วง ชินฮวา(เกาหลี: 신화, ฮันจา: 神話; อังกฤษ: Shinhwa) บอยแบนด์ในตำนานของเกาหลี

วง ชินฮวา





ชินฮวา (เกาหลี신화ฮันจา: 神話อังกฤษShinhwa) เป็นวงบอยแบนด์สัญชาติเกาหลี ในวงประกอบด้วยสมาชิก 6 คน (นักร้องนำ 3 คน และ แร็ปเปอร์ 3 คน) พวกเขาเดบิวท์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1998 พวกเขามีความสุขกับความสำเร็จอย่างมหาศาลร่วมกับวงอย่าง Sechs Kies, Baby Vox, Fin. K.L., H.O.T. และ S.E.S. แต่ในขณะที่วงอื่นๆได้ต่างแยกย้ายกันไป ชินฮวาก็ยังคงวางแผงอัลบั้มด้วยยอดขายถล่มทลาย คำว่าชินฮวานั้นเป็นคำในภาษาเกาหลีที่แปลว่า ตำนาน [1][2][3][4]ถูกจดจำในฐานะวงที่ยืนหยัดมายาวนานที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ วงชินฮวาได้วางแผง 10 สตูดิโออัลบั้ม (9 อัลบั้มในภาษาเกาหลี และ หนึ่งอัลบั้มเต็มในภาษาญี่ปุ่น) อัลบั้มรวมฮิต 1 อัลบั้ม อัลบั้มพิเศษ 4 อัลบั้ม และซิงเกิ้ลอีก 4 ซิงเกิ้ล (ซิงเกิ้ลภาษาเกาหลี 3 ซิงเกิ้ล และ ซิงเกิ้ลในภาษาญี่ปุ่น 1 ซิงเกิ้ล) ซึ่งแนวเพลงของวงนั้นได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ผลงานของพวกเขาที่ผ่านมานั้น มีทั้งร็อก แร็ป ป็อป บัลลาดและอาร์แอนด์บี


ก่อตั้งขึ้นโดยดั้งเดิมภายใต้สังกัด SM Entertainment พวกเขาได้เซ็นต์สัญญากับต้นสังกัดใหม่ Good Entertainment ใน กรกฎาคม ค.ศ. 2003 โดยขณะที่ยังคงอยู่ภายใต้สังกัด Good Entertainmentในนามชินฮวา สมาชิกทุกคน(ยกเว้น ชินฮเยซอง) ได้ออกจากสังกัดมาตั้งบริษัทของตนเพื่อทุ่มเทให้กับผลงานเดี่ยวของพวกเขา ตั้งแต่การแสดงไปจนถึงการเป็นศิลปินเดี่ยว โดยนอกจากการร้องเพลงและการแสดงในฐานะกลุ่มและเดี่ยวรวมไปถึงการแสดง ชินฮวายังเป็นที่ปรึกษาให้กับวงบอยแบนด์สัญชาติเกาหลี Battle อีกด้วย
ชินฮวายังเป็นที่รู้จักนอกขอบเขตของประเทศเกาหลีอีกด้วย ในฐานะหนึ่งในวงที่มีฐานแฟนคลับที่กระตือรือร้นมากที่สุดทั้งในประเทศเกาหลีและทั่วเอเชียที่มีชื่ออย่างเหมาะสมว่า "ชินฮวาชางโจ"(신화창조 ความหมายโดยรูปศัพท์แปลว่า "ผู้สร้างตำนาน") และมีสีประจำวงอย่างเป็นทางการคือ สีส้ม โดยชินฮวาชางโจจะใช้สัญลักษณ์ในการเชียร์เป็นลูกโป่งสีส้มหรือแท่งไฟสีส้ม ในขณะที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในทวีปเอเชีย พวกเขาก็ยังได้แสดงในประเทศต่างๆรอบโลก รวมไปถึง สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน ไต้หวัน เกาหลีเหนือ(แม้ว่าการแสดงจะไม่ได้เป็นที่สนใจนัก[5]สิงคโปร์ ไทย และญี่ปุ่น


สมาชิก

ชินฮวามีสมาชิกทั้งหมดรวม 6 คนด้วยกัน

[แก้]เอริค มุน

  • ชื่อในวงการ : เอริค มุน (อังกฤษEric Mun)
  • ชื่อจริง: มุน จองฮยอก (เกาหลี문정혁ฮันจา: 文晸赫อังกฤษMun Jung-Hyuk )
  • วันเกิด : 16 ก.พ. ค.ศ. 1979
  • ตำแหน่งในวง : หัวหน้าวงและแร็ปเปอร์

[แก้]อีมินอู

  • ชื่อในวงการ : อี มินอู (เกาหลี이민우ฮันจา: 李玟雨อังกฤษLee Min Woo )
  • วันเกิด : 28 ก.ค. 1980
  • ตำแหน่งในวง : ร้องเสริม และ ออกแบบท่าเต้น

[แก้]คิมดงวาน

  • ชื่อในวงการ : คิม ดงวาน (เกาหลี김동완ฮันจา: 金烔完อังกฤษKim Dong Wan )
  • วันเกิด : 21 พ.ย. 1979
  • ตำแหน่งในวง : ร้องเสริม

[แก้]ชินฮเยซอง

[แก้]จอนจิน

[แก้]แอนดี้



ผลงานอัลบั้ม


อัลบั้มภาษาเกาหลี

  • 해결사 (5 พ.ค. 1998)
  • T.O.P (4 เม.ย. 1999)
  • Only One (27 พ.ค. 2000)
  • Hey, Come On! (28 ก.ค. 2001)
  • My Choice (31 ม.ค. 2002)
  • Perfect Man (29 มี.ค. 2002)
  • Wedding (6 ธ.ค. 2002)
  • Brand New (27 ส.ค. 2004)
  • State of the Art (11 พ.ค. 2006)
  • Shinhwa Vol.9 (3 เม.ย. 2008)

[แก้]ซิงเกิ้ลภาษาเกาหลี

  • How Do I Say (8 ส.ค. 2004)
  • Hey, Dude (4 เม.ย. 2005)
  • Summer Story Tropical 2005 (10 ส.ค. 2005)

อัลบั้มภาษาญี่ปุ่น

  • Inspiration #1 (16 ส.ค. 2006)

[แก้]ซิงเกิ้ลภาษาญี่ปุ่น

  • Bokura no Kokoro ni wa Taiyō ga Aru [This Is The Sun In Our Hearts] (14 มิ.ย. 2006)

[แก้]อัลบั้มรวม (Winter Stories)

  • Winter Story 2003-2004 (30 ธ.ค. 2003)
  • Winter Story 2004-2005 (20 ธ.ค. 2004)
  • Winter Story 2006-2007 (25 ม.ค. 2007)
  • Winter Story 2007-2008 (6 ธ.ค. 2007)

[แก้]อัลบั้มรวมฮิต

  • My Choice (31 ม.ค. 2002)

ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่า ณ วันนี้ วง ชินฮวา บอยแบนด์ในตำนานของเกาหลี จะยืนยงคงกระพันมาได้กว่า 14 ปีแล้ว

โดยที่สมาชิกทั้ง 6 ยังคงเป็นสมาชิกเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่เพียงวงเดียวที่มีอายุยืนยาวที่สุด  เปิดตัวตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นหนุ่มขบเผาะยันปัจจุบันรับใช้ชาติทหาร จนเสร็จสิ้นออกจากกรมมาครบทุกคน ล่าสุดเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 14 ปีของวง ชินฮวา  สมาชิกทั้ง 6 เลยตัดสินใจจัดคอนเสิร์ต รวมไปถึงออกอัลบั้มเต็มชุดใหม่ ซึ่งนับเป็นชุดที่ 10 ของพวกเขาแล้ว ภายใต้ชื่อว่า “The Return”

***รู้สึกอย่างไรกับการออกอัลบั้มเต็มชุดที่ 10 ในครั้งนี้          อีริค : มีความรู้สึกเหมือนเป็นศิลปินน้องใหม่เพิ่งเปิดตัวเลยครับ(หัวเราะ)  เราอยากจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า การที่เราอยู่ในวงการนานและอายุเพิ่มขึ้นมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำอะไรที่ล้าสมัย พวกเราจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเราก็มีสไตล์เหมือนกัน  สำหรับแฟนเพลงที่เติบโตมาพร้อมๆ กับ ชินฮวา  สิ่งที่เราอยากจะบอกก็คือ ผลงานชิ้นโบแดงไม่สามารถจะสร้างและทำให้สำเร็จได้เพียงในวันเดียว  ทุกอย่างเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความพยายามของพวกเราครับ

***แนวดนตรีในอัลบั้มชุดนี้มีอะไรแปลกใหม่หรือไม่          อีริค : “ในผลงานชุดนี้จะมีแนวอิเล็กทรอนิก้าเข้าไปด้วยครับ  ซึ่งพวกเรายังไม่เคยลองทำดนตรีแนวนี้มาก่อน  ตอนแรกก็กังวลเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นอย่างไร  แต่พวกเราก็ค่อนข้างพอใจกับเพลงและท่าเต้นพอสมควรครับ  นอกเหนือไปจากดนตรีแนวใหม่ๆที่เราใส่เข้าไปแล้ว  ยังมีแนวบัลลาด และเพลงเต้นอย่างที่ ชินฮวา เคยทำมาแล้วรวมอยู่ด้วย  ดังนั้นทุกคนก็จะสามารถสัมผัสได้ทั้ง อดีต, ปัจจุบัน และอนาคตของ ชินฮวา จากอัลบั้มชุดนี้”
          มินวู : “เราพยายามที่จะรักษาสไตล์เดิมของ ชินฮวา ไว้  และก็พยายามนำเสนอดนตรีแนวใหม่ๆ หลากหลายให้กับแฟนเพลงด้วย ก็เหมือนกับการกินบุฟเฟ่ต์ครับ ทุกคนสามารถเลือกฟังเพลงที่แตกต่างและหลากหลายได้ในอัลบั้มนี้ ”
วง ชินฮวา

***ในขณะที่ศิลปินรุ่นใหม่นิยมออกผลงานในรูปแบบของซิลเกิ้ลหรือไม่ก็มินิอัลบั้ม  แต่ชินฮวากลับออกอัลบั้มเต็ม 11 เพลง มีความกดดันอะไรบ้างไหมกับข้อแตกต่างนี้
          มินวู : “ไม่รู้สึกกังวลหรือกดดันเลยครับ  เรามีความตั้งใจเพียงอย่างเดียวว่าอยากจะทำอัลบั้มเต็มออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังหลายๆ เพลง เพื่อตอบแทนการรอคอยของพวกเขา”


***คิดว่าชินฮวา จะสู้ศิลปินรุ่นใหม่ๆ ได้ไหม          อีริค : “ที่เราทำได้ คงมีแค่ความมุ่งมั่นที่จะแสดงออกถึงความเป็น ชินฮวา ครับ  ทราบดีว่าตอนนี้มีวงไอดอลที่มีความสามารถเกิดขึ้นมากมาย และพวกเราเองก็ชื่นชอบวงศิลปินรุ่นน้องเหล่านั้นด้วยเช่นกัน เคยคิดเล่นๆ เหมือนกันครับ ว่าเราจะเอาอะไรไปสู้ศิลปินรุ่นใหม่ๆ แต่คำตอบที่ได้ก็คือพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่วง ชินฮวา จะทำได้แหละครับ  จริงอยู่ที่ว่าเทรนด์เป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการรักษาเอกลักษณ์ของวง ที่จะสามารถทำให้ผู้คนรู้จักเราได้ในทันที ”

***ชินฮวามีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้สมาชิกอยู่ยงคงมาได้ถึง 14 ปี          ดองวาน : “ที่จริงก็ไม่มีเคล็ดลับอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ  ผมคิดว่าพวกเราโชคดีมากกว่า  ศิลปินวงอื่นที่ยุบวงไป ส่วนใหญ่เป็นเพราะทะเลาะกันเองระหว่างสมาชิกหรือไม่ก็เป็นเพราะต้องการแยกออกไปทำงานเดี่ยว แต่พวกเราโชคดีที่ทีมเวิร์กดีและมองเรื่องวงเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญกว่าการทำงานเดี่ยวครับ”

          ฟังแล้วอยากจะให้ศิลปินรุ่นใหม่ๆ เอาเป็นตัวอย่างกันเสียจริง  จะได้ไม่ขยันทอดทิ้งกันและกัน  และยืนอยู่ยงคงกระพันเป็นตำนานเหมือนอย่างศิลปินวงชินฮวา ไปนานๆ
วง ชินฮวา
วง ชินฮวา
วง ชินฮวา
วง ชินฮวา



    Shinhwa เปิดตำนาน....ชินวา มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ ความสนุก ความห่วงใยและโชคชะตา


