ประวัติพร้อมไขหัวใจเคท ไบรโอนี่ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย
ห่างหายจากวงการบันเทิงไปนับ 10 ปีเต็มเลยทีเดียว... สำหรับสาวสวยยิ้มเก่งอย่าง เคท ไบรโอนี่ รอดโพธิ์ทอง สมิทธ ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เธอก็กลับมาในฐานะครูฝึกโยคะคนเก่ง แถมควงสามีใหม่สุดหล่ออย่าง ไดซ์ อีด้า ไคลน์ ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกา มาออกสื่อด้วยอีกทั้งยังมีข่าวน่ายินดี เมื่อสาวเคทกำลังตั้งท้องกับไดซ์แฟนหนุ่ม งานนี้ลูกสาวคนโตของเคทอย่างเทย์เลอร์ก็เตรียมต้อนรับน้องชายอย่างใจจดใจจ่ออย่างทีเดียว
และล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (13 มกราคม) ทางรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ก็ขออัพเดทเรื่องราวของสาวเคท กับความรักครั้งใหม่ และสมาชิกใหม่ในครอบครัว... พร้อมสัมภาษณ์ในเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ ทั้งความรักครั้งเก่า เหตุที่ต้องออกจากวงการแบบกะทันหัน หรือว่า... ใครเป็นคุณพ่อของน้องเทย์เลอร์กันแน่ ใช่ท็อป ณัฐเศรษฐ์ เพื่อนสนิทหรือเปล่า ???
เริ่มต้นคำถามแรกที่เชื่อว่าค้างคาใจใครหลายคนมานาน กับสาเหตุการออกจากวงการบันเทิงของสาวเคท ที่ขณะนั้นเธอดังเป็นพลุแตก มีทั้งงานละคร และผลงานเพลงเพิ่งเปิดตัว แต่เธอกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย จนกลายเป็นกระแสข่าวลือทั่วประเทศว่า... เธอหนีไปคลอด! และตั้งท้องกับ ท็อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี!
งานนี้สาวเคทเปิดใจแบบเคลียร์ ๆ เลยว่า ที่เธอหายไปจากวงการเพราะเธอตั้งท้อง ๆ จริง กับสามีคนแรก พร้อมยืนยันว่าพ่อของน้องเทย์เลอร์ ไม่ใช่ท็อปอย่างแน่นอน แต่เป็นคุณชาลี ชนะรัตน์โสภณ เป็นนักธุรกิจขายจิลเวอรี่อยู่ที่อเมริกา...
"ตอนนั้นที่ออกจากวงการเพราะเคทอยากมีครอบครัว และอยากเลี้ยงลูกที่เมืองนอก ตอนนั้นเคทท้อง แต่ไม่ได้ท้องที่กรุงเทพฯ เคทท้องกับชาลีที่อเมริกา ที่หายไปไม่ได้ตั้งใจจะปิดข่าว คิดเพียงว่าจะไม่พูดอะไร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว เลยตัดสินใจไปเลย ส่วนที่บ้านก็ไม่งง เพราะบ้านเคทคุณแม่เขาสปอร์ต เขาเข้าใจเรื่องนี้"
