ลุงเอี่ยมพิการเพียงร่างกายแต่ใจไม่พิการขอทานใจบุญบริจาคเงินให้วัดไร่ขิง 1 ล้าน



ชายชราผู้หนึ่งพิการแขนขามาแต่กำเนิด....มีอาชีพเป็นขอทานมานานกว่า 40 ปี อยู่ที่วัดไร่ขิง...เมื่อปีกลายได้ทำบุญซื้อดอกบัวถวายหลวงพ่อเป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท แต่ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ได้ถวายเงินซื้อดอกบัวถวายอีกเป็นจำนวนเงินถึง 999,999.99 บาท ขาดสตางค์เดียว....ล้านนนนน !!! 

...พิการเพียงร่างกาย...แต่ใจไม่พิการ... 
ชายใจบุญผู้นี้มีชื่อว่า นายเอี่ยม คัมภิรานนท์ อายุ 62 ปี เป็นคนพื้นที่แต่กำเนิด ชาวบ้านแถวนี้จะรู้จักกันดีในนาม “ตาเอี่ยม” หรือลุงเอี่ยมของเด็กๆ เมื่อก่อนที่วัดไร่ขิงจะมีขอทานมาอาศัยอยู่มาก...ต่อมาเมื่อวัดเปลี่ยนสถานะเป็นวัดหลวง...ตั้งแต่นั้นมาขอทานก็ค่อยๆ หายไปจากวัดหมด คงเหลือแต่ตาเอี่ยมเพียงผู้เดียว กลายเป็นขอทานบรรดาศักดิ์...ด้วยความที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่นี่เอง...คือขอทานที่วัดนี้มาตั้งแต่หนุ่มๆ จนแก่ ...


















บิลบอร์ดล่าสุด...แถมเรียกตั๊กแตนมาโชว์เต็มวง...(2.5 แสนบาท)

รายได้ของลุงเอี่ยมต่อวันไม่ต้องพูดถึง...ยิ่งในช่วงมีงานเทศกาลปิดทอง...รายได้ของลุงเอี่ยมวันหนึ่ง...มากกว่ารายได้ของใครบางคนทั้งเดือน (รวมทั้งผมด้วย) แต่ในความเป็นจริงที่แกสามารถมีเงินมาทำบุญครั้งละมากๆ ขนาดนี้เพราะแกเล่นหวย...เป็นงานหลักของแก...(ขอทานอาจเป็นงานรอง..หุหุ) เล่นทีเป็นหลักพันหลักหมื่น...ล่าสุดถูกหวยติดต่อกันถึงสองงวดซ้อน...ได้มาเป็นหลักล้าน...จึงเป็นที่มาของเงินบริจาคในครั้งล่าสุดนี้...นอกจากนี้แกยังชอบเล่นหมากฮอสอีกด้วย... 

ส่วนใครที่คิด...จะมากอบโกยหรือทำมิดีมิร้ายกับแก...ก็อย่าได้หวัง...เพราะนอกจากจะมีบอดี้การ์ดประจำตัวแล้ว...ที่สำคัญทั้งพระ เณร กรรมการวัด และชาวบ้านร้านตลาดแถวนี้...รู้จักตาเอี่ยมและให้ความเคารพนับถือลุงเอี่ยมกันแทบทุกคน... 

ลุงเอี่ยม ลั่นปีหน้าตั้งเป้าบริจาค 2 ล้าน หวังเกิดมาสมบูรณ์








เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ 

              หลายคนคงจะได้ทราบข่าวคราวของคุณลุงพิการท่านหนึ่ง ที่ได้ถวายเงินให้แก่วัดไร่ขิงเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท เมื่อวานนี้ (15 มีนาคม) จนกลายเป็นกระเด็นที่น่าสนใจ และเชื่อว่า หลายคนคงอยากทราบถึงประวัติความเป็นมาของลุงเอี่ยมว่าเป็นคนที่ไหน มีประวัติความเป็นมาอย่างไร และเพราะอะไรที่ลุงเอี่ยมถึงบริจาคเงินให้กับวัดเป็นจำนวนเงินถึง 1 ล้านบาท...

