The Voice แจงกติการอบ Battle การันตี มันส์เหนือบรรยาย
หลังจากมีกระแสตอบรับที่ดีเหนือความคาดหมายในรอบ Blind Audition จนกระทั่งรายการThe Voice เสียงจริง ตัวจริง Presented by THE BASE Condominium กลายเป็นรายการประกวดร้องเพลงอันดับต้น ๆ ที่ถูกกล่าวขวัญถึงตามเว็บไซต์ หรือตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งการซักถามเกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขในการรับสมัคร รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับกติกาการแข่งขันที่หลายคนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อน หรือมีความสับสนอยู่นั้น
ล่าสุด เมื่อรายการ The Voice เสียงจริง ตัวจริง ได้เริ่มเข้าสู่รอบ Battle ที่ลูกทีมของโค้ชแต่ละคน จะต้องหันมาประชันฝีมือกันบนเวที และเพื่อไม่ให้เกิดความงุนงงสับสน รวมถึงให้แฟน ๆ ที่ติดตามชมรายการนี้อยู่ สามารถลุ้นระทึกกับรอบ Battle ได้อย่างครบอรรถรส ดังนั้น คุณอาจกิจ สุนทรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจเพลง บริษัท ทรู มิวิสิค จึงได้ออกมาแจกแจงกติกาในรอบ Battle เพื่อไขความกระจ่างสำหรับการแข่งขันในรอบนี้
โดย คุณอาจกิจ กล่าวว่า เดิมทีเราคิดว่าจะให้โค้ชเลือกลูกทีมได้เพียงแค่ 12 คน แต่ผู้เข้าแข่งขันบ้านเราร้องเพลงกันได้ดีมาก เราจึงยืดหยุ่นกติกาเพื่อเปิดโอกาสให้กับโค้ช และผู้เข้าแข่งขัน โดยกำหนดว่าโค้ชสามารถเลือกลูกทีมได้คนละ 12 - 15 คน ซึ่งหลังจากที่โค้ชทุกคนเลือกลูกทีมของตัวเองได้ครบตามใจแล้ว ผลสรุปออกมา ดังนี้
โค้ชก้อง ได้ลูกทีม 14 คน
โค้ชคิ้ม ได้ลูกทีม 12 คน
โค้ชโจอี้ ได้ลูกทีม 15 คน
โค้ชแสตมป์ ได้ลูกทีม 15 คน
ซึ่งในรอบ Battle นี้ โค้ชจะต้องตัดลูกทีมของตัวเองออกให้เหลือทีมละ 6 คน โดยจะให้ Battle คือ แข่งร้องในเพลงเดียวกัน ในทีมหนึ่งจะต้องมีการ Battle 6 คู่ หรือ 6 แมทช์ สำหรับบางแมทช์ก็อาจจะเป็นการ Battle ทีละ 3 คน ซึ่งเมื่อทำการ Battle ครบ โค้ชทุกคนก็จะเหลือลูกทีม ๆ ละ 6 คน เพื่อเข้าแข่งในรอบไลฟ์ที่จะถ่ายทอดสดต่อไป
คุณอาจกิจ กล่าวต่อว่า เนื่องจากทีมงานไม่อยากให้ผู้ชมต้องพลาดเนื้อหาสนุก ๆ ของรายการที่ถูกตัดทิ้งไปเพราะเวลาจำกัด ดังนั้น ตั้งแต่รอบ Battle เป็นต้นไป ทางรายการ และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จะเพิ่มเวลาออกอากาศรายการอีก 15 นาที โดยผู้ชมสามารถรับชมรายการ The Voice เสียงจริง ตัวจริง ได้ตั้งแต่เวลา 17.45 – 19.30 น. ทุกวันอาทิตย์
ขณะเดียวกัน เจนนิเฟอร์ คิ้ม หนึ่งในโค้ชตัวแม่ ที่มาร่วมแจงในครั้งนี้ ได้กล่าวถึงความสนุกที่จะเกิดขึ้นในรอบ Battle ว่า มันจะเป็น The Voice ที่แตกต่าง และรับรองว่าไม่มีที่ไหนในโลกเป็นเช่นนี้ เพราะคุณจะได้เห็นการจับคู่ที่แตกต่าง ขัดแย้ง แต่เป็นความขัดแย้งที่ลงตัว เหมือนเป็นการจุดพลุสองลูกที่เป็นคนละสี แต่พอพลุแตกประกายไฟ ทั้งสองสีต่างพุ่งเข้าหากัน ซึ่งช่วงนั้นมันจะสวยงามมาก มันเป็นการเชือดเฉือนที่มีทุกอารมณ์ ทั้งสนุก ทั้งมันส์ ทั้งเศร้า และความเครียดที่หนักหนาของโค้ชที่จะต้องตัดสินใจตัดลูกทีมตัวเอง หลังจากไปฟาดฟันกับโค้ชคนอื่น ๆ เพื่อแย่งลูกทีมคนนี้มา มันเป็นอารมณ์ที่เหนือจะบรรยายจริง ๆ บอกได้เลยว่ารอบ Blind Audition ที่ผ่านมามันเป็นแค่น้ำจิ้ม ของจริงจะเริ่มต้นที่รอบ Battle นี้ ซึ่งรับรองว่าสนุกแน่นอน
