“เด็กหญิงความรักกับนายรองเท้า”


…ท่ามกลางเมืองที่แสนกว้างใหญ่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
มีเด็กหญิงคนหนึ่ง ชื่อ “เด็กหญิงความรัก”
ทุกๆวันเด็กหญิงความรักจะเดินทางไปที่ต่างๆตามลำพัง
ด้วยสองเท้าเปื่อยเปล่า โดยไม่สนว่าพื้นที่ ที่เธอเหยียบจะ
สกปรกหรือสะอาดหรือร้อนระอุหรือชื้นแฉะหรือเต็มไปด้วย
กิ่งไม้ เศษแก้วต่างๆที่จะทิ่มแทงเท้าอันบอบบางของเธอ
เด็กหญิงความรักยังมีความสุขกับการเดินทางด้วยเท้าเปล่า
เธอยังคงเดิน เดิน และเดินไปเรื่อยๆ อย่างเดียวดาย…..
แต่แล้ววันหนึ่งระหว่างเดินทางตามปกติของเด็กหญิงความรัก

เธอรู้สึกเจ็บปวดที่เท้าทั้งสองข้างจนไม่อยากเดินทางต่อไป
ความรู้สึกเหงา และ ว้าเหว่ ก้อเข้ามาหาเธอทันที
ทันใดนั้นเอง เด็กหญิงความรักก็ได้พบกับ “นายรองเท้า”
ซึ่งเป็นรองเท้าเก่าๆ คู่หนึ่งไม่ได้สวยสะดุดตาอะไรเลย
นายรองเท้าก็ทักเด็กหญิงความรักอย่างเป็นมิตร
“เท้าเธอคงจะเจ็บมาก ถ้าไม่รังเกียจ ให้ฉันเดินทางไปพร้อมๆ
กับเธอได้มั๊ย ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอเอง”
เด็กหญิงความรักได้ยินเพียงเท่านั้น ความรู้สึกอ้างว้าง
เดียวดายที่เคยมี ก็มลายหายไปในทันที
เธอเองจึงตัดสินใจที่จะเดินทางไปในทุกที่พร้อมกับนายรองเท้า
…แต่ต่อมาไม่นานเด็กหญิงความรักก็ได้พบกับรองเท้าคู่ใหม่
โดยบังเอิญ รองเท้าคู่นี้แตกต่างจากนายรองเท้ามากนัก
เพราะเขาทั้งใหม่ สะอาด สีสันสะดุดตา และดีไซน์นำสมัย
อีกทั้งยังเป็นรองเท้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพงอีกด้วย
เด็กหญิงความรักจึงตัดสินใจที่จะทิ้ง “นายรองเท้า” แม้ว่า
เขาจะสวมใส่สบายและพร้อมที่จะก้าวเดินไปกับเธอทุกที่
เด็กหญิงความรักได้สวมรองเท้าคู่ใหม่ที่สุดแสนจะ PERFECT
ถึงแม้ว่ามันอาจไม่พอดีกับเท้าของเธอก้อตาม
เพียงเพื่อต้องการให้ตนเองดูดีขึ้นในสายตาของผู้อื่น
เด็กหญิงความรักถึงกับยอมให้รองเท้าใหม่กัดจนเธอเจ็บปวด
ทรมาน แต่เธอก้ออดทน และพยายามเดินไปข้างหน้าต่อไป
ทั้งที่ในใจเธอนั้นไม่มีความสุขเลย
เพียงไม่กี่วัน เด็กหญิงความรักก็รู้ดีว่าเธอกับรองเท้าคู่ใหม่
เข้ากันไม่ได้เลยเพราะหลายครั้งที่เขาทำให้เธอเสียใจ
เขาไม่พร้อมที่จะเดินทางไปกับเธอในทุกๆที่ เขากลัวลำบาก
เขากลัวการถูกแปดเปื้อนจากพื้นดิน โคลนที่สกปรก
เด็กหญิงความรัก กลับมานั่นทบทวนดูเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา
เธอพบว่าระหว่างเธอกับรองเท้าคู่ใหม่นั้น ยังขาดความเข้าใจ
ทำให้ตลอดระยะเวลาการเดินทางทั้งคู่ต้องพบกับปัญญาเสมอๆ