              ช่วงเย็นของวานนี้ (15 มีนาคม) รายการเจาะข่าวเด่น ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ไปยังคุณลุงเอี่ยมถึงการบริจาคเงินในครั้งนี้ โดยมีอาจารย์อุดร สิริอาภรณ์  อาจารย์โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา พร้อมด้วยคุณพรเทพ ปัถวี ไวทยากรวัดไร่ขิง ได้เข้ามาร่วมให้สัมภาษณ์ พร้อมทั้งเป็นล่ามให้คุณลุงเอี่ยม เนื่องจากคุณลุงพิการลิ้นไก่สั้น จึงพูดติด ๆ ขัด ๆ และฟังค่อนข้างลำบาก

              โดยคุณอุดร อาจารย์ที่วัดไร่ขิงวิทยา เล่าประวัติความเป็นมาของลุงเอี่ยมให้ฟังว่า ตนเข้ารับบรรจุเป็นข้าราชการที่วัดไร่ขิงเมื่อปี 2522 ซึ่งตั้งแต่ตนมาอยู่ ก็เห็นลุงเอี่ยมอยู่แล้ว ซึ่งลุงเอี่ยมก็จะมานั่งกินข้าวแกงร่วมกันทุกวัน ทางคณะครูเห็นว่าลุงเอี่ยมเป็นคนพิการที่อารมณ์ดี เลยมีการพูดคุยและหยอกล้อเล่นกับลุงตลอด โดยเฉพาะเล่นหมากรุก ลุงเอี่ยมแกเล่นเก่งมาก และความจำดี แต่หลัง ๆ มาก็ไม่ค่อยได้เล่นกับลุงเอี่ยมสักเท่าไร เนื่องจากมือลุงเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว

             เมื่อถามคุณลุงเอี่ยมว่า ทำบุญมากี่ปีแล้ว ลุงเอี่ยมกล่าวว่า "ทำบุญปีมาทั้งหมด 37 ปี ครั้งแรกทำ 300 ครั้งที่สองทำ 600 ครั้งที่สามทำ 1000 แล้วก็ทำเพิ่มมาเรื่อย ๆ" พอถามต่อว่า คุณลุงคิดอย่างไรถึงได้มาทำบุญ ลุงเอี่ยมชี้ไปที่ใจ และบอกว่า ตนเป็นคนพิการเลยขอให้ผลบุญส่งให้ตนสมบูรณ์แบบ

             ส่วนด้าน คุณพรเทพ เล่าว่า ตนเป็นคนในพื้นที่วัดไร่ขิง ตั้งแต่เกิดมาตนก็เห็นลุงเอี่ยมแล้ว สำหรับลุงเอี่ยมนั้น เขาพิการเป็นโปลิโอตั้งแต่เด็ก มือทั้งสองข้างบิดงอ หยิบจับสิ่งของได้ลำบาก อีกทั้งยังลิ้นไก่สั้นจึงทำให้การพูดการจาค่อนข้างลำบาก แต่ก็ยังสามารถฟังจับใจความได้บ้างอยู่ ส่วนเรื่องการทำบุญนั้น ลุงเอี่ยมไม่ได้เพิ่งจะทำบุญ แต่ทำมานานมากแล้ว ซึ่งในทุก ๆ เทศกาลประจำปีของวัดไร่ขิง ลุงเอี่ยมจะนำเงินมาทำบุญดอกบัวทุกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นภาพที่ชินตาของชาวบ้านวัดไร่ขิง

            คุณพรเทพ กล่าวต่อว่า สื่อหลาย ๆ แห่งได้ลงข่าวว่า ลุงเอี่ยมเป็นขอทาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ลุงเอี่ยมไม่ใช่ขอทาน ไม่เคยขอเงินใคร ไม่เคยใช้ภาชนะหรืออุปกรณ์ใด ๆ มาวางไว้ตรงหน้าแล้วขอให้คนที่มาไหว้พระให้เงินเลย ส่วนคนที่ให้เงินลุงเอี่ยมนั้น เขาให้ด้วยความเมตตา ลุงเอี่ยมไม่ได้เรียกร้องอะไร เขาก็อยู่ของเขาธรรมดา แต่ก็มีคนให้เงินลุงเอี่ยมเอง นอกเหนือจากความเมตตาแล้ว ลุงเอี่ยมยังเป็นคนที่อารมณ์ดี นิสัยดี แถมยังให้หวยแม่น เขียนหวยให้ชาวบ้านถูกหลายงวด ชาวบ้านจึงนำเงินที่ถูกหวยแบ่งให้ลุงเอี่ยมใช้บ่อย ๆ

           คุณพรเทพ เล่าอีกว่า สำหรับชีวิตความเป็นอยู่ของลุงเอี่ยม แต่ก่อนลุงเอี่ยมอาศัยนอนตามร่มไม้แถววัด แต่เมื่อวัดขยายเขตกว้างออกไป อดีตเจ้าอาวาสก็เมตตาให้ลุงเข้ามานอนในวัดได้ เนื่องจากเห็นลุงเอี่ยมไม่ได้มีพิษมีภัย หรือเดินเรี่ยไรเงินใคร