สำหรับแฟน ๆ รายการ The Voice เสียงจริง ตัวจริง สามารถรับชมรายการอย่างเต็มอิ่มจุใจ ได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.45 – 19.30 น. โดยการ Battle รอบแรก จะเริ่มต้นขึ้น ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ...ชอบใคร เชียร์ใคร ก็อย่าลืมติดตามชม และเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าแข่งขันด้วยนะจ๊ะ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thevoicethailand.com, เฟซบุ๊ก TheVoiceThailand
ล่าสุด เมื่อรายการ The Voice เสียงจริง ตัวจริง ได้เริ่มเข้าสู่รอบ Battle ที่ลูกทีมของโค้ชแต่ละคน จะต้องหันมาประชันฝีมือกันบนเวที และเพื่อไม่ให้เกิดความงุนงงสับสน รวมถึงให้แฟน ๆ ที่ติดตามชมรายการนี้อยู่ สามารถลุ้นระทึกกับรอบ Battle ได้อย่างครบอรรถรส ดังนั้น คุณอาจกิจ สุนทรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจเพลง บริษัท ทรู มิวิสิค จึงได้ออกมาแจกแจงกติกาในรอบ Battle เพื่อไขความกระจ่างสำหรับการแข่งขันในรอบนี้
คุณอาจกิจ สุนทรวัฒน์
โดย คุณอาจกิจ กล่าวว่า เดิมทีเราคิดว่าจะให้โค้ชเลือกลูกทีมได้เพียงแค่ 12 คน แต่ผู้เข้าแข่งขันบ้านเราร้องเพลงกันได้ดีมาก เราจึงยืดหยุ่นกติกาเพื่อเปิดโอกาสให้กับโค้ช และผู้เข้าแข่งขัน โดยกำหนดว่าโค้ชสามารถเลือกลูกทีมได้คนละ 12 - 15 คน ซึ่งหลังจากที่โค้ชทุกคนเลือกลูกทีมของตัวเองได้ครบตามใจแล้ว ผลสรุปออกมา ดังนี้
โค้ชก้อง ได้ลูกทีม 14 คน
โค้ชคิ้ม ได้ลูกทีม 12 คน
โค้ชโจอี้ ได้ลูกทีม 15 คน
โค้ชแสตมป์ ได้ลูกทีม 15 คน
ซึ่งในรอบ Battle นี้ โค้ชจะต้องตัดลูกทีมของตัวเองออกให้เหลือทีมละ 6 คน โดยจะให้ Battle คือ แข่งร้องในเพลงเดียวกัน ในทีมหนึ่งจะต้องมีการ Battle 6 คู่ หรือ 6 แมทช์ สำหรับบางแมทช์ก็อาจจะเป็นการ Battle ทีละ 3 คน ซึ่งเมื่อทำการ Battle ครบ โค้ชทุกคนก็จะเหลือลูกทีม ๆ ละ 6 คน เพื่อเข้าแข่งในรอบไลฟ์ที่จะถ่ายทอดสดต่อไป
คุณอาจกิจ กล่าวต่อว่า เนื่องจากทีมงานไม่อยากให้ผู้ชมต้องพลาดเนื้อหาสนุก ๆ ของรายการที่ถูกตัดทิ้งไปเพราะเวลาจำกัด ดังนั้น ตั้งแต่รอบ Battle เป็นต้นไป ทางรายการ และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จะเพิ่มเวลาออกอากาศรายการอีก 15 นาที โดยผู้ชมสามารถรับชมรายการ The Voice เสียงจริง ตัวจริง ได้ตั้งแต่เวลา 17.45 – 19.30 น. ทุกวันอาทิตย์
เจนนิเฟอร์ คิ้ม
ขณะเดียวกัน เจนนิเฟอร์ คิ้ม หนึ่งในโค้ชตัวแม่ ที่มาร่วมแจงในครั้งนี้ ได้กล่าวถึงความสนุกที่จะเกิดขึ้นในรอบ Battle ว่า มันจะเป็น The Voice ที่แตกต่าง และรับรองว่าไม่มีที่ไหนในโลกเป็นเช่นนี้ เพราะคุณจะได้เห็นการจับคู่ที่แตกต่าง ขัดแย้ง แต่เป็นความขัดแย้งที่ลงตัว เหมือนเป็นการจุดพลุสองลูกที่เป็นคนละสี แต่พอพลุแตกประกายไฟ ทั้งสองสีต่างพุ่งเข้าหากัน ซึ่งช่วงนั้นมันจะสวยงามมาก มันเป็นการเชือดเฉือนที่มีทุกอารมณ์ ทั้งสนุก ทั้งมันส์ ทั้งเศร้า และความเครียดที่หนักหนาของโค้ชที่จะต้องตัดสินใจตัดลูกทีมตัวเอง หลังจากไปฟาดฟันกับโค้ชคนอื่น ๆ เพื่อแย่งลูกทีมคนนี้มา มันเป็นอารมณ์ที่เหนือจะบรรยายจริง ๆ บอกได้เลยว่ารอบ Blind Audition ที่ผ่านมามันเป็นแค่น้ำจิ้ม ของจริงจะเริ่มต้นที่รอบ Battle นี้ ซึ่งรับรองว่าสนุกแน่นอน
สำหรับแฟน ๆ รายการ The Voice เสียงจริง ตัวจริง สามารถรับชมรายการอย่างเต็มอิ่มจุใจ ได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.45 – 19.30 น. โดยการ Battle รอบแรก จะเริ่มต้นขึ้น ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ...ชอบใคร เชียร์ใคร ก็อย่าลืมติดตามชม และเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าแข่งขันด้วยนะจ๊ะ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thevoicethailand.com, เฟซบุ๊ก TheVoiceThailand
Post a Comment