ข่าวเด่น 2556 ย้อนดูเมืองไทยในรอบปี มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง



 หนึ่งปีกำลังจะผ่านไปอีกแล้ว ถ้าลองนึกย้อนกลับไปตั้งแต่เดือนมกราคม จะเห็นว่าข่าวสารต่าง ๆ ไม่เคยเงียบเหงาเลย เพราะแต่ละเดือนก็มีหลากหลายเรื่องราวปรากฏขึ้นเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ทั้งในภาคการเมือง สังคม อาชญากรรม กีฬา หรือแม้กระทั่งในวงการบันเทิงที่เป็นประเด็นใหญ่ในสังคมอยู่เหมือนกัน และเพื่อเป็นการส่งท้ายปีมะเส็ง เลยขอพาเพื่อน ๆ ย้อนไปดู 20 ข่าวเด่นที่เป็นประเด็นร้อนแห่งปี 2556 ลองกลับไปทวนความจำพร้อม ๆ กันอีกครั้ง...

 เดือนมกราคม

 เหนือเมฆ 2 ถูกอุ้มกลางอากาศ คนวิพากษ์ เซ่นพิษการเมือง?!

เหนือเมฆ 2 ถูกอุ้มกลางอากาศ คนวิพากษ์ เซ่นพิษการเมือง?!
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram mark_prin

          เปิดศักราชใหม่มาได้ไม่กี่วัน ก็เกิดประเด็นฮอตที่เหมือนจะพัวพันกับการเมืองให้เป็นข่าวเสียแล้ว เมื่อในวันที่ 3 มกราคม 2556 ได้เกิดข่าวลือสะพัดโลกไซเบอร์ว่า ละครเรื่องเหนือเมฆ 2 ตอนมือปราบจอมขมังเวทย์ ที่ออกอากาศทางช่อง 3 จะถูกตัดจบในวันศุกร์ที่ 4 มกราคม เนื่องจากมีเนื้อเรื่องพัวพันกับนักการเมืองและโจมตีรัฐบาล ทำเอาคนเช็กข่าวกันวุ่น ก่อนที่ทางนักแสดงและผู้จัดละครก็ออกมายอมรับว่า ละครจะถูกตัดให้อวสานในวันที่ 4 มกราคมนี้จริง 

          แต่แล้วก่อนที่ตอนจบของละครเหนือเมฆ 2 จะออกอากาศไม่กี่ชั่วโมง ทางช่อง 3 ก็ได้ขึ้นข้อความประกาศว่า ไม่สามารถออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 ได้ เนื่องจากพิจารณาพบว่าเนื้อหาบางตอนไม่เหมาะสม ก่อนจะเสนอละครเรื่องใหม่แทนทันที สร้างความงุนงงให้กับแฟนละครเป็นอย่างมาก และยิ่งเกิดกระแสกระพือหนักขึ้นในสังคม โดยส่วนใหญ่เข้าใจกันว่าเป็นเพราะมีคำสั่งของนักการเมืองเข้ามาแทรกแซงช่อง 3 แม้จะมีคนในรัฐบาลออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ดูเหมือนว่าชาวเน็ตก็ยังไม่เชื่อเท่าใดนักเลยพากันสืบค้นกันอย่างสนุกสนานว่าฉากไหนที่ไปแทงใจดำใครจนถูกแบนหรือเปล่า เรียกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้เหนือเมฆ 2 ดังทะลุจอกว่าเดิมอีกต่างหาก

เดือนกุมภาพันธ์ 

 ปฏิบัติการเดือดนาวิกโยธินซ้อนแผน จับตายโจรใต้ 16 ศพ

มะรอโซ จันทรวดี
มะรอโซ จันทรวดีขอขอบคุณภาพประกอบจาก  บ้านราชดำเนิน
          กลางดึกคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 ที่หลายคนนอนหลับใหลอยู่ แต่ทว่าในดินแดนด้ามขวานทองของไทยกลับเกิดเหตุการณ์ปะทะครั้งใหญ่ขึ้นที่ฐานทหารนาวิกโยธิน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อมีกลุ่มคนร้ายกว่า 50 คน บุกจู่โจมฐานทหารหวังสังหารเจ้าหน้าที่ และเกิดการเปิดฉากยิงปะทะกันอย่างดุเดือด และหลังสิ้นเสียงปืน แทบไม่น่าเชื่อว่า คนร้ายถูกวิสามัญไปถึง 16 ศพ ในจำนวนนั้นมีหลายคนเป็นแกนนำอาร์เคเค รวมทั้ง นายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำคนสำคัญที่ก่อคดีความมั่นคงหลายคดี ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่เกิดความสูญเสียแม้แต่นายเดียว

