VRZO

"รายการVRZO" คือรายการที่จะไปขอความคิดเห็นของเพศตรงกันข้ามที่ดูดี100คน ซึ่งจะเป็นเพศ





อะไรก็ขึ้นอยู่กับหัวข้อของแต่ละตอน







"VRZO" อีกบทบาทหนึ่งในทีวีออนไลน์ "สุรบถ หลีกภัย"


ปลื้ม "สุรบถ หลีกภัย" บัดนี้เติบโตเป็นหนุ่มวัย 23 ปี หน้าตาหล่อเหลา เรียนจบคณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครองมหาวิทยาลัยรามคำแหง

มีตำแหน่งเป็นรองโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งทำงานในเก้าอี้นี้มาเกือบครึ่งปีแล้ว และยังทำกิจกรรมอีกหลายอย่างที่น่าสนใจมากทีเดียว

ล่าสุดที่เจ้าตัวภูมิใจนำเสนอคือ การทำทีวีออนไลน์ที่เขาลงทุนเป็นพิธีกรและครีเอทีฟเอง โดยทำร่วมกับกลุ่มเพื่อนอีก 4-5 คน ในส่วนของพิธีกรหญิงนั้น ช่วงแรกนี้เป็น ม.ร.ว.หญิง แม้นมาส ยุคล

"เราอยากมาทำกระแสทีวีออนไลน์ครับเพราะมันกำลังมาแรงแล้วก็น่าสนใจ"

หนุ่มปลื้มเล่าว่า มาทำทีวีออนไลน์ได้ไม่นาน โดยเพิ่งนำเสนอเป็นตอนแรก ผ่านทางยูทูป ใช้ชื่อรายการ "vrzo" ถ้าแปลง่าย ๆ แปลว่าพวกเราเยอะเลยมาเป็นคอนเซ็ปต์ของรายการ นอกจากนี้ ยังใช้เป็นแบรนด์เสื้อยืดและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะวางขายในเร็วๆ นี้อีกด้วย เป็นรายการขอสัมภาษณ์คนดูดี 100 คน แต่คนดูดีในที่นี้ไม่ใช่จะถามเฉพาะแต่คนที่หล่อที่สวยเท่านั้น จะถามคนที่มีบุคคลิกดีแล้วจะขอความคิดเห็นใน 1 หัวข้อ ซึ่งในแต่ละตอนจะเลือกหัวข้อที่วัยรุ่นสนใจ

"ตอนแรกที่ทำลงอินเตอร์เน็ตไปอาจจะแรงหน่อย ใช้ชื่อหัวข้อรูปลับ มาจากปัญหาที่กำลังพยายามรณรงค์กันว่าอย่าถ่ายรูปกับแฟนเรา เพราะจะมีปัญหาเรื่องรูปหลุด โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นชอบถ่ายรูปกับแฟนแล้วรูปหลุดลงอินเตอร์เน็ต เลยรู้สึกว่าอยากจะทำไกด์ออกมาว่าคนอื่นเขาคิดอย่างไรทำไมถึงถ่ายรูปลับ เราก็ไปสัมภาษณ์คุณผู้หญิง 100 คน ว่าถ้าแฟนขอถ่ายจริงๆ จะให้ถ่ายไหม แล้วเอาผลโหวตมารวมกันว่ามีกี่คนที่ให้ถ่ายกี่คนที่ไม่ให้ถ่าย ผลโหวตบออกมา 29 : 71 คือ 71 คนไม่ให้ถ่าย แปลว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการถ่ายรูปเราก็เอามาเป็นไกด์ให้กับเด็กได้ว่ามันไม่ดี คนส่วนใหญ่ไม่ถ่ายกัน"

แม้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาของวัยรุ่นยุคนี้ แต่ "ปลื้ม" ย้ำว่า "ไม่ได้ทำออกมาซีเรียสเหมือนเป็นโพลโหวต เป็นรายการดูสบาย ๆ ดูความคิดเห็นคนอื่นด้วยแล้วก็เป็นตลกด้วย คือพยายามใส่อะไรให้เด็กเขาสนใจ ตอนนี้กำลังถ่ายตอน 2 กับตอน 3 คาดว่าจะฉายลงยูทูปได้เร็วๆ นี้"