ด้านพิธีกรวู้ดดี้ ถามต่อว่า... รู้หรือไม่ว่าที่เมืองไทยเขาลือกันว่า ท็อป ณัฐเศรษฐ์ เป็นคนทำเคทท้อง ส่วนเคทบอกว่า ท็อปก็เล่าข่าวให้ฟังเหมือนกัน ตนต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ตนกับท็อปเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ๆ ท็อปเป็นเพื่อนที่จริงใจ และดูแลตนมาตลอด ตอนตนมีปัญหากับสามีเก่า ท็อปก็เป็นคนที่คอยให้กำลังใจ... ส่วนเรื่องข่าวที่ตนท้องกับท็อป ตนก็บอกว่าเดี๋ยวจะกลับไปแก้ข่าวให้ละกัน แต่อาจจะทิ้งช่วงยาวนานสักหน่อย (หัวเราะ) แต่ท็อปบอกไม่ต้องแก้ ไม่เป็นไร
ต่อกันด้วยเรื่องราวของคุณชาลี สามีเก่าของเคท ซึ่งหลาย ๆ คนคงอยากรู้ว่า เริ่มต้นความรักเป็นอย่างไร และเพราะอะไรความรักในครั้งนี้ถึงจบลง โดยสาวเคทกล่าวว่า ชาลีเป็นคนใจดี ในเรื่องของความรัก เขาเป็นคนน่ารัก พาตนไปเที่ยวรอบโลกเลย ส่วนตอนนี้เขาเป็นนักธุรกิจ เป็นคนทำงานเก่งมาก ซึ่งตอนที่เราอยู่ด้วยกัน เราใช้ชีวิตที่เกินพอเพียงไปมาก หรูหรา ฟู่ฟ่า และความรักช่วงนั้นเป็นอะไรที่หอมหวาน.. แต่มันก็ต้องมีเหตุให้จบลง เพราะตลอดเวลาที่ชาลีคบตน เขาก็มีคนอื่นแบบกิ๊ก ๆ กั๊ก ๆ ตลอดเวลา แล้วเราก็ทะเลาะกันมาตลอด ทะเลาะแบบตะโกนใส่กัน ขว้างปาข้าวของ ซึ่งตนก็ไม่อยากให้ลูกมาเห็นตรงนี้ ไม่อยากให้ลูกโตมาในสภาวะเลวร้ายเช่นนี้ จึงมานั่งคิดว่า เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไปไม่ได้
"ตอนนั้นเคทรักษาความสัมพันธ์ตรงนี้ไว้เพื่อลูก พยายามทุกอย่างเพื่อลูก... แต่พอเคทรู้ว่ามันไปด้วยกันไม่ได้ สิ่งที่เคทพูดต่อจากนี้อาจจะไม่ถูกใจคนไทย คนไทยอาจจะมองเคทเป็นคนไม่ดี แต่เคทต้องพูดความจริง คือตั้งแต่เด็ก ๆ มีแฟนแล้วไม่กล้าเลิก ไม่กล้าอยู่คนเดียว ต้องหาคนอื่นก่อน กับชาลีก็เช่นกัน เคทชินกับความหรูหรา ความสบาย รู้ว่าชาลีเป็นคนที่พร้อม มีทุก ๆ อย่างเพื่อลูก และเคทก็รักครอบครัวของชาลีมาก แต่พอเลือกที่จะไป เคทกลับหาคนอื่นมายึด พยายามหาคนที่มั่นคง ซึ่งมันเป็นช้อยส์ที่แย่ที่สุดสำหรับเคทตั้งแต่ที่ทำมา... สุดท้ายก็ทะเลาะกันไปทะเลาะกันมา เคทเลยอุ้มเทย์เลอร์หนีไปอยู่กับแม่ที่แอลแอ แทนที่จะมานั่งตกลงกันว่า เราจะเลิกกัน แล้วควรทำอย่างไรต่อไป"
เคท โบรโอนี่ กล่าวต่อว่า เมื่อชาลีรู้ว่าตนอุ้มลูกไปอยู่กับแม่เขาก็โกรธตนมาก กลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกอีก ซึ่งตนกับเขาทะเลาะกันจนขึ้นศาลกัน 2 ปี เสียเงินเป็นสิบ ๆ ล้าน เพื่อลูก ซึ่งตนบอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในชีวิตของตน เพราะชาลีเขาฟ้องตนแบบไม่ให้มีสิทธิในตัวลูกเลย เขาตั้งคณะลูกขุน และมีสายลับ หากตนไปเดทกับใคร ก็จะทำเป็นข้อมูลเพื่อฟ้องตนว่า ตนไม่สามารถดูแลลูกได้... จุดนี้ ตนไม่แคร์เรื่องเงินเลย สู้เต็มที่เหมือนกันเพื่อลูก สรุปฟ้องกันไปสองปีก็เห็นว่าไม่มีอะไรดี เลยมาทำข้อตกลงร่วมกัน แบ่งลูกกันอยู่คนละครึ่งปี เขาอยู่ฮิลตัน ตนอยู่แอลเอ ช่วงที่ลูกอยู่ฮิลตัน ตนก็ต้องบินไปหาทุกอาทิตย์ ส่วนตอนที่ลูกมาอยู่กับตน เขาก็บินมาหาบ่อย ๆ แต่มันก็ไม่ไหว คงต้องรอปี 2015 ซึ่งเขาจะย้ายมาอยู่ในแอลเอ ตนคงได้เจอลูกมากขึ้น
ดูเหมือนว่าเรื่องมรสุมความรัก และเรื่องลูกกำลังจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี... สาวเคทก็มีหนุ่มไดซ์ สามีคนใหม่ ที่คอยเป็นกำลังใจ ซึ่งเคทบอกเลยว่า ไดซ์ เป็นรักแท้ และรักสุดท้ายของเธอ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเริ่มต้นความรักครั้งใหม่คงต้องผ่านการอนุมัติจากเทย์เลอร์ลูกสาวของเธอก่อน โดยเคทเล่าให้ฟังว่า พอคบหากันมาได้ประมาณ 6 เดือน และเริ่มมั่นใจว่าไดซ์คือคนที่ใช่ เลยต้องมาไดซ์มาเจอกับลูก และบอกลูกไปว่าจะมีเพื่อนแม่มาเที่ยวด้วยนะ ตอนแรกก็พาลูกไปเที่ยวกันสามคน ซึ่งไดซ์กับเทย์เลอร์ก็สนุกกันใหญ่ และพอเที่ยวกับเสร็จ ตนก็ถามลูกว่าไดซ์โอเคไหม ด้านเทย์เลอร์ก็บอกว่าโอเค นิสัยน่ารักดี ชอบ พอตนได้ยินดังนั้น ก็บอกลูกว่า ไดซ์ไม่ใช่เพื่อนแม่นะ แต่ตนยังพูดไม่ทันขาดคำ เทย์เลอร์ก็ตอบกลับสวนมากว่า ไม่ใช่เพื่อนรู้แล้วเป็นเป็นแฟน ไม่งั้นแม่จะพามาทำไมล่ะ ด้านไดซ์ ก็กล่าวตอบว่า เทย์เลอร์ เป็นคนฉลาดมาก ๆ เราเข้ากันได้ดีมาก เพราะนิสัยเราคล้าย ๆ กัน มีบางอย่างที่เหมือนกัน (ยิ้ม)
เมื่อถามถึงเรื่องการแต่งงานที่เพิ่งเข้าโบสถ์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และตอนนี้สาวเคทกับหนุ่มไดซ์ กำลังจะมีลูกด้วยกันว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง หนุ่มไดซ์เผยว่า ตนรักเทย์เลอร์เหมือนลูกแท้ ๆ อยู่แล้ว และตอนนี้ก็ดีใจมากที่จะได้มีลูกกับเคท ซึ่งเราไปอัลตราซาวด์มาแล้ว ลูกของเราเป็นลูกชาย ตนเลยคิดว่าตนต้องมีภาวะการเป็นผู้นำสูงขึ้น พร้อมที่จะดูแลทั้งเคท เทย์เลอร์ และสมาชิกใหม่
ด้านเคท กล่าวว่า ตอนที่เขารู้ว่าเราได้ลูกชาย เขาน้ำตาไหลออกมาเลย โดยปกติแล้วเขาไม่ใช่คนขี้แง ซึ่งเรื่องนี้ตนรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก ส่วนเรื่องชื่อของลูกตนตั้งไว้ว่า "ซิดนีย์" เพราะเป็นชื่อที่ดี และเป็นเมืองที่ตนเกิด เมื่อถามถึงกำหนดคลอด น่าจะคลอดวันที่ 15 พฤษภาคม ตนจะคลอดเองแบบธรรมดา ในอ่างอาบน้ำที่บ้านในแอลเอ เหมือนคราวคลอดน้องเทย์เลอร์ ขณะที่ไดซ์ ก็บอกว่า เขาจะอยู่กับเคททุกขั้นตอน อยากมีส่วนร่วมในการคลอดครั้งนี้ให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ท้ายรายการ วู้ดดี้ ได้พา ท็อป ณัฐเศรษฐ์, เคท ไบรโอนี่ และไดซ์ มานั่งรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งท็อปเผยว่า ตอนนี้มีข่าวเม้าท์ใหม่เรื่องลูกคนที่สองของเคท ว่าเป็นลูกของตนอีกแล้ว ด้านเคทและไดซ์ก็ขำ และบอกยืนยันอีกครั้งว่า ลูกคนนี้เป็นลูกของไดซ์นะ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ท็อปไปเยี่ยมเธอตอนคลอดลูกชายที่แอลเอด้วย
อีก 5 เดือน น้องซิดนีย์ก็จะลืมตาดูโลกแล้ว... หน้าตาคงน่ารักสุด ๆ เลยล่ะ ยังไงกระปุกดอทคอมก็ขอให้ชีวิตรักครั้งใหม่ของสาวเคทสดใสเหมือนรอยยิ้มของเธอ และขอให้เธอและเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้อง มีสุขภาพแข็งแรงมาก ๆ นะจ๊ะ :)
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 1/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 2/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 3/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 4/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 5/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
และล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (13 มกราคม) ทางรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ก็ขออัพเดทเรื่องราวของสาวเคท กับความรักครั้งใหม่ และสมาชิกใหม่ในครอบครัว... พร้อมสัมภาษณ์ในเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ ทั้งความรักครั้งเก่า เหตุที่ต้องออกจากวงการแบบกะทันหัน หรือว่า... ใครเป็นคุณพ่อของน้องเทย์เลอร์กันแน่ ใช่ท็อป ณัฐเศรษฐ์ เพื่อนสนิทหรือเปล่า ???
เริ่มต้นคำถามแรกที่เชื่อว่าค้างคาใจใครหลายคนมานาน กับสาเหตุการออกจากวงการบันเทิงของสาวเคท ที่ขณะนั้นเธอดังเป็นพลุแตก มีทั้งงานละคร และผลงานเพลงเพิ่งเปิดตัว แต่เธอกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย จนกลายเป็นกระแสข่าวลือทั่วประเทศว่า... เธอหนีไปคลอด! และตั้งท้องกับ ท็อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี!
งานนี้สาวเคทเปิดใจแบบเคลียร์ ๆ เลยว่า ที่เธอหายไปจากวงการเพราะเธอตั้งท้อง ๆ จริง กับสามีคนแรก พร้อมยืนยันว่าพ่อของน้องเทย์เลอร์ ไม่ใช่ท็อปอย่างแน่นอน แต่เป็นคุณชาลี ชนะรัตน์โสภณ เป็นนักธุรกิจขายจิลเวอรี่อยู่ที่อเมริกา...
