เชื่อหรือไม่ การนั่งสมาธิให้ผลดีไม่แพ้การวิ่ง

มองเผิน ๆ การวิ่งและการนั่งสมาธินั้นเป็นกิจกรรมที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะในขณะที่การนั่งสมาธิต้องอาศัยความสงบนิ่งปราศจากการเคลื่อนไหว การวิ่งกลับต้องออกแรงอยู่ตลอดเวลา และเคลื่อนไหวร่างกายแทบทุกส่วน แต่ที่จริงแล้ว แม้วิธีการจะต่างกันสุดขั้ว ทว่าจริง ๆ ก็มีส่วนคล้ายคลึงอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็คือ "ผลลัพธ์" ที่ได้จากการนั่งสมาธิและการวิ่งนั่นเอง และถ้าใครยังคงข้องใจว่ามันเหมือนกันตรงไหน ก็ลองมาดูส่วนคล้าย 5 ข้อ จากกิจกรรมทั้งสองประเภทที่รวบรวมมาฝากกันเลยดีกว่า


          1. การเริ่มต้น

          แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่การเริ่มต้นของการวิ่งและนั่งสมาธิต่างก็ยากด้วยกันทั้งคู่ โดยขณะที่ทำไปได้ประมาณ 10 นาทีแรก คุณจะรู้สึกเหนื่อยหน่ายและไม่สามารถใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับมันได้ ทำให้ครั้งแรกเป็นประสบการณ์ที่คุณทำได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร ผิดกับครั้งหลัง ๆ เมื่อทำจนเคยชินแล้ว จะทำให้คุณสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า อีกทั้งยังกลายเป็นความเคยชิน ซึ่งหากวันไหนไม่ทำแล้ว อาจทำให้รู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีอะไรขาดหายไปก็ได้

          2. ช่วยในการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน

          ทั้งการนั่งสมาธิและการวิ่งจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมา โดยสารที่ว่านี้ได้ชื่อว่าเป็นสารแห่งความสุข ที่จะช่วยให้คุณอารมณ์ดีมากขึ้น ดังนั้นหลังจากเหนื่อยกับวันแย่ ๆ มาทั้งวันแล้ว ลุกขึ้นมาวิ่งเรียกเหงื่อ เป็นการลดน้ำหนักกระชับหุ่นไปในตัว หรือนั่งสมาธิสงบจิตใจให้ผ่อนคลายซะหน่อย ก็น่าจะช่วยให้คุณคลายเครียดได้มากเลยล่ะ 


          3. ปรับปรุงระบบหมุนเวียนของเลือด
          เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายหนัก ๆ ช่วยให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงและสภาพผิวที่ดีขึ้นตามไปด้วย แค่ใครจะคิดล่ะว่า การนั่งสมาธิอยู่นิ่ง ๆ จะช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้นด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นทั้งการวิ่งและนั่งสมาธิจึงเป็นอีกวิธีดี ๆ ที่คุณควรทำเป็นประจำ เพื่อร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ

          4. ส่งผลต่อจักระในร่างกาย

          ทั้งนี้ จักระ คือศูนย์รวมพลังงานภายในร่างกายมนุษย์ที่มีอยู่ด้วยกัน 7 จุด ซึ่งการนั่งสมาธิหรือการวิ่งออกกำลังกาย จะไปกระตุ้นให้ร่างกายคลายจุดที่ปิดกั้นพลังงานเหล่านี้เอาไว้ ส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ สามารถทำงานได้ดีขึ้น มีสุขภาพที่แข็งแรง อีกทั้งยังทำให้คนป่วยทั้งหลายหายเป็นปกติได้เร็วขึ้นด้วยในเวลาเดียวกัน อ้อ...แต่ถึงยังไงก็ต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอด้วยล่ะ


          5. ลดความอ้วน
          อ๊ะ ๆ อย่าคิดนะว่าการนั่งสมาธิไม่เกี่ยวอะไรกับการลดความอ้วน เพราะการฝึกนั่งสมาธิมีผลกับการควบคุมน้ำหนักด้วยเหมือนกัน โดยว่ากันว่าการฝึกควบคุมหายใจผ่านการนั่งสมาธิ จะทำให้มีรูปร่างที่ดีขึ้นตามไปด้วย แถมวิธีกำหนดลมหายใจเข้าออกก่อนทานอาหาร ยังช่วยให้เราทานช้าลง จนทานน้อยกว่าเดิมอีกต่างหาก ส่วนเรื่องวิ่งลดน้ำหนักเนี่ย ใคร ๆ ก็รู้อยู่แล้วว่ามันช่วยเผาผลาญพลังงาน หลังจากที่เราเพิ่งกินมื้อใหญ่เข้าไปได้ดีขนาดไหน

          เชื่อหรือยังล่ะว่าการวิ่งและนั่งสมาธินั้นให้ประโยชน์ที่คล้ายกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แถมยังส่งผลดีต่อร่างกายของเราด้วยอีกต่างหาก ดังนั้นควรทำเป็นประจำทุกวันเพื่อจิตใจที่ปลอดโปร่งมากขึ้น รวมทั้งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงด้วยนะครับ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม