รายการวู้ดดี้เกิดมาคุยเปิดใจอี๊ดโปงลางสะออนทุกประเด็นในวันที่ไม่มีลาล่า ลูลู่

นับว่าเป็นเรื่องน่าใจหายเลยทีเดียว... สำหรับการประกาศแยกวง "โปงลางสะออน" ซึ่งต่อจากนี้ เราจะไม่ได้เห็นคู่หูคู่ฮา อย่างลาล่า ลูลู่ เข้าร่วมแสดงในโปงลางสะออนวงนี้อีกแล้ว โดยทั้งคู่เลือกที่จะไปออกอัลบั้มคู่ และใช้ชื่อใหม่ว่า "ลาล่า ลูลู่ โปงลางอาร์สยาม" แทน งานนี้แฟน ๆ ที่ติดตามโปงลานสะออนมานานก็อยากทราบถึงที่มาที่ไป ในการถอนตัวออกจากวงของพวกเธอ ซึ่งค่ำคืนวานนี้ (10 กุมภาพันธ์) รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ก็ขอพาตัวหัวหน้าวง "อี๊ด โปงลางสะออน" มาเปิดใจทุกเรื่อง เปิดเผยทุกความรู้สึก หลังจากที่น้องสาวคู่คิดไม่ได้ร่วมวงด้วยกันแล้ว...



โปงลางสะออน
 
โปงลางสะออน

            จุดที่มั่นใจแน่ชัดว่า... ลาล่า ลูลู่ เลือกที่จะเดินคนละทางกับเขา นั่นก็คืองานคอนเสิร์ตที่ จ.พิจิตร โดย อี๊ด โปงลางสะออน เผยว่า ตนรับงานผ่านคนกลาง ไม่ได้รับงานผ่านค่าย ซึ่งเขาก็บอกว่าโปรโมทไปเยอะแล้ว ตนก็เตรียมซ้อม เตรียมทุกอย่างตามสคริปแบบที่เคยทำ และพอถึงวันงาน ตนก็คิดว่าน้องทั้งสองคนจะนั่งรถตู้ตามไป... โดยคอนเสิร์ตก็เริ่มตามปกติ ทุกคนเล่นในคิวของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่พอถึงคิวของน้อง กลับไม่เห็นแม้แต่เงา และก็มีคนมาบอกว่า น้องไม่มานะ ซึ่งตนก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเล่นจนจบ ซึ่งพอจบตนกับน้องในวงก็ก้มลงกราบชาวเมืองพิจิตร พร้อมขอโทษที่วันนั้นเล่นไม่เต็มวง เพราะทางคณะกรรมการวัด โดนชาวบ้านต่อว่าหลอกลวงไม่มีลาล่า ลูลู่ ตามที่โฆษณาไว้...

            สำหรับข่าวลือที่บอกว่า ชนวนของการแยกวงในครั้งนี้ มาจากที่ อี๊ด โปงลางสะออน อมเงินลูกน้องนั้น ด้านเจ้าตัวกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ต้องถามก่อนว่าอมเงินคืออะไร ถ้าตนบอกให้ 1 พัน ก็คือ 1 พัน ไม่มีให้ไม่เต็ม ด้านพิธีกรเลยยกตัวอย่างว่า สมมติเขาให้จ่ายลูกน้องคนละพัน แต่อี๊ดจ่ายเพียง 500 บาท... เคยมีกรณีอย่างนี้บ้างหรือเปล่า ซึ่งอี๊ดก็ยืนยันชัดเจนว่า ไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างแน่นอนส่วนมากลูกน้องจะเป็นหนี้ตนเสียมากกว่า ใครไม่มีหรือลำบากอะไร ถ้าตนมีตนก็ให้หมด

            ต่อกันด้วยอีกชนวนของความแตกหัก นั่นก็คือผู้หญิงที่ชื่อ ปุ๋ย รุ่งทิวา ที่ทำให้อี๊ด โปงลางสะออนเลิกกับแฟนสาว แถมยังทำให้อี๊ดไม่เป็นอันทำงานทำการ ซึ่งเรื่องนี้ อี๊ด โปงลางสะออน ชี้แจงว่า ตนเลิกกับนุชแฟนเก่าก่อนที่จะรู้จักกับปุ๋ย รุ่งทิวา ซึ่งตนชอบน้องคนนี้เพราะเขาเป็นคนฉลาด คล่องแคล่ว แต่ไม่ใช่แฟน ไม่มีกุ๊กกิ๊ก หรืออะไรทั้งนั้น แต่ก็ยังมีโทรคุยกันบ้าง ตามประสาคนที่รู้จักกัน เป็นห่วงกัน 