          เมื่อล้วงลึกถึงเบื้องหลังถึงได้ทราบว่า เจ้าหน้าที่ทราบข่าวล่วงหน้าแล้วว่าตกเป้าหมายการโจมตี จึงได้ซ้อนแผนเตรียมกำลังป้องกันไว้ล่วงหน้าอยู่หลายคืน กระทั่งกลุ่มคนร้ายบุกจู่โจมฐานทหารตามข่าวกรองที่ได้รับมาจริง ๆ จนเกิดเป็นเหตุการณ์การปะทะเดือดที่รุนแรงและปลิดชีพคนร้ายได้มากที่สุดในครั้งเดียว 

 เดือนมีนาคม

 ตอบโจทย์ เปิดประเด็นดีเบตแรง ตัดสินใจแบนตอนสุดท้าย

นานาทรรศนะ...ดีเบตสถาบันกษัตริย์ จากรายการตอบโจทย์
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  เฟซบุ๊ก ตอบโจทย์ประเทศไทย
          ข่าวที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงเดือนมีนาคม เห็นทีจะหนีไม่พ้นการที่รายการตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส หยิบประเด็นเรื่อง "สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ระบบรัฐธรรมนูญ" มาให้บุคคลหลายฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นเชิงวิชาการตลอด 1 สัปดาห์เต็ม แต่ออกอากาศไปได้เพียงตอนแรกก็เริ่มเป็นประเด็นให้สังคมถกเถียงกันในวงกว้างแล้วถึงความเหมาะสมของเนื้อหาที่หยิบยกขึ้นมา

          ก่อนจะยิ่งถูกพูดถึงกันมากขึ้น เมื่อในเทปวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม รายการได้เชิญ อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ มาดีเบตกัน ซึ่งคนดูส่วนใหญ่มองว่าเนื้อหาบางส่วนค่อนข้างล่อแหลม และไม่เห็นด้วยกับการออกอากาศในประเด็นนี้ จนมีการยื่นเรื่องร้องเรียนไปจนประท้วงสถานีไทยพีบีเอส กระทั่งในที่สุดแล้ว ทางไทยพีบีเอสก็ตัดสินใจไม่ออกอากาศเทปการดีเบตต่อในคืนวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม โดยให้เหตุผลว่า "เนื่องจากมีการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาก อาจจะสร้างความขัดแย้งในสังคมได้" 

          อย่างไรก็ตาม จากการที่ไทยพีบีเอสสั่งงดออกอากาศรายการตอบโจทย์ในคืนวันศุกร์ ก็ทำให้ นายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ ประกาศยุติการทำรายการตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เพราะเห็นว่าไม่สามารถตอบโจทย์ได้ว่า สื่อมวลชนยังมีเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครองอยู่ในรัฐธรรมนูญได้จริงหรือ และเชื่อว่ามีผู้เข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้ แม้ทางสถานีจะยืนยันว่าไม่มีหน่วยงานใดมาบังคับหรือร้องขอให้งดการออกอากาศก็ตาม

 เดือนเมษายน

   มหากาพย์เขาพระวิหาร ปมปัญหาเขตแดนที่ต้องพึ่งศาลโลก (อีกครั้ง)

มหากาพย์เขาพระวิหาร ปมปัญหาเขตแดนที่ต้องพึ่งศาลโลก (อีกครั้ง)

          ข้อพิพาทเรื่องเขตแดนเป็นปัญหาเรื้อรังระหว่างไทย-กัมพูชามานานกว่าครึ่งศตวรรษ และในที่สุดเรื่องนี้ก็ถูกนำขึ้นสู่เวทีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลกอีกครั้ง ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2556 เมื่อฝ่ายไทย-กัมพูชา ต้องให้ถ้อยแถลงต่อศาลโลก โดย นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมทนาย ได้ยกเรื่องที่ศาลโลกไม่มีอำนาจในการตัดสินเรื่องพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเข้าสู้กัมพูชา พร้อมกับระบุว่าที่ผ่านมากัมพูชาไม่เคยประท้วงเรื่องพื้นที่ตรงนี้เลย เท่ากับว่ายอมรับพื้นที่ข้อพิพาทไปตั้งแต่ศาลโลกตัดสินเมื่อปี 2505 แล้ว

          การขึ้นศาลโลกในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากคนไทยจำนวนไม่น้อยที่เฝ้าติดตามชมการถ่ายทอดสดส่งตรงจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ และรอลุ้นผลการตัดสินว่าจะออกไปข้างไหน กระทั่งในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 ศาลได้พิพากษาให้กัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร ตามคำตัดสินในปี 2505 ส่วนเรื่องเขตแดนที่เป็นปัญหากับไทยนั้น ให้ทั้งสองประเทศไปเจรจากันเองโดยมียูเนสโกเป็นตัวกลาง 


          อย่างไรก็ตาม คำพิพากษานี้ก็ทำให้หลายฝ่ายมองไม่ตรงกันว่า ไทยได้หรือเสียประโยชน์กันแน่ ก็คงต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายรัฐบาลที่จะเป็นผู้เจรจากับกัมพูชา ซึ่งต้องจับตาดูบทสรุปมหากาพย์เรื่องนี้กันอีกยาว


