สุดยอดนักเก็งกำไรในตำนาน Jesse Lauriston Livermore
"Boy Plunger" เป็นฉายาของ Jesse Livermore เซียนหุ้นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในช่วงต้นศตวรรรษที่ 1900 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในยุคนั้นยังมีสภาพไม่ต่างจากบ่อนการพนันเท่าไรนัก Livermore มีความสามารถในการช็อตหุ้นเพื่อทำกำไรหลายครั้งทำให้เขามักถูกเอ่ยถึงในห้องค้าในนาม Boy Plunger
Livermore เกิดในครอบครัวที่ยากจน เขาหนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 15 ปี เขาเริ่มอาชีพด้วยการเป็นเด็กเขียนกระดานหุ้นในโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง
Livermore ร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ จากการเป็นนักเทรดหุ้น เขาไม่เชื่อในการถือหุ้นระยะยาว และในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่เชื่อเรื่องเทคนิคัลซึ่งเขามองว่าเป็นสัญญาณที่สับสน วิธีการของเขาคือการมองมหภาคบวกกับการจดบันทึกการเคลื่อนไหวของหุ้นที่เขาสนใจติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ เพื่อทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมของรายใหญ่ที่เล่นหุ้นตัวนั้นอยู่ (รวมทั้งพฤติกรรมของตัวเขาเองด้วย) Livermore สามารถจดจำราคาหุ้นที่เขาซื้อในอดีตได้อย่างแม่นยำมาก นอกจากนี้ Livermore เชื่อว่าไม่ว่าบริษัทจะดีเพียงใด เวลาที่ตลาดพัง หุ้นทุกตัวก็จะไป ดังนั้นภาวะตลาดจึงมึความสำคัญเหนือตัวหุ้น
เขาเป็น millionaire ได้ตั้งแต่ก่อนอายุครบ 30 ปี และเริ่มมีชื่อเสียงมากจากการ short หุ้นช่วงตลาดหุ้น crash ปี 1907 ซึ่งเขาทำได้กำไรได้มากถึง 3 ล้านเหรียญในวันเดียว (เทียบเท่ากับเงิน $60 ล้านในปัจจุบัน) ในเวลานั้น JP Morgan ต้องติดต่อไปยังเขาเพื่อขอร้องให้เขาหยุด short หุ้น เพื่อสกัดวิกฤตการเงินมิให้ลุกลาม ในปี 1929 เขาก็ short หุ้นครั้งใหญ่อีกครั้งทำให้เขาได้กำไรมากกว่า $100 ล้าน
คฤหาสถ์ Evermore ของเขา ชั้นล่างมีร้านตัดผมส่วนตัวที่มีช่างอยู่ประจำ มีโต๊ะอาหารยาวสำหรับแขก 46 คน และสวนหลังบ้านยาวกว่า 300 ฟุต
Livermore เป็นบุคคลที่เคยเป็นเศรษฐีมากกว่าหนึ่งครั้งในชีวิต เพราะเขาเคยหมดตัวหลายครั้งและสามารถกลับมาเป็นเศรษฐีได้ใหม่ เขากล่าวว่า เขามักจะหมดตัว เพราะไม่สามารถอดใจที่จะไม่ฝ่าฝืนกฏเหล็กในการเทรดหุ้นของตัวเองได้
ชีวิตส่วนตัวของ Livermore เป็นคนเจ้าชู้ เขามีภรรยาหลายคน ภรรยาคนแรกของเขาเป็นคนสุรุ่ยสุร่ายมาก ลูกของเขาถึงสามคนจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ครอบครัว Livermore มีปัญหามาอย่างต่อเนื่องจนทำให้เขาเริ่มมีอาการซึมเศร้าเมื่อเข้าสู่บั้นปลายชีวิตและฆ่าตัวตายเมื่ออายุได้ 63 ปี ในช่วงนั้นเขาเพิ่งจะสูญเงินจำนวนมากในตลาดหุ้นและยังไม่สามารถทำกำไรกลับคืนมาได้ อย่างไรก็ตาม หลังการเสียชีวิตของเขาพบว่า เขามีทรัพย์สินเหลืออยู่ประมาณ $5 ล้าน