            แต่สาเหตุจริง ๆ ที่ทำให้ลาล่า ลูลู่ ต้องออกจากวงไปนั้น อี๊ด โปงลางสะออน กล่าวว่า ต้นเหตุมาจากการเซ็นต์สัญญา และทัศนคติการรับงานไม่ตรงกัน เริ่มต้นจากที่ค่ายเรียกไปคุยเรื่องสัญญา ซึ่งจริง ๆ แล้วตนและลาล่า ลูลู่ ยังเหลือสัญญาในฐานะโปงลางสะออนอีก 1 ปีครึ่ง แต่ที่ตนเข้าไปดูสัญญานั้น ตนแค่อยากรู้ว่า หากต่อสัญญาอีก 5 ปีข้างหน้า บ้านหลังนี้จะมีข้าวให้ตนกินหรือไม่ ตนจะเลี้ยงน้อง ๆ ในวงกว่า 30 คน ได้ไหม มีงานอะไรเข้ามาบ้างมากกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าการเข้าไปครั้งนั้น เหมือนการพูดคุยกับเรื่องสัญญาใหม่ และตนก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะปกติเซ็นต์สัญญาจะมีสัญญาเพียงแต่ฉบับเดียว แต่นี่มา 3 ฉบับ มีของตน ลูลู่ ลาล่า คนละฉบับ และสัญญาก็เหมือนว่าจะให้ตนรับงานเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น ตนเลยขอคิดดูก่อน และน้อง ๆ ก็ขอคิดดูก่อนเหมือนกัน

            หลังจากที่กลับบ้านมา ตนก็หวังว่าน้อง ๆ จะโทรมาถามตนว่า.. จะเอาอย่างไรดีพี่ สัญญาเป็นแบบนี้ จะทำอย่างไรกันดี แต่ไม่มีโทรศัพท์จากน้อง ๆ เลย ซึ่งน้องโทรมาอีกทีคือวันที่เขาบอกว่าเขาจะไปเซ็นต์สัญญาต่อกับบริษัทนะ ตนพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงแค่เตือนว่า ดูดี ๆ นะ ทุกตัวหนังสือมีความหมาย อยากให้เขาทบทวนดี ๆ

            ถ้าถามว่าทำไมตนไม่เลือกที่เซ็นต์สัญญาตอนนั้น ตนไม่ได้ตั้งใจจะเนรคุณเฮียฮ้อผู้มีพระคุณของตน ซึ่งเขาเป็นผู้ใหญ่ และอาจจะมองในแง่ของธุรกิจ แต่ตนมีลูกน้องอีก 30 กว่าชีวิต ตนทิ้งพวกเขาไม่ได้ ถ้าตนไปแล้วพวกเขาจะกินอะไรกัน ตนเลยขอคิดดูก่อน เพราะเหลือเวลาอีกตั้ง 1 ปีครึ่ง ตนถึงจะหมดสัญญาจากอาร์เอส ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาระบุว่า ตนจะไปซบอกเวิร์กพอยต์นั้น ไม่เป็นความจริง ตนรักอาร์เอส ตนไม่มีวันเปลี่ยนใจจากเฮีย ตนก็ยังเป็นลูกน้องที่รอรับคำสั่งจากเฮียอยู่เหมือนเดิม