 เดือนมิถุนายน

 ฆาตกรรมปริศนา คดีอุ้มฆ่าเอกยุทธ อัญชันบุตร 

ฆาตกรรมปริศนา คดีอุ้มฆ่าเอกยุทธ อัญชันบุตร
นายเอกยุทธ อัญชันบุตร
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก เอกยุทธ อัญชันบุตร
          จากคดีการหายตัวไปอย่างปริศนาของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน กลับกลายเป็นคดีฆาตกรรมที่ดูซับซ้อนเต็มไปด้วยความน่าสงสัย เมื่อตำรวจสามารถจับกุมตัว นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ บอล คนขับรถส่วนตัวของนายเอกยุทธ ที่รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านายตัวเองเพื่อชิงเงิน 5 ล้านบาท และนำศพไปฝังที่จังหวัดพัทลุง ได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ก่อนจะสรุปว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ในเวลาอันรวดเร็ว

          แต่จากคำให้การที่ดูวกวน และการกระทำหลายอย่างของนายสันติภาพที่เหมือนมีการวางแผนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี ก็ทำให้คนที่ติดตามข่าวยังคงเคลือบแคลงสงสัยว่านายสันติภาพเป็นคนร้ายจริงหรือไม่ และอย่างที่รู้กันว่า นายเอกยุทธ เป็นบุคคลที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับฝ่ายการเมืองมานาน และมักชอบปูดข้อมูลลึก ๆ ของคนในรัฐบาลอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้คนอดคิดไปไม่ได้ แม้ทางเจ้าหน้าที่จะยืนยันว่าทำตามพยานหลักฐาน พร้อมกับขยายผลจับกุมผู้ร่วมกระบวนการได้เรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่า คดีนี้จะยังไม่จบง่าย ๆ เพราะในชั้นศาล นายสันติภาพและพวกได้กลับคำรับสารภาพ โดยปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่านายเอกยุทธ เป็นอย่างนี้แล้ว ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ผลสรุปของคดีนี้จะจบลงอย่างไร


  ปอกเปลือกหลวงปู่เณรคำ อรหันต์ลวงโลก

สมีคำ
หลวงปู่เณรคำ หรือสมีคำ
          วงการพระพุทธศาสนาถึงคราวต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อมีภาพพระชื่อดังในจังหวัดศรีสะเกษ นาม "หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก" นั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวส่งต่อกันว่อนโลกไซเบอร์ แต่เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อมีผู้ออกมาขุดคุ้ยอีกสารพัดเรื่อง ทั้งเรื่องทรัพย์สมบัติของหลวงปู่เณรคำที่มีซุกอยู่นับร้อยล้าน และเรื่องที่เป็นประเด็นใหญ่ก็คือ มีภาพพระที่เหมือนหลวงปู่เณรคำนอนอยู่กับสีกาหลุดออกมาซ้ำอีกระลอก

          เรื่องราวยิ่งอีรุงตุงนังมากขึ้น เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งออกมาแฉว่า ตนเองมีลูกชายอายุ 11 ปีกับหลวงปู่เณรคำ และตัวหลวงปู่เณรคำก็ยังมีภรรยาอีกหลายคน โดยได้ซื้อบ้านให้ภรรยาด้วย ประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสื่อมเสียให้กับพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ขณะที่ดีเอสไอก็เข้ามาตรวจสอบคดีฉ้อโกง แต่จนแล้วจนรอดหลวงปู่เณรคำก็ยังไม่ปรากฏตัว โดยยังคงหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ และบ่ายเบี่ยงที่จะเข้าชี้แจงอยู่เรื่อยมา ในที่สุดจึงมีคำสั่งให้สึก แต่ทางสมีคำ หรืออดีตพระวิรพล สุขผล ก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดี

          เวลาผ่านไปอีกหลายสัปดาห์ ตัวละครตัวใหม่ที่ชื่อ นายสุริ สุขผล น้องชายสมีคำ ก็ปรากฏตัวขึ้น ด้วยการอ้างว่า เด็กชายวัย 11 ขวบคนนั้นจริง ๆ คือลูกของตนเอง ส่วนคนในภาพที่นอนกับสีกานั้นก็คือตน ไม่ใช่สมีคำ ซึ่งแน่นอนว่า ฝ่ายหญิงปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมท้าให้ตรวจดีเอ็นเอ ขณะที่ชาวเน็ตได้นำภาพหลวงปู่เณรคำกับน้องชายมาเปรียบเทียบรูปหน้ากัน ก่อนจะฟันธงได้เลยว่าเป็นคนละคนแน่นอน และสุดท้ายผลดีเอ็นเอก็มัดตัวสมีคำว่าเป็นพ่อของเด็กอายุ 11 ปีจริง