    เปิดตำนาน Shinhwa ปีที่ 1 (1998) – ตำนานถือกำเนิด เฮซอง : เพลงแรกของอัลบั้มแรก “Hye Gyul Sa” ไม่ได้รับการตอบรับเลย เพราะเป็นช่วงเศรษฐกิจเกาหลีตกต่ำในยุค IMF เฮซอง : เราเลยเปลี่ยนเป็นเพลง “Eusha Eusha” เป็นเพลงที่เกี่ยวกับไปเที่ยวทะเล เล่นน้ำสนุกสนาน แต่ตอนนั้นดันเกิดเหตุน้ำท่วมและอุทกภัยอย่างหนัก ในสถานการณ์แบบนั้น เพลงที่เกี่ยวกับเล่นน้ำจะไปรอดได้ยังไง เฮซอง : ปี 1998 เป็นปีที่ลำบากมาก และชินฮวาต้องดิ้นรนอย่างหนัก เราต้องตระเวนออกรายการทุกวัน จนแทบไม่มีเวลากินหรือนอน ความเครียดขนาดนี้ถือว่าลำบากมากแม้แต่สำหรับศิลปินที่คร่ำหวอดในวงการ นับประสาอะไรกับพวกเราที่เป็นเพียงหน้าใหม่เท่านั้น เราต้องไปออกรายการทุกวัน ระหว่างที่เรากำลังยุ่งกับการโปรโมทอัลบั้มแรก เราก็รอเสียงตอบรับที่ breakthrough (แปลว่าไรดีอ่ะ ^^'') แต่... กลับไม่มีเสียงตอบรับอะไรเลย เรารู้สึกล้มเหลวมาก SM Entertainment: ชินฮวา เพิ่งตั้งวงทีหลัง เราเลยไม่ได้ให้ความสนใจมาก เพราะตอนนั้นเราพุ่งเป้าไปที่ H.O.T อยู่ พวกเขาต้องฝ่าฟันอย่างมากในอัลบั้มแรก Minwoo: เราทุกคนทำได้เยี่ยมมากในอัลบั้มแรก แต่ผลตอบรับทำเอาพวกเราช็อคมาก ผมนึกว่าโชคจะเข้าข้างเราเสมอ แต่อัลบั้มแรกขายไม่ดีเลย (เพื่อนเกาหลีบอกเจ๊งสนิท ~~><~~) เฮซอง : บริษัทตัดสินใจจะแยกวงถ้าอัลบั้มที่สองยังทำยอดขายไม่ดีเท่าที่พวกเขาต้องการ สมาชิกชินฮวาทุกคนตกลงกันว่า "ถ้าชุดที่สองไปไม่รอด ก็จบกันตรงนี้ แล้วกลับไปตั้งใจเรียน มุ่งมั่นให้ประสบความสำเร็จจากตรงนั้น"


    ปีที่ 2 (1999) - จุดสร้างตำนาน เฮซอง : โชคดีมากที่ชุดที่สองประสบความสำเร็จอย่างสูง และ T.O.P ก็ฝ่าฟันขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งของรายการเพลงมากมายได้ เอริค : ปกตินักร้องมักจะร้องไห้เวลาขึ้นอันดับหนึ่งเป็นครั้งแรก แต่ในกรณีของเรา เราใจเย็น นิ่งมากตอนที่เราชนะอันดับหนึ่ง เพื่อนฝูง รุ่นพี่และครอบครัวที่ดูรายการอยู่ถามเราว่า "พวกนายได้อันดับหนึ่ง ไม่ดีใจรึไง" แต่ตอนนั้น เราดีใจมากจนได้แต่ยืนนิ่ง หลังรายการจบ เราขึ้นรถแล้วก็กลับ เมื่อขึ้นรถ สมาชิกแต่ละคนเริ่มร้องไห้ ทีละคน เราหยิบมือถือขึ้นมาและโทรหาเทรนเนอร์และครูฝึกเพื่อบอกว่า "ในที่สุดเราก็ขึ้นอันดับหนึ่งแล้ว ขอบคุณมากครับที่กรุณาฝึกให้" คนแรก... คนที่สอง... คนที่สามเริ่มร้องไห้...เฮซอง มินอู และผม จนสุดท้าย ทุกคนก็ร้องไห้ด้วยกัน เราร้องไห้ให้กับช่วงเวลาอันยากลำบากที่เราเผชิญมาด้วยกัน ปีที่ 3 (2002) - ตำนานเริ่มต้น เอริค : ผม เอริค สัญญาจะรักทุกคนใน Shinhwa Changjo ตลอดไป ใจผมจะอยู่กับพวกคุณเสมอ เฮซอง : ผม ชิน เฮซอง สัญญาจะร้องเพลงให้กับทุกคนใน Shinhwa Changjo ทุกเพลงที่ผมร้อง ผมจะร้องให้พวกคุณเท่านั้น ดงวาน : ผม คิม ดงวาน สัญญาจะมองแต่สมาชิกชินฮวาและ Shinhwa Changjo ผมจะเดินบนเส้นทางนี้ตลอดไป จอนจิน : ผม จอนจิน สัญญาจะรัก Shinhwa Changjo ตลอดไป ในอนาคต ผมจะมองแต่ Shinhwa Changjo เท่านั้น มินอู : ผม ลี มินอู สัญญาจะรัก Shinhwa Changjo ตลอดไป ทุกครั้งที่ผมเต้น ผมจะเต้นเพื่อคุณเท่านั้น แอนดี้ : ผม แอนดี้ สัญญาว่าจะเป็นคนเดิมเสมอในใจของ Shinhwa Changjo ผมจะรักษาสัญญานี้ไว้ไปจนวันแก่เฒ่า เฮซอง : เรากล่าวคำมั่นสัญญาในพิธีหมั้นกับ Shinhwa Changjo ไปแล้ว ในคอนเสิร์ตครั้งหน้า เราจะทำพิธีแต่งงานระหว่างเรา มินอู : ถ้าไม่มี Shinhwa Changjo พวกเราก็ไม่มีตัวตน (~~>.<~~) ชินฮวา : เลข 6 เป็นเพียงตัวเลขที่ไม่มีความหมายเป็นพิเศษ แต่สำหรับเรา 6 หมายถึง Shinhwa การรอคอย ความยากลำบากทั้งหมด ไม่ได้สูญเปล่า เราทำสำเร็จแล้ว


    ปีที่ 4 (2001) ภารกิจแรกของ ตำนาน เอริค : ช่วงทำกิจกรรมโปรโมทในอัลบั้มที่ 4 ของชินฮวา แอนดี้ต้องออกจากวงเพราะปัญหาเรื่องโรงเรียนและปัญหาส่วนตัว (~~~>.<~~~) นั่นเป็นช่วงวิกฤติที่สุดที่ชินฮวาต้องเผชิญ มินอู : guerilla concert เป็นตอนที่เจ๋งที่สุด (แปลว่าไรดีอ่ะ ที่เค้าให้แฟนๆ มาซุ่มรวมตัวไม่ให้ชินฮวารู้อ่ะ) มินอู : จินนี่ ดงวานนี่ เฮซองกี้ เอริคที่อยู่ที่นี่ และเพื่อนรักอีกคนที่เราอยากให้อยู่ที่นี่ด้วยกัน แอนดี้ของเรา ผมอยากใช้ชีวิตที่เหลือกับทุกคน ฉันรักพวกนาย จอนจิน : เพราะพี่ๆ... แอนดี้กับผมถึง... อยู่รอดมาได้ถึง 4 ปี แต่ผมไม่เคยเอ่ยคำว่า รัก กับพวกพี่ๆ เลย ไม่ซักครั้งเดียว กับแอนดี้ก็เหมือนกัน พี่ๆ ครับ ผมรักพี่จริงๆ (คนแปลน้ำตาไหลพราก T_T) ดงวาน : ถึงเราจะไม่ได้ผูกพันกันทางสายเลือด เราต้องขอบคุณพระเจ้าที่นำพวกเรามาพบกัน นี่คือโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม ไม่ว่าในอนาคตชีวิตเราจะเป็นอย่างไร ผมหวังว่า เราจะเก็บความทรงจำของพวกเรานี้ไว้ตลอดไป จนถึงวันตาย เราจะไม่มีวันลืมมิตรภาพนี้ มินอู : ที่จริงตอนนั้นผมพูดอะไรไม่ออก แต่ตอนที่เรากอดคอร้องไห้ด้วยกัน เราอยากกอดแฟนๆ ทุกคนของเรามาก ตอนนั้นจินร้องไห้โฮเลยใช่มั้ย เราทุกคนก็ร้องไห้ ทั้งพวกคุณและพวกเรา... แอนดี้ : ตอนนั้นเพื่อนๆ ในวงยุ่งกันมาก ผมเลยไม่ค่อยได้ติดต่อกับพวกเขา เมื่อเวลาผ่านไป ผมก็คิดว่า ถึงไม่มีผม ชินฮวาที่มีเพียง 5 คนก็ไปได้ดี แค่คิดน้ำตาผมก็ไหล... แต่ถึงผมจะกำลังร้องไห้... ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา... ผมไม่อยากทำให้แฟนๆ เสียใจ เอริค : ตอนแรกผมไม่รู้จะช่วยแอนดี้ยังไงในปีนั้น แต่ผมคิดว่า มันช่วยได้เวลาเขาเฝ้าดูเราแสดงบนเวที ทำไมแอนดี้ถึงสำคัญต่อผมนักน่ะเหรอ เพราะผมรักเขา เขาเป็นคนที่น่ารักมาก เวลาเขาร้องเพลง เขาเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงที่คุณเห็นแล้วอยากจูบ และเขาทำงานหนักมาก แอนดี้ : ตอนที่ผมหดหู่สุดๆ ผมเคยตั้งใจจะออกจากวง แต่ท้ายที่สุด เมื่อได้ยืนอยู่บนเวทีในงานแฟนมีตติ้งของชินฮวา เพื่อนในวงทุกคนร้องไห้พยายามหยุดไม่ให้ผมไป เอริค : ถ้าแอนดี้ไม่ได้กลับมาในอัลบั้มที่ 5 ตอนนี้ก็คงไม่มีชินฮวา 


    ปีที่ 5 (2002) – การฝ่าฟันครั้งที่ 2 เพื่อเป็นตำนาน จอนจิน มีครั้งนึงผมได้รับบาดเจ็บสาหัส ผมถูกหามส่งห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล จอนจิน คุณหมอห้ามเลือดที่ไหลออกจากศรีษะได้สำเร็จ แต่ก็ผมก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย จอนจิน สมาชิกทุกคนต่างเป็นกังวลสุดสุด พี่ดงวาน เอาแต่ร้องตะโกนเรียก 119, 119 (เบอร์แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายของประเทศเกาหลี) พอผมฟื้นขึ้น ผมก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว พี่เอริคนั่งรออยู่ตรงนั้นนานนับชั่วโมง....ในท่าคล้ายคนเข้าฌาน ...ในขณะที่พี่มินอูกำลังเดินกลับไป – กลับมา และพี่เฮซอง ร้องไห้อย่างหนัก "นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น จินนี่บาดเจ็บขนาดนี้...” เฮซอง ผมคิดว่าเขาไม่รอดแน่… เฮซอง ตอนที่จอนจินบาดเจ็บ ผมเข้าไปในห้องฉุกเฉิน แล้วหมอก็บอกว่า อาการเค้าน่าเป็นห่วงมาก เพราะเสียเลือดเยอะจากบาดแผลที่ศรีษะ หมอบอกเราว่า “เค้าอาจจะอยู่ไม่พ้นคืนนี้”... ตอนผมได้ยินแบบนั้น...ผมรู้สึก...รู้สึกช็อคมาก.... ผมเดินออกมาด้านนอก....ขณะนั้นฝนกำลังตกหนัก....ผมเองก็ร้องไห้หนักเช่นกัน...ผมรู้สึกเหมือนว่า น้องชายที่สนิทมากๆกำลังจะจากผมไป ผมไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ จินนี่ นายต้องระวังตัวให้มาก อย่าทำให้ชั้นต้องร้องไห้อีก เอริค ใช่ นายต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ นายเป็นแบบนั้นเสมอ แต่ละครั้ง...ไม่ใช่สิ..ทุกครั้งที่เราทำการแสดง นายมักจะได้รับบาดเจ็บเสมอเลย 


    ปีที่ 6 (2003) – ตำนานฟื้นคืนชีพ ดงวาน เราย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่...ภายใต้แนวดนตรีและบริษัทที่แตกต่างจากเดิม… ดงวาน เรายังรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น...เราจะมั่นคงต่อกันตราบวาระสุดท้าย.... และเราจะตอบแทนให้เท่าๆ กับที่เราได้เคยได้รับมา....ซึ่งเราทำมันมาโดยตลอด.. สำหรับอัลบั้มใหม่, ด้วยบทเพลงใหม่, ด้วยแนวเพลงใหม่ เราจะตอบแทนคุณด้วยสิ่งเหล่านี้ครับ.... เฮซอง มันเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญและยากลำบากกว่าครั้งไหนๆ โชคดีที่เราเลือกไม่ผิดและทุกๆอย่างลงตัวมาก จึงเหมือนกับว่า..เราเริ่มใหม่อีกครั้งในนามของ “ชินฮวา”