ความที่เนื้อหารายการมีอะไรที่น่าสนใจและมีความแปลกใหม่ ดังนั้น แม้จะเพิ่งออกฉายได้ไม่นาน ปรากฏว่าช่วงแค่ 2 สัปดาห์มีผู้เข้าชมมากถึง 80,000 กว่าคนแล้ว โดยมีแบรนด์เถ้าแก่น้อย กับเอ็มเคสุกี้ เป็นสปอนเซ่อร์รายใหญ่



ปลื้มบอกว่าทีวีออนไลน์มีจุดเด่นตรงที่เปิดซ้ำได้อีก แตกต่างจากทีวีทั่วไปที่ฉายได้ครั้งเดียว "ถ้าคนสนใจก็เข้าไปดูในเว็บแฟนเพจ ในเฟซบุคชื่อ"vrzoclub งานที่ทำตอนนี้เราอยากเป็นไกด์ให้กับเด็ก เพราะเวลาผมและทีมงานเล่นอินเตอร์เน็ตจะเห็นพวกเว็บบอร์ดที่ชอบตั้งหัวข้อคาใจเด็ก สมมติผมทำเรื่องรูปลับก็จะมีเด็กมาตั้งเป็นหัวข้อในกระทู้ในเว็บบอร์ดว่า แฟนขอถ่ายรูปลับ จะให้ถ่ายดีไหม ผมรู้สึกว่าคนที่มาตอบสักแต่ตอบ บางอันก็ไม่ควรที่จะตอบเด็ก บางคำตอบคนอื่นมาอ่านก็ไม่ใช่คำตอบที่ดี ผมเลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่ พอเด็กอ่านเด็กจะเกิดอาการที่เรียกว่าเชื่อทั้ง ๆ ที่คนที่มาตอบเป็นใครก็ไม่รู้ แล้วเชื่อได้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้ เราเลยอยากเป็นไกด์ให้กับเด็กว่าอันนี้คนส่วนใหญ่คิดกันอย่างนี้ คนตอบหน้าตาอย่างนี้" 

กับคำถามที่ว่า ได้ปรึกษาหารือคุณพ่อ"ชวน หลีกภัย" เกี่ยวกับการทำ ทีวีออนไลน์หรือเปล่า

"ปลื้ม"แจงว่า "คุณพ่อก็บอกว่าดี แต่ไม่ได้ขอคำแนะนำอะไร การขอคำแนะนำจากคุณพ่อส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตเรื่องของการเมืองแบบนั้นมากกว่า"

ปลื้มสาธยายสิ่งที่ได้จากผู้เป็นพ่อว่า "ส่วนใหญ่ปลื้มได้รับคำแนะนำดี ๆ จากคุณพ่อมาตั้งแต่เด็กไปจนหมดแล้ว ชีวิตทุกวันนี้เป็นการนำเอาคำสอนของคุณพ่อนำมาใช้ ไม่ใช่เวลาจะทำอะไรแล้วต้องไปคอยมาถามคุณพ่อ เพราะคุณพ่อจะไม่ใช่คนที่สอนว่าถ้าเดินหมากตัวนี้แล้วต้องไปทำอย่างนี้ ต้องถอน ต้องบุก ต้องไปถามคนนี้ คุณพ่อไม่ใช่คนที่สอนอะไรแบบนั้น จะสอนหลักคุณธรรม หลักของสิ่งที่มนุษย์เราควรทำ หลักของสิ่งที่คนไทยควรจะทำ เมื่อเราฟังแล้วนำมาประยุกต์ก็สามารถนำไปใช้กับทุกอย่างได้ นอกจากนี้คุณพ่อยังบอกว่าชีวิตเราเกิดมาเพื่อเรียนรู้ ไม่ใช่เรียนในห้องเรียน ต้องเรียนรู้ทุกอย่างรอบๆ ตัวเรา และต้องศึกษาเรื่องต่างๆให้รู้อย่างถ่องแท้"

ทุกวันนี้แม้คุณพ่อ "ชวน หลีกภัย" จะไม่ได้มีตำแหน่งบริหารกิจการบ้านเมือง แต่บารมีของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ก็ยังมีอยู่ ซึ่งลูกชายอย่าง"ปลื้ม" ก็รู้ดีว่ามีบางคนต้องการใช้ประโยชน์ตรงนี้