            พร้อมกันนี้ อี๊ด โปงลางสะออน ยังเผยความรู้สึก หลังจากที่ลาล่า ลูลู่ ถอนตัวออกจากวงว่า...  "ผมยอมรับว่ารู้สึกน้อยใจมาก อยู่ด้วยกันมานาน ไม่คิดว่าลาล่า ลูลู่ จะทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกมีพลังมากขึ้น สบายใจมาก วางภาระลง เบาตัวมากขึ้น ผมสบายใจที่สุด เค้ากระโดดลงไปเอง ผมมีญาติพี่น้องให้กำลังใจ แต่ก็สงสารน้อง รู้ว่าเค้าเป็นยังไง คิดได้เท่าไหร่ เค้าไม่เคยเผชิญโลกแบบนี้ ผมเป็นห่วงเค้า เพราะรู้จักน้องทั้ง 2 คนดีที่สุด เค้าเองกลัวที่จะมาคุยกับผม ผมยังคิดว่าเค้าเป็นน้องผมอยู่ และดีใจกับเค้าที่ตั้งวงใหม่ชื่อว่า ลาล่า ลูลู่ โปงลางอาร์สยาม ทำให้คำว่า โปงลางยังแข็งแรง มีราก กิ่งก้านที่แข็งแรงออกไป"

โปงลางสะออน

            ต่อจากนี้อนาคตของโปงลางสะออนจะเป็นอย่างไร อี๊ด โปงลางฯ เผยว่า ตนก็ตั้งใจซ้อมอย่างเต็มที่ และตอนนี้ก็มีเด็กใหม่ชื่อ "เอน" ซึ่งคาดว่าจะดันมาแทนลาล่า ลูลู่ ผลออกมาจะเป็นอย่างไร ตนก็ทิ้งวงไม่ได้ ถึงแม้ว่าตนไม่มีสักบาท ไม่มีคนจ้าง ตนก็จะต้องให้ลูกน้องตนอยู่ต่อได้ ถ้าต้องขายบ้านขายรถตนก็ยอมขาย เพราะไม่ใช่แค่ตัวลูกน้องที่ยึดตนเป็นที่พึ่ง แต่พ่อแม่ของลูกน้อง ญาติพี่น้อง ก็ยึดเขาเป็นที่พึ่งเหมือนกัน ทุกคนเป็นความหวังของครอบครัว เพราะฉะนั้นตนทิ้งใครไม่ได้จริง ๆ 

            นอกจากนี้ อี๊ด โปงลางฯ ยังฝากบอกกับลาล่า ลูลู่ว่า ต่อจากนี้ก็คงต้องเจออะไรอีกเยอะ จะทำอะไรก็ขอให้มีลายลักษณ์อักษร ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด และอยากให้มองที่ตัวเราเท่านั้น คนอื่นเป็นแค่ตัวประกอบ... จากนี้ต่อไปเราความฝัน ถ้าเรามีทางไปได้ ก็ไป แต่ก็อย่าลืมทางที่มา...

            สุดท้ายนี้ พิธีกรถามว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากจะดังแบบนี้หรือเปล่า ด้านอี๊ด โปงลางฯ กล่าวแบบอัดอั้นว่า ตนไม่อยากดัง อยากกลับไปร้องเพลงที่โรงเบียร์ก็พอ ตนเหนื่อยมามากแล้ว แต่ทุกอย่างมันย้อนกลับไปไม่ได้... ซึ่งต่อจากนี้ ตนมีโปรโจคท์ใหม่คืออยากจะทำโปงลางเรียลลิตี้ หาสุดยอดโปงลางของแต่ละวงแต่ละภาค แล้วมาทำโปงลางเซ็นเตอร์ โดยเรื่องนี้ตนเคยเสนอเฮียฮ้อไปแล้ว และเขาก็สนใจให้ตนเขียนโปรเจคท์เสนอไปด้วย...

โปงลางสะออน

            ... ถึงแม้ว่าวันนี้ "โปงลางสะออน" จะไม่มีสองสาวสุดฮาตัวชูโรงสำคัญ แต่วงโปงลางก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป... และอี๊ด ก็กล่าวทิ้งท้ายว่า หากน้อง ๆ จะกลับมา เขาก็อ้าแขนรับเสมอ.. ในฐานะพี่ชายคนเดิม


คลิป 1/5 อี๊ด โปงลางสะออน : เครดิต รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดย คุณ CiNNtv3



คลิป 2/5 อี๊ด โปงลางสะออน : เครดิต รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดย คุณ CiNNtv3



คลิป 3/5 อี๊ด โปงลางสะออน : เครดิต รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดย คุณ CiNNtv3



คลิป 4/5 อี๊ด โปงลางสะออน : เครดิต รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดย คุณ CiNNtv3



คลิป 5/5 อี๊ด โปงลางสะออน : เครดิต รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดย คุณ CiNNtv3


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย