนเป็นคนเอเชีย พอย้ายมาอยู่ที่บ้านส่วนตัว ก็ไปมีเรื่องมีราวกับคนรับใช้ เขาไม่เห็นด้วยกับการที่ตนมาอยู่บ้านหลังนี้ เขาไม่ชอบ เพราะกลัวตนไปปอกลอกเจ้านายของเขา ซึ่งพออยู่ต่อหน้าสามี พวกเขาก็เซย์เยสตลอด แต่พอลับหลังเขากลับไม่ทำสิ่งที่ตนขอ เพิกเฉย และเย็นชาใส่ตนมาก ๆ ตนก็พยายามเอาใจพวกเขาทุกอย่าง พอกลับมาประเทศไทย ตนก็ซื้อของอย่างตั้งใจพิถีพิถันเลือกทุก ๆ อย่างให้เหมาะกับคนในบ้านแต่ละคน แต่เขาก็ยังเฉยเมยกับตนตลอด 

           คุณธัญญ่า เล่าให้ฟังต่อว่า มีอยู่วันหนึ่งตนเถียงกับพ่อครัวยกใหญ่เรื่องไข่เจียว เพราะตนขอเข้าครัวไปทอดเอง เขาก็บอกว่า ไข่เจียวไม่ใส่น้ำมันเยอะแบบนี้ ซึ่งตนเป็นคนไทยชอบกินไข่เจียวฟู ๆ ไม่ใช่ออมเล็ทแบบบ้านเขา ตนก็เถียง แต่เขาก็บอกว่า ต่อไปนี้ห้ามมายุ่งกับห้องครัวของเขาอีก ต่อจากนั้นก็มีเรื่องราวมีปากเสียงกันยิบย่อยเสมอมา จนกระทั่งวันหนึ่งตนทนไม่ไหววีนแตกใส่แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ หลายอย่าง

           "คือก่อนหน้านั้น ธัญญ่าบอกกับแม่บ้านว่า ให้เปลี่ยนชุดจานให้คุณแพททริคหน่อย จริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แต่ธัญญ่ารู้สึกโกรธ เพราะเขาไม่เคยทำตามที่ธัญญ่าบอกเสียที จึงเขวี้ยงแก้วชาไป แต่ตอนนั้นก็กะจังหวะแล้วให้มันตกลงที่โซฟา จะได้ไม่แตก แม่บ้านก็บอกทันทีว่า แอนทีก คือเป็นของเก่านะ แต่ธัญญ่าไม่สนใจ บอกว่าถ้าไม่เปลี่ยนจะเขวี้ยงอีก ซึ่งตอนนั้นแพททริค ก็อยู่ด้วยแล้วเขาก็ตกใจมาก เลยบอกกับแม่บ้านพ่อบ้านทุกคนว่า เขารักใคร ก็ต้องรักเหมือนที่เขารัก" 






           คุณธัญญ่า กล่าวอีกว่า ตอนนั้นเหมือนเขาไม่เปิดใจยอมรับเรา แต่พอเริ่มเปิดใจทำความรู้จักกับตนจริง ๆ เขาก็เปิดรับมากขึ้น จนตอนนี้ถ้าตนอยากกินส้มตำ เขาก็จะหั่นมะละกอให้ กรองปลาร้า เตรียมของให้ทุกอย่าง แล้วอีกอย่างที่ตนไม่เหมือนใคร และข้อนี้นี่แหละที่อาจจะทำให้เขาชอบตน นั่นก็คือความประหยัด เช่น เมื่อก่อนตระกูลของเขาผูกขาดซื้อของอยู่ร้าน ๆ เดียว แต่ตนมองว่า ของบางอย่างไม่จำเป็นต้องเอาจากร้านนั้นก็ได้ ก็เลยขอไปซื้อเองเลือกเอง แล้วเก็บเงินเอาไว้ส่วนต่างเอาไว้ สะสมมาก ๆ แล้วบอกเขาว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินเพียง 1 เซ็นต์ ถ้าสะสมไปเรื่อย ๆ มันก็เป็น 1 ยูโร จาก 1 ยูโร ก็กลายเป็นร้อยยูโรได้ มันไม่จำเป็นถ้าต้องว่าของแพงต้องดี ของไม่แพงแต่ดีมีเยอะแยะไป 

           นอกจากนี้ คุณธัญญ่า ยังได้นำภาพถ่ายของบ้านที่มีพื้นที่กว่า 2 แสนไร่ ซึ่งใหญ่กว่าเมืองพัทยามาให้ได้ชมกัน โดยคุณธัญญ่า กล่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าแก่ของตระกูลขุนนางเก่า ที่มีพื้นที่เยอะเพราะเมื่อก่อนพวกขุนนางชอบล่าสัตว์กัน พื้นที่ส่วนมากในนี้เลยเป็นป่า ส่วนภายในเขตตัวบ้านก็จะมีสนามกอล์ฟ มีบ้านนก มีทะเลสาบ ซึ่งกว้างขวางยิ่งใหญ่ และตนก็ไม่คาดฝันว่าชีวิตของตนจะได้เป็นนายหญิงที่นี่ 

           แต่ถึงแม้ว่าตนจะมีพร้อมทุกอย่าง อยากจะทำอะไร อยากได้สิ่งไหน ก็มีคนนำมาให้ตลอด บางคนบอกว่าอยู่ต่างประเทศแล้วไม่ได้กินอาหารไทยอย่างที่อยากกินนั้น สำหรับตนมันไม่ใช่ ตนสามารถสั่งได้ทุกเมื่อ เช่น ถ้าวันไหนตนอยากกินข้าวกล้องงอก โทรไปสั่งวันสองวันก็ได้กินเลย แต่สิ่งที่ตนไม่มีในตอนนี้คือ "แผ่นดินไทย" ตนบอกได้เลย ถึงแม้จะร่ำรวยแค่ไหน มันทดแทนความสุขที่ตนได้เหมือนบ้านเกิดเมืองนอนจริง ๆ ไม่ได้ และไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าเมืองไทยอีกแล้ว 

           ทางด้านคุณแพททริคที่มาให้กำลังใจภรรยาในห้องส่ง ได้กล่าวว่า ตอนนี้ตนและธัญญ่าใช้ชีวิต 6 เดือน ที่ประเทศไทย อีก 6 เดือน ที่นอร์มังดี แต่ตนก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะทุกที่ที่ธัญญ่าไปตนก็พร้อมที่จะไปกับเขาเสมอ ส่วนชีวิตในประเทศไทยนั้น ตนมีความสุขมาก ตนตกหลุมรักธัญญ่าส่วนหนึ่งเพราะอาจจะเป็นความเป็นไทยที่หล่อหลอมให้ธัญญ่าเป็นแบบนี้ เดิมทีตนชอบประเทศไทยอยู่แล้ว ตนหลงรักในวัฒนธรรม ศาสนา และความเป็นอยู่ อีกทั้งตนยังนับถือในหลวง เพราะท่านเป็นนักปราชญ์ที่อยู่ท่ามกลางความแตกต่างของสังคม เป็นบุคคลที่เป็นศูนย์กลางของคนทุกชนชั้น และเป็นจุดรวมพลังที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทยทุกคน 

           และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวของหญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่โชคดีได้ใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทอง และถึงแม้ว่าเธอจะมีเงินซื้อของมากมายในโลกอย่างที่เธออยากได้ แต่ของเหล่านั้นไม่ใช่ความสุขที่เธอต้องการ เพราะความสุขที่แท้จริงของเธอนั้นก็คือ การที่ได้อยู่บนแผ่นดินไทยกันคนที่เธอรักนั่นเอง ... 






รูปภาพ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย ธัญญา กินเนสส์ ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย


รูปภาพ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย ธัญญา กินเนสส์ ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย


รูปภาพ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย ธัญญา กินเนสส์ ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย


รูปภาพ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย ธัญญา กินเนสส์ ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย


รูปภาพ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย ธัญญา กินเนสส์ ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย


รูปภาพ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย ธัญญา กินเนสส์ ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย


รูปภาพ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย ธัญญา กินเนสส์ ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย




ซินเดอเรลล่าเมืองไทย ธัญญา กินเนสส์ ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ร้อยตำรวจตรีหญิง ณธัญวิชญ์ ชุมโกมนต์ กินเนสส์ หรือชื่อ ธัญญ่า กินเนสส์ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย สาวสวยผู้โชคดีที่มีชีวิตจริงยิ่งหว่านิยาย เมื่อเธอได้ไปพบรักกับ แฟนหนุ่ม โลเอล แพทริค กินเนสส์ ที่มีฐานะร่ำรวยระดับอภิมหาเศรษฐี เลยทีเดียวโดยจากที่ ธัญญา กินเนสส์ เคยมีชีวิตธรรมดาๆกลับกลายมาเป็น ซินเดอเรลล่าเมืองไทย ในช่วงข้ามคืนเลยทีเดียว


Credit : sanook.com,กระปุกดอทคอม 
เรียบเรียงข้อมูลโดยเรื่องดีดี.com, ruengdd.com
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย CiNNtv2  ,รายการตีสิบ