เจาะข่าวเด่น น้องธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี สุดยอดหนูน้อยอัจฉริยะของประเทศ

สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เมื่อมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชวน น้องธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี เด็กอัจฉริยะวัย 10 ปี ที่มีความรู้ความสามารถในด้านวิทยาศาสตร์สูงเกินวัย เข้ามาร่วมทำงานวิจัยด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และด้านวิทยาศาสตร์ ที่ฟังแค่ชื่องานวิจัยแล้วบอกได้เลยว่า แม้แต่นักศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ยังเอ่ยปากว่ายากจริง ๆ

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

          นอกจากนี้ หากยังจำกันได้ เมื่อ 3 ปีก่อน น้องธนัช ก็เคยเป็นข่าวฮือฮามาแล้วครั้งหนึ่ง จากการโชว์ฝีมือสีไวโอลินแล้วอัพคลิปลงในเว็บไซต์ยูทูบ จนมีผู้คลิกเข้าไปชมเด็กชายวัย 7 ขวบ (เมื่อปี 2553) กว่า 7 ล้านครั้ง ภายในเวลาไม่กี่วัน (ปัจจุบันยอดวิวพุ่งกว่า 22 ล้านครั้งแล้ว) กระทั่งได้รับฉายาว่า"โมสาร์ทน้อย" แถมถ้าย้อนไปตอน 3 ขวบ น้องธนัช ก็มีผลงานวาดภาพศิลปะแนว Abstract อย่างน่าทึ่ง จนมีผู้ติดต่อขอซื้อภาพแล้วหลายราย 
          หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไม น้องธนัช ถึงเป็นเด็กอัจฉริยะได้ขนาดนี้ คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูน้องมาอย่างไร รายการเจาะข่าวเด่น เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 จึงได้เชิญ น้องธนัช พร้อมด้วย คุณพ่อธนู และคุณแม่วัชราภรณ์ เปลวเทียนยิ่งทวี มาร่วมพูดคุยกัน

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

          เห็นน้องธนัชเป็นเด็กอัจฉริยะขนาดนี้แล้ว ก็อดถามไม่ได้ว่า จริง ๆ น้องพูดคุยกับคนอื่นรู้เรื่องไหม? ซึ่งทั้งคุณพ่อและคุณแม่ก็ยืนยันว่า น้องธนัชยังเป็นเด็กปกติ มีมนุษยสัมพันธ์ดี ยังเล่นเหมือนเด็ก ๆ อารมณ์ดี เบิกบาน มีอารมณ์ขัน มีชีวิตวัยเด็กเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับเรื่องวิทยาศาสตร์ขนาดนั้น 

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

          อย่างไรก็ดี สำหรับเด็กในวัยนี้ถ้าจะให้เลือกอ่านหนังสือก่อนนอนก็คงจะหนีไม่พ้นหนังสือนิทาน หรือการ์ตูน แต่สำหรับหนูน้อยอัจฉริยะคนนี้ สิ่งที่น้องเลือกอ่านก่อนนอนกลับเป็นหนังสือตำราชีววิทยาที่แพทย์อ่านกัน มีความหนาพันกว่าหน้า แถมยังเป็นภาษาอังกฤษทุกประโยค แต่น้องธนัชบอกว่าอ่านแล้วสนุก ได้ข้อมูลมากมาย เพราะมีความชอบส่วนตัว ซึ่งคุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะซื้อเล่มนี้ น้องธนัชมารบเร้าอยู่นาน เพราะคุณแม่ไม่แน่ใจว่าลูกจะอ่านไหว เพราะเล่มหนามาก แถมยังเป็นตำราแพทย์ และมีราคาแพง แต่พอซื้อมาแล้วก็ดีใจที่ลูกอ่านทุกคืนเลย แถมยังอธิบายความรู้ในหนังสือให้ฟังได้อย่างเข้าใจด้วย เห็นเล่มหนาขนาดนี้ น้องธนัชบอกว่าใช้เวลาอ่านแบบสแกนแค่ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น 