"ตอนนั้นที่ออกจากวงการเพราะเคทอยากมีครอบครัว และอยากเลี้ยงลูกที่เมืองนอก ตอนนั้นเคทท้อง แต่ไม่ได้ท้องที่กรุงเทพฯ เคทท้องกับชาลีที่อเมริกา ที่หายไปไม่ได้ตั้งใจจะปิดข่าว คิดเพียงว่าจะไม่พูดอะไร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว เลยตัดสินใจไปเลย ส่วนที่บ้านก็ไม่งง เพราะบ้านเคทคุณแม่เขาสปอร์ต เขาเข้าใจเรื่องนี้"
ด้านพิธีกรวู้ดดี้ ถามต่อว่า... รู้หรือไม่ว่าที่เมืองไทยเขาลือกันว่า ท็อป ณัฐเศรษฐ์ เป็นคนทำเคทท้อง ส่วนเคทบอกว่า ท็อปก็เล่าข่าวให้ฟังเหมือนกัน ตนต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ตนกับท็อปเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ๆ ท็อปเป็นเพื่อนที่จริงใจ และดูแลตนมาตลอด ตอนตนมีปัญหากับสามีเก่า ท็อปก็เป็นคนที่คอยให้กำลังใจ... ส่วนเรื่องข่าวที่ตนท้องกับท็อป ตนก็บอกว่าเดี๋ยวจะกลับไปแก้ข่าวให้ละกัน แต่อาจจะทิ้งช่วงยาวนานสักหน่อย (หัวเราะ) แต่ท็อปบอกไม่ต้องแก้ ไม่เป็นไร
ต่อกันด้วยเรื่องราวของคุณชาลี สามีเก่าของเคท ซึ่งหลาย ๆ คนคงอยากรู้ว่า เริ่มต้นความรักเป็นอย่างไร และเพราะอะไรความรักในครั้งนี้ถึงจบลง โดยสาวเคทกล่าวว่า ชาลีเป็นคนใจดี ในเรื่องของความรัก เขาเป็นคนน่ารัก พาตนไปเที่ยวรอบโลกเลย ส่วนตอนนี้เขาเป็นนักธุรกิจ เป็นคนทำงานเก่งมาก ซึ่งตอนที่เราอยู่ด้วยกัน เราใช้ชีวิตที่เกินพอเพียงไปมาก หรูหรา ฟู่ฟ่า และความรักช่วงนั้นเป็นอะไรที่หอมหวาน.. แต่มันก็ต้องมีเหตุให้จบลง เพราะตลอดเวลาที่ชาลีคบตน เขาก็มีคนอื่นแบบกิ๊ก ๆ กั๊ก ๆ ตลอดเวลา แล้วเราก็ทะเลาะกันมาตลอด ทะเลาะแบบตะโกนใส่กัน ขว้างปาข้าวของ ซึ่งตนก็ไม่อยากให้ลูกมาเห็นตรงนี้ ไม่อยากให้ลูกโตมาในสภาวะเลวร้ายเช่นนี้ จึงมานั่งคิดว่า เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไปไม่ได้
"ตอนนั้นเคทรักษาความสัมพันธ์ตรงนี้ไว้เพื่อลูก พยายามทุกอย่างเพื่อลูก... แต่พอเคทรู้ว่ามันไปด้วยกันไม่ได้ สิ่งที่เคทพูดต่อจากนี้อาจจะไม่ถูกใจคนไทย คนไทยอาจจะมองเคทเป็นคนไม่ดี แต่เคทต้องพูดความจริง คือตั้งแต่เด็ก ๆ มีแฟนแล้วไม่กล้าเลิก ไม่กล้าอยู่คนเดียว ต้องหาคนอื่นก่อน กับชาลีก็เช่นกัน เคทชินกับความหรูหรา ความสบาย รู้ว่าชาลีเป็นคนที่พร้อม มีทุก ๆ อย่างเพื่อลูก และเคทก็รักครอบครัวของชาลีมาก แต่พอเลือกที่จะไป เคทกลับหาคนอื่นมายึด พยายามหาคนที่มั่นคง ซึ่งมันเป็นช้อยส์ที่แย่ที่สุดสำหรับเคทตั้งแต่ที่ทำมา... สุดท้ายก็ทะเลาะกันไปทะเลาะกันมา เคทเลยอุ้มเทย์เลอร์หนีไปอยู่กับแม่ที่แอลแอ แทนที่จะมานั่งตกลงกันว่า เราจะเลิกกัน แล้วควรทำอย่างไรต่อไป"