"คนรอบตัวคุณพ่อก็มีอยู่หลายคนที่ปลื้มพยายามกันออก ที่ไม่อยากให้มายุ่ง ดูแล้วนักการเมืองมีหลายรูปแบบหรืออาจจะไม่ใช่นักการเมืองแต่อาจจะเป็นนักธุรกิจก็ได้ แต่ถ้าเกิดเขามาอยู่ใกล้กับเรามากๆ แล้วเขามาหาผลประโยชน์อย่างชัดเจนเราก็ไม่ควรยุ่งกับเขา ปลื้มก็พยายามดูๆ คนรอบตัวคุณพ่อครับก็มีอยู่หลายคนที่ปลื้มรู้สึกว่าจะทำให้ทั้งตัวพรรคและตัวคุณพ่อเองเสียหาย"

"อันนี้มันคือโลกของการเมือง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนักธุรกิจที่เข้ามาหวังจะเป็นน้ำเลี้ยงหวังจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ แล้วเราจะไปรู้ได้อย่างไร บางครั้งเขาอาจจะค้าไม้เถื่อนก็ได้ เขาอาจจะทำอะไรที่เป็นผลเสียต่อคุณพ่อปลื้ม คือยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าเวลาเราจะดูอะไร เราต้องดูที่จุดหลักของคนนั้น อย่างถ้าจะดู นายชวน หลีกภัย คุณต้องดูจุดหลักของ นายชวน หลีกภัย ว่าเขาทำอะไรบ้าง เขาเป็นอย่างไร เขานิสัยอย่างไร จะมาดูคนรอบตัวเขาอย่างเดียวก็ไม่ถูก"

ปลื้มพูดถึงนิสัยการทำงานของตัวเองว่า "จะทำอะไรแบบให้ถึงที่สุด ไม่ใช่คนเหลาะแหละ เช่น ผมจะทำทีวีออนไลน์ผมก็ต้องทำให้มันดี ต้องให้มันถึงที่สุด ตอนเด็กๆ ผมอยากเป็นสัตวแพทย์ ผมก็ศึกษาสัตว์ทุกอย่างให้ถ่องแท้ ดังนั้น ถ้าถามว่าปลื้มอยากทำอะไรปลื้มอยากทำเยอะมาก ตั้งแต่เป็นนักการเมืองจนถึงธุรกิจ หรืออะไรก็ตาม แต่ปลื้มเป็นคนชอบศึกษางาน"

"เหมือนช่วงหนึ่งปลื้มชอบเรื่องไร่น่า ก็ไปนอนค้างบ้านเพื่อนที่เป็นชาวนา ไปอยู่กับเขาเป็นเดือน ไปอยู่กับเขา นอนกับเขา ตื่นพร้อมเขา ศึกษาว่าเขาดำนา ใช้ควาย จูงควายกันอย่างไร"



ในฐานะเป็นรองโฆษกพระทรวงวัฒนธรรม ปลื้มบอกว่า "อยากเปลี่ยนค่านิยมที่คนมองกระทรวงวัฒนธรรมว่าเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปี ล้าสมัย ผมอยากให้เป็นอะไรที่ร่วมสมัย ผมได้รับความเมตตาจากท่านรัฐมนตรี นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ท่านรับฟังความคิดเห็นของผม การที่ผมอยากมาอยู่ที่กระทรวงนี้ เพราะรู้สึกว่าประเทศของเรามีปัญหาเรื่องค่านิยม เรามักจะรับค่านิยมมาจากประเทศอื่นเยอะเกินไป รับมาได้ถ้าเป็นเรื่องที่ดี"

"อย่างตอนนี้ เด็กวัยรุ่นบ้าเกาหลีกันมาก อะไรก็เกาหลี เกาหลี เราเห็นผู้ชายหน้าเกาหลีมา...คนนี้หล่อ เราเห็นผู้ชายหน้าไทยมา คนนี้...อี้ ผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร เหมือนอย่างผม ทำทรงผมอย่างนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว ผมแสกข้างมาเป็น 10 ปีแล้ว พอผมออกข่าวกลายเป็นว่าปลื้มทำผมเกาหลี นี่คือปัญหา เรารับของเขามาเยอะไป จนมองว่าอะไรรอบๆ ตัวเรากลายเป็นเกาหลี เกาหลี เกาหลี"