ถึงแม้ว่าใครๆต่างก็พากันอิจฉาเธอที่ได้ครอบครองรองเท้าใหม่
แต่เธอ…ก็เลือกที่จะถอดออก และกลับมาเดินเท้าเปล่าดังเดิม
มันอาจจะเจ็บเท้าบ้างในบางครั้ง แต่เธอก็สบายใจ
เพราะเธอสามารถเดินทางไปได้ทุกๆที่ ที่เธอต้องการ
เด็กหญิงความรัก เดินทางลำพังมาเป็นเวลานานพอสมควร
เธอเริ่มรู้สึกกลัว เหงา และโดดเดี่ยว เธออยากมีเพื่อนสักคน
ที่เข้าใจเธอ และพร้อมจะเดินทางไปกับเธอในทุกๆ ที่
ทันใดนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยตะโกนถามเธอว่า
“อยากมีเพื่อนร่วมทางสักคนมั๊ย”
ใช่แล้ว! มันเป็นเสียงของเขา …นายรองเท้า…
เด็กหญิงความรัก ดีใจมากจนไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้
เพราะเธอคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอเขาอีก
หลังจากที่เธอได้ตัดสินใจทิ้งเขาไปในวันนั้น
นายรองเท้ายังคงพูดประโยคเดิมๆกับเธออีกครั้งว่า
“ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอเอง”
เด็กหญิงความรัก ยิ้มและตอบกลับไปว่า
“ขอบใจนะ..ฉันสัญญาว่าเราจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป”
นายรองเท้าตอบกลับอย่างอ่อนโยนว่า
“เธอไม่จำเป็นต้องสัญญาหรอก เพราะเมื่อไรที่เธอรู้สึกเบื่อ
และอยากเป็นอิสระจากฉัน ฉันก็พร้อมที่จะให้เธอไป”
เด็กหญิงความรักรู้ในทันทีว่า “นี่แหละคือความเข้าใจ”
ที่เธอรอคอยมาแสนนาน แต่เธอเจอแล้วและจะดูแลรักษา
อย่างดี ถึงแม้ว่านายรองเท้าจะเป็นแค่รองเท้าธรรมดาๆคู่หนึ่ง
ไม่ได้น่าชื่นชมในสายตาของคนอื่น
แต่สำหรับเด็กหญิงความรักแล้ว เขาสำคัญต่อเธอมาก
เขาเข้าใจและห่วงใยเธอ เธอรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขา
แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
เด็กหญิงความรักและนายรองเท้าก็อยู่เคียงข้างกันตลอดไป
ในบางครั้ง เราอาจจะเห็นเด็กหญิงความรักไม่ได้สวมรองเท้า
แต่อย่าเพิ่งตกใจ!! ลองมองดูในมือเธอสิ
นายรองเท้าอาจอยู่ในมือเธอก็ได้
เขาอาจต้องการให้เท้าของเธอเป็นอิสระจากการผูกมัดบ้าง
หรือเธออาจจะซักรองเท้าแล้วแห้งไม่ทันก็ได้ อย่าคิดมาก !!!
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. คนที่ดีอาจไม่ใช่ และคนที่ใช่อาจไม่ดี
2. คนที่ใช่สำหรับคนอื่นอาจไม่ใช่สำหรับเรา ส่วนคนที่ใช่สำหรับเราอาจไม่ใช่สำหรับคนอื่น
3. รักแท้มักมาถูกที่ถูกเวลาเสมอ
4. ความรักไม่ใช่การผูกมัด เพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
5. สิ่งที่ความรักต้องการมากที่สุด คือ “ความเข้าใจ”