    Year 7 (2004) – We are the 'LEGEND'  Junjin: ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะเรียกชื่อของพวกเราถึง  2-3 ครั้ง (พวกมานบ้า หูบอดทั้ง 6 ตัว มะรู้ว่าถูกหวยแระ) Eric : ฉันประหลาดใจจริงๆ  สมาชิกในวงสามารถบอกเรื่องราวทั้งหมด นั้นได้ Junjin:  สองสามปีทีผ่านมา มันเหนื่อยยากมาก Eric : มันเหมือนภาพยนตร์ อ่ะ  ช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้น มันย้อนกลับมาหาพวกเราในทันใด Hyesung:.. น้ำตาของแฟนๆ ย้อนกลับมาเป็นน้ำตาแห่งความพึงพอใจในวันนี้   มันทำให้พวกเรามีความสุขมากๆๆ Eric: พูดตรงๆเลยก็คือ, ทุก ๆปี พวกเราต่างคาดหวัง ซึ่งนั่นมันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแตกต่างจากปีนี้เลย (พวกมันหวังกันทุกปี  แต่แด๊กกกแห้วสมหวังทุกปี ฮี่ ๆๆ ตรูถูกตื๊บแน่) แต่หลังจากที่พวกเราได้รับรางวัลแล้ว ความรู้สึกนั้นมันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง Shinhwa Changjo: บรรยากาศภายนอกที่เต็มไปด้วยความมืด (อยู่ป่าช้าเหรอ เหอ เหอ ) และ เครื่องเสียงก็ห่วยเต็มที ... พวกชินฮวา ออกมาพบพวกเราพร้อมด้วยการ์ดเพียงคนเดียว   พวกเขาเดินออกจากผู้สื่อข่าวประมาณ 20 คน ที่มารอสัมภาษณ์ เพื่อที่จะมาหาและใช้เวลากะพวกเรา (เสนอหน้ามาหาแฟนๆๆเรยนะ) Hyesung:..ขอบคุณพวกคุณทั้งหมด พวกเราหวังเปนอย่างยิ่งตลอด  7 ปีที่ผ่านมา  และในท้ายที่สุด  วันนี้พวกเราก็ทำได้แย้ว พวกเราไม่มีวางแผนสำหรับงาน fanmeeting ในครั้งนี้  แต่พวกเรารู้ว่า พวก เรา ได้รับรางวัลนี้ เพราะพวกคุณ (ซาร่าไส้หวานนะฮะ)  ดังนั้น พวกเรา ถึงได้ออกมาเพียงเพื่อจะบอกว่า พวกเราขอบคุณมากกกกกกกกกกกกก Jun Jin: จริงๆแล้ว  …. ฉันไม่อยากร้องไห้ให้พวกคุณเห็นเลย แต่ในตอนนี้ในหัวใจของ ฉันกำลังร้องไห้ พวกเรา ไม่เคยคาดหวังกับรางวัลนี้  รางวัลนี้มันเปนเพราะพวกคุณๆๆๆ    7 ปีมาแล้วนะ  ที่พวกเราออกแสดงครั้งแรก ในปี 1988  พวกเราไม่เคยคาดหวังกะรางวัล  เพราะมันดูไกลตัวจากเรา แต่เพราะพวกคุณ ..ขอบคุณพวกคุณมากก Minwoo:  ฉันรักคุณ Shinhwachangjo!!! ขอบคุณมาก พวกเราได้รางวัลนี้เพราะพวกคุณ ... เราได้รางวัลแล้ววววววววววว [เอ็มตะโกน พร้อมกะชูถ้วยรางวัลแดซาง   เหมือนเด็กคนหนึ่งทีมีความสุขทีสุดในโลก] Eric: จริงๆแล้วเราไม่ได้หวังกะการได้รับรางวัลแดซาง....จริงๆนะ  ตอนที่คนอื่นได้รับ ก็คงเหมือนกะพวกเราตอนนี้  เมื่อคนอื่นๆได้  เราก็ดีใจกะพวกเค้า  พวกศิลปินคนอื่นๆก็เหมือนกะพวกเราฮะ แต่ ทุก ๆ ปี เมื่อพวกเราไม่ได้รับรางวัลแดซาง … พวกเราเห็นว่าพวกคุณเสียใจและผิดหวัง ... หลังจากทีได้ไม่ได้รับรางวัลหลาย ๆ ครั้ง มันทำให้พวกเราต้องการที่จะได้รับรางวัล .. อย่างน้อยสำหรับคุณมันจะทำให้คุณมีความสุข แล้วในตอนนี้พวก เราก็มีความสุข และสุดท้ายมันก็จะไม่ทำให้พวกคุณไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป Dongwan: อ๊ะๆ .. แฟนๆทุกคน มีสิ่งเดียวที่ลุงอยากจะพูด  พวกเราจะมีคอนเสริต์ในวันที 19 ดังนั้น พวกเราจึงหวังว่า จะได้เจอพวกคุณที่เวทีคอนเสิร์ตนะ (เหอ เหอ อิลุง ชวนมาเพื่อจาได้ตังค์เยอะๆอะจิ รู้มุขลุงแระฮะ  งกมะมีใครเกินเจงๆๆ )  ฉันรักพวกคุณ..  ขอบคุณๆๆๆๆ Andy: ขอบคุณจริงๆ  ต่อไปพวกเราจะทำงานให้หนักและพยายามมากๆๆ 


    ปีที่ 8 (2005) – ชินฮวา ต่างแยกย้ายกันทำงานเดี่ยว เฮซอง สมาชิกชินฮวาที่มีกิจกรรมเดี่ยวคนแรกคือ จอนจิน, เค้าถ่ายโฆษณาแล้วนำเงินที่ได้จากหยาดเหงื่อแรงงานของเค้ามาแบ่งให้กับสมาชิกของวง...เค้าน่ารักมากๆ เค้าบอกกับพวกเราว่า “แม้ว่าผมจะถ่ายโฆษณาเพียงคนเดียว แต่พวกเราคือ ชินฮวา...เราต้องแบ่งปันกัน” เอริค เหงามากเมื่อไม่มีสมาชิกคนอื่นมาเล่นและป่วนด้วยกัน ตอนที่เราทำกิจกรรมในฐานะชินฮวา แม้งานจะยุ่งแค่ไหนสมาชิกแต่ละคนก้อเล่นสนุกกะคนอื่นๆได้เสมอ ระหว่างที่ทำกิจกรรมเดี่ยว คุณต้องทนรับกับความโดดเดี่ยว และแก้ปัญหาตัวคนเดียว มันช่างอ้างว้างจิงๆ มินอู ขณะที่ผมทำกิจกรรมเดี่ยวในนามของ M มีหลายครั้งหลายหนที่ผมรู้สึกเหงา โดยเฉพาะตอนที่ผมเตรียมการสำหรับโซโลคอนเสิร์ต ช่วงนั้นสุขภาพผมไม่ค่อยดี ผมคิดถึงเพื่อนๆ มาก แม้ว่าผมจะได้รับความช่วยเหลือมากมายจากสมาชิกคนอื่นๆ ในการทำกิจกรรมในฐานะ M แต่เมื่อผมยืนอยู่บนเวที มันกลับโดดเดี่ยวช่วงเวลานั้นผมรู้สึกกดดัน และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับเพื่อนๆ ดงวาน ผมรู้สึกเหงามากๆ เมื่อต้องทำงานคนเดียว และผมจะเริ่มคิดถึงช่วงเวลาที่เราพักอยู่ด้วยกัน ถึงแม้จะเหนื่อยยากแต่เราก้อมีความทรงจำดีดีร่วมกันมากมาย เฮซอง ผมรู้สึกเหมือนแบกรับภาระเต็มสองบ่าเมื่อต้องทำงานเดี่ยว เพราะเมื่อยืนอยู่บนเวทีที่ซึ่งคนมีสมาชิกถึง 6 คน บัดนี้เหลือผมเพียงคนเดียว ระหว่างทำงานเดี่ยว ผมต้องใช้เวลาเพียงลำพัง มันน่าเบื่อมาก ต่างจากเวลาที่มีสมาชิกๆ อยู่ด้วยเรามักจะคุยฮาๆ และเล่นสนุกร่วมกันในเวลาพัก ผมมักคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น ผมรู้ซึ้งถึงคุณค่าของการที่มีสมาชิกอยู่ด้วย จอนจิน ผมมักคิดถึงสมาชิกคนอื่นๆ เวลาที่ป่วย เหนื่อยมากๆ เมื่อทั้งเวทีมีผมอยู่คนเดียว และรู้สึกเศร้าด้วยเมื่อไม่มีสมาชิกคนอื่นมาคอยดูแลเอาใจใส่เวลาผมไม่สบาย ในขณะที่ทำงานกับเพื่อนๆ หากผมรู้สึกไม่สบายใจ พวกเค้าจะมาร่วมแบ่งปันทุกข์สุขกับผม อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องทำงานเดี่ยว ไม่มีใครช่วยคุณได้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น ซึ่งมันเหงามากจิงๆ แอนดี้ ขณะที่ผมทำหน้าที่ MC ให้กับรายการ SBS Inkigayo ได้เห็นน้องๆ อย่าง Battle, SS501, DBSK, Super Junior เล่นสนุกกัน มันทำให้ผมคิดถึงพวกพี่ๆ มากเลย มินอู เมื่อใดก็ตามที่ผมต้องกล่าวคำขอบคุณ ฉับพลัน...ผมจะนึกถึงสมาชิกวงชินฮวา จิงๆ แล้วเวลาผมเดินทางถึงสนามบินผมมักรู้สึกว่างเปล่า ขณะที่ผมต้องอยู่บนเวที ผมจะคิดถึงพวกเค้ามากขึ้นไปอีก ดงวาน เมื่อใดก็ตามที่ได้ถ่ายทำร่วมกันสมาชิกในวง ต่อให้รู้สึกอึดอัดเราก้อจะหามุขตลกไม่เล่นกัน แล้วเมื่อนั้นอารมณ์ก้อจะดีขึ้น (ใบหน้าของเค้าแสดงให้เห็นอารมณ์เปลี่ยวเหงาเมื่อค้นพบว่าต้องโดดเดี่ยวเพียงใดที่ไม่มีเพื่อนในวงอยู่ด้วย) นอกจากได้เงินแล้ว, ผมก้อยังไม่เห็นข้อดีอื่นๆ ของการเล่นโฆษณาคนเดียวเลย นี่..เพื่อนๆ คืนนี้เรานัดกันใช่มั้ย? ถ้าผมบอกพวกเค้าเกี่ยวกับเรื่องงานโฆษณา เมื่อนั้นจะกลายเป็นว่าผมต้องจ่ายคืนนี้ ดังนั้นผมจึงไม่ได้บอกคัย...วันนี้ผมหวังว่า เอริคจะเป็นคนจ่าย! เฮซอง...ผมรู้สึกขาดสีสันเมื่อต้องทำงานคนเดียวโดยปราศจากเพื่อนๆ เคียงข้าง เอริค สำหรับผม มักทำงานร่วมกะเพื่อนร่วมวงบ่อยๆ ผมจึงรู้สึกว่างเปล่าจนบรรยายไม่ถูกเวลาที่ต้องถ่ายหนังเพียงคนเดียว ดงวาน ตอนที่อยู่กับสมาชิกผมไม่เคยมีอาการ “นอนไม่หลับ” ซึ่งเดี๋ยวนี้เมื่อต้องแยกมาอยู่คนเดียว ผมมักนอนไม่หลับบ่อยๆ และคืนใดที่ผมนอนไม่หลับ ผมก้อมักคิดถึงวันเวลาที่เราอยู่ร่วมกัน และหากเรานอนไม่หลับเราก้อจะนอนคุยกันตลอดทั้งคืน ผมคิดถึงสมาชิกมากๆ เลย เฮซอง วันไหนที่ดงวานนอนไม่หลับ ทุกครั้งเค้าจะโทรหาผมตอนดึกๆ  แล้วถามว่า “คืนนี้มานอนบ้านชั้นได้มั้ย? (เฮซองจะกลับออกไปแต่เช้า ทำให้ได้เห็นท่าทางของจอนจิน เค้าดีใจสุดสุดเพราะไม่ได้พบเฮซองนานกว่า 2 เดือนแล้ว  เค้าโผเข้ากอดเฮซองทันที) จอนจิน ผมรู้สึกขอบคุณและมีความสุขมากๆ ตอนทีพวกเค้ามาหา ในวันนั้นที่ผมกำลังเผชิญกับสิ่งทียากลำบากพอผมได้เห็นเฮซอง ผมก้อลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นกังวลและช่วงเวลาดีดีก้อเกิดขึ้นแทนที่ เอริค ผมกระหืดกระหอบมาจากการถ่ายทำ June’s Diary” ผมมาถึงที่นี่ (โชว์เคส อัลบั้ม 2 ของมินอู) อย่างเหนื่อยอ่อน แถมยังมาพร้อมรองเท้าแตะอีกต่างหาก เพราะมินอูน่ะแหละ ผมถึงต้องเหนื่อยขนาดนี้ จอนจิน เฮซองมักมาเยี่ยมที่ห้องบันทึกเสียง และเมื่อผมทำพลาด เค้าจะช่วยวิเคราะห์และให้คำแนะนำที่มีค่ามากๆ มินอู เอริคให้การสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่โดยการส่งข้อความดีดีมาให้ เช่น “นายเหนื่อยมั้ย? มินบงสู้ๆ ชั้นรักนาย” เพื่อนสมาชิกจะรู้สึกว่าข้อความแบบนี้ละเอียดอ่อน เราจึงไม่ส่งให้กันบ่อยนัก (หลังจากพูดถึงเรื่องนี้ มินอูก้อยิ้มอย่างเปี่ยมสุข) เอริค ผมรู้สึกขอบคุณเพื่อนสมาชิกมากๆที่ให้กำลังใจผมในวันฉายรอบปฐมทัศน์ จิงๆ นะ,ไม่มีใครเทียบพวกเค้าได้เลย พวกเราต่างไม่วิจารณ์กันและกัน และหลังจากรอบปฐมทัศน์จบลง น่าแปลกมากๆ ที่พวกเค้าต่างส่งข้อความแบบเดียวกันมาให้ผม “เฮ้ย.....มาดื่มกันเถอะ” เมื่อได้อ่านผมรู้ทันทีว่าพวกเค้าภูมิใจในตัวผมแค่ไหน มินอู เวลาที่ผมกำลังบันทึกเสียง ผมจะได้รับข้อความสนับสนุนจากเพื่อนๆ ในวง จะมีก้อแต่ปีศาจ 1 ตัว ที่คอยส่งข้อความประหลาดๆ มาให้ เร็วๆ นี้ ผมจับได้ว่ามันคือเอริคนั่นเอง ที่คอยส่งข้อความแปลกๆ มาว่า“ไปตายซะ” ดังนั้นผมจึงส่งกลับไปว่า “นายแพ้แล้ว” จอนจิน สมาชิกในวง...คนที่ไร้ประโยชน์มากที่สุดคือเอริค เอริคจะมีเวลามากมายเพื่อส่งข้อความเช่น syareunghwe (แปลม่ะออก) ข้อความภาษาต่างดาวแบบนี้มักส่งมา..กวนผมเวลาทำงาน จอนจิน  เมื่อผมรู้สึกแย่และอยากมีเรี่ยวแรงอีกครั้ง ผมชอบที่จะได้รับหนึ่งข้อความฮาๆ จากสมาชิกสักคน มากกว่าคำสรรเสิญเยินยอเป็น 10 จากคนอื่น ชินฮวา ถึงแม้เราจะเป็นวง แต่ก้อต่างมีกิจกรรมส่วนตัวของแต่ละคน...มีงานที่ต้องทำในแต่ละวัน  อย่างไรก็ตามเมื่อเรารวมตัวกันเป็นหนึ่ง เราจะมีพละกำลังที่เข้มแข็งที่สุด!


    ปีที่ 9 (2006) – การกลับมาอีกครั้งของตำนาน....  ชินฮวา ยากมากๆ เลยที่เราทั้ง 6 จะบันทึกเสียงพร้อมๆ กันได้ แต่เรายังได้รับแรงใจมากมายจากโน๊ตที่เหล่าสมาชิกต่างเขียนทิ้งไว้ให้กับเพื่อนแต่ละคน เฮซอง โน๊ตที่ว่าต่างเล็งเป้ามาโจมตีผม ผมไม่รู้ว่าทำไมสมาชิกคนอื่นๆ ได้รับแรงใจจากมัน แต่ผมโดนโจมตีล้วนๆ ดงวาน เพื่อนสมาชิกแค่รักเฮซองมากไป จอนจิน ผมได้รับแรงกำลังจากการเขียนคอมเม้นท์โจมตีเพื่อนน่ะครับ มินอู ครั้งนึงขณะที่กำลังบันทึกเพลง “Weak man” แล้วเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา ซึ่งทำให้ผมต้องบันทึกเสียงใหม่อีกครั้ง ขณะนั้นเฮซองอยู่กับผมด้วย, เค้ามองมาที่ผมด้วยสายตาพึงพอใจ แล้วก้อหัวเราะ เอริค ผมอยากเจอเพื่อนสมาชิกมากๆ และอยากแสดงร่วมกันบนเวทีเร็วๆ สมาชิกของเราต่างรู้ว่าต้องทำอะไร เพียงแค่มองตากัน (แค่มองตาก้อรู้ใจ) เฮซอง วันนั้นพวกเราได้นอนแค่ 2 ชม. และยุ่งมากมาตั้งแต่เช้า ดังนั้นพวกเราจึงเหนื่อยกันมากเลย แต่เราสามารถผ่านพ้นความเหน็ดเหนื่อยนั้นมาได้ เพราะว่านานมากแล้วที่เราไม่ได้รวมตัวกันแบบนี้ พวกเราต่างรู้สึกมีความสุขมากๆ ที่ได้พบกันอีกครั้ง จอนจิน การที่ได้ทำงานร่วมกันกับเพื่อนสมาชิก คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะลดความเครียด จอนจิน เราต่างก้อยุ่งกับงานเดี่ยวแต่เมื่อใดที่เรามาอยู่ด้วยกัน ก้อเพียงพอแล้วที่เราจะเสียน้ำตา, หัวใจที่ถูกพรากจาก(กลับมารวมกันอีกครั้ง - เติมเองค่ะ) และมันช่างยอดเยี่ยม ดงวาน สมาชิกชินฮวาทุกคนต่างไม่ต้องการแยกวง หลังจากแยกไปทำงานเดี่ยวอันยุ่งเหยิง เราก้อได้กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง และการร้องเพลงก้อคือสิ่งที่พวกเรารักมากเหลือเกิน ความหอมหวานยามที่ได้ไปยืนอยู่บนเวที มันช่างอัศจรรย์ และเราไม่เพียงแค่ได้รับปฏิกิริยาเชิงบวกจากการรวมกันนะ เรายังมีรายได้อีกด้วย อ้อ...อันนี้มุขครับ (ฮา...ฮา) 