แนวของ Livermore อาจจะไม่ใช่แนวทางที่ผมสนใจ เพราะชีวิตของการเป็นนักเก็งกำไรนั้นตื่นเต้นเกินไปสำหรับผม แต่ก็มีแนวคิดหลายอย่างของ Livermore ที่ผมเห็นว่ามีประโยชน์กับทุกคนในตลาดหุ้น และผมก็พยายามจดจำไว้เสมอ
Livermore เคยเขียนไว้ในบันทึกของเขาว่า การจะรวยด้วยตลาดหุ้นอย่างที่เขาทำได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คนทั่วไปคิด เขาบอกว่าตลาดหุ้นคือที่ที่อันตรายมากสำหรับ คนที่ไม่ชอบทำการบ้าน คนโง่ คนชอบรวยทางลัด และคนที่อารมณ์ไม่มั่นคง เขากล่าวว่า คนที่คิดว่าจะรวยทางลัดด้วยตลาดหุ้นเปรียบเสมือนคนที่หวังจะรวยเร็วๆ ด้วยการยึดอาชีพเป็นหมอหรือทนายความ เพราะจริงๆ แล้ว นักลงทุนในตลาดหุ้นก็เป็นเหมือนอาชีพอย่างหนึ่ง ถ้าจะรวยได้จะต้องทุ่มเทอย่างหนักหน่วงเท่านั้น
เขาเล่าว่าทุกครั้งที่เขาไปร่วมงานเลี้ยง ผู้คนมักจะวิ่งเข้ามาถามเขาเสมอว่าจะรวยเร็วๆ ด้วยตลาดหุ้นได้อย่างไร ในช่วงแรกๆ เขาพยายามอธิบายให้คนเหล่านั้นฟังว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่หลังๆ เขาเพียงแต่บอกคนเหล่านั้นว่า เขาไม่รู้ เขารู้สึกเบื่อหน่ายความคิดของคนทั่วไปที่คิดว่าการร่ำรวยด้วยตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ
Livermore เขียนวิธีการสำหรับคนที่มุ่งมั้นจะเป็นยึดการลงทุนเป็นอาชีพจริงๆ แบบเดียวกับเขาไว้ในหนังสือชื่อ How to Trade in Stocks
เขากลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้เนื่องจากหนังสือชื่อ Reminescence of a stock operator ซึ่งเป็นหนังสือที่นักหนังสือพิมพ์คนหนึ่งเขียนเล่าประสบการณ์การเทรดหุ้นในชีวิตของ Livermore จากการสัมภาษณ์เขาอย่างลับๆ โดยปกปิดชื่อจริงของเขาไว้ ได้ถูกนำมาตีพิมพ์อีกครั้ง ทำให้ตำนานของเขากลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนรุ่นใหม่ในอีก 80 ปีต่อมา
โดย นรินทร์ โอราฬกิจอนันต์
สุมาอี้
คำพูดเทพๆของ นักเก็งกำไรในตำนาน
ซื้อหุ้นที่กำลังขึ้น และขายเมื่อหุ้นกำลังลง
ไม่จำเป็นต้องซื้อขายทุกๆวัน คุณจะต้องซื้อขายเมื่อ คุณสามารถรู้ได้ว่าตลาดตอนนั้นมันเป็นเทรนขาขึ้น หรือเทรนขาลง
ซื้อขายเมื่อความคิดของคุณกับตลาด ไปในทิศทางเดียวกัน
อย่าถั่วเฉลี่ยเมื่อคุณขาดทุน โดยการซื้อเพิ่มทุกๆครั้ง
ถ้านักเก็งกำไรคนใด ไม่เคยโดนเรียก margin call เขาไม่ใช่นักเก็งกำไร
เปิด long เมื่อหุ้นทำจุดสูงสุด เปิด short เมื่อหุ้นทำจุดต่ำสุด
อย่าทำตัวเป็นนักเก็งกำไรอาสาสมัครโดยการถือหุ้นที่กำลังจะตก