เคท โบรโอนี่ กล่าวต่อว่า เมื่อชาลีรู้ว่าตนอุ้มลูกไปอยู่กับแม่เขาก็โกรธตนมาก กลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกอีก ซึ่งตนกับเขาทะเลาะกันจนขึ้นศาลกัน 2 ปี เสียเงินเป็นสิบ ๆ ล้าน เพื่อลูก ซึ่งตนบอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในชีวิตของตน เพราะชาลีเขาฟ้องตนแบบไม่ให้มีสิทธิในตัวลูกเลย เขาตั้งคณะลูกขุน และมีสายลับ หากตนไปเดทกับใคร ก็จะทำเป็นข้อมูลเพื่อฟ้องตนว่า ตนไม่สามารถดูแลลูกได้... จุดนี้ ตนไม่แคร์เรื่องเงินเลย สู้เต็มที่เหมือนกันเพื่อลูก สรุปฟ้องกันไปสองปีก็เห็นว่าไม่มีอะไรดี เลยมาทำข้อตกลงร่วมกัน แบ่งลูกกันอยู่คนละครึ่งปี เขาอยู่ฮิลตัน ตนอยู่แอลเอ ช่วงที่ลูกอยู่ฮิลตัน ตนก็ต้องบินไปหาทุกอาทิตย์ ส่วนตอนที่ลูกมาอยู่กับตน เขาก็บินมาหาบ่อย ๆ แต่มันก็ไม่ไหว คงต้องรอปี 2015 ซึ่งเขาจะย้ายมาอยู่ในแอลเอ ตนคงได้เจอลูกมากขึ้น
ดูเหมือนว่าเรื่องมรสุมความรัก และเรื่องลูกกำลังจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี... สาวเคทก็มีหนุ่มไดซ์ สามีคนใหม่ ที่คอยเป็นกำลังใจ ซึ่งเคทบอกเลยว่า ไดซ์ เป็นรักแท้ และรักสุดท้ายของเธอ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเริ่มต้นความรักครั้งใหม่คงต้องผ่านการอนุมัติจากเทย์เลอร์ลูกสาวของเธอก่อน โดยเคทเล่าให้ฟังว่า พอคบหากันมาได้ประมาณ 6 เดือน และเริ่มมั่นใจว่าไดซ์คือคนที่ใช่ เลยต้องมาไดซ์มาเจอกับลูก และบอกลูกไปว่าจะมีเพื่อนแม่มาเที่ยวด้วยนะ ตอนแรกก็พาลูกไปเที่ยวกันสามคน ซึ่งไดซ์กับเทย์เลอร์ก็สนุกกันใหญ่ และพอเที่ยวกับเสร็จ ตนก็ถามลูกว่าไดซ์โอเคไหม ด้านเทย์เลอร์ก็บอกว่าโอเค นิสัยน่ารักดี ชอบ พอตนได้ยินดังนั้น ก็บอกลูกว่า ไดซ์ไม่ใช่เพื่อนแม่นะ แต่ตนยังพูดไม่ทันขาดคำ เทย์เลอร์ก็ตอบกลับสวนมากว่า ไม่ใช่เพื่อนรู้แล้วเป็นเป็นแฟน ไม่งั้นแม่จะพามาทำไมล่ะ ด้านไดซ์ ก็กล่าวตอบว่า เทย์เลอร์ เป็นคนฉลาดมาก ๆ เราเข้ากันได้ดีมาก เพราะนิสัยเราคล้าย ๆ กัน มีบางอย่างที่เหมือนกัน (ยิ้ม)
เมื่อถามถึงเรื่องการแต่งงานที่เพิ่งเข้าโบสถ์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และตอนนี้สาวเคทกับหนุ่มไดซ์ กำลังจะมีลูกด้วยกันว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง หนุ่มไดซ์เผยว่า ตนรักเทย์เลอร์เหมือนลูกแท้ ๆ อยู่แล้ว และตอนนี้ก็ดีใจมากที่จะได้มีลูกกับเคท ซึ่งเราไปอัลตราซาวด์มาแล้ว ลูกของเราเป็นลูกชาย ตนเลยคิดว่าตนต้องมีภาวะการเป็นผู้นำสูงขึ้น พร้อมที่จะดูแลทั้งเคท เทย์เลอร์ และสมาชิกใหม่
ด้านเคท กล่าวว่า ตอนที่เขารู้ว่าเราได้ลูกชาย เขาน้ำตาไหลออกมาเลย โดยปกติแล้วเขาไม่ใช่คนขี้แง ซึ่งเรื่องนี้ตนรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก ส่วนเรื่องชื่อของลูกตนตั้งไว้ว่า "ซิดนีย์" เพราะเป็นชื่อที่ดี และเป็นเมืองที่ตนเกิด เมื่อถามถึงกำหนดคลอด น่าจะคลอดวันที่ 15 พฤษภาคม ตนจะคลอดเองแบบธรรมดา ในอ่างอาบน้ำที่บ้านในแอลเอ เหมือนคราวคลอดน้องเทย์เลอร์ ขณะที่ไดซ์ ก็บอกว่า เขาจะอยู่กับเคททุกขั้นตอน อยากมีส่วนร่วมในการคลอดครั้งนี้ให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ท้ายรายการ วู้ดดี้ ได้พา ท็อป ณัฐเศรษฐ์, เคท ไบรโอนี่ และไดซ์ มานั่งรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งท็อปเผยว่า ตอนนี้มีข่าวเม้าท์ใหม่เรื่องลูกคนที่สองของเคท ว่าเป็นลูกของตนอีกแล้ว ด้านเคทและไดซ์ก็ขำ และบอกยืนยันอีกครั้งว่า ลูกคนนี้เป็นลูกของไดซ์นะ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ท็อปไปเยี่ยมเธอตอนคลอดลูกชายที่แอลเอด้วย
อีก 5 เดือน น้องซิดนีย์ก็จะลืมตาดูโลกแล้ว... หน้าตาคงน่ารักสุด ๆ เลยล่ะ ยังไงกระปุกดอทคอมก็ขอให้ชีวิตรักครั้งใหม่ของสาวเคทสดใสเหมือนรอยยิ้มของเธอ และขอให้เธอและเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้อง มีสุขภาพแข็งแรงมาก ๆ นะจ๊ะ :)
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 1/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 2/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 3/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 4/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
คลิป วู้ดดี้เกิดมาคุย 5/5 เคท ไบรโอนี่ 13 Jan 2013 โพสต์โดยคุณ CiNNtv3
ไบรโอนี่ รอดโพธิ์ทอง สไมท์ (ชื่อเล่น: เคท) เกิดวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2525 นักร้องลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่เคยมีผลงานในช่วงปี 2541-2546 ปัจจุบันเธอได้ละจากการเป็นนักร้อง และผันตัวเป็นครูสอนโยคะในสหรัฐอเมริกา
ประวัติ
ไบรโอนี่ เกิดที่ออสเตรเลีย[ต้องการอ้างอิง] และเติบโตที่ ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา บิดาเป็นชาวอเมริกัน ส่วนมารดาเป็นชาวไทย มีพี่น้องสองคน โดยเธอเป็นบุตรคนที่สอง[2] สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ส่วนตัวเธอนับถือศาสนาพุทธ[3]
เริ่มต้นที่เข้าวงการบันเทิง จากโฆษณา ทเวลพลัส โคโลญจน์ ออกอัลบั้มชุดแรกกับค่ายเมกเกอร์เฮด ในเครือ บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และเธอก็เคยแสดงละครเรื่องแรกและเรื่องเดียว คือ ละครเรื่อง ลุ้นรักทะลุมิติ พ.ศ. 2541 คู่กับ ศตวรรษ เศรษฐกร จนหลังปี พ.ศ. 2546 เธอก็ไม่มีผลงานอีก และห่างหายไปจากวงการ
ในปี พ.ศ. 2555 หลังจากละงานบันเทิงมา 8 ปี ไบรโอนี่ได้เดินทางกลับไทยและออกงานพร้อมกับไดซ์ สามีชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น ซึ่งในการกลับมาของเธอครั้งนี้เธอได้เป็นนางแบบขึ้นนิตยสารหลายฉบับ และออกสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์เกี่ยวกับ 8 ปีที่หายไปของเธอ[4] แต่เธอยังไม่มีแผนที่จะกลับสู่วงการเพลงอีกครั้ง[5] ซึ่งส่วนตัวของเธอเองก็ต้องการที่จะกลับมามีผลงานเพลงเช่นกัน แต่ขณะนี้เธอกำลังตั้งใจที่จะทำกิจการโยคะไปก่อน[6]