    ปีที่ 10 (2007) – ตำนานที่ยังก้าวต่อไป.....  แอนดี้ สิ่งที่ผมหวังก้อคือชินฮวาจะก้าวไปอย่างแข็งแรง และออกผลงานจนถึงอัลบั้มที่ 100 ดงวาน ผมอยากมีคอนเสิร์ตแบบนี้ไปอีก 20 ปี เฮซอง ผมอยากฝากชื่อพวกเราไว้ในประวัติศาสต์วงการเพลงป๊อปของเกาหลี ไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่ออกอัลบั้ม เราต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ แต่อยากให้เราได้อยู่ด้วยกันไปอีกนานเท่านาน มินอู ผมหวังเราจะอยู่ร่วมกันจนแก่จนเฒ่าและตายจากกัน จอนจิน เราจะตัวติดกันไปตราบนานเท่านาน ทุกๆ ปี สมาชิกของเรามักได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นผมว่าในอนาคตจะไม่มีใครบาดเจ็บอีก และขอให้ชินฮวา ชางโจมีสุขภาพที่แข็งแรงครับ ดงวาน ความคิดที่ว่า..ยังคงแสดงร่วมกับเพื่อนสมาชิกไปอีกจนอายุ 40 และ 50 ทำให้ผมตื่นเต้น หลังจากที่เราต่างต้องไปทำหน้าที่รับใช้ชาติ ผมแน่ใจว่าทุกๆ คนต่างมีหน้าที่แต่เราจะทำทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกันเสมอ จอนจิน ชินฮวาแยกวงน่ะเหรอ? ผมว่าคุณไปกังวลกับสิ่งที่ควรกังวลจิงๆ ดีกว่า เราต่างสัญญาร่วมกันว่าจะก้าวไปร่วมกัน แม้วันข้างหน้าเราจะแต่งงาน และมีลูก ดังนั้นคุณไม่น่าพูดคำว่า “แยกวง” กับเราเลยนะ แถมเรายังให้สัญญากันอีกว่าลูกๆ ของเราจะรวมตัวกันในนาม “Shinhwa Junior” อีกด้วย เฮซอง การที่เราต่างยุ่งกับงานส่วนตัว ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้ว มิตรภาพอันเข้มแข็งยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกเมื่อเชื่อวัน เราเดินทางร่วมกันมาไกล...เป็นมากกว่าเพื่อน เราเป็นที่ปรึกษาเป็นพี่เป็นน้องให้กันและกัน จอนจิน เหตุผลที่ทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ยาวนานเช่นนี้คือความไว้เนื้อเชื่อใจ ถึงแม้ว่าเราอาจมีข้อขัดแย้งกันบ้าง บาดหมางกันก้อเคยมี แต่เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจในกันและกันอย่างยิ่งยวด ชินฮวาจึงสามารถเดินทางมาถึงวันนี้ เอริค เราต่างผ่านพ้นอุปสรรคกันมามากมายและสร้างมิตรภาพอันวิเศษสุด แน่นอนว่าเราเคยทะเลาะ ตบตี ปะทะกันแม้ว่าสมาชิกจะพยายามช่วยกันไกล่เกลี่ย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้งใดใด และเราจะไม่ทำให้ความสัมพันธ์เราจบลง ดงวาน เหตุผลที่เรายังคงอยู่ร่วมกันได้ยาวนานก้อคือ..........................หนังสือสัญญา!!!^^ มินอู นั่นมุขน่ะครับ เวลาที่เราอยู่ร่วมกันทำให้เราสนิทกัน เรารู้สึกดีใจที่เรามีกันและกัน สนับสนุนกัน และอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ดงวาน บางคนคิดว่าพวกเราสนิทกันเหมือนพี่น้อง ซึ่งนั่นไม่เป็นความจิง ^^ (ลุงมุขมั่วอีกแระ) เอริค แม้ว่าผมจะยังแก่ไม่พอที่จะพูดคำเหล่านี้ แต่อยากจะพูดว่าการได้เป็นสมาชิกของชินฮวา ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด มีค่ามากที่สุดในชีวิต นั่นคือเหตุผลที่เราสามารถรักษาความสัมพันธ์ให้เดินหน้าต่อไป..... แม้ว่าเราจะมีดงวาน^^ ดังนั้นแม้ว่าปราศจากสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร และยังคงมีดงวานอยู่ ชินฮวาก้อจะยังคงอยู่ร่วมกันไปตราบนานเท่านาน เอริค ในวันข้างหน้า หากไม่มีบริษัทใดต้องการเราแล้ว...เราก้อจะตั้งบริษัทของเราเอง และทำงานร่วมกันต่อไป แอนดี้ เมื่อใดที่เรารวมตัวกันครบ 6 คน นั่นคือช่วงเวลาของความสับสนอลหม่าน...เหมือนกับการพบกันของสมาชิกครอบครัวหลังจากที่จากกันไปนาน... พี่จินนี่เพิ่งกลับมาจากถ่ายทำภาพยนตร์...ยังไม่ได้นอนเลยแต่เมื่ออยู่กับเพื่อนๆ ชินฮวา แน่นอน...เค้าลืมความเหน็ดเหนื่อยไปเลย และมาพร้อมบุคลิคอันร่าเริง พี่เอริคมักถูกเรียกว่า CEO เป็นคำเย้าแหย่ด้วยรัก....จากพวกเรา, แต่ทุกคนต่างมีความสุขเมื่อละครของพี่เอริคกำลังไปได้สวยและร่วมแสดงความยินดีกับเค้า นอกจากนี้พวกพี่มักจะเลียนแบบบทพูดในละครเรื่อง Nonstop ซึ่งผมรู้จักดี โดยมักพูดมันแบบผิดๆ ถึงแม้พวกเค้าจะเป็นพี่ที่อายุมากกว่าผมเพียง 1-2 ปี แต่ทุกครั้งที่พวกเค้าทำแบบนั้น ผมจะรู้สึกเหมือนผมเป็นน้องเล็กๆ ของพวกเค้าจิงๆ... เอริค ผมจะคอยสอดส่องกิจกรรมของสมาชิกแต่ละคนเพื่อที่จะจับผิดเวลาเค้าพูดอะไรตลกๆ หรือทำอะไรเปิ่นๆ นั่นก้อเพราะว่าพวกเค้าน่ะจับผิดประโยคตลกๆ ของผมได้เพียงอันเดียวแต่ล้อผมมาเป็นเดือนแระ แอนดี้ สมาชิกชินฮวาขี้เล่นกันมาก นอกจากพี่ดงวานแล้ว ไม่มีใครที่จะสนใจให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแสดงของผมอย่างจิงจัง ตรงกันข้ามหากเค้าพบข้อผิดพลาดใดใดพวกเค้าจะล้อเลียนไม่เลิก ทุกๆ ครั้งที่พวกเค้าเจอผมสิ่ง แรกที่พวกเค้าจะพูดคือ “คุณคือ ฮเยจู ใช่มั้ย?” (บทพูดจากละครเรื่อง Lovers in Prague ที่แอนดี้แสดง) เมื่อเร็วๆ นี้เราพบกันในทีที่มีคนพลุกพล่าน และพวกเค้าต่างตะโกนซะดังว่า “คุณคือ ฮเยจู ใช่มั้ย?” ผมอายมากๆ เลย มินอู เป็นเพราะเราสะดวกใจกับสมาชิกทุกคน ดังนั้น พวกเรามักอาบน้ำพร้อมกันทีเดียว 2-3 คน ครั้งนึง, แอนดี้เข้ามาในห้องน้ำขณะที่ผมกำลังอาบน้ำและกำลังพ่นซอสขึ้นไปเหนือหัวแบบขำ..ขำ ผมคิดว่าตอนนั้นหัวของผมคงแดงเถือกและน่าตกตะลึง ผมเกือบเป็นลมน่ะตอนนั้น เอริค  ไม่ว่าจะเป็นการผลักคนอื่นในรถที่กำลังวิ่ง หรือสาดน้ำร้อนสุดสุดใส่ก้นขณะอาบน้ำ นั่นก็เป็นสิ่งขำ..ขำที่พวกเราทำต่อกัน...ไม่เฉพาะแค่ผมเท่านั้น อี จีฮุน (นักร้อง/นักแสดง) ผมอิจฉาพวกเค้านะ เพราะพวกเค้ามักอยู่ด้วยกันเสมอ พวกเค้าทั้งตลกและสนิทกันมาก มันช่างดีอะไรอย่างนี้ Good EMG (บริษัทต้นสังกัด) ความสัมพันธ์ของพวกเค้าแนบแน่นมาก จนทำให้เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แม้ว่าพวกเค้าจะไม่ได้พบกันเป็นเวลานานๆ แต่พวกเค้าก้อสามารถเริ่มเม้าส์กันได้ทันทีเหมือนกับเพื่อนเก่าที่ได้เจอหน้ากัน ดงวาน ระหว่างปีนี้ ผมมีช่วงเวลาที่เลวร้าย...และเราแบ่งปันช่วงเวลาที่สำคัญนี้ร่วมกันกับสมาชิกทั้ง 6... เราสนุกร่วมกันและสร้างเสียงหัวเราะให้กันและกัน... แม้ในวันที่ต้องเผชิญกับเรื่องยากลำบาก เราจะไปดื่มด้วยกัน เรามักอยู่ร่วมกันแบบนี้.... จอนจิน ทุกๆครั้ง ที่ผมต้องผ่านช่วงเวลาอันยากลำบาก ผมจะคิดถึงสมาชิกคนอื่นๆ เป็นที่สุด เฮซอง ในวันเก่าๆ...เมื่อใดที่จอนจินเจ็บ ผมเจ็บด้วย เมื่อใดที่ใครคนนึงเจ็บปวด หรือเกิดสิ่งเลวร้ายกับเค้า เมื่อนั้นเราทั้งหมดจะรู้สึกเศร้า และเสียใจ แต่เราต่างก้อรู้ว่าเรื่องราวต่างๆ จะผ่านพ้นไปด้วยดี และสามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้งในเร็ววัน จอนจิน  ผมอยากกล่าวสิ่งนี้กับพี่เฮซองด้วยความจริงใจ ว่าเราจะเป็นชินฮวาไปจนวันตาย เมื่อใดที่เค้าต้องการผม ผมจะอยู่ตรงนี้เพื่อเค้า และเค้าก้อจะอยู่ตรงนี้อย่างแน่นอน หากผมต้องการเค้า..... มินอู เพียงแค่อยู่ร่วมกันโดยไม่ต้องเอ่ยคำใด เราก้อสามารถรับรู้ความรู้สึกของกันและกันได้ จอนจิน ผมจะคิดถึงเพื่อนสมาชิกเป็นอันดับแรก แม้ในยามที่ผมเจ็บ หรือสับสนผมก้อยังคิดถึงพวกเค้าอยู่ ในบางครั้ง ผมรู้สึกกังวลว่าผมจะตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าผมอยู่เพียงลำพัง เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่ผมกังวลไปเอง...เพราะเพื่อนสมาชิกมักจะอยู่กับเราเสมอหากเราต้องการ..... แม้ว่าคุณอาจมองไม่เห็น แต่ผมรู้สึกได้ถึงความรักที่เรามีกัน.... เอริค ผมเป็นนักร้องตั้งแต่อายุ 20  และใช้ชีวิตวัยรุ่นทั้งหมดไปกับชินฮวา ผมรู้สึกว่าช่างโชคดีที่ผมได้ค้นพบความหมายแห่งชีวิต และสามารถมีชีวิตที่มีความหมายเช่นนี้ร่วมกับพวกเค้า เฮซอง ผมรู้สึกว่าชินฮวาเป็นเหมือนผู้ปกครอง ที่พาพวกเรามาพบกัน ให้เราเติบโตร่วมกัน อบรมเลี้ยงดูจนเราเป็นเช่นทุกวันนี้ เป็นกลุ่มที่ถูกขนานนามว่า “ชินฮวา” เอริค ชินฮวาคือทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่าง ปราศจากชินฮวาแล้วก้อไม่มีผมในวันนี้ และผมคงไม่ได้ผมกับเพื่อนที่มีค่า และเหล่าสมาชิกที่รักผม ดงวาน เช่นเดียวกับที่เอริคกล่าวไป, จะไม่มีผมในวันนี้หากปราศจากชินฮวา ผมจะไม่มีวันลืมเลือนว่าผมมาจากชินฮวา...แร่ธาตุแห่งชีวิต จอนจิน สำหรับผม, ชินฮวาเป็นเหมือนบ้าน ชินฮวาเป็นดั่งสถานที่ที่เราสามารถกลับไปได้ทุกเมื่อ สถานที่ที่ต้อนรับเราเสมอเมื่อเรากลับไป ชินฮวา สำหรับพวกเรา หมายเลข 6 เป็นเลขที่มีความหมาย มันคือการที่เราทั้ง 6 ได้อยู่ร่วมกันจนกลายเป็น “ชินฮวา” ดังเช่นปัจจุบัน และสิ่งที่เราปรารถนาคือยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยกันทั้ง 6 คน ในนามชินฮวา...นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เลข 6 มีความพิเศษสำหรับเรา ตอนที่เราซ้อมร่วมกันนั่นยังไม่ใช่เราทั้ง 6, แต่วันที่เราได้แสดงบนเวทีครั้งแรกในฐานะ “ชินฮวา” เราได้กลายเป็น 6 คนที่ถูกรวมไว้ด้วยกัน....  (ต้องการสื่อว่าเมื่อชินฮวาถือกำเนิด หมายถึงเราทั้ง 6) มันเหมือนกับโชคชะตาฟ้าลิขิต (ลิเกไปมั้ย) สำหรับเรา การอยู่ร่วมกันในฐานะ “ชินฮวา” มันช่างเป็นเรื่องธรรมชาติ และเราหวังว่าแฟนๆ จะยังคงยอมรับ “ชินฮวา” ต่อไป อย่างเช่นที่เราหวังว่าเราดีขึ้น เก่งขึ้นเรื่อยๆภายใต้ชื่อนี้.... (ถ้าคุณยังคงเรียกเราว่า..กลุ่มศิลปินที่รวมตัวกันยาวที่สุด เราจะรู้สึกว่าตังเองแก่ทันที ^^) และเพราะว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด, ตอนนี้เราจึงเลือกเลข “6” เป็นหมายเลขอันพิเศษสุดสำหรับพวกเรา.... นั่นก็เพราะว่าเรามีกัน 6 คน จึงกลายเป็น “ชินฮวา” ที่เจิดจรัส และก้อเป็นเรื่องธรรมดาจะตาย...ที่ต้องมี 6 คน จึงจะเป็นเรา “ชินฮวา”...