หุ้นไม่เคยมีคำว่าถูกเกินไปที่จะเปิด long หรือแพงเกินไปที่จะ short
ตลาดไม่เคยมีคำว่าผิด ความเห็นส่วนตัวของคุณต่างหาก ที่ผิดอยู่
การเล่นหุ้น ไม่มีสูตรใดที่จะให้คุณได้กำไรจากมัน 100%
Livermore เกิดในครอบครัวที่ยากจน เขาหนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 15 ปี เขาเริ่มอาชีพด้วยการเป็นเด็กเขียนกระดานหุ้นในโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง
Livermore ร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ จากการเป็นนักเทรดหุ้น เขาไม่เชื่อในการถือหุ้นระยะยาว และในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่เชื่อเรื่องเทคนิคัลซึ่งเขามองว่าเป็นสัญญาณที่สับสน วิธีการของเขาคือการมองมหภาคบวกกับการจดบันทึกการเคลื่อนไหวของหุ้นที่เขาสนใจติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ เพื่อทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมของรายใหญ่ที่เล่นหุ้นตัวนั้นอยู่ (รวมทั้งพฤติกรรมของตัวเขาเองด้วย) Livermore สามารถจดจำราคาหุ้นที่เขาซื้อในอดีตได้อย่างแม่นยำมาก นอกจากนี้ Livermore เชื่อว่าไม่ว่าบริษัทจะดีเพียงใด เวลาที่ตลาดพัง หุ้นทุกตัวก็จะไป ดังนั้นภาวะตลาดจึงมึความสำคัญเหนือตัวหุ้น
เขาเป็น millionaire ได้ตั้งแต่ก่อนอายุครบ 30 ปี และเริ่มมีชื่อเสียงมากจากการ short หุ้นช่วงตลาดหุ้น crash ปี 1907 ซึ่งเขาทำได้กำไรได้มากถึง 3 ล้านเหรียญในวันเดียว (เทียบเท่ากับเงิน $60 ล้านในปัจจุบัน) ในเวลานั้น JP Morgan ต้องติดต่อไปยังเขาเพื่อขอร้องให้เขาหยุด short หุ้น เพื่อสกัดวิกฤตการเงินมิให้ลุกลาม ในปี 1929 เขาก็ short หุ้นครั้งใหญ่อีกครั้งทำให้เขาได้กำไรมากกว่า $100 ล้าน
คฤหาสถ์ Evermore ของเขา ชั้นล่างมีร้านตัดผมส่วนตัวที่มีช่างอยู่ประจำ มีโต๊ะอาหารยาวสำหรับแขก 46 คน และสวนหลังบ้านยาวกว่า 300 ฟุต
Livermore เป็นบุคคลที่เคยเป็นเศรษฐีมากกว่าหนึ่งครั้งในชีวิต เพราะเขาเคยหมดตัวหลายครั้งและสามารถกลับมาเป็นเศรษฐีได้ใหม่ เขากล่าวว่า เขามักจะหมดตัว เพราะไม่สามารถอดใจที่จะไม่ฝ่าฝืนกฏเหล็กในการเทรดหุ้นของตัวเองได้
ชีวิตส่วนตัวของ Livermore เป็นคนเจ้าชู้ เขามีภรรยาหลายคน ภรรยาคนแรกของเขาเป็นคนสุรุ่ยสุร่ายมาก ลูกของเขาถึงสามคนจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ครอบครัว Livermore มีปัญหามาอย่างต่อเนื่องจนทำให้เขาเริ่มมีอาการซึมเศร้าเมื่อเข้าสู่บั้นปลายชีวิตและฆ่าตัวตายเมื่ออายุได้ 63 ปี ในช่วงนั้นเขาเพิ่งจะสูญเงินจำนวนมากในตลาดหุ้นและยังไม่สามารถทำกำไรกลับคืนมาได้ อย่างไรก็ตาม หลังการเสียชีวิตของเขาพบว่า เขามีทรัพย์สินเหลืออยู่ประมาณ $5 ล้าน
แนวของ Livermore อาจจะไม่ใช่แนวทางที่ผมสนใจ เพราะชีวิตของการเป็นนักเก็งกำไรนั้นตื่นเต้นเกินไปสำหรับผม แต่ก็มีแนวคิดหลายอย่างของ Livermore ที่ผมเห็นว่ามีประโยชน์กับทุกคนในตลาดหุ้น และผมก็พยายามจดจำไว้เสมอ
Livermore เคยเขียนไว้ในบันทึกของเขาว่า การจะรวยด้วยตลาดหุ้นอย่างที่เขาทำได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คนทั่วไปคิด เขาบอกว่าตลาดหุ้นคือที่ที่อันตรายมากสำหรับ คนที่ไม่ชอบทำการบ้าน คนโง่ คนชอบรวยทางลัด และคนที่อารมณ์ไม่มั่นคง เขากล่าวว่า คนที่คิดว่าจะรวยทางลัดด้วยตลาดหุ้นเปรียบเสมือนคนที่หวังจะรวยเร็วๆ ด้วยการยึดอาชีพเป็นหมอหรือทนายความ เพราะจริงๆ แล้ว นักลงทุนในตลาดหุ้นก็เป็นเหมือนอาชีพอย่างหนึ่ง ถ้าจะรวยได้จะต้องทุ่มเทอย่างหนักหน่วงเท่านั้น
เขาเล่าว่าทุกครั้งที่เขาไปร่วมงานเลี้ยง ผู้คนมักจะวิ่งเข้ามาถามเขาเสมอว่าจะรวยเร็วๆ ด้วยตลาดหุ้นได้อย่างไร ในช่วงแรกๆ เขาพยายามอธิบายให้คนเหล่านั้นฟังว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่หลังๆ เขาเพียงแต่บอกคนเหล่านั้นว่า เขาไม่รู้ เขารู้สึกเบื่อหน่ายความคิดของคนทั่วไปที่คิดว่าการร่ำรวยด้วยตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ
Livermore เขียนวิธีการสำหรับคนที่มุ่งมั้นจะเป็นยึดการลงทุนเป็นอาชีพจริงๆ แบบเดียวกับเขาไว้ในหนังสือชื่อ How to Trade in Stocks
เขากลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้เนื่องจากหนังสือชื่อ Reminescence of a stock operator ซึ่งเป็นหนังสือที่นักหนังสือพิมพ์คนหนึ่งเขียนเล่าประสบการณ์การเทรดหุ้นในชีวิตของ Livermore จากการสัมภาษณ์เขาอย่างลับๆ โดยปกปิดชื่อจริงของเขาไว้ ได้ถูกนำมาตีพิมพ์อีกครั้ง ทำให้ตำนานของเขากลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนรุ่นใหม่ในอีก 80 ปีต่อมา
โดย นรินทร์ โอราฬกิจอนันต์
สุมาอี้
คำพูดเทพๆของ นักเก็งกำไรในตำนาน
ซื้อหุ้นที่กำลังขึ้น และขายเมื่อหุ้นกำลังลง
ไม่จำเป็นต้องซื้อขายทุกๆวัน คุณจะต้องซื้อขายเมื่อ คุณสามารถรู้ได้ว่าตลาดตอนนั้นมันเป็นเทรนขาขึ้น หรือเทรนขาลง
ซื้อขายเมื่อความคิดของคุณกับตลาด ไปในทิศทางเดียวกัน
อย่าถั่วเฉลี่ยเมื่อคุณขาดทุน โดยการซื้อเพิ่มทุกๆครั้ง
ถ้านักเก็งกำไรคนใด ไม่เคยโดนเรียก margin call เขาไม่ใช่นักเก็งกำไร
เปิด long เมื่อหุ้นทำจุดสูงสุด เปิด short เมื่อหุ้นทำจุดต่ำสุด
อย่าทำตัวเป็นนักเก็งกำไรอาสาสมัครโดยการถือหุ้นที่กำลังจะตก
หุ้นไม่เคยมีคำว่าถูกเกินไปที่จะเปิด long หรือแพงเกินไปที่จะ short
ตลาดไม่เคยมีคำว่าผิด ความเห็นส่วนตัวของคุณต่างหาก ที่ผิดอยู่
การเล่นหุ้น ไม่มีสูตรใดที่จะให้คุณได้กำไรจากมัน 100%
แนะนำหนังสือหุ้น : สุดยอดหนังสือหุ้นตลอดกาล Reminiscences of stock operator !!
ปี 1907 ในขณะที่ตลาดหุ้นของอเมริกาได้ดำเนินมาถึงจุดวิกฤต เกิดการร่วงหล่น Panicอย่างรุนแรงนั้น นักลงทุนและนักเล่นหุ้นจำนวนมากต้องหมดตัวกลายเป็นยาจกไปตามๆกัน แต่นั่นกลับทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งกลายเป็นจุดสนใจขึ้นมา หลังจากนั้น เรื่องของเขากลายเป็น talk of the townขึ้นมาเลยทีเดียวครับ เขาเป็นนักเล่นหุ้นที่ผ่านร้อนผ่านหนาวกับการเก็งกำไรจากตลาดหุ้นตั้งแต่อายุเพียง 15 ปีเท่านั้น! ชีวิตของเขาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงจุดสุดท้ายนั้นเป็นเหมือนบทละครที่ถูกเขียนได้อย่างครบรสชาติทั้งทุกข์และสุข ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งการได้เสพสุขอย่างอภิมหาเศรษฐีแห่งตลาดหุ้น หรือ ยาจกผู้ยากไร้ที่กระทั่งต้องยืมเงินยืมทองจากคนรู้จักมาประทังชีวิต แม้กระทั่งชีวิตรักที่หวานชื่นและขื่นขม… เขาได้กลายเป็นต้นแบบให้กับนักเล่นหุ้นเก็งกำไรผู้ยิ่งใหญ่ของโลกมาเป็นเวลาเกือบร้อยปีอย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ แนวคิดการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค และวิธีการเล่นหุ้นของเขา กลายเป็นเสาหลักของโลกการเก็งกำไร ตราบจนทุกวันนี้ และเขาคือ Jesse livingston livermore !! บุคคลผู้เป็นตำนานแห่งตลาดหุ้นที่ยิ่งใหญ่ และมีหรือที่ แมงเม่าคลับ.คอม จะพลาดนำมาแนะนำกันได้ครับ
………อย่าเพิ่งเคลิบเคล้มเข้าใจผิดคิดว่านี่เป็นบทหนังหรือบทละครเรื่องเยี่ยมครับ แต่นี่คือเรื่องจริงครับ!! เรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อต้นยุค 1900 ที่อเมริกาครับ แต่เรื่องจริงที่น่าสนใจกว่านั้นคืออ่ะไรน่ะหรือ ? …. มันก็คือหนังสือหุ้นเล่มนี้ไงครับReminiscences of stock operator เขียนโดย Edwin lefevre ผู้ที่เป็นนักหนังสือพิมพ์ที่มีความสนิทสนมกับ ตำนานแห่งตลาดหุ้น อย่าง Jesse livermore คนนี้ครับ โดยหนังสือหุ้นเล่มนี้มีลักษณะเป็นเหมือนบทสัมภาณ์และชีวประวัติที่อัดแน่นเต็มไปด้วยสุดยอดแนวคิดการเก็งกำไรและการลงทุนของ Livermore ครับ ถ้าจะให้ผมเปรียบเปรยความล้ำค่าของ มันก็คงต้องบอกว่าถ้า The inteligence investor ของ Benjamin Graham เป็นเหมือน bible ของนักลงทุนสายFundamental แล้ว หนังสือหุ้นเล่มนี้ก็คงเปรียบเหมือน “พิชัยสงครามซุนวู” ของ โลกการเก็งกำไรแหละครับ