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

          ส่วนอีกเล่มที่น้องธนัชชอบอ่านมากก็คือ ตำราเกี่ยวกับไบโอเคมี ซึ่งน้องใช้เล่มนี้ในการอ้างอิงเวลาทำแล็บ ที่น่าทึ่งก็คือ ตำราเหล่านี้นักศึกษาปริญญาตรีไม่ได้เรียน เพราะเป็นตำราที่ใช้ในระดับปริญญาโทขึ้นไปเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วยังมีอีกหลายเล่มที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เชื่อเถอะว่าแค่ฟังชื่อหนังสือแล้วคนธรรมดาที่ไม่มีความรู้วิทยาศาสตร์อย่างเรา ๆ เป็นต้องมึนแน่นอน

          แต่ถึงน้องธนัชจะสนใจใฝ่รู้เอาจริงเอาจังกับเรื่องวิทยาศาสตร์ เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งไวโอลินที่ตนเองถนัดเช่นกัน พร้อมกับโชว์ฝีมือการสีไวโอลินให้แฟน ๆ รายการได้ชมกันด้วยซึ่งต้องบอกว่าฝีมือการสีไวโอลินของน้องไม่เคยตกเลยจริง ๆ และเจ้าตัวก็เล่าอย่างภูมิใจว่า ไวโอลินที่ตัวเองใช้อยู่นั้นเป็นไวโอลินเก่าที่มีอายุ 113 ปีแล้ว ตกทอดกันมาในตระกูลของคนทำไวโอลินชาวเยอรมนีถึง 4 ชั่วอายุคน และทางเจ้าของรุ่นที่ 4 ที่ได้เห็นผลงานของน้องในยูทูบก็ติดต่อมาว่าจะนำไวโอลินคันนี้มาให้ใช้ เพราะไม่อยากเก็บไวโอลินดี ๆ ไว้เฉย ๆ 

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

          อย่างไรก็ตาม ตอนแรกคุณพ่อก็ไม่กล้ารับ เพราะไวโอลินคันนี้มีราคาสูงจนประเมินค่าไม่ได้ และกลัวว่าลูกชายจะทำไวโอลินเสียหาย แต่ทางเจ้าของไวโอลินคะยั้นคะยอให้น้องใช้ พร้อมกับทำประกันเอาไว้ด้วย สุดท้าย น้องธนัช ก็รับไวโอลินคันนี้มาใช้ และสัมผัสได้ว่าเสียงไวโอลินดีกว่าทุกคันที่เคยใช้มาจริง ๆ

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี

          และจากการที่น้องธนัชมีพื้นฐานทางภาษาอังกฤษดีอยู่แล้ว เพราะคุณพ่อคุณแม่ใช้ภาษาอังกฤษพูดคุยกับลูกที่บ้านตั้งแต่เล็ก ๆ ก็ทำให้น้องเสาะแสวงหาความรู้ได้จากหลายที่ โดยเฉพาะโลกอินเทอร์เน็ตที่น้องจะชอบเข้าไปอ่านเรื่องเกี่ยวกับนาซา นอกจากนี้น้องยังลงทะเบียนดูคลิปการเรียนการสอนของศาสตราจารย์คนดังที่สอนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ MIT เพื่อเอาใบประกาศนียบัตรอีกต่างหาก 

          ส่วนในมุมสบาย ๆ ที่เกี่ยวกับความบันเทิงนั้น น้องธนัชก็มีเหมือนกัน อย่างการเข้าไปเปิดคลิปฟังเพลง ดูหนัง แต่ขอบอกว่า เพลงที่น้องฟังนั้นคือเพลงคลาสสิก แถมยังดูการ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ อย่างเรื่อง "Once Upon a Time... Life" ที่้เป็นการ์ตูนอธิบายระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย และอ่านหนังสือการ์ตูนที่อธิบายเรื่องเศรษฐศาสตร์ ซึ่งถ้าลองพลิกหน้าหนังสือดูแล้วล่ะก็ต่อให้เป็นผู้ใหญ่ก็ปวดหัวแน่นอน

          เห็นแล้วไม่น่าเชื่อเลยว่า เด็กอายุเพียงสิบขวบจะมีความรู้มากถึงขนาดนี้ แต่ถ้าอยากรู้ว่า น้องธนัช ได้เข้าไปร่วมงานวิจัยกับ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศได้อย่างไร แล้วน้องได้อะไรจากการวิจัยครั้งนี้บ้าง ติดตามต่อได้ในรายการเจาะข่าวเด่น ตอนที่ 2 วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน เวลา 17.15 น.