    เพราะลิง 6  ตัว ทำให้เรามีเพื่อน มีพี่ มีน้องมากมาย...ตั้งแต่ดหนือจรดใต้ ฮาไหนเฮนั้น...มีไรก็แบ่งปันกัน...เราปรองดองกัน..(จิงป่าวหว่า รู้แต่มีมาเฟียเฝ้าดงอยู่สองตัว..555) อันนี้เอาเรื่องราวลับๆๆ ฮาๆๆ..ของชินฮวามาให้อ่านกันคะ... แอนดี้ : เรารู้ทุกอย่างทุกเรื่องของกันและกัน มินอู : รู้อะไร นายรู้อะไรแอนดี้ แอนดี้ : ผมรู้เรื่องพี่มินอูเยอะเลย พี่มินอูมีใฝที่ก้น ^^ Q: คุณจะใช้เวลาช่วงวันหยุดยังไง จอนจิน : ผมว่าจะไปเล่นที่บ้านพี่ฮเยซอง งั้นผมขอพูดอะไรกับเขาตรงนี้เลยละกัน พี่ฮเยซอง ขอบคุณครับ! ฮเยซอง : นอกจากดงวาน สมาชิกที่เหลือจะไปบ้านผมกันหมด ดงวาน : งั้นผมจะไปมั่ง! (หัวเราะ) ฮเยซอง : ไม่รับจองแล้ว! (หัวเราะ) จอนจิน : ผมตัวติดกับฮเยซองเสมอ ผมเลยเล่นกับเขาตลอด ไม่ว่าเขาจะหลับหรือกินอยู่ ผมยังจะตามเขาไปติดๆ! ^^ มินอู : ดงวานฉลาดมากและเป็นหนึ่งในนักร้องนำของชินฮวา ถ้าไม่มีเขา ก็คงเหมือนร้านยาที่ไม่มียา (หัวเราะ) Q: ในอัลบั้มนี้ เสน่ห์ด้านไหนของชินฮวาที่คุณอยากแสดงให้เราเห็น ดงวาน : ใบหน้าสุดหล่อ... - -''' นักข่าวไทย : ชอบผู้หญิงแบบไหนคะ ( น้องได๋ เธอถามอะ) มินอู : แบบคุณ! ^^ Q: ทำไมถึงตัดสินใจว่าเอริคและดงวานจะแสดงนำในเอ็มวี Throw My Fist ดงวาน : ตอนที่เราคุยกันอยู่ ทีมงานถามว่า ใครจะเป็นนักแสดงนำ สมาชิกคนอื่นก้มหน้าหมด แต่เอริคกับผมหันหน้ามามองกันทันที ก็เลยตกลงว่าอย่างนั้นแหละ MC : ซิงเกิลต่อไปในอัลบั้มที่ 7 ของชินฮวาคือ Crazy ได้ยินว่ามีนักแสดงนำสองคนในเอ็มวีนี้ ดงวานและจอนจิน คุณใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือกคนแสดงนำ? ดงวาน : คนที่ยังไม่เคยรับบทนำมาก่อน! Q: เพราะอะไรถึงให้เอริคและฮเยซองรับบทนำในเอ็มวี Angel ชินฮวา : เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย... เราไม่ต้องจ่ายค่าจ้างถ้าให้คนในวงเล่นกันเอง... ^^''' Q: ชินฮวาจะอยู่ด้วยกันไปนานเท่าไหร่ เอริค : จนกว่าสัญญาจะหมดอายุ... (ริคเอ๊ย~) เอริค : เอริครักฮเยซองเวลาที่ฮเยซองไม่ชอบเอริค... ^^ ************************************************************* Q: สมาชิก 5 คนไปดูบอลโลกที่เยอรมันมา? เฮซฮง : ครับ เราได้ไปดูนัดที่เกาหลีเจอกับโตโก้ แต่น่าเสียดายที่ดงวานไม่ได้ไปด้วย เพราะค่าบัตรมันแพงน่ะ (หัวเราะ) ล้อเล่นนะครับ! ดงวาน : จริงครับ พวกเราไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันนานมากแล้ว ผมดีใจที่เราได้อยู่ด้วยกันอีก ใครดังที่สุดในเมืองไทย ^^ ดงวาน : จอนจินดังที่สุดครับ เพราะดันบังเอิญตรงกับวันเกิดของเขาด้วย ห้องเขามีแต่ของขวัญเต็มไปหมด พวกเราไม่ได้ซักชิ้นเลย... (หัวเราะ) กรี๊ดด ได้ของตรูไปแล้วยังหาว่าไม่ได้อีก... Q: คิดว่าคุณแต่ละคนดึงดูดแฟนๆ กลุ่มไหนมากที่สุด ฮเยซอง : กลุ่มคนมีอายุชอบแอนดี้ รุ่นเด็กๆ ก็ชอบมินอูหรือจอนจิน จอนจิน: แฟนหลายกลุ่มชอบฮเยซอง เพราะเขาเป็นนักร้องนำของเรา ส่วนดงวาน เราเห็นแฟนๆ เด็กๆ วัย 4-5 ขวบวิ่งตามเขา พวกวัยที่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรน่ะ ^^ ไดอารี่ของดงวาน : ข้อดีของการเป็นนักร้อง - คุณให้ซีดีตัวเองเป็นของขวัญได้ มีอาชีพไหนอีกนอกจากนักร้อง ที่คุณให้ผลงานที่ตั้งใจทำมาเป็นของขวัญให้คนอื่นได้ง่ายๆ? ถ้าคุณเป็นนักแสดง ก็อาจจะให้ดีวีดีของตัวเองเป็นของขวัญได้ แต่ซีดีมันถูกกว่าเนอะ!! (ลุงขา ไม่ค่อย...) MC : มีช่วงไหนมั้ยที่เกือบต้องแยกวง มินอู : มีครับ ครั้งนึงตอนเรายังอยู่บ้านเดียวกัน เรามีกฎที่เข้มงวดมาก ห้ามทำอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้จัดการเด็ดขาด  ผมชวนเอริคออกไปดื่ม วันรุ่งขึ้นเราเลยไปซ้อมสายเพราะเผลอนอนตื่นสาย พอเราไปถึงสตูดิโอ สมาชิกที่เหลือต้องนั่งคุกเข่ารออยู่ 2 ชั่วโมงแล้ว ผู้จัดการรู้ว่าเอริคกับผมออกไปเที่ยวกัน ทุกคนเลยโดนลงโทษ ผู้จัดการโมโหมากจนสั่งให้เราลาออกไป! มินอู : แอนดี้ก็เริ่มร้องไห้และลุกขึ้นบอกผู้จัดการว่า "งั้นผมจะออกด้วย!" แต่พอผู้จัดการตะคอกสั่งให้แอนดี้ "นั่งลง!" แอนดี้ก็ตอบ "ครับผม!" แล้วรีบคุกเข่าต่อทันที! แอนดี้ : ก็นั่งคุกเข่ามาตั้งสองชั่วโมง มันเจ็บมากอ่ะ... (^^) มินอู : เอริคกับผมเลยกลับมาที่อพาร์ทเมนต์เพื่อเก็บของ ผมถามเอริคว่า จะไปไหน ทำอะไรต่อดี เอริคบอกให้ผมกลับไปอเมริกากับเขาแล้วไปทำอะไรด้วยกัน มินอู : ตอนที่เรากำลังเก็บของอยู่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้ารีบวิ่งเสียงดังมา ผมเลยคิดว่าเขากลับมาบอกข่าวดีว่าเราไม่ต้องไปแล้ว มินอู : ฮเยซองเข้ามาก่อนแล้วบอกว่า "ยังไม่ไปอีกเหรอ ทำไงได้ล่ะ ถ้ามีโอกาส เราคงได้เจอกันอีก" (แม่นกใจร้ายยย~) มินอู : แล้วจอนจินก็เข้ามาบอกว่า "พี่ๆ ติดต่อมาบ้างนะ" (ลูกนกหล่นไม่ไกลรังเจงๆ) มินอู : แล้วก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาอีก คราวนี้เป็นแอนดี้รีบวิ่งร้องไห้เข้ามาสะอื้นว่า "พี่ พี่ไม่ต้องไปแล้ว" แล้วจอนจินกับฮเยซองก็เบิ้ดกะโหลกแอนดี้ เพราะเขายังไม่ควรบอก พวกเขาวางแผนแกล้งเรากัน ^^ ที่มา : http://youtube.com/watch?v=jrN74B2JL3c ********************************************************************8 Exclusive for SHINHWA CHANGJO: เฮซอง :  แฟนเพลงที่มาดูการแสดงของพวกเรา..ในแต่ละครั้ง..จริง ๆ แล้ว..แต่ละคนที่มา..ดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ผมทำเพียงแค่พวกเขายืนอยู่ตรงนั้น  ก็ทำให้ผมมีพลังในการแสดง และถ้าไม่มีพวกเขาผมคงทำการแสดงไม่ได้แน่ ๆ!! จอนจิน :   ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับผมก็คือ...ไม่ว่าพวกเราจะแยกกันทำงานเดี่ยว หรือทำงานร่วมกันในชื่อ SHINHWA แต่พวกคุณยังคงและสนับสนุนพวกเราเสมอ~~และนั่นก็เพียงพอแล้ว~~ ดงวาน :  ตอนนี้ “แฟนพันธุ์ทาง” ได้สลายตัวไปหมดแล้ว และเหลือเพียงแค่ ''แฟนพันธุ์แท้'' เท่านั้นที่ยังคงอยู่เคียงข้างพวกเรา ไม่ว่ามากหรือน้อย นั่นทำให้ผมได้รู้ว่า ทั้งหมดที่เหลืออยู่ คือ ''แฟนตัวจริง'' ของเรา (หัวเราะ) เฮซอง  :  ทุกครั้งที่ผมได้พบกับพวกคุณ เหตุผลที่ผมยกนิ้วโป้งให้ ก็เพราะผมภูมิใจในตัวพวกคุณทุกคน ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า..  สำหรับผม คุณทุกคนไม่ได้เป็นแค่แฟนเพลง แต่เป็นส่วนสำคัญที่สุดของผม แอนดี้  :  แฟนเพลงทำให้พวกเรารู้สึกผ่อนคลายเสมอ  โดยที่พวกเราไม่ต้องพูดอะไร แต่แฟน ๆ ยังรับรู้ได้ว่าพวกเราทุกคนรู้สึกยังไง. ..นี่คือความผูกพันระหว่างแฟนเพลงและ ชินฮวา ที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้... 


    เส้นทางสู่เวที...1 ไม่รู้ว่า ฟ้าเล่นตลกอะไรถึงได้กลั่นแกล้ง หาอุปสรรคมาให้ชินฮวาได้เจอ ตั้งแต่ตอนแรก ที่ ชินฮวาออกเดบิว บริษัทที่ ชินฮวา ได้สังกัดอยู่ด้วยนั้น ก็ได้ดัน HOT ออกมาก่อน เป็นการลองตลาด แต่กลายเป็นว่า HOT ครองใจของแฟนๆ ได้มากมาย SHINHWA ที่ถูกวางแผนไว้ว่าจะเป็นวงที่โปรโมตจริงหลัง HOT กลายเป็นว่า เป็นวงที่ถูกมองข้ามไป ทุกครั้ง ชินฮวา จะ ขึ้นเพอร์ฟอแมนซ์ ซิงเกิ้ลแรก ของพวกเขา ภายใต้ สายตาของแฟนๆสีขาว(HOT fans) เสียงตอบรับที่ได้มักจะเป็นไปในทางลบ เพราะความเหมือนของสไตล์เพลง และ ภาพลักษณ์ของ บอยแบนด์ที่ใกล้เคียงกัน กับ วงรุ่นพี่ ยังไงก็ตาม เพลง eusha eusha ที่เป็นเพลงเปิดตัว ก็ไม่ได้รับเสียงตอบรับที่ดี สาเหตุใหญ่ๆ ที่ชั้นคิดว่าทำให้เป็นอย่างนั้น เพราะ ช่วงนั้นเกิดน้ำท่วมหนัก บ้านชั้นเองก็ต้องเจอปัญหานี้เหมือนกัน พอฟังแล้ว พูดจริงๆนะ ชั้นหงุดหงิดมากเลยล่ะ มันเหมือนกับตอกย้ำ ความโชคร้าย กับ น้ำท่วมของพวกเราไป แต่เรื่องที่ชั้นรู้หลังจากนั้นคือ แอนดี้เอง เคย เป็น สมาชิก ของ HOT มาก่อน แต่ก็ออกมาเป็นสมาชิกชินฮวา ตอนนั้น สื่อต่างๆ โจมตี แอนดี้หนักมาก จากการที่เคยเป็น leader singer และ เป็นทั้ง dance leader มุมกล้องส่วนมากก็จับที่ตัวแอนดี้มากกว่าคนอื่น แต่เพราะ ยอดขายของอัลบั้มแรกไม่ดีนักทำให้เหมือนกับเห็นถึงความกดดันของแอนดี้ ที่พร้อมจะประทุอยู่ตลอดเวลา แอนดี้เป็นคนที่ 2 ที่เข้าสู่ชินฮวา ทั้ง ดีดี้ กับ อีที (เอริค) ต่างก็ขึ้นแสดงบนเวทีก่อนใคร หลังจากที่ชั้นสังเกตุเห็น ว่าพวกเขาเป็น แดนเซอร์ + แรปเปอร์ให้กับวง SES อาจเป็นเพราะชินฮวาออกมาเร็วเกินไป หรือ HOT ดังเกินไป สื่อต่างๆก็หาข่าวโจมตีได้เรื่อยๆ แมกกาซีนแทบทุกเล่มที่ชั้นยืนเปิดอ่านในร้านแผงหนังสือข้างถนน ทุกเล่มต้องมีซักคอลัมนึงที่ว่าพวกเค้า ไม่ว่าจะเป็น แฟนไม่มากพอ ร้องน้ำเสียงก็งั้นๆ เต้นไปก็เท่านั้นเหมือนคนไม่มีแรงจะเต้น และ ที่ขาดไม่ได้คือ อย่างน้อยต้องวิจารณ์ ที่แอนดี้ออกจาก hot …..กลาย เป็นว่า ใครจะสังเกตุเห็นว่า แอนดี้น้อยๆ เพิ่งจะ 16 ปีเองนะ? ช่วงนั้นถูกว่ากันขนาดไหนไม่รู้ แล้วบริษัทที่สังกัดอยู่น่ะ ซีเรียสขนาดไหน ก็คงรู้ๆกันดี เรื่อง ดุด่า เนี่ย คงเป็นอะไรที่เบาๆแล้วล่ะ ชินฮวาจะโดนอะไรมา เราจะรู้ได้หรอ หากโดนแล้วมีเสื้อผ้าปิดอยู่ แค่นี้พวกเราก็มองไม่เห็นแล้วล่ะ พวกเรารู้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ที่แอนดี้ใส่ผ้าปิดปาก แล้วบอกว่าเป็นหวัดน่ะ ตอนนั้นที่ชั้นวิ่งไปส่งพวกเค้าหลังจากเพอรฟอแมนซ์เสร็จ ชั้นเห็นแค่เพียง มินวู ประคองแอนดี้ และที่ผ้าปิดปากนั่นน่ะ มีเลือดออก เห็นแล้วแทบคลังเลยล่ะ ชั้นอยากจะร้องไห้ออกมา แต่มินวูก็หันมาแล้วบอกว่าดี้ไม่เป็นไร ขึ้นรถไป โดยที่ชั้นไม่เห็นสีหน้าของแอนดี้เลย นั่นอาจจะไม่ใช่ครั้งแรก และ ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ตอนอัลบั้มที่ 2 จากที่ มุมกล้องของแอนดี้ที่มีเยอะกลับน้อยลง และ ร้องเพียงแค่ท่อนแรป ที่ถ่ายเห็นแอนดี้น่ะ ไม่ถึง 10 วิ เลยนะ ตามความคิดชั้นน่ะ เหมือนเพิ่งเห็นดี้ไปแค่ 1 วิเองด้วยซ้ำน่ะ แต่ดี้เวลาออกมาเพอร์ฟอแมนซ์ ก็ยังเหมือนเดิม ยังดูเฉื่อยๆเหมือนเดิม อัลบัมที่ 3 แผ่น 2 ขายไปได้ ยอดขายในตอนนั้นก็โอเค นะ เป็นอีกแผ่นนึงที่ดีที่สุดเลยล่ะ ทั้ง only one , first love แอนดี้ แรป ดีขึ้นมาก first love ท่อนที่แอนดี้ แรปเป็นน้ำเสียงที่สื่อความรักได้ถึงคนฟังเลยล่ะ (รึเพราะชั้นชอบแอนดี้ชั้นถึงรู้สึกอย่างนั้น) และเพลง only one ตอนสุดท้ายที่ดี้หมุนตัว เสื้อเชิ๊ตสีขาวที่ดูเรยบง่าย กับตัวดี้ ดูแล้วก็เหมือนกับแผ่นกระดาษสีขาวบริสุทธิ์ เลยล่ะ.... 


