8 เรื่องดี ๆ ที่ลูกหลานชาวจีนควรทำรับวันตรุษจีนและ12 ข้อห้าม ที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีน
รู้กันอยู่แล้วว่าเทศกาลตรุษจีนก็คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนทั่วโลกนั่นเอง ซึ่งหากเป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่สากลอย่างช่วงวันที่ 1 มกราคม หลายคนก็จะพากันไปเดินทางท่องเที่ยว ไปทำบุญไหว้พระ สวดมนต์ข้ามปี พบปะญาติมิตรพี่น้อง เลี้ยงฉลอง เพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับศักราชใหม่ที่กำลังจะมาถึง ไม่ต่างจากชาวจีน ที่พวกเขาเองก็มีการถือเคล็ดความเชื่อแบบนี้ในช่วงวันตรุษจีนเช่นกัน อยากรู้ไหมว่า มีสิ่งใดที่ชาวจีนควรปฏิบัติในช่วงเทศกาลตรุษจีนบ้าง เพื่อเป็นการต้อนรับ วันตรุษจีน 2556 ที่ใกล้จะมาถึงนี้ขอนำความรู้เรื่องสิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีนมาบอกกันค่ะ
1. ไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้ผีไม่มีญาติ
คนจีนทุกบ้านจะต้องไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ เพราะเป็นธรรมเนียมที่ลูกหลานชาวจีนสืบทอดต่อกันมานานแล้ว โดยเชื่อว่า การไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ จะนำความสุขมาสู่ครอบครัวนั้น โดยในช่วงเช้า ชาวจีนจะไหว้เจ้าที่ และบรรพบุรุษ จากนั้นในช่วงเที่ยงจะไหว้ผีไม่มีญาติ และจุดขี้ไต้ไว้ 2 ชิ้น เมื่อไหว้ผีไม่มีญาติเสร็จแล้ว จะจุดประทัด และโปรยข้าวสารผสมเกลือ เพื่อเป็นการขับไล่สิ่งไม่ดีให้หมดไป
2. ทำพิธีรับไฉ่ซิ้งเอี้ย
ไฉ่ซิ้งเอี้ย หรือ ไฉสิ่งเอี้ย คือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ให้คุณทางด้านเงินทอง และทรัพย์สิน ถือเป็นเทพเจ้าที่มีความสำคัญมากที่สุดของชาวจีนก่อนเริ่มเข้าสู่นักษัตรปีใหม่ จะเห็นได้ว่าชาวจีนหลายคนนิยมไปกราบไหว้บูชาเทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ยในช่วงตรุษจีนมากเป็นพิเศษ เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย เรียกโชคลาภเข้ามาสู่ชีวิต ขณะที่หลายบ้านก็จะทำพิธีรับไฉ่ซิ้งเอี้ย ในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันซาจั๊บ จนถึงก่อนตี 1
3. ประดับตุ๊ยเลี้ยง (คำกลอนอวยพรปีใหม่) ในบ้าน
หากได้ไปเยือนบ้านคนจีน เราคงจะเห็นกระดาษสีแดง ๆ เขียนอักษรภาษาจีนสีทอง หรือสีดำตัวใหญ่ ๆ แปะอยู่ในบ้าน และที่ประตูบ้าน สิ่งนั้นเรียกว่า "ตุ๊ยเลี้ยง" หรือ คำกลอนอวยพรปีใหม่ของคนจีน ซึ่งเป็นคำกลอนที่มีความหมายดี ๆ อวยพรให้ร่ำรวย มั่งมีเงินทอง มีความสุข มีโชคมีลาภ ค้าขายได้กำไร ส่วนแผ่นที่ติดตรงประตูนั้นจะเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" แปลว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัยนอกจากนี้ ชาวจีนจะติดภาพเด็กผู้หญิง และเด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ไว้ในบ้านด้วย เพราะถือว่าเป็นภาพมงคลของจีน
4. กินเจในมื้อแรกของวันตรุษจีน
ในเช้าวันใหม่ของวันชิวอิก หรือวันขึ้นปีใหม่ (ปี 2556 ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556) ชาวจีนหลายบ้านจะรับประทานอาหารเจกันในมื้อแรกของปี งดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ เพราะเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับการกินเจตลอดปี
5. ใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ สีสันสดใส
มีธรรมเนียมของชาวจีนอย่างหนึ่งที่สืบทอดกันมานานแล้ว นั่นก็คือ ชาวจีนจะนิยมหยิบเสื้อผ้าสีสันสดใส สีสว่าง ๆ เช่น สีแดง สีทอง ซึ่งเป็นสีแห่งความสุข สีของความมงคลออกมาใส่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ เพราะเชื่อว่าจะนำความสว่างสดใส และเจิดจ้ามาให้ผู้สวมใส่ รวมทั้งใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ ด้วย ทั้งเด็กเล็ก ๆ ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อเอาเคล็ดในวันปีใหม่ให้ชีวิตสดใสราบรื่นเบิกบานไปตลอดปี ส่วนเสื้อผ้าสีขาว สีดำ ถือเป็นสีต้องห้ามในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะเป็นสีไว้ทุกข์ แสดงถึงความโศกเศร้า