"ผมเลยมองว่าเราควรจะมีค่าความเจ๋งของเรา เหมือนคนไทยเรามีของเจ๋งๆ เยอะ ซุบที่อร่อยที่สุดในโลกก็อยู่ในไทยเรา คือต้มยำกุ้ง ศิลปะป้องกันตัวที่ใช้ได้จริง และดีที่สุดในโลกก็คือมวยไทย ประเทศเรามีของดีสุดยอดในโลกอยู่ในไทยเราเยอะมาก พรีเมี่ยมของเรามีเยอะและเจ๋งมากอยู่แล้ว แต่เราไม่ค่อยสนใจกันเอง"

"ผมอยากเปลี่ยนค่านิยมอันนี้ แต่ไม่ใช่ว่าผมมาอยู่กระทรวงวัฒนธรรม ผมจะต้องทำทุกอย่างให้ไทยจ๋า ไม่ครับ เราต้องทำให้ร่วมสมัย เพราะเราอยู่ในโลกที่ทุกอย่างเชื่อมกันหมดด้วยอินเตอร์เน็ต"

การเลือกมาอยู่กระทรวงวัฒนธรรมนั้น ปลื้มยืนยันว่า เป็นความต้องการของตัวเอง

"เหมือนเป็นความโชคดีของปลื้มที่เป็นลูกคุณพ่อ เลยมีโอกาสได้มาทำงานในสิ่งที่ผมคิดว่าอยากจะเข้ามาทำอะไรบ้าง ส่วนที่ใครวิจารณ์ว่าใช้เส้นนั้น ผมไม่ซีเรียสเพราะผมอยากมาทำเองและค่อนข้างมั่นใจว่ามันน่าจะมีประโยชน์ต่อสังคมบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ใช่ว่าผมเข้ามาแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเลย"

หลายคนอาจจะมองว่าการเข้ามาทำงานการเมือง ในฐานะที่มีคุณพ่อที่มีประสบการณ์การเมืองมาอย่างยาวนานและเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คงจะแนะนำอะไรบ้าง ประเด็นนี้ "ปลื้ม" ตอบชัดถ้อยชัดคำ

"คุณพ่อไม่ได้บอกว่าถ้ามานั่งในตำแหน่งนี้แล้วต้องทำอะไรเพราะคุณพ่อสอนสอนในหลักการในสิ่งที่คนในสังคมควรจะเป็น คือการเป็นคนดี การมีหลักคุณธรรม คุณพ่อสอนว่าถ้าเราอยู่ใน 3 ข้อได้ทุกอย่างจะดีหมด คือ 1. อยู่ภายใต้กฎหมาย 2. มีหลักคุณธรรม 3. ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร"

"หากมี 3 ข้อนี้ทุกอย่างเราสามารถแปรมาใช้ได้หมด"



"ในกรณีที่รัก"

"ปลื้ม"ชิมลาง"ละครเวที"

และ บทบาท"ผู้เก็บศพ"

อย่างที่เกริ่นไว้แต่ต้น หนุ่มปลื้มทำกิจกรรมน่าสนใจหลายอย่าง โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เขาได้ร่วมกับนิสิตจุฬาฯ เล่นละครเวทีเรื่อง "ในกรณีที่รัก" ซึ่งจะเล่นที่ทองหล่อซอย 10 เป็นละครเกี่ยวกับความรักของวัยรุ่นในแต่ละกรณี

"ผมเล่นเป็นเด็กเป๋อๆ เป็นเด็กเรียนหนังสือแต่ขี้อาย จะเล่นรับวันวาเลนไทน์ เพื่อจะเป็นข้อเสนอแนะให้วัยรุ่นว่าความรักมันไม่ใช่ทุกสิ่ง ความรักมีหลายรูปแบบ เราควรจะใช้ความรักให้ถูกรูปแบบและไม่ให้มันเกินไป นี่คือสิ่งที่ละครเราอยากจะเสนอ"