          คดีของสมีคำนี้เป็นข่าวใหญ่ต่อเนื่องถึง 2 เดือน แต่ก็ยังไร้เงาของสมีคำกลับมาชี้แจงหรือมอบตัวที่เมืองไทย มีแต่เพียงข่าวลือว่า สมีคำได้ลาสิกขาและเตรียมขอสัญชาติอยู่สหรัฐอเมริกาแล้ว หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆ จึงทำให้คนในสังคมเชื่อกันว่า สมีคำคงรอดตัวอีกรายเฉกเช่นเดียวกับคดีของอดีตพระยันตระที่ตอนนี้ก็ยังคงดำรงสมณเพศอยู่ที่สหรัฐอเมริกา 


 คู่รักสะท้านศาสนา พระมิตซูโอะลาสิกขาไปใช้ชีวิตคู่

คู่รักสะท้านศาสนา พระมิตซูโอะลาสิกขาไปใช้ชีวิตคู่
อดีตพระมิตซูโอะ และ แอน สุทธิรัตน์ มุตตามระ 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Suttirat Muttamara

          อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ของวงการสงฆ์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันก็คือ เรื่องที่ หลวงพ่อมิตซูโอะ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดป่าสุนันทวนาราม จ.กาญจนบุรี อายุ 62 ปี ได้ลาสิกขาจากเพศบรรพชิต ทั้งที่อยู่ในร่มกาสาวพัตร์มานานกว่า 30 ปี ก่อนจะเดินทางกลับไปยังประเทศญี่ปุ่นทันที สร้างความตกใจให้กับลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อมิตซูโอะเป็นอย่างมาก ภายหลังทางวัดจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงว่าเป็นเพราะสุขภาพของท่านไม่ดี จึงไม่สามารถปฏิบัติกิจทางสงฆ์ได้ตามปกติ แต่ท่านก็ยังจะทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในเพศฆราวาสต่อไป

          อย่างไรก็ตาม เรื่องน่าจะจบลงเพียงเท่านี้ หากไม่มีภาพที่อดีตพระมิตซูโอะถ่ายคู่กับหญิงสาวปริศนาปรากฏออกมาจนมีการสืบสาวราวเรื่องจึงได้ทราบว่า พระมิตซูโอะได้จดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงในภาพ ซึ่งก็คือ แอน สุทธิรัตน์ มุตตามระ นักธุรกิจสาวไฮโซคนดัง อายุ 52 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับเปิดใจผ่านคลิปยืนยันว่า ท่านไม่เคยคิดจะแต่งงานมาก่อน กระทั่งได้เจอกับ แอน สุทธิรัตน์ จึงเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้คือเนื้อคู่และเป็นคู่บารมีของอาจารย์

          ความจริงที่ปรากฏขึ้นนี้ได้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยในสังคม โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่ถูกคนมองในแง่ลบกับความรักสุดลือลั่นสะท้านวงการศาสนา เวลาผ่านไปหลายเดือน อดีตพระมิตซูโอะ และแอน สุทธิรัตน์ ได้เดินทางกลับมาเมืองไทย จึงได้ตัดสินใจไปให้สัมภาษณ์ตามรายการต่าง ๆ เพื่อเคลียร์ข้อครหาทุกประเด็น ซึ่งถึงแม้จะยอมเปิดใจแล้ว แต่คนในสังคมก็ยังมีมุมมองที่แตกต่างกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้


เดือนกรกฎาคม 

  คอบอลฟิน ! 4 ทีมดังขนซุป'ตาร์ บินลัดฟ้ามาโชว์ฝีเท้า

คอบอลฟิน ! 4 ทีมดังขนซุป'ตาร์ บินลัดฟ้ามาโชว์ฝีเท้า
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก SinghaChelseaFCliverpoolthailand,

          แฟนบอลยุโรปได้เฮกันดัง ๆ ในปีนี้ เมื่อ 4 ทีมดังระดับโลก ทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูล และบาร์เซโลน่า พาเหรดกันมาอุ่นแข้งกระชับมิตรที่ประเทศไทยในช่วงปิดซีซั่น เริ่มจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เดินทางมาถึงเป็นทีมแรกในวันที่ 11 กรกฎาคม แต่ก็ทำแฟนผีเซ็งเล็กน้อย เมื่อ เวยน์ รูนีย์ เกิดบาดเจ็บจากการซ้อมจึงขอตัวกลับก่อนกะทันหันโดยยังไม่ทันได้โชว์ฝีเท้า
          จากนั้น ในวันที่ 12 กรกฎาคม แฟนสิงห์บลูก็ได้ต้อนรับฟูลทีมของเชลซี ที่มี โฆเซ่ มูรินโญ่ จอห์น เทอร์รี่ และแฟรงค์ แลมพาร์ด นำทัพ ก่อนที่ในวันที่ 25 กรกฎาคม สาวกเดอะค็อปจะได้แห่แหนกันไปต้อนรับนักเตะในดวงใจที่มี สตีเวน เจอร์ราร์ด และหลุยส์ ซัวเรส เป็นดาวดังประจำทีม จนแน่นสนามบิน ปิดท้ายด้วย บาร์เซโลน่า ที่ยกกันมาแบบฟูลทีมในวันที่ 5 สิงหาคม งานนี้ นักเตะต่างดาวอย่าง เมสซี เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ได้รับเสียงกรี๊ดมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังนำทีมถล่มทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2013 ไปแบบไม่ปรานีถึง 7-1 ประตู เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีที่แฟนบอลลีกยุโรปอิ่มอกอิ่มใจกันสุด ๆ ไปเลย