6. รวมญาติกินเกี๊ยว
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนถือเป็นโอกาสหนึ่งที่หลาย ๆ ครอบครัวจะได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง เพื่ออวยพรวันปีใหม่ และพบปะสังสรรค์กัน จึงถือเป็น "วันรวมญาติ" อีกหนึ่งวัน ซึ่งในวันซาจั๊บ คนในครอบครัวจะมาร่วมโต๊ะรับประทานเกี๊ยวด้วยกันในมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ ซึ่ง "เกี๊ยว" นี้ จะต้องพับเป็นก้อนให้เหมือน "เงิน" ของจีน แทนความหมายว่า มั่งมีเงินทอง
7. อวยพรผู้ใหญ่ ด้วยส้ม 4 ผล
ตามประเพณีของชาวจีน ในวันชิวอิก ทุกคนจะนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าของบ้านนั้นก็จะต้องรับส้มมา 2 ผล และนำส้มที่ตัวเองเตรียมไว้วางคืนลง 2 ผล พร้อมกับเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้ 1 พาน และสมอจีนไว้รับแขกที่มาอวยพรด้วย
8. รับอั่งเปา-แต๊ะเอีย
ข้อนี้เด็ก ๆ คงยิ้มแก้มปริแน่นอน เพราะในวันตรุษจีนนี้ เด็ก ๆ จะได้รับซองสีแดง ๆ จากญาติผู้ใหญ่ จะเรียกว่า "อั่งเปา" หรือ "แต๊ะเอีย" ก็ได้ เพื่ออวยพรให้เด็ก ๆ เจริญเติบโตแข็งแรง มีโชคลาภ ส่วนคนทำงาน คนที่มีเงินเดือนเป็นของตัวเองแล้ว ก็จะต้องให้อั่งเปากับเด็ก ๆ ในบ้านที่มีอายุน้อยกว่าด้วยเช่นกัน หรือเจ้านายจะให้อั่งเปาลูกน้องก็ได้ อ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "อั่งเปา" ต่อได้ที่นี่เลย "ตามไปดู เรื่องน่ารู้ของ อั่งเปา และ แต๊ะเอีย"
ยังมีความเชื่ออีกหลายข้อที่ขึ้นอยู่กับประเพณี และธรรมเนียมของแต่ละชุมชน ซึ่งแต่ละบ้าน แต่ละครอบครัวก็จะปฏิบัติแตกต่างกันไป เช่น บางคนอาจเชื่อเรื่องโชคลางมาก ก็อาจจะให้ซินแสช่วยหาฤกษ์ยามก่อนจะก้าวเท้าออกจากบ้านไปเยี่ยมเยียนญาติในวันปีใหม่ หรือหลายคนก็เชื่อว่า หากได้ยินเสียงนกนางแอ่นร้อง หรือเห็นนกสีแดงในวันปีใหม่ จะทำให้โชคดีไปตลอดปีก็มี
อย่างไรก็ตาม นอกจากข้อควรปฏิบัติในวันตรุษจีนแล้ว ก็ยังมีความเชื่อเรื่องสิ่งที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีนด้วย ตามมาอ่านต่อได้ที่นี่เลยจ้า "12 ข้อห้าม ที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีน"
ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ ใกล้เทศกาลวันตรุษจีน 2556 หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน คงจะตื่นเต้นกันไม่น้อย เพราะช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่จะได้พบกับญาติมิตรที่ไม่เจอหน้ากันมานาน และบางคนก็อาจได้รับอั่งเปาของขวัญจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือด้วยแต่ในเมื่อนี่คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนทั้งที หลาย ๆ บ้านก็คงจะมีธรรมเนียมปฏิบัติและข้อห้ามที่สืบทอดต่อกันมา ซึ่งในวันนี้จะพาไปดูกันว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างที่ไม่ควรทำในช่วงตรุษจีน
1. ห้ามทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า การทำความสะอาดบ้าน และทิ้งขยะ ในวันตรุษจีนนั้น จะเป็นการการกวาดเอาโชคลาภ เงินทอง ออกไปจากบ้าน แม้ว่าบ้านในช่วงวันตรุษจีนจะสกปรกก็ตาม บางคนที่จำเป็นจะต้องทำความสะอาดบ้าน ก็จะเพียงกวาดเศษฝุ่นไปไว้ที่มุมบ้าน แล้วค่อยเอาเศษฝุ่นนั้นไปทิ้งในวันต่อไป ดังนั้น วันตรุษจีน จึงไม่ค่อยมีคนทำความสะอาดบ้าน แต่จะไปทำความสะอาดกันหนึ่งก่อนวันตรุษจีน เพื่อที่จะให้บ้านสะอาดรับปีใหม่ และใช้บ้านในการต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมเยียนอีกทางหนึ่ง
2. ห้ามสระผมหรือตัดผม
ชาวจีนจะไม่นิยมสระผมหรือตัดผมกันในวันตรุษจีน หรือบางคนก็จะไม่สระผม 3 วันหลังจากวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า ผม เป็นคำพ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า มั่งคั่ง ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน จึงเหมือนกับการนำความมั่งคั่งออกไป
3. ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะเบาะแว้ง
ในวันตรุษจีน คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมไปถึงการพูดถึงความตายหรือผี เนื่องจากเชื่อว่า การพูดสิ่งที่ไม่ดีในวันนี้ จะนำความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี รวมไปถึงการที่ไม่พูดถึงเลข 4 เนื่องจากเลข 4 ในภาษาจีน ออกเสียงคล้ายกับคำว่า ตาย ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงพยายามไม่ใช้หรือไม่พูดอะไรที่เกี่้ยวข้องกับเลข 4
4. ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์
คนจีนมักจะไม่กินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เนื่องจากเชื่อว่า คนจนคือคนที่มักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีนจึงเหมือนกับการขัดขวางไม่ให้ตัวเองร่ำรวย และทำตัวเหมือนคนจน ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงการไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย เนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นเป็นมังสวิรัติ
5. ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
6. ห้ามใส่ชุดขาวดำ
เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้น การสวมเสื้อผ้าสีขาวดำในวันนี้จึงหมายถึงลางร้าย คนจีนจึงมักสวมเสื้อผ้าสีแดงกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่า สีแดงคือสีที่จะนำความโชคดีมาให้
7. ห้ามให้ยืมเงิน
คนจีนบางคนอาจจะหมายรวมการที่ไม่ให้ยืมสิ่งของต่าง ๆ นอกเหนือไปจากเงินแล้ว ซึ่งมีความเชื่อที่ว่า การให้ยืมเงินในวันนี้จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด รวมไปถึง หากใครที่ติดเงินใครไว้ ก็ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อกันว่า หากติดเงินใครในวันตรุษจีนแล้ว คน ๆ นั้นก็จะมีหนี้สินตลอดปีไม่จบไม่สิ้น
8. ห้ามทำของแตก
คนจีนเชื่อกันว่า การทำสิ่งของแตก เช่น ทำแก้วแตก ทำจานแตก หรือทำกระจกแตก ในวันตรุษจีนนั้น จะหมายถึงลางร้ายที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว ดังนั้นในวันนี้ จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้สิ่งของในบ้านแตกหรือชำรุดเสียหาย แต่หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
9. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
คนจีนจะถือคติที่ว่า จะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai ซึ่งคำว่า Hai นี้ มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ ซึ่งชาวจีนเชื่อว่า นั่นเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี
10. ห้ามร้องไห้
คนจีนเชื่อกันว่า หากร้องไห้ในวันขึ้นปีใหม่ จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจไปตลอดทั้งปี ดังนั้น แม้ในวันนี้เด็กเล็กจะดื้อขนาดไหน อากง อาม่า ก็อาจจะปล่อยให้วันหนึ่ง เพราะไม่อยากตีให้เด็กต้องร้องไห้ในวันนี้
11. ห้ามใช้ของมีคม
ของมีคมก็เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับวันนี้ ทั้งมีด กรรไกร และอย่างอื่นที่สามารถตัดสิ่งอื่นได้ นั่นเพราะชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ จะเป็นการตัดโชคดีไปด้วย
12. ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น
รู้ไหม คนจีนหลายบ้านมีความเชื่อที่ว่า ในวันตรุษจีนนี้ ห้ามเข้าไปหาใครในห้องนอนด้วย ดังนั้น แม้เจ้าของบ้านป่วย นอนอยู่ในห้องนอน แต่เมื่อมีแขกมาเยี่ยมก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก อย่าให้แขกเข้ามาเยี่ยมในห้องนอนเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นโชคร้าย
อ่านแล้วอย่าลืมนำไปปฏิบัตินะคะ เพื่อจะได้รับเอาโชคลาภ เงินทอง เข้ามาตั้งแต่วันตรุษจีนตลอดจนทั้งปีนี้เลยนะคะ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
1. ไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้ผีไม่มีญาติ
คนจีนทุกบ้านจะต้องไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ เพราะเป็นธรรมเนียมที่ลูกหลานชาวจีนสืบทอดต่อกันมานานแล้ว โดยเชื่อว่า การไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ จะนำความสุขมาสู่ครอบครัวนั้น โดยในช่วงเช้า ชาวจีนจะไหว้เจ้าที่ และบรรพบุรุษ จากนั้นในช่วงเที่ยงจะไหว้ผีไม่มีญาติ และจุดขี้ไต้ไว้ 2 ชิ้น เมื่อไหว้ผีไม่มีญาติเสร็จแล้ว จะจุดประทัด และโปรยข้าวสารผสมเกลือ เพื่อเป็นการขับไล่สิ่งไม่ดีให้หมดไป
2. ทำพิธีรับไฉ่ซิ้งเอี้ย
ไฉ่ซิ้งเอี้ย หรือ ไฉสิ่งเอี้ย คือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ให้คุณทางด้านเงินทอง และทรัพย์สิน ถือเป็นเทพเจ้าที่มีความสำคัญมากที่สุดของชาวจีนก่อนเริ่มเข้าสู่นักษัตรปีใหม่ จะเห็นได้ว่าชาวจีนหลายคนนิยมไปกราบไหว้บูชาเทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ยในช่วงตรุษจีนมากเป็นพิเศษ เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย เรียกโชคลาภเข้ามาสู่ชีวิต ขณะที่หลายบ้านก็จะทำพิธีรับไฉ่ซิ้งเอี้ย ในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันซาจั๊บ จนถึงก่อนตี 1
3. ประดับตุ๊ยเลี้ยง (คำกลอนอวยพรปีใหม่) ในบ้าน
หากได้ไปเยือนบ้านคนจีน เราคงจะเห็นกระดาษสีแดง ๆ เขียนอักษรภาษาจีนสีทอง หรือสีดำตัวใหญ่ ๆ แปะอยู่ในบ้าน และที่ประตูบ้าน สิ่งนั้นเรียกว่า "ตุ๊ยเลี้ยง" หรือ คำกลอนอวยพรปีใหม่ของคนจีน ซึ่งเป็นคำกลอนที่มีความหมายดี ๆ อวยพรให้ร่ำรวย มั่งมีเงินทอง มีความสุข มีโชคมีลาภ ค้าขายได้กำไร ส่วนแผ่นที่ติดตรงประตูนั้นจะเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" แปลว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัยนอกจากนี้ ชาวจีนจะติดภาพเด็กผู้หญิง และเด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ไว้ในบ้านด้วย เพราะถือว่าเป็นภาพมงคลของจีน
4. กินเจในมื้อแรกของวันตรุษจีน
ในเช้าวันใหม่ของวันชิวอิก หรือวันขึ้นปีใหม่ (ปี 2556 ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556) ชาวจีนหลายบ้านจะรับประทานอาหารเจกันในมื้อแรกของปี งดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ เพราะเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับการกินเจตลอดปี
5. ใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ สีสันสดใส
มีธรรมเนียมของชาวจีนอย่างหนึ่งที่สืบทอดกันมานานแล้ว นั่นก็คือ ชาวจีนจะนิยมหยิบเสื้อผ้าสีสันสดใส สีสว่าง ๆ เช่น สีแดง สีทอง ซึ่งเป็นสีแห่งความสุข สีของความมงคลออกมาใส่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ เพราะเชื่อว่าจะนำความสว่างสดใส และเจิดจ้ามาให้ผู้สวมใส่ รวมทั้งใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ ด้วย ทั้งเด็กเล็ก ๆ ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อเอาเคล็ดในวันปีใหม่ให้ชีวิตสดใสราบรื่นเบิกบานไปตลอดปี ส่วนเสื้อผ้าสีขาว สีดำ ถือเป็นสีต้องห้ามในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะเป็นสีไว้ทุกข์ แสดงถึงความโศกเศร้า
6. รวมญาติกินเกี๊ยว
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนถือเป็นโอกาสหนึ่งที่หลาย ๆ ครอบครัวจะได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง เพื่ออวยพรวันปีใหม่ และพบปะสังสรรค์กัน จึงถือเป็น "วันรวมญาติ" อีกหนึ่งวัน ซึ่งในวันซาจั๊บ คนในครอบครัวจะมาร่วมโต๊ะรับประทานเกี๊ยวด้วยกันในมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ ซึ่ง "เกี๊ยว" นี้ จะต้องพับเป็นก้อนให้เหมือน "เงิน" ของจีน แทนความหมายว่า มั่งมีเงินทอง
7. อวยพรผู้ใหญ่ ด้วยส้ม 4 ผล
ตามประเพณีของชาวจีน ในวันชิวอิก ทุกคนจะนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าของบ้านนั้นก็จะต้องรับส้มมา 2 ผล และนำส้มที่ตัวเองเตรียมไว้วางคืนลง 2 ผล พร้อมกับเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้ 1 พาน และสมอจีนไว้รับแขกที่มาอวยพรด้วย
8. รับอั่งเปา-แต๊ะเอีย
ข้อนี้เด็ก ๆ คงยิ้มแก้มปริแน่นอน เพราะในวันตรุษจีนนี้ เด็ก ๆ จะได้รับซองสีแดง ๆ จากญาติผู้ใหญ่ จะเรียกว่า "อั่งเปา" หรือ "แต๊ะเอีย" ก็ได้ เพื่ออวยพรให้เด็ก ๆ เจริญเติบโตแข็งแรง มีโชคลาภ ส่วนคนทำงาน คนที่มีเงินเดือนเป็นของตัวเองแล้ว ก็จะต้องให้อั่งเปากับเด็ก ๆ ในบ้านที่มีอายุน้อยกว่าด้วยเช่นกัน หรือเจ้านายจะให้อั่งเปาลูกน้องก็ได้ อ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "อั่งเปา" ต่อได้ที่นี่เลย "ตามไปดู เรื่องน่ารู้ของ อั่งเปา และ แต๊ะเอีย"
ยังมีความเชื่ออีกหลายข้อที่ขึ้นอยู่กับประเพณี และธรรมเนียมของแต่ละชุมชน ซึ่งแต่ละบ้าน แต่ละครอบครัวก็จะปฏิบัติแตกต่างกันไป เช่น บางคนอาจเชื่อเรื่องโชคลางมาก ก็อาจจะให้ซินแสช่วยหาฤกษ์ยามก่อนจะก้าวเท้าออกจากบ้านไปเยี่ยมเยียนญาติในวันปีใหม่ หรือหลายคนก็เชื่อว่า หากได้ยินเสียงนกนางแอ่นร้อง หรือเห็นนกสีแดงในวันปีใหม่ จะทำให้โชคดีไปตลอดปีก็มี
อย่างไรก็ตาม นอกจากข้อควรปฏิบัติในวันตรุษจีนแล้ว ก็ยังมีความเชื่อเรื่องสิ่งที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีนด้วย ตามมาอ่านต่อได้ที่นี่เลยจ้า "12 ข้อห้าม ที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีน"
ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ ใกล้เทศกาลวันตรุษจีน 2556 หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน คงจะตื่นเต้นกันไม่น้อย เพราะช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่จะได้พบกับญาติมิตรที่ไม่เจอหน้ากันมานาน และบางคนก็อาจได้รับอั่งเปาของขวัญจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือด้วยแต่ในเมื่อนี่คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนทั้งที หลาย ๆ บ้านก็คงจะมีธรรมเนียมปฏิบัติและข้อห้ามที่สืบทอดต่อกันมา ซึ่งในวันนี้จะพาไปดูกันว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างที่ไม่ควรทำในช่วงตรุษจีน
1. ห้ามทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า การทำความสะอาดบ้าน และทิ้งขยะ ในวันตรุษจีนนั้น จะเป็นการการกวาดเอาโชคลาภ เงินทอง ออกไปจากบ้าน แม้ว่าบ้านในช่วงวันตรุษจีนจะสกปรกก็ตาม บางคนที่จำเป็นจะต้องทำความสะอาดบ้าน ก็จะเพียงกวาดเศษฝุ่นไปไว้ที่มุมบ้าน แล้วค่อยเอาเศษฝุ่นนั้นไปทิ้งในวันต่อไป ดังนั้น วันตรุษจีน จึงไม่ค่อยมีคนทำความสะอาดบ้าน แต่จะไปทำความสะอาดกันหนึ่งก่อนวันตรุษจีน เพื่อที่จะให้บ้านสะอาดรับปีใหม่ และใช้บ้านในการต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมเยียนอีกทางหนึ่ง
2. ห้ามสระผมหรือตัดผม
ชาวจีนจะไม่นิยมสระผมหรือตัดผมกันในวันตรุษจีน หรือบางคนก็จะไม่สระผม 3 วันหลังจากวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า ผม เป็นคำพ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า มั่งคั่ง ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน จึงเหมือนกับการนำความมั่งคั่งออกไป
3. ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะเบาะแว้ง
ในวันตรุษจีน คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมไปถึงการพูดถึงความตายหรือผี เนื่องจากเชื่อว่า การพูดสิ่งที่ไม่ดีในวันนี้ จะนำความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี รวมไปถึงการที่ไม่พูดถึงเลข 4 เนื่องจากเลข 4 ในภาษาจีน ออกเสียงคล้ายกับคำว่า ตาย ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงพยายามไม่ใช้หรือไม่พูดอะไรที่เกี่้ยวข้องกับเลข 4
4. ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์
คนจีนมักจะไม่กินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เนื่องจากเชื่อว่า คนจนคือคนที่มักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีนจึงเหมือนกับการขัดขวางไม่ให้ตัวเองร่ำรวย และทำตัวเหมือนคนจน ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงการไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย เนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นเป็นมังสวิรัติ
5. ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
6. ห้ามใส่ชุดขาวดำ
เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้น การสวมเสื้อผ้าสีขาวดำในวันนี้จึงหมายถึงลางร้าย คนจีนจึงมักสวมเสื้อผ้าสีแดงกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่า สีแดงคือสีที่จะนำความโชคดีมาให้
7. ห้ามให้ยืมเงิน
คนจีนบางคนอาจจะหมายรวมการที่ไม่ให้ยืมสิ่งของต่าง ๆ นอกเหนือไปจากเงินแล้ว ซึ่งมีความเชื่อที่ว่า การให้ยืมเงินในวันนี้จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด รวมไปถึง หากใครที่ติดเงินใครไว้ ก็ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อกันว่า หากติดเงินใครในวันตรุษจีนแล้ว คน ๆ นั้นก็จะมีหนี้สินตลอดปีไม่จบไม่สิ้น
8. ห้ามทำของแตก
คนจีนเชื่อกันว่า การทำสิ่งของแตก เช่น ทำแก้วแตก ทำจานแตก หรือทำกระจกแตก ในวันตรุษจีนนั้น จะหมายถึงลางร้ายที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว ดังนั้นในวันนี้ จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้สิ่งของในบ้านแตกหรือชำรุดเสียหาย แต่หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
9. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
คนจีนจะถือคติที่ว่า จะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai ซึ่งคำว่า Hai นี้ มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ ซึ่งชาวจีนเชื่อว่า นั่นเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี
10. ห้ามร้องไห้
คนจีนเชื่อกันว่า หากร้องไห้ในวันขึ้นปีใหม่ จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจไปตลอดทั้งปี ดังนั้น แม้ในวันนี้เด็กเล็กจะดื้อขนาดไหน อากง อาม่า ก็อาจจะปล่อยให้วันหนึ่ง เพราะไม่อยากตีให้เด็กต้องร้องไห้ในวันนี้
11. ห้ามใช้ของมีคม
ของมีคมก็เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับวันนี้ ทั้งมีด กรรไกร และอย่างอื่นที่สามารถตัดสิ่งอื่นได้ นั่นเพราะชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ จะเป็นการตัดโชคดีไปด้วย
12. ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น
รู้ไหม คนจีนหลายบ้านมีความเชื่อที่ว่า ในวันตรุษจีนนี้ ห้ามเข้าไปหาใครในห้องนอนด้วย ดังนั้น แม้เจ้าของบ้านป่วย นอนอยู่ในห้องนอน แต่เมื่อมีแขกมาเยี่ยมก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก อย่าให้แขกเข้ามาเยี่ยมในห้องนอนเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นโชคร้าย
อ่านแล้วอย่าลืมนำไปปฏิบัตินะคะ เพื่อจะได้รับเอาโชคลาภ เงินทอง เข้ามาตั้งแต่วันตรุษจีนตลอดจนทั้งปีนี้เลยนะคะ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
Post a Comment