ส่วนที่หนุ่มปลื้มไปเป็นอาสาสมัครปอเต็กตึ๊งมาได้ 2 ปีแล้ว เขาถ่ายทอดประสบการณ์นี้ให้ฟังว่า "ผมไม่ได้รู้สึกอะไรไม่กลัวตั้งแต่เก็บศพแรกนี่ก็ทำมา 2 ปีแล้ว ผมเป็นคนไม่กลัวเลือด ไม่กลัวศพ ไม่กลัวเครื่องใน ผมรู้สึกสงสาร ผมสงสารเพราะคนอื่นกลัว ผมไม่ชอบท่าทางเวลามีคนมามุงดูแล้วทำท่ารังเกียจ ผมรู้สึกว่าทำไมต้องรังเกียจในเมื่อคนๆนี้ก่อนหน้านี้ไม่กี่วินาทีเขาเป็นคนอยู่เขายังมีชีวิตอยู่ เขายังไม่ใช่ซากก้อนเนื้อ ผมรู้สึกว่าการที่เราจะไปรังเกียจเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรเพราะเขาก็ยังมีคนรักอยู่ ยังมีภรรยามีลูกมีคนที่เป็นห่วง เวลาผมทำงานผมอยากจะรวบรวมทุกอย่างที่เป็นเขากลับมารวบรวมไปส่งให้ครอบครัวของเขาเพื่อให้ครอบครัวของเขาได้เห็นเขาอีกครั้งหนึ่ง" 

"ผมจะรู้สึกมากในกรณีที่คนที่ตายด้วยอุบัติเหตุ มันจะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างดีว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและเราจะตายได้โดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น เราจะต้องอยู่ในความไม่ประมาท ผมเก็บศพมาเยอะครับ ส่วนใหญ่ผมจะเก็บแถวบ้าน ผมไม่ได้ไปทำทุกวันเอาเฉพาะวันที่ว่าง หรือวันที่บังเอิญผมอยู่แถวนั้นแล้วเขาแจ้งมาว่ามีศพผมก็จะไป"

แล้วก็มาถึงคำถามที่สาวๆ อยากรู้ว่าหนุ่มหล่อลูกนักการเมืองผู้นี้ มีหวานใจหรือยัง

"ผมไม่รีบจะมีแฟนครับ ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผมชอบคนดี ผมเชื่อว่าการที่เราอยู่กับคนดีนี่เราไม่เสียใจและไม่เป็นทุกข์แน่นอนเพราะว่าเขาเป็นคนดี เขาก็จะทำดีกับรอบๆ ตัวเขาและเขาทำดีกับเรา ซึ่งคิดว่าจะมีผู้หญิงแบบนี้อยู่"

"แต่ ณ วันนี้ผมยังไม่มีใคร"


จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สุรบถ หลีกภัย (ชื่อเล่น: ปลื้ม) เกิดวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2530 (24 ปี) เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ของไทย และนางภักดิพร สุจริตกุล

ประวัติ

[แก้]การศึกษา

นายสุรบถ หลีกภัย จบการศึกษาจากโรงเรียนพร้าววิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่ ระดับปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง นายสุรบถ เป็นที่รู้จักของสังคมมาตั้งแต่ยังเล็ก เนื่องจากเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยมักนิยมเรียกติดปากว่า น้องปลื้ม โดยชื่อ "สุรบถ" นั้น แปลว่า ท้องฟ้า เป็นชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เนื่องจากนางภักดิพร ผู้เป็นมารดาได้ขอพระราชทานจากพระองค์ท่าน ในฐานะที่ทรงเป็นพระสหายร่วมชั้นเรียนมาด้วยกันในโรงเรียนจิตรลดา

[แก้]ชีวิตส่วนตัว

ชีวิตส่วนตัว ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสัตว์เลื้อยคลาน เช่น งู หรือ เต่า และยังนิยมเล่นกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างเจ็ทสกีร่วมกับนาคร ศิลาชัย บางครั้งสุรบถจะปรากฏตัว พร้อมกับรถสปอร์ตคันงาม ตามสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรี แต่ไม่เคยพบว่า มีเรื่องราวที่เป็นข่าวเสื่อมเสียไปถึงบิดาเลย อีกทั้งได้เป็นผู้ดำเนินรายการ VRZO อีกด้วย