 นักแบดไทยก่อเรื่องฉาว วิ่งไล่ชกกันกลางสนามแข่ง 


          จากคู่ซี้ที่เป็นดาวรุ่งในการแข่งขันแบดมินตัน ชายคู่ โอลิมปิกเกมส์ 2012 กลับกลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดต่อสายตาชาวโลกไปเสียได้ เมื่อในวันที่ 22 กรกฎาคม ได้เกิดเหตุที่ เอ มณีพงศ์ จงจิตร และ อาร์ต บดินทร์ อิสระ นักแบดมินตันไทย เขม่นและต่อยกันเองในคอร์ต ระหว่างแข่งขันรอบชิงชนะเลิศชายคู่รายการแคนาเดียน โอเพ่น ที่ประเทศแคนาดา โดยภาพการทะเลาะวิวาทกลางคอร์ตถูกคนถ่ายคลิปไว้ได้และนำมาเผยแพร่จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก

          เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องใหญ่ของวงการแบดมินตันโลก จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทันที ซึ่งในที่สุดแล้ว สหพันธ์แบดมินตันโลกได้สั่งลงโทษ เอ มณีพงศ์ ห้ามลงสนามในรายการที่สหพันธ์แบดมินตันโลกรับรอง เป็นเวลา 3 เดือน ส่วน อาร์ต บดินทร์ ผู้ที่ลงมือทำร้ายก่อน ถูกห้ามลงสนามในรายการที่สหพันธ์แบดมินตันโลกรับรอง เป็นเวลาถึง 2 ปี แม้ภายหลังจะมีการยื่นอุทธรณ์ แต่ก็ไม่เป็นผล เท่ากับเป็นการดับอนาคตในวงการแบดมินตันไปอย่างน่าเสียดาย


 เกาะเสม็ดเสร็จน้ำมัน ภาพทะเล-ชายหาดสีดำ ที่คนยังไม่ลืม  

เกาะเสม็ดเสร็จน้ำมัน ภาพทะเล-ชายหาดสีดำ ที่คนยังไม่ลืม
ภาพประกอบจาก NICOLAS ASFOURI / AFP 

           ภาพความงดงามของทะเลอ่าวพร้าว และอีกหลายหาดในเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง กลับถูกปกคลุมไปด้วยคราบน้ำมันสีดำ เมื่อในวันที่ 27 กรกฎาคม ได้เกิดเหตุท่อรับน้ำมันดิบของบริษัท ปตท. รั่ว ขณะกำลังขนถ่ายน้ำมันจากเรือบรรทุกที่บริเวณท่าเรือมาบตาพุด เป็นเหตุให้น้ำมันปริมาณมหาศาลกว่า 50,000 ลิตร ทะลักลงสู่ท้องทะเล ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของเกาะต่าง ๆ

          ทันทีที่เกิดเหตุขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ของ ปตท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เร่งระดมพลและเครื่องมือต่าง ๆ มาช่วยเก็บกู้คราบน้ำมันในทะเลและชายฝั่งอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่อ่าวพร้าวซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด แต่ทว่าการเก็บกู้คราบน้ำมันครั้งนี้ต้องเจอกับอุปสรรคไม่น้อย เพราะคลื่นลมที่แรงได้พัดให้น้ำมันลอยไปติดตามเกาะอื่น ๆ จนนักท่องเที่ยวต้องเผ่นหนี สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดระยองไม่น้อย 

          ภายหลัง ได้มีการระดมพลช่วยกันฟื้นฟูเกาะเสม็ด ตบท้ายด้วยการบิ๊กคลีนนิ่ง ใช้เวลาเกือบ ๆ 1 เดือน ในที่สุด เกาะเสม็ดก็กลับมางดงามเกือบจะดังเดิม โดย ปตท. ได้จ่ายเงินชดเชยให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเป็นการเยียวยา อย่างไรก็ตาม แม้สภาพภายนอกของชายหาดต่าง ๆ จะดูดีขึ้นมาแล้วก็ตาม แต่นักวิชาการทางทะเลก็ยังคงกังวลผลกระทบที่จะเกิดกับระบบนิเวศในทะเล ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำ ปะการัง ฯลฯ ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งจากคราบน้ำมัน และสารเคมีที่ใช้กำจัดคราบน้ำมัน และคงต้องสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นใต้ท้องทะเลอยู่เป็นระยะ ๆ



 เดือนสิงหาคม 

  ปรบมือดัง ๆ น้องเมย์ สาวน้อยมหัศจรรย์ คว้าแชมป์โลกแบดมินตัน

น้องเมย์ รัชนก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก The World of Badminton

          ตั้งแต่สร้างผลงานกระหึ่มทะลุเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้ายในการแข่งขันโอลิมปิก 2012 ชื่อของ น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ สาวน้อยมหัศจรรย์ของวงการแบดมินตัน วัย 18 ปี ก็เป็นที่จดจำ และเป็นความหวังของคนไทยที่เฝ้าติดตามเชียร์น้องเมย์มาโดยตลอด ซึ่งน้องเมย์ก็สร้างผลงานได้โดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ 


          กระทั่งในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก ที่ประเทศจีน ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม น้องเมย์ ก็โชว์ฟอร์มสุดยอดทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับคู่ปรับคนสำคัญอย่าง หลี่ เสวี่ยรุย นักแบดมินตันสาวจีน มืออันดับ 1 ของโลก ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาเคยพบกัน 5 ครั้ง น้องเมย์เคยเอาชนะได้เพียงครั้งเดียว ถือว่าเป็นรองอยู่ไม่น้อย แต่ในเกมครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง น้องเมย์ อาศัยสมาธิดีกว่า สามารถตบทำคะแนนมาได้เรื่อย ๆ จนโค่นมือ 1 ของโลกไปได้ 2-1 เซต ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนไทยค่อนประเทศที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ตามห้างร้าน

          การคว้าแชมป์ บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนส์ชิพส์ 2013 หรือ แบดมินตันชิงแชมป์โลก ครั้งนี้ ส่งผลให้น้องเมย์จารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ ว่าเป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ และยังเป็นนักแบดมินตันที่อายุน้อยที่สุดในโลกที่เคยได้แชมป์รายการนี้ด้วย


 ตะลึงทั้งวงการ ! เจนี่ ขึ้นแท่นมาดาม จดทะเบียนสมรส เอ๋ ชนม์สวัสดิ์

ตะลึงทั้งวงการ ! เจนี่ ขึ้นแท่นมาดาม จดทะเบียนสมรส เอ๋ ชนม์สวัสดิ์
          ขาเม้าท์ทั้งหลายเขาแอบกอสซิปกันมาสักพักใหญ่แล้วถึงความสัมพันธ์ของนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กับ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นักการเมืองคนดังของจังหวัดสมุทรปราการ เพราะมีภาพหลุดที่ชวนให้ชาวเน็ตจับผิดออกมาอยู่หลายระลอก แต่เมื่อไปถามแก๊งนางฟ้ากลับไม่มีใครรู้เรื่องสักคน กระทั่งมีภาพหลุดนางเอกสาวนอนหนุนตักผู้ชายโผล่ออกมา ทำเอาคนยิ่งเม้าท์สนั่นโลกไซเบอร์ จนในที่สุดแล้ว เจนี่ และเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ก็ตัดสินใจแถลงข่าวที่บ้านอัศวเหม โดยระบุว่า ได้จดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว เล่นเอาคอบันเทิงช็อกซ้ำอีกรอบกับความรักสายฟ้าแลบ

          อย่างไรก็ตาม กระแสสังคมเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างเหวี่ยงแรงกลับไปที่สาวเจนี่ เพราะอย่างที่รู้กันว่า เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ มีภรรยาอยู่แล้วคือ ตู่ นันทิดา นักร้องดีว่าของเมืองไทย และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือน้องเพลง ชนม์ทิดา ทำให้สาวเจนี่ถูกมองว่าไปแย่งสามีคนอื่น แต่ทาง เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ก็ยืนยันว่าได้แยกกันอยู่กับตู่ นันทิดา มากว่า 10 ปีแล้ว และไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ดังนั้นการแต่งงานกับสาวเจนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่ประการใด 
          เช่นเดียวกับ ตู่ นันทิดา ที่ออกมายอมแถลงข่าวยอมรับว่า แยกทางกับ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ แล้วจริง ๆ แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีกันมาตลอด พร้อมกับแสดงความยินดีฝากไปยังอดีตสามีและเจนี่ด้วย งานนี้ มาดามตู่เลยได้ใจคนไปเต็ม ๆ เลยทีเดียว


 อ่านข่าวเจนี่ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ทั้งหมดได้ที่นี่ 

 เดือนกันยายน

  ภารกิจเดินเท้าจากป่าสู่เมือง ปลุกกระแสสังคมขับเคลื่อนต้านเขื่อนแม่วงก์

ภารกิจเดินเท้าจากป่าสู่เมือง ปลุกกระแสสังคมขับเคลื่อนต้านเขื่อนแม่วงก์
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Seub Nakhasathien Foundation

          แผนการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นโครงการที่ได้ยินมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากชาวบ้านและนักอนุรักษ์ออกมาคัดค้าน เนื่องจากมองว่า "ได้ไม่คุ้มเสีย" อีกทั้งรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ก็ยังไม่ชัดเจน กระทั่งในช่วงกลางปี 2556 "เขื่อนแม่วงก์" ก็กลับมาเป็นประเด็นให้คนพูดถึงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ประกาศแสดงจุดยืนคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ด้วยการเดินเท้าจากกรุงเทพมหานครไปยังอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ ระยะทาง 388 กิโลเมตร เพื่อประท้วงการทำงานของคณะกรรมการฯ ที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท

         การเดินเท้าของนายศศินมีผู้เข้าร่วมสนับสนุนเป็นจำนวนไม่น้อย และเขาก็ได้เดินเท้าเป็นเวลา 13 วันดังที่ประกาศเจตนารมณ์ไว้ เพื่อชี้แจงข้อมูลให้ชาวบ้านรับทราบ แน่นอนว่าย่อมมีทั้งชาวบ้านที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ถือได้ว่า นายศศินเป็นผู้ที่ปลุกกระแสการต่อต้านเขื่อนแม่วงก์ที่เคยเงียบมานานหลายปีให้ดังขึ้น และหลังจากนั้นก็เริ่มมีนักวิชาการ นักอนุรักษ์ ตลอดจนดารานักแสดงคนมีชื่อเสียง เริ่มแสดงจุดยืนมากขึ้น ทั้งการโพสต์ภาพ-ข้อความผ่านอินสตาแกรม หรือเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคัดค้านเขื่อนแม่วงก์


          นอกจากนี้ รายการคนค้นฅน ของบริษัททีวีบูรพา ยังได้ตามติดไปถ่ายทำสารคดีชีวิตของนายศศินที่เดินเท้าคัดค้านรายงาน EHIA ของเขื่อนแม่วงก์ด้วย แต่ทว่ากลับไม่สามารถนำออกอากาศได้เมื่อถึงเวลาออนแอร์ โดย อสมท ชี้แจงว่าทางรายการนำเสนอเนื้อหาเพียงด้านเดียวจึงให้กลับไปแก้ไขก่อน แต่เมื่อไม่สามารถแก้ไขได้ทันจึงยังไม่สามารถออกอากาศได้ เรื่องนี้กลับยิ่งจุดกระแสให้คนในโลกไซเบอร์พูดถึงกันเป็นวงกว้าง จนในที่สุดแล้ว ทีมงานต้องนำคลิปฉบับเต็มไปลงในยูทูบ ก่อนที่สุดท้ายจะมีการปรับแก้บางส่วนเพื่อให้ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ได้ต่อไป


 อ่านข่าวเขื่อนแม่วงก์ทั้งหมดได้ที่นี่ 



 คนไร้คู่โล่งใจ ภาษีคนโสดสุดช้ำใจแค่แนวคิด


          ทำเอาคนโสดสะดุ้งโหยงไปตาม ๆ กัน เมื่อมีนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์คนหนึ่งของมหาวิทยาลัยรังสิต เสนอแนวคิด "เก็บภาษีคนโสด" เพื่อกระตุ้นให้คนมีครอบครัวจะได้เป็นการลดภาระงบประมาณ และการใช้สวัสดิการดูแลของภาครัฐในอนาคต เนื่องจากพบว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน เพราะคนไม่นิยมมีครอบครัวและมีลูก ซึ่งจะทำให้ในอีก 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มขั้น

          แน่นอนว่า แม้จะเป็นเพียง "แนวคิด" แต่เมื่อถูกพูดต่อ ๆ กันไปเพียงชั่วข้ามคืนก็ทำเอาคนสวดกันสนั่นจนโลกไซเบอร์สะเทือนไปเหมือนกัน ร้อนจนกรมสรรพากรและรัฐบาลต้องรีบออกมาปฏิเสธว่าไม่มีแนวคิดเก็บภาษีคนโสดแต่ประการใด เรื่องที่พูดกันนั้นเป็นเพียงแนวคิดของนักวิชาการเท่านั้น ขณะที่มหาวิทยาลัยรังสิตก็ชี้แจงว่า เรื่องภาษีคนโสดเป็นแค่ความเห็นของนักวิชาการในห้องสัมมนา แต่ถูกนำไปบิดเบือนแบบผิด ๆ ว่ารัฐจะเก็บภาษีคนโสด ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่ประการใด งานนี้ คนโสดหลายคนก็เลยเป่าปากโล่งอก นึกว่าจะต้องควักกระเป๋าจ่ายภาษีเพิ่มซะแล้ว







