เรียวมะ ซาคาโมโต : บุรุษทรนง


เรียวมะ ซาคาโมโต้ (Ryoma Sakamoto) เกิดวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2378 ที่โทสะ เมืองท่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ช่วงชีวิตของเรียวมะอยู่ใน ยุคเอโดะ (พ.ศ.2143-2410) อันเป็นยุคที่ญี่ปุ่นอยู่ใต้อำนาจปกครองของตระกูลโตกุกาวะ โดยโชกุน โตกุกาวะ อิเอยะสึ ผู้ดำเนินนโยบายปิดประเทศจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิงในปี 2182 เพื่อรักษาเสถียรภาพของโครงสร้างทางสังคมและการเมืองที่เขาสถาปนาขึ้น ซึ่งสวนทางกับแนวความคิดของเรียวมะชนิดขาวกับดำ

เขาต้องการเห็นความเท่าเทียมของทุกชนชั้นในสังคมญี่ปุ่น อายุ 14 ปี ฝึกดาบและอาวุธ ก่อนเป็นซามูไรผู้ฝึกสอน ต่อมาลงสนามการเมือง เป็นนักเจรจาต่อรองด้านการค้า สนับสนุนให้เปิดประเทศด้วยการเรียนรู้ภาษา แนวคิด เทคโนโลยีใหม่ๆ จากต่างประเทศ มุ่งสร้างญี่ปุ่นให้เข้มแข็งด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจ แทนการจับดาบขับไล่ชาวต่างชาติเช่นที่ซามูไรยุคนั้นกระทำอยู่ รับความรู้เรื่องเรือดำ (เรือรบ) มาพัฒนากองกำลังของชาติ พยายามกำจัดระบบศักดินา และพัฒนาการค้าของญี่ปุ่น

ใน แง่ส่วนตัว เรียวมะดูเป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยมีแบบแผน ไม่มีพิธีรีตองใด ประวัติศาสตร์บางหน้าบันทึกถึงว่าเป็นคนกะล่อน ชอบเอาตัวรอด หรือถึงขั้นว่าเป็นคนสกปรกมอมแมม ไม่ค่อยฉลาด แนวความคิดที่เรียกว่าหัวก้าวหน้าของเรียวมะสร้างศัตรูรอบด้าน โดยเฉพาะกับกลุ่มชินเซ็นอันเป็นการรวมตัวของซามูไรที่ภักดีต่อโชกุนโตกุกาวะ ภารกิจคือกวาดล้างผู้ที่ได้ชื่อว่าหัวก้าวหน้าต้องการให้ประเทศเปลี่ยนแปลง เรียวมะเป็นหนึ่งในพวกนอกกฎหมายที่ซามูไรหมายหัว

 แต่ กระนั้นโตกุกาวะก็ปิดกั้นกระแสความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ต่อต้นศตวรรษที่ 19 ญี่ปุ่นอยู่ภายใต้ความกดดันเพื่อให้เปิดประเทศสู่โลกภายนอก อีกทั้งโครงสร้างทางสังคมและการเมืองอันเข้มงวดที่อิเอยะสึกำหนดขึ้น ก็เริ่มส่อเค้าความตึงเครียดอันเนื่องมาจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พ.ศ.2396 พลเรือจัตวาแมทธิว ซี เพอร์รี่ แห่งสหรัฐอเมริกา นำกองเรือ 4 ลำเข้ามาในอ่าวโตเกียว ปีถัดมาก็ประสบความสำเร็จในการชักจูงให้ญี่ปุ่นลงนามในสนธิสัญญาสัมพันธ ไมตรีกับสหรัฐ ปีเดียวกันญี่ปุ่นยังได้ลงนามกับรัสเซีย อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศสด้วย นับเป็นการเปิดประเทศครั้งสำคัญ

 ผล กระทบคือรากฐานของโครงสร้างระบบศักดินาถูกกัดกร่อนบั่นสั้นลงเรื่อยๆ ความวุ่นวายครั้งใหญ่เกิดขึ้นกินเวลาประมาณทศวรรษ และในปี พ.ศ.2410 เรียวมะ ซาคาโมโต ก็สิ้นชื่อด้วยน้ำมือมือสังหารไม่ทราบฝ่าย การตายของเขาเป็นชนวนสงครามบากุฝุที่นำสู่การจบสิ้นอำนาจของตระกูลโตกุกาวะที่ครอบงำญี่ปุ่นยาวนานกว่า 400 ปี และถวายอำนาจอธิปไตยทั้งมวลคืนพระจักรพรรดิในการปฏิรูปเมจิ

ปัจจุบัน แนวคิดและผลงานของเรียวมะเป็นกรณีศึกษาในการทำธุรกิจของญี่ปุ่น ยกย่องกันว่าเขามีอิสระ ไม่ขึ้นกับใคร มีหัวการค้า มองการณ์ไกล และมุ่งมั่นที่จะนำความสำเร็จสู่องค์กร


ซากาโมโต เรียวมะ...วีรบุรุษซามูไรพ็อปคัลเจอร์ 


คอลัมน์ EASTERN STREET 

โดย Cobori 

 
ในตอนนี้ ไม่ว่าจะขึ้นเหนือล่องใต้ในญี่ปุ่น จะเห็นโปสเตอร์รูปภาพของซามูไรท่านหนึ่งอยู่แทบทุกที่ 

หาก เป็นคนนอกที่เข้ามาท่องเที่ยวในแดนปลาดิบแห่งนี้คงแปลกใจไม่ใช่น้อย แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว ทุกคนคงจะรู้จักเป็นอย่างดีว่า นี่คือวีรบุรุษของชาติเขา ผู้มีนามว่าซากาโมโต เรียวมะ 