[แก้]บทบาททางการเมือง

มักปรากฏข่าวคราวอยู่เป็นระยะๆ ถึงการให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ในฐานะที่เป็นบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับคำวิจารณ์ว่าเสนอความคิดเห็นได้เฉียบแหลม จนได้รับฉายาว่า"ใบมีดโกนน้อย"[1] คู่เคียงกับฉายา "ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง" ซึ่งเป็นฉายาของนายชวน ผู้เป็นบิดา ในระยะหลัง มักปรากฏเป็นข่าวในวงการบันเทิง กับดาราสาวหรือบุตรสาวของบุคคลในสังคมชั้นสูงหลายคน เช่น หม่อมราชวงศ์แม้นนฤมาส ยุคล[2]
นายสุรบถ หลีกภัย เคยช่วยบิดาหาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์อย่างสม่ำเสมอ ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 กระทรวงวัฒนธรรม ได้แต่งตั้งให้นายสุรบถ ทำหน้าที่ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม[3]


[19 มีนาคม] หวานจริ๊ง ปลื้ม โพสต์บอก ทับทิม อยากแก่ตายไปพร้อมกับเธอ






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ทับทิม, Instagram vrzoclub


          กลับมารักกันหวานชื่นอีกครั้ง สำหรับคู่รักพิธีกร VRZO อย่าง "ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ คุณชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี กับสาวน้อยหน้าหวานอย่าง "ทับทิม มัลลิกา จงวัฒนา" แฟนสาวสุดเลิฟ ที่ก่อนหน้านี้ สาวทับทิมได้โพสต์ตัดพ้อต่อว่าที่หนุ่มปลื้มไม่ยืนยันการันตีสักทีว่า เธอนั้นอยู่ในสถานะอะไร จนประกาศก้องเปลี่ยนสถานะใหม่เป็นโสดสนิท!  แถมระยะหลังรายการ  VRZO ก็เอาสาวน้อย ดาร์ลิ่ง วงชูการ์อายส์ มารับหน้าที่เป็นพิธีกรแทน เอ้า! งานนี้หลายคนจึงอยากรู้ว่า ตอนนี้สาวทับทิม กับหนุ่มปลื้ม อยู่ในสถานะไหน เป็นเพื่อน เป็นแฟน หรือเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น

         และล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (18 กุมภาพันธ์) หนุ่มปลื้มก็ทำให้เฟรนด์ลิสต์ในเฟซบุ๊กต้องอิจฉาตาร้อน เพราะจู่ ๆ หนุ่มปลื้มก็โพสต์ข้อความหวานเจี๊ยบถึงสาวทับทิมว่า...

           "ผมเบื่อแล้วกับการต้อง"ทำหน้าแหะ ๆ "เวลาเจอคำถามที่ว่า "ปลื้มกับทับทิมเป็นแฟนกันรึเปล่า?"

            ผมเป็นคนขี้อายและไม่ใช่คนโรแมนติก ก่อนหน้านี้ผมอายที่จะตอบเพราะด้วยความคิดโง่ ๆ หลายอย่างเลยพยายามบิด ๆ ดิ้น ๆ ไปเวลาเจอคำถามนี้ "ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเลยสำหรับลูกผู้ชาย"เอาเป็นว่าในใจผมนั้น "รักผู้หญิงคนนี้มาก" และ "ผมจะไม่อายแล้ว" เพราะผมคิดว่าหากเราเป็นลูกผู้ชายที่มีผู้หญิงอันเป็นที่รักอยู่ในใจแล้ว...