          ไวทยากรวัดไร่ขิง  เล่าให้ฟังอีกว่า เงินของลุงเอี่ยมทุกบาทที่เขาได้มา ก็จะนำเงินมาฝากไว้ที่เจ้าอาวาส พอถึงงานบุญทุกปี ลุงเอี่ยมก็จะไปขอเบิก และนำมาถวายวัด ซึ่งลุงเอี่ยมได้ทำอย่างนี้มาตลอดเป็นประจำ แต่ที่เป็นข่าวก็เนื่องจากว่า เงินในครั้งนี้มันมากถึง 1 ล้านบาทเท่านั้นเอง

            เมื่อถามคุณลุงเอี่ยมอีกว่า ในแต่ละวันลุงเอี่ยมได้เงินเท่าไร และใช้จ่ายอย่างไรบ้าง ลุงเอี่ยมกล่าวว่า ตนได้เงินวันละประมาณ 2-3 พันบาท ใช้วันละ 500 บาท ทางด้านคุณสรยุทธ์ พิธีกรเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ตาโต ถามว่าทำไมถึงใช้จ่ายเยอะ คุณลุงบอกว่า ใช้ค่ากิน และให้ค่าจ้างรถสามล้อที่ขับมารับส่งไปกินข้าววันละ 300 บาท งานนี้คุณสรยุทธ์เลยแซวว่า คุณลุงให้ค่าจ้าง 300 เท่ากับค่าจ้างขั้นต่ำเลย ทันสมัยจริง ๆ 

            ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังญาติของลุงเอี่ยม ที่ จ.สระบุรี โดยญาติของลุงเอี่ยมกล่าวว่า ตนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับลุงเอี่ยม ลุงเอี่ยมพิการมาตั้งแต่กำเนิด เดินไม่ถนัด พูดไม่ชัดติดอ่าง แถมยังหูไม่ค่อยดี พออายุได้ประมาณ 4 ขวบ พ่อและแม่ของลุงเอี่ยมก็เสียชีวิตหมด เลยต้องอาศัยอยู่กับน้าชาย และเมื่อลุงเอี่ยมอายุได้ 10 ขวบ ก็ทำมาหากินเลี้ยงตัวเอง โดยการเดินขายขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามท้องนาท้องไร่ เพราะเป็นคนสู้ชีวิต และไม่อยากรบกวนใคร

           ญาติของลุงเอี่ยม เล่าให้ฟังอีกว่า พอลุงเอี่ยมอายุได้ประมาณ 20 ปี ก็ย้ายมาอาศัยอยู่กับพี่ชายที่ จ.นครปฐม พอปีไหนที่ลุงเอี่ยมมีเงินเยอะ ๆ ก็จะกลับมาทำบุญให้กับพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว และให้เงินช่วยเหลือพี่ ๆ น้อง ๆ มาตลอด ซึ่งเมื่อมาหาแต่ละครั้ง ลุงเอี่ยมก็จะซื้อขนมผลไม้มาฝากตลอด แถมยังเคยบริจาคเงินช่วยวัดสร้างสะพานเป็นเงินนับแสน แต่ก็ไม่ได้เป็นข่าวเหมือนครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ทางญาติและครอบครัวก็ทราบมาตลอดว่า ลุงเอี่ยมมีเงินเก็บมากมาย แต่ก็ไม่มีใครไปรบกวนลุงเอี่ยมแต่อย่างใด

           อย่างไรก็ตาม หลังจากข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดออกไป ก็มีบรรดาสื่อต่าง ๆ พากันต่อคิวให้ลุงเอี่ยมมาสัมภาษณ์ แต่ก็ต้องผิดหวังกลับไปเนื่องจากลุงเอี่ยมปฏิเสธ เพราะเดินทางลำบาก และพูดไม่ชัด แต่ก็ยังให้สัมภาษณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ว่า ในปีหน้าตั้งใจจะทำบุญเหมือนเดิม โดยตั้งเป้าไว้ 2 ล้านบาท


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

  


[15 มีนาคม] ใจบุญ! ตาเอี่ยม ขอทานพิการ หอบเงินล้านให้วัดไร่ขิง






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย CiNNtv2


          ฮือฮา ขอทานวัดไร่ขิง จ.นครปฐม พิการเป็นโปลิโอ นั่งขอทานเก็บออมมา 33 ปี ก่อนบริจาคให้วัดไร่ขิง 1 ล้านบาท พร้อมว่าจ้างวงดนตรีลูกทุ่งมาแสดงให้ชาวบ้านชมด้วย

          เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า นายเอี่ยม คัมภิรานนท์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 ซอย 7 ถนนพหลโยธิน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งมีอาชีพขอทานอยู่ภายในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้สร้างความประหลาดใจให้ชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่นำเงินถวายให้วัดจำนวน 1 ล้านบาท จึงเดินทางไปตรวจสอบ

