ขยะทางความคิดและอารมณ์

สิ่งที่ไม่ดี... ไม่สวยงาม...  
ที่เราใช้แล้ว...ชำรุด ... ทรุดโทรม... ใช้การไม่ได้อีกต่อไป...  
เรียกว่า... "ขยะ"  

ถ้าพูดถึงขยะ 
หลายคนคงเข้าใจดีแล้วว่า... 
ในขยะที่เหลือใช้แล้ว... ที่คนส่วนใหญ่นำไปทิ้ง 
เพราะเห็นว่า "ไม่มีคุณค่า – ไม่มีประโยชน์"
แต่ในสิ่งที่เรามองเห็นว่า... 
ไม่มีคุณค่า - ไม่มีประโยชน์ สำหรับเรา 
อาจมีคุณค่า... สำหรับผู้เก็บของเก่า... 
ซึ่งสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินได้...  

แต่สำหรับขยะทางความคิด...
และขยะทางอารมณ์นั้น 
…หามีประโยชน์แต่อย่างใดไม่ 
ยิ่งกลับจะเป็นอันตราย... ทั้งต่อตนเองและคนรอบข้างด้วย 

เพราะผู้ที่ชอบเก็บสะสมขยะทางความคิด... ขยะทางอารมณ์ 
เมื่อเก็บสะสมไว้มากๆ 
ก็จะทำให้เกิดมะเร็งร้ายในจิตใจ – ในอารมณ์ความรู้สึกได้  

  

เราจึงไม่ควรที่จะเก็บหรือรักษาสิ่งเหล่านั้นไว้ในจิตใจเลย 
…แต่สมควรอย่างยิ่ง 
…ที่จะหมั่นตรวจ หมั่นเก็บกวาด 
นำขยะทางความคิด - ขยะทางอารมณ์... ออกไปทิ้งเสียโดยพลัน
เพราะขยะทางความคิด 
ได้แก่... ความคิดที่ไม่ดี... ไม่ถูกต้อง... ไม่ดีงาม 
ผิดจากทำนองคลองธรรม... เป็นมิจฉาทิฎฐิ (เห็นผิด) 
คิดในแง่ร้าย... ชอบมองแง่ลบ 
มีความคิดเห็นเชิงลบ... ไม่สร้างสรรค์ 
คิดสิ่งที่ไม่ก่อประโยชน์... ให้โทษแก่ตนเองและผู้อื่น  

  

สิ่งเหล่านี้ถือว่า...
เป็นขยะทางความคิด.. 

ซึ่งถ้าสะสมไว้มากๆ 
ก็จะก่อตัวเป็นมะเร็งร้ายทางความคิดได้ 
และจะทำให้จิตใจขุ่นมัว... มืดมน 
ทำลายสติปัญญา... เกิดความโง่เขลาทางจิตใจ 

ส่วนขยะทางอารมณ์... 
ได้แก่... อารมณ์โลภ โกรธ หลง อิจฉา - ริษยา 
อารมณ์เบื่อ... อารมณ์เซ็ง... 
อารมณ์เหงา... อารมณ์เศร้า... และอื่นๆ อีกมากมาย 
ถือว่า... เป็นขยะทางอารมณ์  

  

ถ้าใครมีมาก สะสมไว้มาก ไม่ยอมสละออก 
ก็จะทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมา 
ที่เราเรียกว่า... "มะเร็งร้ายทางอารมณ์" ที่จะค่อยๆ กัดกร่อนทำร้ายจิตใจของเราทุกๆ ขณะ 
ที่อารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในจิตใจเรา 

คนเรามีขยะทางความคิด – ทางอารมณ์เหมือนกันทุกคน 
แต่แตกต่างกันที่ว่า... 
เมื่อขยะทางความคิด – ขยะทางอารมณ์เกิดขึ้น 
เราจะมีวิธีการนำขยะเหล่านั้นออกจากจิตใจได้อย่างไร ??? 

 
การเรียนรู้ที่จะนำขยะทางความคิด - ทางอารมณ์ออกจากจิตใจ 
สามารถทำได้ง่ายๆ ก็คือ... 
...ไม่ยอมเก็บ... 
...ไม่ยอมสะสม... 

ดังนั้น ทุกครั้งที่ขยะทางความคิด – ขยะทางอารมณ์เกิดขึ้น 
เราต้องรีบปฏิเสธโต้กลับมันทันที 
คือ... ไม่ยอมรับ ไม่สะสม ไม่เก็บ
และรู้เท่าทันมันอย่างเข้าใจ
ก็จะสามารถสละมันออกจากจิตใจได้