           เราควรจะกล้าที่จะประกาศให้ทุกคนรู้ว่า "เรารักผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหนอย่างตรงไปตรงมา" โดยไม่ต้องมาเขินอายหรือแคร์สายตาคนรอบข้าง... เพราะ "นั่นคือสิ่งที่ผู้ชายจะทำได้เพื่อให้เกียรติสตรีที่เรารัก" แต่ด้วยความโง่ของผมทำให้พลาดมาหลายอย่างและหลายเรื่อง จนวันนี้เค้าเย็นชาใส่ผมเสียแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าถ้ามาคิดได้ตอนนี้มันคงจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง....."คุณผู้ชายที่มีแฟนต้องรักแฟนให้มาก ๆ อย่าให้เป็นเหมือนผมนะครับ^^"

           ขอโทษนะที่รักที่โง่ซ้ำ ๆ และโง่ออกทะเลไปไกลจนเพิ่งวนกลับมาคิดได้ตอนนี้.... "ฉันรักเธอและอยากแก่ตายไปพร้อมกับเธอนะ TubTim♥"

            เอ้า! หนุ่มปลื้มประกาศสถานะแถมบอกรักก้องโลกไซเบอร์ขนาดนี้... สาวทับทิมจะใจอ่อนหรือเปล่าต้องคอยดูกัน! เพราะเธอโพสต์ตอบหนุ่มปลื้มไปว่า "ขอบคุณสำหรับทฤษฏีค่ะ รอดูภาคปฏิบัติ :) " ... ถ้ารักกันจริงหนุ่มปลื้มก็ต้องสู้พิสูจน์ตัวเองให้ได้นะจ๊ะ




สวีทอีกแล้ว ทับทิม โพสต์ตอบ ปลื้ม รักเหมือนกัน






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ทับทิม, Instagram vrzoclub

         บอกรักหวานผ่านสื่ออีกแล้ว! สำหรับคู่รักพิธีกรอย่าง ทัมทิม มัลลิกา จงวัฒนา หรือ ทับทิม VRZO กับ ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย ที่คืนก่อน (18 มีนาคม) หนุ่มปลื้มก็ได้โพสต์หวานบอกความในใจ ยืนยันสถานะว่า เป็นแฟนทับทิมอย่างเป็นทางการ แถมยังบอกด้วยว่า อยากแก่ตายไปพร้อมกับเธอ ซึ่งก่อนหน้านี้ สาวทับทิมได้โพสต์ถอดใจจากหนุ่มปลื้มว่าอยู่ในสถานะโสด เนื่องจากยังคลุมเครือในความสัมพันธ์ อีกทั้งหนุ่มปลื้มก็ไม่การันตีชี้ชัดว่า ตกลงเราเป็นอะไรกันสักที!

        ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (19 มีนาคม) สาวทับทิม ก็ได้ตอบความในใจ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว TubTim Mallika ว่า ...


         "ครั้งหนึ่ง.. เคยเห็นน้ำตาที่ปริ่มด้วยความปีติดีใจบนใบหน้าของน้องผู้หญิง ตอนที่ได้กอดน้องหลังถ่ายรูปร่วมกัน :')
          ครั้งหนึ่ง.. เคยใช้เวลาหลายนาทีให้พี่ทอมคนหนึ่งถ่ายรูปซ้ำไป ซ้ำมา เพราะมือสั่นจนถ่ายเบลอทุกรูป :')

          ครั้งหนึ่ง.. เคยมีพี่ผู้หญิง กดไอโฟนโทร facetime บอกแฟนหนุ่มของเธอที่อยู่ต่างประเทศ ว่าวันนี้ได้เจอทับทิมแล้วนะ..แล้วหันมาบอกเราว่า..แฟนพี่เป็นแฟน(คลับ)น้อง :')

          ครั้งหนึ่ง.. เคยมีผู้ชายคนหนึ่ง ทำให้เหตุการณ์ดีๆที่กล่าวมาทั้งหมดเกิดขึ้นได้..เพราะเขาดึงเราเข้ามาร่วมสร้างอะไรดีๆด้วยกัน..

         ทับทิมก็รักพี่ปลื้มนะคะ..ดูแลทับทิมดี ๆ นะ.. เพราะทับทิมไม่มีกิ๊กที่จะมาดูแลเทคแคร์ทับทิมแทนพี่ปลื้มนะ.. :')"

         หูยยย.. หวานซะ!! ยังไงก็ขอให้น้องทับทิม กับหนุ่มปลื้ม รักกันดี ๆ รักกันนาน ๆ ละกันนะจ๊ะ ^ ^


Credit : vrzoclub.com,

VRZO | Facebook,http://www.youtube.com/user/VRZOCLUB,matichon.co.th,http://th.wikipedia.org


เรียบเรียง : Ruengdd.com,เรื่องดีดี.com