ผมค่อนข้างมันใจว่านักลงทุนหรือนักเล่นหุ้นเก็งกำไรระดับสุดยอดนั้นแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักและไม่เคยได้สำผัสกับหนังสือหุ้นเล่มนี้อย่างแน่นอนครับ ถึง ขนาดที่กูรูหลายคนบอกว่า “ถ้าติดเกาะแล้วมีหนังสือไปอ่านได้แค่เล่มเดียวก็จะขอฟันธงเลือกหนึงสือหุ้นเล่มนี้หละครับ” และก็ยังมีเซียนหุ้นอีกหลายรายที่ออกมาเชิดชูว่าเป็นหนังสือหุ้นที่พวกเขาต้องกลับมาอ่านซ้ำกันเป็น 10 ๆ รอบเพื่อเตือนความจำในสมองให้มันไม่หลงไม่ลืมมันไปเสียก่อนครับ
ความพิเศษของ Reminiscences of stock operator นั้นอยู่ตรงใหนผมคงบอกได้ไม่หมดครับ เพราะจากการได้อ่านมันมาหลายรอบ ก็คงต้องบอกว่า อ่านสนุกครับ หนำซ้ำยังทำให้หาย……….. ( เติมเองครับ )ไปหลายขุมเลยทีเดียวครับ คุณอยากได้อ่ะไรจากหนังสือเล่มนี้ ผมคิดว่าครบเครื่องมากนะครับ ไม่ว่าจะเป็น หลักการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค , เทคนิคการเล่นหุ้น , การบริหารเงินทุน ( Money management ) แต่ที่ผมคิดว่าทุกคนจะซาบซึ้งได้ก็คงจะเป็นแง่คิดทาง จิตวิทยาการลงทุน ( Psychology of trading ) ครับเพราะแต่ละประโยค มันกระชากใจครับ ยิ่งอ่านยึ่งซึ้งแทงใจดำทะลุหัวเข่าไปเลยครับ ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมตนเองเวลาเล่นหุ้น คิดว่าไม่ควรพลาดหนังสือหุ้นเล่มนี้ด้วยประการทั้งปวงครับ คุณอาจจะกลายเป็นคนใหม่หลังจากอ่านเล่มนี้จบนะครับ แมงเม่าคลับ.คอมขอแนะนำให้อ่านหนังสือหุ้นเล่มนี้กันนะครับ
ปล. หนังสือหุ้นเล่มนี้มีสองเวอร์ชั่นนะครับ เวอร์ชั่น Classic จะเป็นการรวมบทสัมภาษณ์ของเขาอ่านแล้วจะได้อารมณ์ของการมีปรมจารย์นั่งสั่งสอน อีกเวอร์ชั่นนึงค่อนข้างจะเป็นมิตรกับผู้อ่านมากกว่า มีการสรุปเรื่องราวย่อๆและต่อด้วยบทสัมภาณ์ครับแถมมีภาพประกอบเป็นการ์ตูนน่าอ่าดีครับ อ่านแล้วจะได้อีกอารมณ์หนึ่ง
เอ้าแถมครับๆ ลุง Floyd, the lead trader at OEX Options (oexoptions.com) รีวิวหนังสือหุ้นในตำนานเล่มนี้ครับ
เครดิต: นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์(สุมาอี้)และแมงเม่าคลับ.คอม เรียบเรียงโดย Ruengdd
Post a Comment