ถ้าใครมี โอกาสได้ดูซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องเจ้าหญิงอัตสึ (Princess Atsu) ที่เขานำมาฉายทางช่องทีวีไทย จะเห็นการปรากฏตัวของซามูไรเรียวมะ ซีรีส์เรื่องนี้เป็น 

ซีรีส์เรื่องที่ 47 ของสถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่น ที่เล่าเรื่องถึงเจ้าหญิงอัตสึ ภรรยาเอกของโชกุนโตกุกาวา อิเอซาดะ ผู้นำประเทศญี่ปุ่นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศในยุคปลายเอโดะ (ยุค 

เอโดะอยู่ในช่วงระหว่าง ค.ศ.1600-1867) ช่วงนั้นมีกองทัพเรือจากต่างประเทศเข้ามากดดันประเทศหมู่เกาะอย่างญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นยุคนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลโตกุกาวา ซึ่งมีนโยบายปิดประเทศมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1639 

ในซีรีส์นี้ ซามูไรซากาโมโต เรียวมะ ปรากฏตัวขึ้นมาในตอนที่เขากำลังจะเข้าไปสังหารเจ้าหญิงอัตสึ แต่เมื่อได้ฟังวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศของเจ้าหญิงแล้ว เรียวมะเกิดเลื่อมใส จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์กับเจ้าหญิงแทน 

นี่เป็นการ เปิดตัวของซามูไรผู้นี้ ก่อนที่จะเป็นพระเอกเต็มตัวในซีรีส์ลำดับที่ 49 ของ NHK ในชื่อซีรีส์ว่า Ryoma den ออกอากาศระหว่างเดือนมกราคมจนถึงเดือนธันวาคมของปีนี้ ฉายให้ดูกันทั้งปีทีเดียว 

ซากาโมโต เรียวมะ เวอร์ชั่นนี้ได้ดาราดังของญี่ปุ่นอย่างฟูกูยามา มาซาฮารุ พระเอกซีรีส์ดังอย่างกาลิเลโอ นำแสดง โดยเรื่องราวจะเล่าถึงชีวประวัติซามูไรหนุ่ม 

เรียวมะ ผู้เป็นฟันเฟืองใหญ่ในการนำญี่ปุ่นยุคสมัยใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย เศรษฐกิจเข้มแข็ง และเปิดรับความรู้ใหม่ ๆ จากต่างชาติ เช่น เรื่องเรือดำ (เรือรบ) ซึ่งนำพาญี่ปุ่นก้าวผ่านจากยุคเอโดะสู่ยุคต่อมา อันได้แก่ยุคเมจิอย่างสง่างาม (ค.ศ.1868-1912) โดยที่เขาไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมืองสักตำแหน่งเดียว 

ในตอนนี้มีคนญี่ปุ่นมากมายที่ติดซีรีส์นี้อย่างงอมแงม ซึ่งเขาฉายในทุกวันอาทิตย์ เวลา 2 ทุ่ม 

เมื่อ ลองเช็กกระแสของซามูไรเรียวมะในอินเทอร์เน็ต จะพบว่าวีรบุรุษผู้นี้เป็นพ็อปไอดอลแห่งยุคเชียวล่ะ เพราะชื่อของเขาเป็นที่พูดถึงตั้งแต่วงการนักการเมืองจนถึง 

เกมเมอร์อย่างมากมาย 

ใน ยุคที่เสถียรภาพทางการเมืองของญี่ปุ่นค่อนข้างง่อนแง่น มีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีปีต่อปี กระแสของการกลับไปหาคุณค่าแบบเดิม ๆ ของนักการเมืองญี่ปุ่นมาแรงมาก จากโพลของหนังสือพิมพ์ไมนิชิ ชิมบุน ที่สอบถามผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 54 คน ในการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ว่าบุคคลใดในประวัติศาสตร์ที่เป็นต้นแบบในเรื่องการเมืองของพวกเขา ปรากฏว่า ชื่อของซากาโมโต เรียวมะ ขึ้นเป็นอันดับสอง รองจากรัฐบุรุษจากอเมริกา นามว่า อับราฮัม ลินคอร์น

หรืออย่างใน หนังสือพิมพ์เจแปน ไทมส์ ในเดือนเมษายน ปีนี้ ได้ไล่เรียงความร้อนแรงของเรียวมะให้ฟังว่า "จนถึงวันนี้ เรียวมะเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานละครซีรีส์ทางโทรทัศน์ของญี่ปุ่นถึง 7 เรื่อง, วรรณกรรมอีก 6 เรื่อง, การ์ตูนมังงะ 7 เรื่อง และภาพยนตร์อีก 5 เรื่อง" 

แม้แต่ในวงการเกมก็ไม่เว้น เพราะเกมต่อสู้อย่าง "Live A Live" ยังดึงแคแรกเตอร์ของเรียวมะมาเป็นตัวละครหลักเลย 

หาก นับว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นผลผลิตของยุคสมัย จึงน่าคิดว่ากระแสความแรงของซากาโมโต เรียวมะ อาจจะเป็นกระจกสะท้อนความคิดบางอย่างของคนญี่ปุ่น 

ในกระแสสังคมที่ สับสน คนตกงานเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจย่ำแย่ โครงสร้างประชากรที่นับวันจะมีผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือ ความไร้เสถียรภาพของฝ่ายบริหารบ้านเมือง บางที ในใจคนญี่ปุ่นอาจจะร้องเรียกใครสักคนที่เป็นภาพตัวแทนของ "ซากาโมโต เรียวมะ" ที่เห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมืองมากกว่าประโยชน์ส่วนตน มาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวลงสู่ประเทศหมู่เกาะที่เรียกว่าดินแดนอาทิตย์อุทัยก็ เป็นไปได้


ที่มา : มติชน