[แก้]ชีวิตส่วนตัว
เธอเคยมีข่าวกับ พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร[7] และณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี นักแสดงชาวไทย และมีข่าวว่าเป็นพ่อของเทย์เลอร์บุตรสาวของไบรโอนี่[8] ซึ่งฝ่ายหลังไบรโอนี่ได้ออกมายืนยันว่าเธอและณัฐเศรษฐ์เป็นเพียงเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังศึกษาในโรงเรียนเดียวกัน[4]
เธอตั้งครรภ์กับสามีคนแรก เป็นชาวไทยที่ประกอบธุรกิจในสหรัฐอเมริกาชื่อ ชาลี ชนะรัตน์โสภณ[4] ซึ่งเธอเคยอยู่กินด้วยกันก่อนตั้งครรภ์ 3 ปี โดยที่มิได้สมรส แต่ได้หมั้นหมายไว้ก่อนแล้ว[9] มีบุตรสาวหนึ่งคนชื่อ เทย์เลอร์[2] ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าไบรโอนี่หนีไปคลอดที่ต่างประเทศ เธอคิดว่าข่าวดังกล่าวใช้คำที่ไม่เหมาะสมนัก เพราะเธอออกจากวงการเพื่อไปมีครอบครัวเท่านั้น[4] และเธอยืนยันว่าเธอมิได้หนีไปไหน เพียงแต่คิดแค่ว่าตนเกิดที่นั่น และอยากให้ลูกของตนอยู่ที่อเมริกาเหมือนกับตนเท่านั้น[4] เธอกล่าวว่า "พอรู้ว่าตัวเองท้องคิดว่าอยากกลับไปอยู่กับพ่อของลูก เพื่อจะได้เป็นครอบครัว ไปปุ๊ปไปอยู่กับเขาแฮปปี้ ทำธุรกิจกับเขา แต่ไม่คิดอยู่นานขนาดนั้นไม่กลับมาวงการบันเทิง"[9]
แต่ภายหลังเธอและชาลีได้เลิกรากันหลังจากอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาได้เพียงสองปี[9] โดยเธอให้เหตุผลว่า เธอคิดที่จะถอยออกมาใช้คำว่าเพื่อน เพราะเป็นเพื่อนแล้วเราไม่ทะเลาะกัน[4] เธอและชาลีอดีตสามีแยกกันอยู่ แต่ยังคงมีการติดต่อกันฉันเพื่อน และในฐานะพ่อแม่ของลูกเท่านั้น[4]
ปัจจุบันเธอสมรสกับสามีชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น ชื่อ ไดซ์ ไดซุเกะ[3] หรือ ไดซ์ อีด้า-ไคลน์[5] ซึ่งเป็นครูโยคะเช่นเดียวกับเธอ[9] หลังจากทั้งคู่คบหากันมานาน 3 ปี[4]
[แก้]ผลงาน
[แก้]อัลบั้ม
- 2541 : Briohny
- 2542 : Black Briohny
- 2544 : Close-Up
- 2546 : My Briohny
[แก้]อัลบั้มพิเศษ
- Club Love
- เชียร์ (Cheer)
[แก้]มิวสิกวีดีโอ
- ปลอบเพื่อน ของ แรพเตอร์
[แก้]ละคร
- 2541 : ลุ้นรักทะลุมิติ
[แก้]โฆษณา
- โฆษณา 12 Plus โคโลญจน์
- โฆษณาจักรยานยนต์ YAMAHA
- โฆษณา อายิโนะโมะโต๊ะ
- โฆษณา ซีบรีส
- โฆษณา บีโอเร พอร์แพ็ค
- โฆษณา โทรศัพท์มือถือ Panasonic(ออกอากาศที่ประเทศญี่ปุ่น)
- โฆษณา เครื่องดื่ม M 150
Credit : กระปุกดอทคอม,วิกิพีเดีย
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดยคุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดยคุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เรียบเรียง : Ruengdd.com
Post a Comment