ตำนานเดชนางพญางูขาว2011พร้อมรับชมหนังClassicนางพญางูขาว1993





The Sorcerer and the White Snake (มงคลภาพยนตร์)

กำหนดฉาย : 6 ตุลาคม 2554
แนว : แอ็คชั่น, แฟนตาซี
นำแสดง : เจ็ท ลี, หลินฟง, วิเวียน ซู, หวงเซิ่งอี, ชาร์ลีน ชอย
กำกับ : เฉินเสี่ยวตง
อำนวยการสร้าง : ชุยป๋อชู (Crouching Tiger Hidden Dragon, Kung Fu Hustle, CJ 7)

เรื่องย่อ นางพญางูขาว

          ตำนานของนางพญางูขาว กลับมาโลดแล่นบนจอเงินอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยทุนสร้างกว่า 750 ล้านบาท จากการกำกับของ เฉินเสี่ยวตง ที่มีผลงานสุดคลาสสิกมากมาย เช่น เดชคำภีร์เทวดา ภาค 2 (นำแสดงโดย เจ็ท ลี), โปเยโปโลเย ภาค 1 และ 3 นำแสดงโดยแอ็คชั่นสตาร์แห่งเอเชีย เจ็ท ลี (The Warlords, Hero), หลินฟง พระเอกหนุ่มจาก TVB ที่ฮ็อตที่สุดในขณะนี้, ชาร์ลีน ชอย หนึ่งในนักร้องวง Twins และมีผลงานการแสดงใน The Twins Effect ภาค 1 และ 2, วิเวียน ซูจาก The Accidental Spy และ Fire of Conscience และ หวงเซิ่งอี นางเอกจาก Kung Fu Hustle กับบทบาท "นางพญางูขาว"


          สร้างจากวรรณกรรมคลาสสิกของจีนที่ได้รับการขนานนามว่ามีเรื่องราวที่โรแมนติกและงดงามที่สุดชิ้นหนึ่งของโลกวรรณกรรมเอเชีย The Sorcerer and the White Snake เป็นตำนานรักอันลึกซึ้งระหว่างบัณฑิตหนุ่ม (หลินฟง) กับปิศาจงูขาว (หวงเซิ่งอี) ที่จำแลงกายมาในรูปของหญิงสาวที่มีหน้าตางดงาม แต่เพราะความรักระหว่างคนกับมารไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งสองจึงถูกขัดขวางโดยพระเถระที่ชื่อ ฝาไห่ (เจ็ท ลี) บทสรุปแห่งตำนานนางพญางูขาว ฉบับปี 2011 จะเป็นเช่นไร ติดตามกันได้ในเดือนกันยายนนี้

เกร็ดภาพยนตร์


          ตำนานนางพญางูขาว คือนิทานพื้นบ้านของชาวเมืองหางโจวที่มีอายุมากกว่า 400 ปี และได้รับการยอมรับว่าเป็นวรรณกรรมอมตะเรื่องหนึ่งของเอเชียอาคเนย์ โดยถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์มาแล้วนับไม่ถ้วน โดยเวอร์ชั่นที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมก็คือ Madam White Snake ปี 1962 ที่สร้างโดยสตูดิโอยักษ์ใหญ่ ชอว์ บราเดอร์ นำแสดงโดย เจ้าหลุย และ หลินไต้ ผู้รับบทนางพญางูขาว และ Green Snake ปี 1993 กำกับโดย ฉีเคอะ นำแสดงโดย หวังจู่เสียน ในบทนางพญางูขาว และ จางม่านอวี้ ในบทนางพญางูเขียว

          นี่เป็นการกลับมารับบทในหนังแอ็คชั่นจากจีนอีกครั้งของ เจ็ท ลี นับตั้งแต่ The Warlords โดยเขาแสดงเป็น ฝาไห่ พระเถระที่ยึดมั่นในกฎสวรรค์ว่าคนไม่สามารถอยู่ร่วมกับอสูร โดยเขาพูดถึงการแสดงฉากต่อสู้ในหนังเรื่องนี้ว่า
 "ผมต้องสู้กับงูขาว จากนั้นก็ต้องสู้กับงูเขียว และต้องสู้กับอสูรตัวอื่น ๆ และยังต้องสู้กับพรายน้ำ ทุกวันที่ผมเข้าฉากก็คือการต่อสู้ บางครั้งก็ต้องเป็นการต่อสู้ที่คุณต้องจินตนาการว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้น นี่เป็นงานที่ผมรู้สึกเหนื่อยกว่าการทำงานในฮอลลีวูดซะอีก แต่ผมก็คิดว่าเราทำกันได้อย่างยอดเยี่ยม"