    เส้นทางสู่เวที...2 3 ปีแรก ผ่านไป แต่ หลังจากนี้น่ะสิ วันนั้นฉันลุกขึ้นมาอ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้า ชั้นไม่เคยใส่ใจกับข่าวเท่าไหร่ เลยอ่านแต่หัวข้อ ชั้นจำได้แค่ว่า วันนั้น เริ่มต้นเปลี่ยนกฏในการเกณฑ์ทหารเท่านั้น แล้วชั้นก็แปลกใจมาก ที่แอนดี้ ต้องไปเกณฑ์ทหาร  ทั้งแรงกดดัน จากสื่อต่างๆที่โจมตี ว่าแอนดี้ ที่ไม่ อยากที่จะไปเกณฑ์ทหาร กับ แรงกดดันจากทาง บริษัท ถูกกดอยู่บนตัว เด็กคนนึงที่อายุเพียง 18 เท่านั้น ? คนที่คงจะเครียดจนใกล้บ้ากับเรื่องนี้ ยังต้องเจอกับปัญหาจากโรงเรียน ครึ่งปีที่ผ่านมา แอนดี้ยังอยู่กับทุกคนในชินฮวา ร้องเพลงเต็มที่เหมือนทุกครั้งที่ทำ ที่สเตเดียม คอนเสิร์ต first live in soul ก็เพิ่งผ่านไปด้วย เฮ้ แอนดี้ยังคงยิ้มแย้มอยู่เลยนะ ครึ่งปีถัดมา กลายเป็น ว่า แอนดี้ที่ ยิ้มแย้ม แอนดี้ที่เคยดูมีความสุข เท่าที่ชั้นเห็นในข่าว สีหน้าของแอนดี้แทบจะดูเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเลยล่ะ ไม่มีชีวิต ขยับเฉพาะแขนขาเดินไปข้างหน้าเท่านั้น นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็น ก่อนที่ แอนดี้จะไป อเมริกา ถึง 10 เดือน แอนดี้ที่สังกัดกับบริษัท ก็ถูกขอให้ออก โดยใช้เหตุผลที่ว่าแอนดี้มีปัญหากับโรงเรียน 10 เดือนนี้ สำหรับชั้น และ แฟนๆคนอื่นๆ ก็คงทรมานมาก ชั้นเอง จากที่เคยดูแต่โทรทัศน์ฟังเพลง ตอนนี้ชั้นกลายเป็นเด็กเรียนเต็มที่เลยล่ะ ชั้นได้คะแนนดีอย่างที่ไม่เคยได้มาก่อน ชั้นลืมทุกอย่าง ชั้นรู้แค่ตอนนั้น อัลบั้มที่ 4 น่ะ ชั้นซื้อมา แล้วเปิดทั้งแผ่นแค่ 2 ครั้ง และก็ไม่ได้ฟังอีกเลย อัลบั้มที่ 4 ดูหน้าปกแล้ว ดุหน้าแต่ละคนก็ดูบึ้งๆนะ ดูฝืนๆ ผอมๆ หลังจากที่ชั้นกลับจากมหาลัย อยู่ๆชั้นรู้สึกคิดถึงแอนดี้ขึ้นมา ฉันวางกระเป๋าแล้วร้องไห้ ซักพักนึง ชั้นรีบเปิดอินเตอร์เนตหาข่าวเกี่ยวกับแอนดี้ แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย นอกจากที่ว่า แอนดี้ต้องเดินทางไปอเมริกา แต่ฉันก็ไปเจอเวปไซต์สีส้มนึงเข้า ที่พูดถึงคอนเสิร์ตที่ ชินฮวา จะต้องหาคนดูไปให้ได้ หมื่นคน Guerilla Concert ชั้นรีบแพคกระเป๋าแล้ววิ่งลงมา ฉันคิดหาคำพูดจะพูดกับแม่ ชั้นพูดไม่ออกจำได้แค่ว่าตอนนั้นชั้นร้องไห้จนพูดออกมาไม่ได้ พ่อเป็นคนอาสาพาชั้นไปที่งานคอนเสิร์ต ตอนนั้นชั้นร้องไห้จนแทบจะมองอะไรไม่เห็นแลย อย่างน้อยก็ดีใจที่ อย่างน้อยชั้นกับครอบครัวก็ได้เป็นส่วนหนึ่ง ในหมื่นคน นี่เป็นครั้งแรกสินะที่ชินฮวาต่อต้านบริษัทที่ตัวเองสังกัดอยู่ ตอนหลังชั้นมารู้อีกที ว่าพวกเขาได้พนันไว้กับผู้จัดการ หากพวกเขาทำสำเร็จต้องให้แอนดี้กลับมา แต่ถ้าไม่พวกเขาจะยอมยุบวง ตอนนั้น ตอนคอนเสิร์ต เฮซองเตะกลางอากศแล้วล้มลงไปน่ะ เฮซองโทรหาเอริค แล้วบอกว่า ถ้าเอริคไม่ไปเอาแอนดี้กลับมา ไม่ต้องมาเยี่ยมที่ดรงพยาบาล ให้ไสหัวไปไกลๆเลย แล้วชั้นก็จะไม่ออกจากโรงพยาบาลด้วย” อันนี่ชั้นอ่านจากคอมเมนท์ของแฟนเอริค มันจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ช่วงเวลานั้นทุกคนร้องไห้น่ะ ดูยังไงก็รู้ว่าไม่มีทางแกล้งทำเป็นร้องไห้ได้หรอก 


    เส้นทางสู่เวที...3 พระเจ้า !!! ชั้นถอดใจที่จะรอดี้กลับมา ตอนนี้ชั้นมีแฟนแล้ว แน่นอนว่าแฟนชั้นรู้ว่ายังไงแอนดี้ก็เป็นที่หนึ่งสำหรับฉัน วันหนึ่งเค้าบอกว่าจะให้ของขวัญ ที่ดีที่สุดกับฉัน วันที่ 28 เดือน 10 วันที่ได้เห็นแอนดี้อีกครั้ง ผ่านมาจะ ค่อนปีเลยนะ ดีจังที่พระเจ้ายังคงคุ้มครองเค้าอยู่ แต่ดูดีๆ ดี้ ผอมลงไปเยอะมากๆ ผอมจนน่ากลัว ทุกคนดีใจที่แอนดี้กลับมา เฮซองกอดแอนดี้ มินวูกับดงวานก็มองดูด้วยรอยยิ้มข้างๆ เอริค จัจิน ทุกคนก็ผัดกันเขาไปกอด และ ตะโกนบอกว่าพวกเขารักแอนดี้ขนาดไหน แต่ภายใต้แว่นกันแดดสีดำอันใหญ่ที่เหมือนกับปิดหน้าทั้งหน้า รอยยิ้มเล็กๆที่เผยขึ้นเล็กๆที่มุมปาก ทำให้ชั้นรู้ว่า การที่แอนดี้กลับมา 10  เดือนที่หายไป สิ่งที่แอนดี้ได้กลับมา คงจะเป็นหน้ากาก ที่ทำให้ แอนดี้ ว่างเปล่า – ไม่มีอะไรเลย ชั้นที่ชอบแอนดี้ ไม่ได้ตื่นเต้นกับการกลับมาของเค้าเลย ชั้นปล่อยโฮออกมา แฟนชั้นก็ได้แต่ขอโทษ ที่พาชั้นมาดู และทำให้ชั้นร้องไห้ แต่ชั้นอยากขอบคุณเค้ามากที่สุด เพราะเค้าทำให้ชั้นได้เห็น เบื้องล่างของชินฮวา-ที่ๆเรายืนอยู่ ทุกอย่าง ทุกคนเป็นสีส้ม เหมือนว่าสีนั้นจะไม่มีวันจางหายไป …. เร็วๆนี้ ชั้นถึงได้รู้หลังจากที่ดี้ได้เปิดปากพูดถึงเรื่องในตอนนั้น จริงๆแล้ว คอนเสิร์ตครั้งนั้น แอนดี้มาเพื่อที่จะบอกลากับทุกคนเป็นครั้งสุดท้าย ถึงว่าชั้นถึงได้ร้องไห้ไม่หยุด ความรู้สึกของ ลีซอนโฮ จริงๆมันสื่อมาถึงพวกเรานะ อัลบั้มที่ 5- ชินฮวากลับมาเป็นชินฮวา อีกครั้ง ทุกคนดึงเอาพรสวรรค์ทั้งหมดของแต่ละคนออกมา perfect man ลุคของดี้ที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อัลบั้มขายไปได้ด้วยดี ตอนนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะได้ยิน เพลง เพอรเฟคแมน ของชินฮวาดังไปทุกที่ แทบทุกคนฮัมตามเพลงกันได้ 


    เส้นทางสู่เวที...4 แต่พระเจ้าก็เล่นตลกอีกครั้ง จอนจินได้รับบาดเจ็บ ชั้นเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะแต่ละสื่อ ออกมาแทบไม่เหมือนกันเลย รู้แค่ว่าหมอวินิจฉัยว่า จอนจิน สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก อาจจะไม่รอด ตอนนั้นข่าวที่ชั้นเปิดเจอบนโทรทัศน์ กำลังฉายภาพไปที่ดงวาน ที่เกือบจะเข้าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ เพราะไม่ยอมให้ดงวานเข้าไปดูอาการจอนจิน เฮซองกำลังโทรศัพท์หาใครซักคนอยู่ ดูท่าทางกลัวกันมาก สัมภาษณ์ที่ออกมาทางหนังสือพิมพ์ก็มีเพียงของ เอริค กับ มินวู แล้วแอนดี้ล่ะ? ยังดีที่ไม่เป็นอะไรไป แต่ก็อีกจนได้ เดือน 9 ดงวานประสบอุบัติหตุรถชนน่ะ มีของหนังสือพิมพ์ที่ชั้นอ่านประจำ ลงไว้ว่า คาดว่าเป็นการฆาตกรรม เพราะโดยปกติแล้ว ดงวานจะเป็นคนขับรถแต่วันนั้นเค้าเหนื่อยมาก เลยสลับที่กับผู้ช่วยให้มาเป็นคนขับแทน เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้ผู้ช่วยของดงวานตาย และ ทำให้ดงวานช็อค ถึงกับพูดไม่ได้เลยไปพักใหญ่ๆ ว่ากันว่าตอนที่ดงวานเริ่มพูดได้ เป็นเพราะเอริคน่ะ ว่ากันว่าเอริคไปชวนทะเลาะกับดงวาน ไม่แน่ใจว่าพูดอะไรใส่ แต่รู้ว่าวันต่อมาหน้าเอริคเยินจนแต่งหน้าปิดไม่มิดเลยล่ะ ดงวานเองก็ไม่ได้น้อยหน้าเลย - *- สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไป ดี้กลับมา จินนี่ไม่ตาย วานนี่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ปลายปี ทั้งๆที่พวกเขาตั้งความหวังไว้ว่าจะได้รางวัล แต่บริษัทก็ได้ล้มความหวังของชินฮวาไป แต่ที่ได้ยินมา บอกว่าผู้จักการ ได้เดินเข้ามาลูบหัวแอนดี้ทีนึง สมาชิกคนอื่นในชินฮวาตกใจมากนึกว่าจะเข้ามาทำร้ายแอนดี้ แต่เขาก็ได้ลูบหัวแอนดี้ไปทีนึง และ พูดกับทุกคน ว่า *ในเมื่อแอนดี้กลับมาแล้ว รางวัลอะไรก็คงไม่สำคัญหรอกนะ* ทางสังกัดเองคงไม่คิดว่า หุ่นเชิด ที่ถูกเชิดนั้น จะมีวันลุกขึ้นมาต่อต้านได้ ชินฮวาเองได้แต่เก็บความแค้นไว้ แอนดี้ และ จอนจิน เริ่มออกรายการต่างๆ อัลบั้มที่ 6 ดี้ได้ถ่ายภาพในลุคที่ดูเป็นผู้ใหญ่ Mv เพลง wedding แอนดี้เป็นคนออกแบบท่าเต้นทั้งหมด เป็นตอนที่แอนดี้ในเอ็มวีดูดีมาก เมื่อแอนดี้อยู่ในชินฮวา ดี้จะดึงพรสวรรค์ของตัวเองออกมาได้เต็มที่ เดือน 5 ปี 2003 ชินฮวา ไม่เซ็นสัญญาต่อกบริษัทต้นสังกัด และเซ็นกับ Good เดือน 6 ช่วงเวลานี้เรากลัวมาก กลัวว่าชินฮวาจะเป็นเหมือน JTL ที่ออกมาจากสังกัดเดียวกัน และต้องยุบวงไป แต่แอนดี้ก็กลับมาอยู่ต่อหน้าพวกเราอีกครั้ง พร้อม จินนี่ ใน nonstop 4 ดี้ไม่ใช่ shy boy อย่างเดิม ภาพของเด็กเรียนเข้ามาแทนที่ ทำให้ทุกคนทึ่งในความสามารถของดี้ x-man เอง ก็ได้ให้ฉายา ดี้ ว่า ซุปเปอร์แมน และเริ่มที่จะเรียนรู้ที่จะทำหลายๆอย่างด้วยตนเอง จะเป็นน้องเล็กที่ต้องการพี่ๆดูแลตลอดคงไม่ได้ แอนดี้ เริ่ม เปล่งแสงเหมือนกับอัญมณี เค้าโตขึ้น รับมือกับเรื่องร้ายๆได้แล้วล่ะ อัลบั้ม 7 เหมือนกับการเริ่มต้นใหม่ ดี้เองก็เริ่มที่จะเป็นผู้หญ่เต็มตัวแล้วล่ะ แต่ทั้งความเป็นผู้หญ่และความน่ารักแบบเด็กๆ เหมือนกับขาวกับดำ อยู่ด้วยกันทำให้แอนดี้มีเสน่ห์ขึ้น แรปเองก็ดีขึ้นมาก ดี้เองก็เอาแต่ใส่เสื้อแบรนด์นว แล้วโปรโมตอัลบั้มโดยใช้ตัวเองเป็นมาสคอต ยิ้มมากขึ้น หัวเราะมากขึ้น ไม่เหมือนกับคนที่ต้องผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมาเลย ปีนี้เองที่ loveletter ก็ได้เริ่มขึ้น ทั้งเสน่ห์ และ อารมณ์ขัน ตามสไตล์ของแต่ละคน ทำให้รายการนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก heart dance ได้กลายเป็นท่าประจำของแอนดี้ไป 