          เมื่อไปถึงยังวัดไร่ขิง จ.นครปฐม พบว่า นายเอี่ยมแต่งกายสะอาด ใส่ชุดสูทสีดำ ผูกหูกระต่ายสีแดง ถือพานใส่เงินสดจำนวน 1 ล้านบาท พร้อมดอกบัวกำใหญ่ ซึ่งมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

          จากการสอบถาม นายเอี่ยม ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ตนเป็นคนป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่กำเนิด พิการแขนขา เดินไม่สะดวก ลิ้นไก่สั้น พูดไม่ชัด ไม่มีญาติพี่น้อง อาศัยอยู่คนเดียว ตกกลางคืนจะนอนอยู่ที่ศาลาจำหน่ายธูปเทียนของวัด และปกติจะนั่งขอทานอยู่ด้านหลังโบสถ์วัดไร่ขิงตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 จนปัจจุบันรวมระยะเวลากว่า 33 ปีแล้ว ช่วงแรกตนได้ถวายเงินสดจำนวน 300 บาท และถวายเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี เมื่อประชาชนผู้มีจิตกุศลให้เงินตนทุก ๆ วัน ตนก็ได้เก็บรวบรวมฝากธนาคารรวบรวมไว้ โดยเมื่อปีที่แล้วก็บริจาค 4 แสน สำหรับในปีนี้ ตนตั้งใจว่าหากมีรายได้ครบ 1 ล้านบาท จะถวายหลวงพ่อวัดไร่ขิง เพื่อร่วมซื้อดอกบัวถวายงานประจำปี ระหว่างวันที่ 2 -10 มีนาคม แล้วก็ได้เงิน 1 ล้านอย่างที่ตั้งใจจริง ๆ จึงขอมอบเงินส่วนนี้ให้วัดเพื่อนำไปบำรุงพระศาสนาต่อไป






          พร้อมกันนี้ในช่วงค่ำวันเดียวกัน เวลา 19.30 น. นายเอี่ยมยังได้จ้างวงดนตรีมาเล่นถวายหลวงพ่อวัดไร่ขิง โดยมีศิลปินนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ตั๊กแตน ชลดา มาร้องเพลงด้วยสร้างความบันเทิงให้ประชาชนอีกด้วย

          ทางด้าน พระราชวิริยาลังการ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เปิดเผยเรื่องราวขอทานรายนี้ว่า นายเอี่ยมเป็นขอทานแล้วมาพักอาศัยอยู่ที่วัด ซึ่งเจ้าอาวาสรูปก่อนอนุญาตให้เข้ามาขอทานในวัดได้ เนื่องจากเป็นคนน่าสงสาร พิการ มือหงิกทั้ง 2 ข้าง เดินไม่ได้ ต้องใช้วิธีคลานแทน แต่ละวันทราบว่านายเอี่ยมขอทานได้วันละ 2 พันกว่าบาท ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ได้เป็นหมื่นบาท จากนั้นก็นำเงินรวบรวมมาบริจาควัดทุกปี ครั้งละประมาณ 1 แสนบาท โดยทำมา 4-5 ปีแล้ว และปีนี้นายเอี่ยมถูกหวยงวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เงินนับล้านบาท จึงแสดงความจำนงถวายเงินให้วัด 999,999 บาท พร้อมทั้งหาวงดนตรีของ ตั๊กแตน ชลดา และหนังกลางแปลงมาแก้บนกับหลวงพ่อวัดไร่ขิง

          ส่วน นายอุดร ศิริอาภรณ์ อาจารย์โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา อ.สามพราน จ.นครปฐม กล่าวว่าการมอบเงินดังกล่าวของนายเอี่ยม ถือว่าเป็นการตอบแทนวัด ที่นายเอี่ยมใช้เป็นที่พักพิง และเป็นความประสงค์อยากจะทำบุญร่วมกับทางวัด และขอยืนยันว่าทางวัดไม่ได้สนับสนุนให้มีอาชีพขอทานเกิดขึ้น เพื่อที่จะแสวงหาเงินจากผู้ที่มาทำบุญที่วัด สำหรับกรณีบริจาคเงิน 1 ล้านบาทนี้ ทางวัดก็จะออกหนังสือเพื่อรับรองการบริจาคให้ เพื่อให้เงินที่บริจาคมา ใช้อย่างถูกต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค



คลิปขอทานพิการใจบุญ หอบเงินล้านบริจาควัดไร่ขิง


คลิปขอทานพิการใจบุญ หอบเงินล้านบริจาควัดไร่ขิง



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



Credit : palungjit.com,talkystory.com,Youtube.com,กระปุกดอทคอม
Credit : ruengdd.com,เรื่องดีดี.com