          บทบาทที่นักแสดงระดับตำนานอย่าง หลินไต้, หลินชิงเสวีย และ หวังจู่เสียน เคยแสดงมาแล้ว นางพญางูขาว เวอร์ชั่น 2011 ก็ตกเป็นของ หวงเซิ่งอี นางเอกสาวจาก Kung Fu Hustle โดยเธอต้องฝึกเพื่อการแสดงในฉากต่อสู้และการใช้สลิงค์นานกว่าหนึ่งเดือน เธอเล่าถึงประสบการณ์ว่า "ฉันต้องพยายามเพื่อทำให้คนดูรู้สึกว่า ฉันมีความตั้งใจเต็มที่ในการรับบทเป็นตัวละครที่สำคัญต่อโลกวรรณกรรม ฉันคิดว่านางพญางูขาวเป็นเรื่องราวของความรักที่งดงามและลึกซึ้ง และฉันก็ดีใจที่พวกเรามีทีมงานและทีมนักแสดงที่จะทำให้เวอร์ชั่นนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทศวรรษใหม่"


นางพญางูขาว

นางพญางูขาว

นางพญางูขาว

นางพญางูขาว

นางพญางูขาว

นางพญางูขาว

The sorcerer and the white snake

The sorcerer and the white snake

The sorcerer and the white snake


หวงเซิ่งอี : นางพญางูขาว



ตำนานนางพญางูขาวกลับมาโลดแล่นบนจอเงินอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในเวอร์ชั่นปี 2011  โดยเรื่องนี้สร้างจากวรรณกรรมคลาสสิกของจีน ที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นเรื่องราวที่โรแมนติกและงดงามที่สุดชิ้นหนึ่งในโลกวรรณกรรมเอเชีย  ภาพยนตร์เรื่อง เดอะซอร์เซอร์เรอร์ แอนด์ เดอะไวท์ สเนค หรือตำนานนางพญางูขาว  ได้ดาราชั้นนำมาร่วมแสดงเช่น เจ็ท ลี , หลินฟง  และหวงเซิ่งอี  ที่โด่งดังจากคนเล็กหมัดเทวดามารับบทบาท”นางพญางูขาว”
  
หวงเซิ่งอี  เป็นดารานักแสดงและนักร้องจีน เกิดที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ปี 2526   สูง 165 เซนติเมตรน้ำหนัก 45 กิโลกรัม  และจบการศึกษาจากสถาบันภาพยนตร์ปักกิ่งเมื่อปี 2544  จากนั้นในปี 2547  หวงเซ็นสัญญากับโจว ซิง ฉือ แสดงหนังเรื่องคนเล็กหมัดเทวดา  หลังหมดสัญญากับบริษัทของโจวซิงฉือ   เธอได้เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาสินค้าหลายชิ้น และมีผลงานภาพยนตร์ต่างๆ เช่น  4 พยัคฆ์ พิทักษ์มังกร , เพ็กฮวยเกี่ยม และทีมบี้นรก  รวมทั้งอิกะแอนด์โคกะ  ศึกปะทะเลือดนินจา
  
สำหรับเดอะซอร์เซอร์เรอร์ แอนด์ เดอะไวท์ สเนค  หรือตำนานนางพญางูขาว คือภาพยนตร์แอ็คชั่นแฟนตาซี ด้วยทุนสร้าง 800 ล้านบาท เพื่อถ่ายทอดตำนานรักบนพรหมลิขิตระหว่างชายหนุ่มจิตใจดีที่เคยช่วยชีวิตงูขาว (รับบทโดยหวงเซิ่งอี) ที่บำเพ็ญบุญมาครบ 1,000 ปี ตนหนึ่งไว้ เมื่อชะตาต้องกัน  งูขาวยอมแลกกายทิพย์และความสุขในแดนสวรรค์ เพื่อจำแลงกายเป็นหญิงงามออกตามหาชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรัก และช่วยชีวิตเขาไว้จากการจมน้ำ   ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน โดยที่ฝ่ายชายไม่ได้รู้ถึงร่างที่แท้จริงของภรรยา
  
จนวันหนึ่งในคืนเทศกาลบูชาเรือมังกร  นางพญางูขาวเผลอใช้อิทธิฤทธิ์ช่วยสามี จนทำให้ถูกนักบวช ผู้ตามล่าปิศาจที่แฝงตัวอยู่บนโลกมนุษย์ รู้ถึงร่างที่แท้จริงของเธอ  เขาจึงพยายามที่จะทำทุกวิถีทางที่จะพรากความรักผิดจารีตระหว่างคนกับงูออกจากกัน  แม้การฝืนชะตากรรมครั้งนี้ จะทำให้เขาต้องเปิดศึกกับนางพญางูขาว  ซึ่งการต่อสู้หนนี้อาจจะทำให้มนุษย์และสวรรค์ต้องสั่นคลอน  บทสรุปจะเป็นเช่นไร ติดตามตำนานนางพญางูขาว   มีโปรแกรมเข้าฉาย 6 ตุลาคมนี้


วิษณุ ศิริอาชารุ่งโรจน์
จีนทุ่ม 800 ล้านบาท เนรมิตฉากใหญ่ ใน "ตำนานเดชนางพญางูขาว"




6 ตุลาคมนี้ ! .... มงคลภาพยนตร์เตรียมนำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สุดตระการตา เรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งเอเชีย  ในภาพยนตร์เรื่อง THE SORCERER AND THE WHITE SNAKE หรือชื่อไทยว่า ตำนานเดชนางพญางูขาว  เข้าฉายในไทยโดยการกำกับของ เฉินเสี่ยวตง ผู้กำกับมากฝีมือจาก เดชคัมภีร์เทวดา และ โปเยโปโลเย  ที่ทุ่มสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้สูงถึง 800 ล้านบาท  ในการเนรมิตฉากใหญ่สุดตระการตาที่แฟน ๆภาพยนตร์เรื่องนี้ต่างรอคอยที่จะชมด้วยการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดล้านลูกบาศก์เมตร ขึ้นมาแล้วปล่อยน้ำออกมาเพื่อถล่มเมืองจินซานให้ราบเป็นหน้ากลองในฉาก  ที่นางพญางูขาว ( หวงเซิ่งอี ) บุกเข้าไปช่วยคนรัก ที่ถูกหลวงจีนฝาไห่ ( เจท ลี ) จับไปขังไว้ในวัดจินซานเพื่อ พรากพวกเขาออกจากกัน จนเป็นเหตุให้เกิดศึกครั้งยิ่งใหญ่เมื่อนางพญางูขาวขู่ที่จะทำลายวัดและเมืองจินซาน ด้วยคลื่นยักษ์

“ ตอนฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เวนิส นักวิจารณ์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเอฟเฟคในหนังเรื่องนี้  ยอดเยี่ยมเทียบเท่าได้กับหนังฮอลลีวู้ด สำหรับผมแล้ว  การต่อสู้ระหว่างหลวงจีนฝาไห่ และ นางพญางูขาวเป็นฉากที่สำคัญมาก  เพราะฝ่ายหนึ่งต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ในขณะที่อีกฝ่ายต่อสู้เพื่อ ความรักและจะไม่มีคำว่ายอมแพ้...เพื่อที่จะไม่ต้องพรากจากกัน นั้นทำให้ผมสนุกกับการกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก  มากกว่าสมัยที่ทำ โปเยโปโลเย หรือ เดชคัมภีร์เทวดาเสียอีก “ เฉินเสี่ยวตง ผู้กำกับคนเก่งกล่าว

แอ็คชั่นสตาร์คนสำคัญแห่งวงการหนังเอเชีย เจ็ท ลี เข้ามารับบทเป็น ฝาไห่ นักพรตที่ยึดมั่นในกฏสวรรค์ว่าคนไม่สามารถอยู่ร่วมกับอสูร โดยเขาพูดถึงการแสดงฉากต่อสู้ในหนังว่า "ผมต้องสู้กับงูขาว จากนั้นก็สู้กับงูเขียว สู้กับพรายน้ำ รวมถึงต้องสู้กับงูนับพันตัว ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่คุณต้องจินตนาการว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้น ทุกวันที่ผมเข้าฉากก็คือฉากการต่อสู้ นี่เป็นงานที่ผมรู้สึกเหนื่อยกว่าการทำงานในฮอลลิวู้ดเสียอีก"

สำหรับบทบาท นางพญางูขาว ที่นักแสดงระดับตำนานทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็น หลินไต้, หลินชิงเสวีย และ หวังจู่เสียน เคยรับบทมาแล้ว ในเวอร์ชั่น 2011 ก็ได้นักแสดงสาวอย่าง หวงเซิ่งอี นางเอกจาก Kung Fu Hustle โดยเธอต้องฝึกกังฟูนานกว่าหนึ่งเดือนในการเข้าฉากต่อสู้ โดยเฉพาะยิ่งเธอต้องเข้าฉากกับสุดยอดแอ็คชั่นสตาร์อย่าง เจ็ท ลี


ตำนานเดชนางพญางูขาว คือภาพยนตร์มหากาพย์ความรักสุดตระการตา เจ้าของทุนสร้าง 800 ล้านบาท เพื่อถ่ายทอดตำนานรักบนพรหมลิขิต ระหว่าง สี่เซียน (หลินฟง) หมอยาหนุ่มจิตใจดีที่เคยช่วยชิวิตงูขาว ( หวงเซิ่งอี )  ที่บำเพ็ญบุญมาครบ 1000 ปี ตนหนึ่งไว้  เมื่อชะตาต้องกัน งูขาวยอมแลกกายทิพย์และความสุขในแดนสวรรค์เพื่อจำแลงกายเป็นหญิงงามออกตามหาชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรัก  และช่วยชีวิตเขาไว้จากการจมน้ำ  ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันโดยที่ สี่เซียน ไม่ได้รู้ถึงร่างที่แท้จริงของภรรยาเขา จนวันหนึ่งในคืนเทศกาลบูชาเรือมังกร นางพญางูขาวเผลอใช้อิทธิฤทธ์ช่วยสี่เซียน  จนทำให้ ถูก ฝาไห่ ( เจทลี ) นักพรตผู้ตามล่าปิศาจที่แฝงอยู่บนโลกมนุษย์ รู้ถึงร่างที่แท้จริงของเธอ  เขาจึงพยายามยามที่จะทำทุกวิถีทางที่จะพรากความรักระหว่างภพของคนทั้งคู่ออกจากกัน และแม้การฝืนชะตากรรมครั้งนี้จะทำให้เขาต้องเปิดศึกกับนางพญางูขาว จนอาจทำให้ เกิดอุทกภัยและการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์ก็ตาม

6 ตุลาคมนี้  … พบมหากาพย์ความรักสุดตระการตา การปะทะกันของ เจท ลี และ หวงเซิ่งอี ในบทนางพญางูขาว  ใน ตำนานเดชนางพญางูขาว ทุกโรงภาพยนตร์


นางพญางูขาว 1993 หนังClassic ปี 1993



นางพญางูขาว (อังกฤษLegend of the White Snake, Madame White Snake, Lady White Snake ; จีนตัวเต็ม白蛇傳จีนตัวย่อ白蛇传) เป็นนิทานพื้นบ้านของชาวเมืองหังโจว หรือหางโจว ถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง อีกทั้งยังเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์อะนิเมะ ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์อะนิเมะเรื่องยาวเรื่องแรกของญี่ปุ่นด้วย[ต้องการอ้างอิง]


ประวัติการประพันธ์


ภาพวาดตำนานนางพญางูขาว จากพระราชวังฤดูร้อน ในกรุงปักกิ่ง
นางพญางูขาวปรากฏโฉมครั้งแรกในวรรณกรรม จองจำงูขาวชั่วนิรันดร์ในเจดีย์เหลยเฟิง (白娘子永鎮雷峰塔) ในบันทึกจิ่งซื่อตงเอี๋ยน (警世通言) ของเฝิง เมิ่ง หลง (馮夢龍) โดยบันทึกดังกล่าวถูกค้นพบในระหว่างยุคราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 - ค.ศ. 1644)
นางพญางูขาว กล่าวถึงเรื่องราวของบัณฑิตหนุ่มที่ตกหลุมรักสตรีผู้โสภานางหนึ่ง สตรีผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นปิศาจงูขาวที่แปลงกายมา พระเถระมีความต้องการช่วยเหลือบัณฑิตหนุ่มให้พ้นจากการดูดกลืนวิญญาณของปิศาจงูขาว จึงได้ต่อสู้กับปิศาจงูขาว และจับนางไปจองจำไว้ใต้เจดีย์เหลยเฟิง (ฟ้าคำรณ)
เมื่อกาลเวลาผ่านไป ได้มีการเพิ่มเติมเสริมแต่งรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น โดยนางพญางูขาวได้กลายเป็นตำนานความรักอันลึกซึ้งระหว่างบัณฑิตหนุ่ม กับปิศาจงูขาว ซึ่งบำเพ็ญตบะมาเป็นระยะเวลากว่า 1,000 ปี ได้จำแลงกายเป็นมนุษย์ในรูปของหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตางดงาม โดยมีนามว่า ไป๋ซู่เจิน ความรักของทั้งสองถูกขัดขวางโดยพระเถระฝาไห่ (ธรรมสาคร) เนื่องจากความรักระหว่างคนกับมารไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ เพราะคนกับมารมีความแตกต่างกันมากเกินไป แต่ละเรื่องราวก็มีตอนจบและรายละเอียดอื่นๆ แตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน เช่น บางเรื่องกล่าวว่างูขาวเป็นสัตว์เลี้ยงที่บัณฑิตเลี้ยงไว้ขณะยังเป็นนักศึกษา หรือบางเรื่องก็เล่าว่าบัณฑิตหนุ่มถูกขับไล่จากสวรรค์ให้ลงมาเป็นมนุษย์ธรรมดา หรือแม้แต่บัณฑิตหนุ่มเคยช่วยชีวิตงูขาวเอาไว้ งูขาวจึงจำแลงกายกลับมาตอบแทนบุญคุณก็มี
ส่วน เสี่ยวชิง ซึ่งเป็นตัวละครที่ถูกเพิ่มเติมขึ้นมา ก็มีการกล่าวถึงในแง่มุมที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน โดยมีทั้งเป็นงูเขียว งูดำ หรือแม้แต่ปลาไนซึ่งบทบาทของเสี่ยวชิงจะมาในรูปแบบของผู้ช่วยที่ใกล้ชิดของไป๋ซู่เจิน อาจเป็นน้องสาว หรือคนรับใช้

[แก้]นิทานพื้นบ้าน


เจดีย์เหลยเฟิง เล่ากันว่านางพญางูขาวถูกขังอยู่ใต้เจดีย์นี้
นานมาแล้ว ใต้ทะเลสาบซีหู มีเต่าดำ และงูขาวบำเพ็ญตบะอยู่ วันหนึ่ง หลี่ว์ต้งปิน 1 ใน 8 เซียน แปลงร่างเป็นผู้เฒ่าหาบขนมบัวลอยมาขายที่ริมทะเลสาบ บนสะพานต้วนเฉียว โดยขายในราคาชามใหญ่ 1 อีแปะ มีบัวลอย 3 ลูกเป้งๆ และขายชามเล็กในราคา 5 อีแปะ ทั้งๆ ที่มีบัวลอยลูกเล็กกะจู๋ลู๋เพียงลูกเดียวเท่านั้น
ผู้คนให้ความสนใจซื้อบัวลอยชามใหญ่กินกัน ขณะนั้นมีชายผู้หนึ่งกับลูกชายตัวเล็กๆ หนูน้อยอยากกินบัวลอยจึงรบเร้าบิดาให้ซื้อให้กิน แต่บัวลอยลูกใหญ่ขายหมดแล้ว เหลือเพียงบัวลอยลูกเล็กเท่านั้น เขาจึงจำใจต้องซื้อบัวลอยชามเล็กที่มีบัวลอยเพียง 1 ลูก ให้ลูกชายกินในราคา 5 อีแปะ
เจ้าหนูน้อยเมื่อกินบัวลอยเข้าไปแล้วก็รู้สึกอิ่มเสียจนไม่อยากอาหารไปถึง 3 วัน 3 คืน สร้างความร้อนใจให้แก่ผู้เป็นพ่อมาก เขาพาลูกน้อยไปหาผู้เฒ่าขายบัวลอยคนเดิมที่สะพานต้วนเฉียว พอผู้เฒ่าได้สดับเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็หัวเราะเหอะๆ ขึ้น พร้อมกับกล่าวว่า...
"บัวลอยนี้เป็นของวิเศษ บุตรของท่านยังมิมีวาสนามากพอที่จะรับมันไว้ในตัว ในเมื่อของใช้การไม่ได้ ข้าพเจ้าจะนำเอามันออกมาให้เอง"
กล่าวพลาง ผู้เฒ่าก็รวบขาทั้ง 2 ของเจ้าหนูขึ้นอย่างไม่ปราณีปราศรัย แกนำเจ้าหนูน้อยไปที่ริมสะพาน แล้วก็เอาฝ่ามือตีก้นเบาๆ 3 ที เจ้าหนูที่โดนรวบขาห้อยหัวอยู่ก็คายเอาเม็ดบัวลอยออกมาในสภาพเดิมทุกอย่าง
บัวลอยที่หลุดออกจากปากเจ้าหนูกระดอนตกจากสะพานหล่นต๋อมลงในทะเลสาบ เต่ากับงูที่คอยจังหวะอยู่ก็พุ่งเข้าแย่งบัวลอยทันที (ขนมบัวลอยลูกเล็ก แท้จริงก็คือยาเซียนนั่นเอง) งูขาวอาศัยจังหวะที่เป็นงู ช่วงตัวยาวกว่า จึงได้บัวลอยไป เต่าดำแค้นใจยิ่งนัก แต่จะสู้งูขาวก็ไม่ได้เพราะงูขาวได้ยาเซียนทำให้ตบะสูงกว่า เต่าดำจึงหลบหนีไปซ่อนตัวยัง แดนซีเทียน (ไซที หรือสรวงสวรรค์ปัจฉิมทิศ) แอบบำเพ็ญตบะอยู่ใต้ฐานบุษกรของ ยู่หลาย (พระศากยมุณี หรือพระพุทธองค์) คอยเวลาหวนคืนมาแก้แค้น
งูขาว เมื่อได้รับบัวลอยหรือยาเซียนแล้ว ตบะก็เพิ่มพูนจนได้อิทธิฤทธิ์ 1,000 ปี นางแปลงกายเป็นอิสตรีรูปร่างหน้าตางดงาม สวมอาภรณ์สีขาวทั้งชุด และตั้งชื่อให้ตัวเองว่า ไป๋ซู่เจิน นางได้ช่วยเหลือ เสี่ยวชิง ซึ่งเป็นงูเขียวตัวหนึ่งไว้ และนับถือกันเป็นพี่น้อง แล้วโชคชะตาก็พาให้เธอได้มาพบกับเด็กน้อยที่สะพานต้วนเฉียวคนนั้น ซึ่งเจริญวัยขึ้นแล้ว โดยเด็กน้อยคนนั้นมีชื่อว่า สี่เซียน ซึ่งชื่อ "เซียน" มาจากการที่เมื่อครั้งเยาว์วัยได้พบกับเซียนขายบัวลอยที่ริมทะเลสาบนั่นเอง (สี่คือนามสกุล) ทั้ง 2 ได้อาศัยเรือลำเดียวกัน และเกิดจิตปฏิพัทธ์ รักใคร่ชอบพอกันจนพัฒนาความสัมพันธ์และแต่งงานอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาใน ที่สุด โดยหลังจากแต่งงาน สี่เซียนได้ย้ายออกจากบ้านพี่สาวที่ชิงโปเหมินมาอยู่ที่เจ้อเจียงกับไป๋ซู่ เจิน และเปิดร้านขายยาชื่อว่า เป่าเหอถัง ขึ้น โดยรับรักษาโรคทั่วไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ในวัน เทศกาลตวงโหงว (เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง ในวันนี้จะมีการแข่งเรือมังกร และตีฆ้องไล่สัตว์มีพิษ จะมีการทานขนมบ๊ะจ่าง และดื่มเหล้ายาหรดาล) ไป๋ซู่เจินเป็นงู จึงเก็บตัว เพราะหรดาลมีฤทธิ์ต่อต้านกันกับร่างกาย แต่ไป๋ซู่เจินก็เผลอดื่มเหล้าเข้าไปตามคำเชิญชวนของสี่เซียน นางหลับไหลไป และคืนร่างเดิมกลายเป็นงูไปโดยไม่รู้ตัว สี่เซียนมาพบงูขาวตัวใหญ่นอนขดบนเตียงก็ตกใจกลัวจนช็อคตายไป เมื่อไป๋ซู่เจินตื่นขึ้นมารู้ว่าสามีตาย จึงรีบเหาะไปที่เขาคุนหลุนเพื่อ นำเอายาทิพย์กลับมาช่วยจนสี่เซียนฟื้นขึ้นมา สี่เซียนหวาดกลัวมาก คิดว่าไป๋ซู่เจินเป็นงู แต่ในที่สุด ไป๋ซู่เจินก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ ทำให้สี่เซียนเลิกหวาดกลัว เชื่อว่านางไม่ใช่ปิศาจ และกลับมารักกันเหมือนเดิมอีกครั้ง
กล่าวถึงเต่าดำ เมื่อบำเพ็ญตบะจนมีอิทธิฤทธิ์พอตัว เมื่อองค์ยู่หลายทรงเข้าฌาณวิปัสสนา ก็ได้แอบขโมยของวิเศษ 3 ชิ้นของยู่หลาย คือ บาตรทอง จีวร และไม้เท้ามังกร และแปลงกายเป็นไต้ซือ ขนานนามตนว่า ฝาไห่ (ธรรมสาคร) เต่าดำเดินทางมาถึงเมืองหังโจว รู้สึกนิยมชมชอบบรรยากาศวัดจินซานก็อยากจะครอบครองเป็นเจ้าของวัดเสียเองจึง ได้ทำร้ายเจ้าอาวาสวัดจินซานจนถึงแก่มรณภาพ แล้วตั้งตนเป็นเจ้าอาวาสแทน
วันหนึ่ง ฝาไห่ บิณฑบาตรมาพบร้านยาเป่าเหอ และได้พบงูขาว ก็จำได้ว่าเป็นงูขาวตัวเดียวกับที่แย่งยาเซียนกับตนจึงสบโอกาสล้างแค้น เขาเคาะเกราะไม้เดินเข้าไปในร้าน พร้อมกับบอกสี่เซียนว่าภรรยาของสี่เซียนเป็นปิศาจงูจำแลงกายมา เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และชักชวนให้เขาทิ้งภรรยาไปบวชที่วัดจินซาน แต่สี่เซียนรักไป๋ซู่เจินมาก ถึงเป็นปิศาจก็จะไม่ทำร้ายตนแน่ๆ จึงยืนกรานที่จะปฏิเสธคำเชิญชวนของฝาไห่ ฝาไห่จึงเปลี่ยนแผน เชิญสี่เซียนไปทำบุญที่วัดแทน สี่เซียนหลงกล ถูกฝาไห่ขังไว้ในวัด
ไป๋ซู่เจินเมื่อรู้ความ จึงตามมาขอร้องให้ฝาไห่คืนสามีให้ตน แต่ฝาไห่ไม่ยอม จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น ไป๋ซู่เจินใช้คาถาเรียกลมเรียกฝนมาต่อสู้กับฝาไห่ จนน้ำท่วมวัดจินซาน ทำให้ผู้คนล้มตายมากมาย เป็นเหตุให้ถูกสวรรค์ลงโทษต้องโดนจองจำอยู่ใน เจดีย์เหลยเฟิง (ฟ้าคำรณ) ส่วนเสี่ยวชิงหลบหนีขึ้นเขาไปบำเพ็ญตบะ รอเวลาล้างแค้น
20 ปีผ่านไป เสี่ยวชิงที่บำเพ็ญตบะสำเร็จได้ย้อนกลับมาล้างแค้น ทั้งสองต่อสู้กันเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน เสียงการต่อสู้ดังสะท้านสะเทือนไปจนถึงแดนซีเทียน เมื่อองค์ยู่หลายได้สดับก็พลันลืมพระเนตรออกจากสมาธิ พบว่าของวิเศษทั้ง 3 ชิ้นถูกขโมยไป จึงรีบก้าวบาทเหยียบเมฆาหยกเหาะมายังวัดจินซาน และทำการริบของทั้ง 3 ชิ้นคืนจากฝาไห่ เมื่อฝาไห่หรือเต่าดำไม่มีของวิเศษ ก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่งูขาวและงูเขียวอย่างหมดรูป
ข้างฝ่ายฝาไห่เมื่อเห็นจวนตัว ไม่รู้จะหนีไปไหน จึงได้พยายามเข้าไปอ้อนวอนองค์ยู่หลายให้ช่วยเหลือ แต่องค์ยู่หลายทรงเห็นว่าเขามีจิตใจชั่วร้าย พระองค์จึงปฏิเสธที่จะให้การช่วยเหลือ เนื่องจากไม่ต้องการให้ฝาไห่ไปก่อกรรมทำเวรกับผู้ใดอีก จึงเสกเป่าคาถาใส่จนฝาไห่ตกลงในทะเลสาบ ข้างไป๋ซู่เจินเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงหยิบเอาปิ่นปักผมออกมาเสกเป็นธงรบผืน เล็กๆ เสี่ยวชิงรับเอาไปโบกเบาๆ เพียง 3 ครั้ง น้ำในทะเลสาบซีหูก็แห้งขอดจนถึงก้น ฝาไห่ลนลานหาที่หลบซ่อนไปทั่ว สุดท้ายเขาเห็นปูนอนเปิดช่องท้องอยู่ จึงหนีเข้าไปหลบในท้องปู พอปูที่นอนหลับเปิดช่องท้องตื่นขึ้นมาก็ปิดช่องท้อง ฝาไห่ออกจากช่องท้องปูไม่ได้ จึงถูกขังไว้ในนั้น เป็นสาเหตุให้ปูเดินไม่ตรงทางมาจนทุกวันนี้...และเมื่อใดที่คนนำปูมาทำอาหาร พอแกะกระดองปูออกก็จะพบพระฝาไห่อยู่ในกระดองปู...

[แก้]ตัวละคร (ตามที่เพิ่มเติมเข้ามา)


นางพญางูขาว 2009 รับบทโดยหลิวซือซือ แพร่ภาพในประเทศไทยทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี ใช้ชื่อเรื่องว่า ศึกพิชิตนางพญางูเขียว
  • ไป๋ซู่เจิน งูขาวอายุ 1,000 ปี เป็นงูขาวที่ได้รับการช่วยเหลือจากสี่เซียนเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว ครั้งที่ยังบำเพ็ญตบะ ถูกหมองูจับตัวจะไปฆ่าแหวะเอาดีขาย มีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุธรรมเป็นเซียน ต้องการตอบแทนบุญคุณของสี่เซียน แต่สุดท้ายกลับตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ก่อกรรมหนักจนต้องถูกจองจำไว้ในเจดีย์ มักแต่งกายด้วยชุดสีขาวหรือสีชมพู
  • สี่เซียน บัณฑิตหนุ่มจิตใจดี เป็นคนสุภาพ อ่อนน้อม เคยช่วยเหลืองูขาวตัวหนึ่งไว้เมื่อชาติที่แล้ว ชาตินี้มาเกิดใหม่ งูขาวจึงตามมาทดแทนบุญคุณ
  • เสี่ยวชิง งูเขียวอายุ 500 ปี เป็นน้องสาวร่วมสาบานกับไป๋ซู่เจิน มีนิสัยมุทะลุ แต่ว่าร่าเริงและมองโลกในแง่ดี เมื่อเทียบกับไป๋ซู่เจินแล้ว เสียวชิงจะแลดูเหมือนเด็กหญิงที่ซุกซน และยังไม่โตเต็มที่ มักแต่งกายด้วยชุดสีเขียวหรือสีฟ้า
  • ฝาไห่ เป็นพระเถระผู้มีอาคมสูง เถรตรง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎ มีความต้องการจะแยกสี่เซียนและไป๋ซู่เจินออกจากกัน เพราะคนกับปิศาจมีความแตกต่างกันเกินไป มิอาจเดินร่วมทาง เพราะผิดกฎสวรรค์
  • สี่ซื่อหลิน บุตรชายของไป๋ซู่เจินและสี่เซียน มีความซื่อตรง จิตใจดี และอ่อนน้อมเหมือนกับสี่เซียน แต่ก็เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวเหมือนกับไป๋ซู่เจินผู้เป็นแม่ เป็นผู้ที่มีความกตัญญูรู้คุณ และมีเหตุผล
  • หลี่เจียวโหยว พี่สาวของสี่เซียน ปากร้ายแต่ใจดี เป็นผู้ที่รับเลี้ยงดูสี่ซื่อหลินจนเติบโต ดูแลกิจการทุกอย่างในบ้านตระกูลหลี่
  • หลี่กงผู่ สามีของหลี่เจียวโหยว พี่เขยของสี่เซียน เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยในเมืองหังโจว เป็นพ่อบ้านที่ดี แต่ไม่ค่อยเด็ดขาด เชื่อฟังภรรยามาก ช่วยหลี่เจียวโหยวเลี้ยงดูสี่ซื่อหลินมาเป็นอย่างดี

[แก้]การเพิ่มเติมและปรุงแต่ง

ตามบันทึกจิ่งซื่อตงเอี๋ยนเดิมงูขาวไม่มีชื่อ แต่ภายหลังมีการเพิ่มชื่อให้เป็น ไป๋ซู่เจิน และตามเนื้อเรื่องดั้งเดิมกล่าวถึงการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม โดยพระเถระเป็นฝ่ายช่วยเหลือบัณฑิตให้พ้นจากการทำอันตรายโดยปิศาจงูขาว ภายหลังมีการดัดแปลงเพิ่มเติมให้เป็นเรื่องของความรักระหว่างมนุษย์และปิศาจ แต่อย่างไรก็ดี เรื่องราวที่ดัดแปลงไปมีหลากหลายแบบ ยกตัวอย่างเช่น
  • เสี่ยวชิงบำเพ็ญตบะ และสามารถกลับมาต่อสู้เอาชนะฝาไห่ได้ จนฝาไห่ต้องหลบไปซ่อนตัวในท้องปู
  • ไป๋ซู่เจินให้กำเนิดบุตร แล้วจึงถูกจองจำในเจดีย์ หลังจากนั้นเมื่อบุตรชายของไป๋เติบโตขึ้น เขาได้สอบได้เป็นจอหงวน และกลับมาอ้อนวอนสวรรค์ให้ลดโทษแก่มารดา
  • สี่เซียนและไป๋ซู่เจิน เดิมเป็นชาวสวรรค์ เคยรักกันมาก่อน แต่เพราะทำผิดกฎสวรรค์ จึงถูกลงโทษให้ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ โดยฝ่ายหนึ่งเป็นมนุษย์ และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นงูขาว

[แก้]นางพญางูขาวในยุคปัจจุบัน


ใบปิดประชาสัมพันธ์ละครเวทีเรื่องนางพญางูขาว ของภาควิชาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

[แก้]อุปรากรจีน

[แก้]ภาพยนตร์ และภาพยนตร์ชุด

[แก้]ละครเวทีในประเทศไทย

[แก้]อ้างอิง

  • นางพญางูขาว นิทานพื้นบ้านเมืองหังโจว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

Credit : kapook.com,เดลินิวส์,http://th.wikipedia.org,hunsa.com,youtube.com
เรียบเรียง : http://www.ruengdd.com/