    เส้นทางสู่เวที...5 2004 ท้ายปี รางวัลที่พวกเค้าได้มากมาย หลังจากที่พยายามมาตั้งนาน พวกเค้าไม่ได้คิดหวังอะไรแล้ว โดยเฉพาะกับการที่พวกเค้าต่อต้านสังกัดเดิม ตอนที่พวกเขาประกาศชื่อ ยังไม่มีใครฟังเลยด้วยซ้ำ -*- อายุ 23 แล้ว ดี้เองก็เดินอยู่บนถนนสายนี้มา 6 ปี เหมือนว่าอยู่มานาน จนถือว่าแก่ในวงการแล้วล่ะ ไม่มีใครนึกออกว่า นอกจากตอนนี้ ชินฮวาจะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว จะทำอะไรให้ทุกคนแปลกใจได้อีก ทางกลับกัน ปี 2005 ดราม่าของแอนดี้ ทำให้ทุกคนตะลึงอีกครั้งกับพรสวรรค์ของเค้า ที่แสดงสีหน้าท่าทางได้ถึง 20 กว่าแบบ ตั้งแต่แบบขำๆ จนถึงซีนที่ทำเอาทุกคนน้ำตาคลอ ทำเอาแอนดี้โขมยหัวใจไปครองได้อีกหลายราย เฮ้ เขายังคงเป็น เด็กขี้งอแงอยู่รึไง? แอนดี้เปิดใจมากขึ้น กล้าขึ้น มีทั้ง x-man,love letter เป็นเวทีที่จะให้ ดี้ได้แสดงความสามารถ ทั้งตอนที่ ยิ้ม หัวเราะ ถอนหายใจ ร้องไห้ หรือ ครุ่นคิดต่อหน้ากล้อง ดี้พยายามที่จะเรียนรู้การแสดงสีหน้าพวกนี้จากนักแสดงคนอื่น ยอมที่จะเสียเวลาเอาไปเที่ยว หรือ ทำอย่างอื่นมานั่งดูการแสดงของคนอื่น เดือน 6 ดี้รับงานการเป็นพิธีกร จาก ดงวาน ให้กับ sbs เป็นช่วงเดียวกับตอนที่ซองออกโซโลพอดีล่ะ ดีค่อนข้างจะประหม่าแต่ก็ดีขึ้นเมื่อซองยิ้มให้และให้กำลังใจ แอนดี้ทำได้ ดี และ ดีขึ้นเรื่อย แต่ยังไม่วาย พระเจ้ายังคงทดสอบความอึดของดี้อยู่ แอนดี้หกล้มทำให้เข่าใช้ไม่ได้ทำให้ต้องอยู่โรงพยาบาล แต่ผ่านไป 2 อาทิตย์ดี้ก็กลับมา พร้อมกับยืนทำหน้าที่พิธีกรถึง 3 ชม.กว่า ถึงใครจะห้ามยังไงแต่ดี้ก็ยังยืนยันที่จะทำ ดี้ยังพยายามที่จะโปรโมต และให้กำลังใจกับพี่ๆทุกคนในชินฮวาในแบบของตัวเอง ปีนี้ แอนดี้ยังคงเป็น MC อยู่ แต่ก็ได้เป็นให้กับงานที่ใหญ่ขึ้น รับรายการประจำเพิ่ม หยั่ง goldenfish แอนดี้เอง ก็ตั้งใจขนาดไหนทุกคนก็น่าจะดูออกนี่คะ? เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ ตอนนี้ได้กลายเป็น ผู้ใหญ่เต็มตัว เปล่งประกายเมื่อยามได้อยู่บนสเตท คำพูดนึงที่แอนดี้เคยพูด ตอนแฟนมีตติ้ง ทำให้ชั้นไม่เคยลืม “แม้หนทางที่จะไปสู่เวที จะมืดมิดขนาดไหน แต่ผมก็จะไม่หันหลังกลับอีกแล้ว ” นี่ยังทำให้คุณมองว่าแอนดี้เป็นเด็กผู้ชายที่ทำอะไรไม่ได้อย่างนั้นหรอ ? แอนดี้ที่ขโมยหัวใจของพวกเราไป จนถึงตอนนี้ ? ฉันอยากให้ข้อความของชั้นสื่อไปถึงพวกคุณทุกคน ขอร้องอย่าทำให้เค้าต้องเสียใจอีก เค้าเสียใจมามากเกินพอแล้วล่ะ 


    [trans]something about shinhwa's 9th anniversary เจ้าหญิงสีส้มคนหนึ่งที่อยู่ในจีนบอกว่า บางครั้งกว่าเราจะรู้ว่าสิ่งไหนมีคุณค่าก็ต่อเมื่อเราได้เข้าไปสัมผัสกับสิ่งนั้นจริง ๆ แฟนคลับเกาหลีคนหนึ่งบอกว่า--- ถ้าคุณได้ลองเข้ามาเป็นแฟนชินฮวาเพียงแค่ครั้งเดียว คุณจะเป็นแฟนชินฮวาไปตลอดชีวิต มินอูบอกกับเจ้าหญิง(แฟนคลับ)ในประเทศจีนว่า— พวกคุณทุกคนคือ ผลผลิตของชินฮวาในจีน ความรักที่ฝ่าฝันอุปสรรคทุกอย่างได้ นั่นเรียกว่า รักแท้ ในเวลา 9 ปี  ..ความทุกข์, ความรัก และความสุข มากมายนับไม่ถ้วน ก่อตัวเป็นสายสัมพันธ์อันมั่นคงระหว่างชินฮวา และ เจ้าหญิงสีส้ม 9 ปี  หลังจากผ่านมา 9 ปี  ความอบอุ่นที่พวกเรารู้สึกได้ตั้งแต่เริ่มเป็นชินฮวาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย *ถ้ามีอะไรให้มาหา ฉัน เอริค. ชินฮวาไม่ได้เจอง่าย ๆ นะ*??---เอริค--(คนที่แปลมาจากภาษาจีนบอกว่าไม่รู้ว่าใครพิมพ์)**ปั๋วใหญ่เรยแปลแบบงง ๆ ** *กรุ๊ป S คือ เพื่อน แต่ ชินฮวา เป็นครอบครัว----  เฮซอง *ชินฮวาต้องไม่ / ไม่สามารถแยกจากกันได้ ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราต้องตายแน่นอน---มินอู *สำหรับผมแล้ว  ชินฮวาไม่ใช่ตัวเลือก แต่เป็นโชคชะตาของผม---ดงวาน *เป็นเพราะผมอายุน้อยกว่า ผมถึงไม่เคยบอกฮยองของผมทุกคน และแอนดี้ว่า  “เค้ารักพวกตะเองนะ”(I Love U all)---จอนจิน *ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมมีชีวิตอยู่เพื่อชินฮวาเท่านั้น----แอนดี้ ตำนานของเอริค, ตำนานของเฮซอง, ตำนานของมินอู, ตำนานของดองวาน, ตำนานของจอนจิน, ตำนานของแอนดี้, ตำนานจ้าหญิงสีส้มของชินฮวา ชินฮวาเหมือนดาวหางที่พุ่งไปข้างหน้า การรักพวกเค้ามันก็เหมือน ความบังเอิญที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่กลายเป็นว่าพวกเราจะอยู่เคียงข้างกับพวกเค้าไปจนพวกเค้าแก่กันเลยทีเดียว..(เอางั้นเรยนะฮะพวกเรา) **สมาชิกชินฮวา และผลผลิต(แฟนคลับ)ของชินฮวา เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม ----เอริค **พวกเรามีเพียงแค่พวกคุณเท่านั้น-----เฮซอง (หมายถึงปั๋วใหญ่ แอนด์ ปั๋วเล็ก ใช่ป่าว) **ทุกครั้งที่อยู่บนเวที มันกลายเป็นนิสัยไปแล้วที่ต้องมองลงมาหาแสงไฟสีส้ม จากนั้น ผมก็จะมีพลังในการเล่นคอนเสิร์ตขึ้นมาทันที----- มินอู **พวกเราทุกคนมีชีวิตอยู่เพื่อผู้หญิง  ผู้หญิงที่พวกเรารัก และ พวกเรามีความสุขได้ก็เพราะพวกเธอทุกคน ------ดงวาน **พวกเราพยายามทำให้ดีที่สุด และไม่ทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย เพราะไม่อยากให้แฟน ๆทุกคนเป็นกังวลกับพวกเรา-----  จอนจิน **ตอนที่ผมจะกลับมาอีกครั้งและนั่งรออยู่หลังเวที ผมกังวลมากว่าแฟน ๆ จะจำผมได้มั๊ย แต่แฟน ๆ ก็ยังจำผมได้----แอนดี้ ชื่ออื่นนอกจาก  ชินฮวา ชื่ออื่นที่ไม่ใช่ ชินฮวา พวกเราจะไม่ใช้ชื่ออื่น สำหรับพวกเราแล้วผลงานทุกชิ้นของชินฮวาจะเป็นเหมือนสัญญาที่อยู่ในใจเสมอ ว่าพวกเราไม่มีวันยอมแพ้!! เจ้าหญิงสีส้ม ที่พูดประโยคนี้คงรักชินฮวาหมดหัวใจ จริง ๆ นะเนี่ย..เหอๆๆๆๆ สำหรับทุกคนแล้ว การที่ได้รักชินฮวาก็เหมือนการรักสมาชิกในครอบครัว,ได้ผ่านประสบการณ์ที่ดีและร้ายร่วมกัน, เติบโต และเป็นผู้ใหญ่(แก่)ไปพร้อม ๆ กัน..ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราภูมิใจ และมีความสุขกับมันมาก.. ในคอนเสิร์ตที่โซล  ปี 2006  พญาลิงของเราพูดไว้ว่า----- เราอยากให้ชื่อของพวกเราอยู่ในประวัติศาสตร์วงการเพลงพ็อพเกาหลี ผมไม่ได้หมายความว่าทุกอัลบั้มของพวกเราต้องเป็นอันดับหนึ่ง แต่ผมหมายถึง พวกเราจะอยู่ด้วยกันไปจนถึงวาระสุดท้าย.. แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราคงไม่สามารถเติมเต็มความฝันนี้ได้ถ้าไม่มีพวกคุณอยู่เคียงข้างเรา!! จอนจิน พูดว่า----- ครั้งต่อไป ไม่ว่าคุณจะอายุ  12 , 16 , 30 ปี คุณก็ยังใช้ชีวิตร่วมกับชินฮวาได้ IT'S YOUR EYES  IT'S YOUR HAND?IT'S YOUR HEART  IT'S YOUR LOVE SHINHWA 2GETHER 4EVER โปรดจำไว้สักนิดว่า..: THEY ARE LIKE A COMET(hyesung) MOVING FOWARD(junjin) SHINHWA~!!!!!!!!!! FOREVER SHINHWA~~!!!!

Credit : teenee.com,th.wikipedia.org,



    Slayerette  In the Forest of Shinhwa's Village @pantip,น้องตอของซาร่า@pantip,จิงดิ@pantip,เด็กชายพิลกโย@pantip,



    baidu + angelical harmony ยำไทย : ปั๋วใหญ่ของซาร่า@InTheForestOfShinHwa'sVillage

    Pantip.com



    แปลไทย: เรเชล & อลิศ



    น้องเอ๋ + มุขเสริมโดยทอมดง

     In the Forest of Shinhwa's Village @pantip


    credit to : andyleefamily written in korean by : hankuu trans to chineese by : mikii trans to thai by : ina thank mikii for sending me this message 

เรียบเรียง : ruengdd.com,เรื่องดีดี.com