Greyfriars Bobby



Bobby เป็นสุนัขจรจัด  เกิดปีค.ศ.1956  ด้วยความฉลาดแสนรู้ของมัน จึงได้ไปเข้าตาของนายตำรวจ
เมืองเอดินเบอเรอะ ท่านหนึ่งนามว่า จอห์น เกรย์ เขาเป็นตำรวจที่ดี ปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย เป็นผู้
พิทักษ์สันติราษฏร์ เป็นโสดไม่มีครอบครัว เขารับเจ้า “Bobby” มาอยู่ด้วย และมันก็เต็มใจที่จะมีนายเป็นตำรวจ หลังจากที่เขารับเจ้า Bobby” มาอยู่ร่วมชายคา  ผู้คนในเมืองเอดินเบอร์เรอะ จะเห็นนายตำรวจคนหนึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมีเจ้าสุนัขตัวน้อยเดินอยู่ข้างกายไม่ห่างหาย ตลอดเวลา






ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด “Bobby” ไม่เคยทิ้งเจ้านายของมัน เมื่อเจ้านายของมันต้องวิ่งไล่จับเจ้าหัวขโมย. “Bobby” ก็จะเป็นกำลังเสริมวิ่งไล่ตามไม่หยุดยั้งจนกว่าจะจับคนร้ายได้ หรือจนกว่าเจ้านายจะสั่ง เหตุการณ์เหล่านี้ เป็นที่คุ้นหู คุ้นตาและเป็นที่กล่าวขานกันไปทั้งเมือง



 “Bobby” ดูแลนายของมันไม่เคยห่าง แม้กระทั้งยามเจ็บไข้ มันก็ยังซุกอยู่ข้างกายนายของมันเหมือนดั่งกับว่าคอยให้ไออุ่นให้นายของมันได้คลายหนาวได้บ้าง แต่อนิจจาความเยือกเย็นในฤดูหนาวนั้น ช่างโหดร้ายนักใน จนที่สุด จอห์น เกรย์ นายของ “Bobby” ก็จากไป หลังจากอยู่ด้วยกันได้เพียง 2 ปีและทางการก็นำร่างของเขาไปฝังยังสุสานของตัวเมือง
เป็นธรรมเนียมของทางสุสานสมัยก่อนที่ห้ามสุนัขเข้าไปป้วนเปี้ยนอยู่ภายใน แต่ Bobbyก็ใช้ความฉลาด และขนาดเล็กกระทัดรัดของมันเร้นกายหลบคนเฝ้าสุสาน เข้าไปเฝ้านายของมันที่ข้างหลุมเป็นประจำ ยกเว้นเวลาอาหารมันก็จะออกมาที่ร้านประจำของมัน ที่เจ้าของร้านผู้อารีย์ ที่ตั้งอยู่หน้าสุสาน จะเป็นผู้ให้อาหารประทังชีวิตมันทุกๆวัน
ไม่ว่าอากาศจะเป็นเช่นไร ลมแรง หิมะตก หนาวเย็นขนาดไหน ผู้คนก็ยังจะเห็นมันเฝ้าอยู่ที่หลุมของนายมัน และสงสารมันจับใจทุกครั้งที่เห็น และเกิดความสงสัยว่ามันทนอยู่ได้อย่างไร
แม้จะมีผู้คนพยายามมาพูดจาหว่านล้อมเพื่อจะพาไปอยู่ด้วย มันก็หาได้ยอมทิ้งนายของมันที่อยู่ในสุสานไม่
 และแม้ในปี ค.ศ. 1867 ทางการได้ออกกฏหมายว่าสุนัขหรือสัตว์จรจัดทั้งหลาย จะต้องถูกทำลาย มันก็ยังไม่ตกลงปลงใจไปอยู่ด้วยกับใคร แต่มันกลับใช้ความเป็นอริยะขัดขืน หลบเร้นกาย เพื่อไม่ให้ถูกจับ และจะได้อยู่ใกล้ชิดกับนายของมันหรือ“Bobby” จะหลงไหลคนมีสี?
เพราะว่าวันหนึ่ง เซอร์ วิเหลี่ยม ชาร์มเบอร์ นายทหารระดับสูงผู้พำนักอยู่บนปราสาทเอดินเบอเรอะ ผู้เป็นหนึ่งในหลายคนที่พยามจะช่วยเหลือ Bobby” และชวนไปอยู่ด้วย เขาใช้ความพยายามอยู่นาน จนในที่สุดมันก็ใจอ่อน เชื่อใจและยอมเดินตามท่านเซอร์ ขึ้นไปอยู่บนปราสาทจนได้ ถึงกระนั้นก็ตามด้วยความกตัญญูของ “Bobby” ก็ยังลงมาเยี่ยมนายเก่าที่สุสานอย่างสม่ำเสมอ และเป็นเวลาประจำของทุกวัน ปืนยิงบอกเวลาบ่ายโมง ที่เรียกว่า Afternoon Gun บนปราสาทได้ส่งเสียงดังขึ้น ผู้คนทั้งเมืองก็เห็นเจ้าสุนัขตัวน้อย  วิ่งลงมาจากปราสาท และตรงไปยังสุสานเพื่อมาเยี่ยมนายของมัน และแวะกินอาหารที่ร้านประจำ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นประจำและแพร่กระจายออกไปทำให้ชื่อเสียงของ “Bobby” นำพาผู้คนจากทั่วสารทิศเข้ามายังเมืองเอดินเบอเรอะอย่างมากมาย เพียงเพื่อรอชมเหตุการณ์ในชิวิตประจำวันของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ตัวหนึ่ง จนวันเวลาผ่านไป  ทางการได้ตระหนักถึงความซื่อสัตย์ รวมทั้งเรื่องราวต่างๆที่น่าประทับใจของเจ้า “Bobby” จึงได้อนุญาตให้ “Bobby” เป็นสุนัขตัวแรกที่ได้เดินเข้าออกสุสานได้อย่างสง่าผ่าเผยโดยไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป ที่สุดเมื่อวันที่ 14มกราคม 1872  “Bobby” ได้สิ้นชีวิตลง




 Bobby” ด้รับเกียรติเป็นสุนัขตัวแรกและตัวเดียวในขณะนั้นที่ได้รับการฝังในสุสานเดียวกันข้างๆหลุมฝังศพนายเก่าของมัน อายุของ “Bobby” รวม 16 ปีอโดยมีป้ายข้อความเขียนไว้ว่า 
Let his loyalty and devotion be a lesson to us all."