  ตบสนั่นสุดใจ วอลเลย์บอลหญิงไทยคว้าชัยแชมป์เอเชีย สมัยที่ 2 

ตบสนั่นสุดใจ วอลเลย์บอลหญิงไทยคว้าชัยแชมป์เอเชีย สมัยที่ 2

          สร้างความสุขให้คนไทยทุกครั้งที่นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยลงแข่ง และยิ่งสร้างรอยยิ้มให้คนไทยมากขึ้นในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย 2013 ที่โคราช เมื่อสาวไทยโชว์ฟอร์มเยี่ยม โค่นญี่ปุ่นในรอบแบ่งสายได้อย่างสบาย ๆ ก่อนทะลุเข้าไปชน "จีน" ในรอบรองชนะเลิศที่ใคร ๆ ก็มองว่าสาวไทยเป็นรอง แต่สาวไทยก็เค้นฟอร์มสุดยอดออกมาทันเวลา ทุบสาวจีนไปได้ 3-2 เซต ชนิดที่คนไทยทั่วสารทิศแทบลืมหายใจ ก่อนเข้าไปชิงชัยกับญี่ปุ่น ทีมอันดับ 3 ของโลกในวันที่ 21 กันยายน 2556

          ขณะที่ชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียงก็ฟีเวอร์กันสุด ๆ ยอมฝ่าสายฝนและน้ำท่วมขังไปต่อคิวซื้อบัตรเข้าชมกันข้ามวันข้ามคืนจนหวิดจะเกิดจลาจล แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยรอยยิ้ม เมื่อสาวไทยเชือดนิ่ม ๆ เอาชนะสาวซามูไรไปอย่างสบาย 3-1 เซต คว้าแชมป์เอเชียเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของคนไทยทั่วประเทศที่แทบจะเรียกว่าเป็นการปิดประเทศเชียร์สาวไทยทั้งหัวใจเลยทีเดียว


เดือนตุลาคม

 นกเหล็กลาวตกกลางลำน้ำโขง 49 ชีวิตสังเวยยกลำ

นกเหล็กลาวตกกลางลำน้ำโขง 49 ชีวิตสังเวยยกลำ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Clip Ded Clip Dung - ຄລິບເດັດ ຄລິບດັງ
          เหตุการณ์สายการบินลาว แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ คิววี 301 ตกลงกลางแม่น้ำโขง ขณะเดินทางออกจากสนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ ไปยังเมืองปากเซ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ตุลาคม 2556 ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศลาว และยังเป็นความสูญเสียของคนไทยด้วย เพราะในจำนวนผู้เสียชีวิต 49 คน มีคนไทยรวมอยู่ด้วย 5 ราย แต่ในช่วงแรกการค้นหาศพผู้เสียชีวิตท่ามกลางกระแสน้ำลึกและไหลเชี่ยวเป็นไปอย่างยากลำบากมาก โดยเฉพาะศพคนไทยที่ใช้เวลาอยู่หลายวันก็ยังหาไม่พบ กระทั่งผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ จึงพบศพคนไทยครบทั้ง 5 คน ก่อนจะมีการกู้ซากเครื่องบินขึ้นมาพิสูจน์หาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป

  


  ปิดตำนานมือปืนทีมชาติ แม่ยายสั่งพิฆาต เอ็กซ์ จักรกฤษณ์

ปิดตำนานมือปืนทีมชาติ แม่ยายสั่งพิฆาต เอ็กซ์ จักรกฤษณ์

          ตลอดปี 2556 ชื่อของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ปรากฏเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์อยู่หลายครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่มารดาแท้ ๆ และแพทย์หญิงนิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม ภรรยา เข้าแจ้งความว่าถูกเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ทำร้ายร่างกายและใช้ปืนข่มขู่ ก่อนที่ตำรวจจะเข้าจับกุมตัวเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ จากนั้นได้ส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี และศาลทหาร

          ภายหลัง เอ็กซ์ ได้รับการประกันตัวออกมา แต่ก็เป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวเข้าแจ้งความว่า ถูกภรรยาลักลอบขนเอาทรัพย์สินกว่า 60 ล้านบาท ในตู้นิรภัยที่ธนาคารกสิกรไทยไป ซึ่งเรื่องนี้ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาเริ่มร้าวฉานมากขึ้น ก่อนที่ นางปวีณา หงสกุล จะมาช่วยไกล่เกลี่ยให้ทั้งคู่กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ซึ่งจากภาพที่เห็นในตอนนั้นใคร ๆ ต่างก็คิดว่าเรื่องทั้งหมดก็น่าจะจบลงด้วยดีแล้ว

          แต่คงไม่มีใครคาดคิดว่า ชื่อของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ จะกลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 19 ตุลาคม เมื่อเอ็กซ์ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงเสียชีวิตคารถปอร์เช่ ระหว่างขับรถไปหาภรรยาที่บ้าน ถือเป็นเหตุลอบสังหารอย่างอุกอาจ เพราะเกิดขึ้นกลางถนนที่มีรถสัญจรขวักไขว่ ในตอนแรกตำรวจพุ่งเป้าไปที่ปัญหาเรื่องพระเครื่อง ยาเสพติด แต่ก็เริ่มตัดประเด็นเหล่านี้ทิ้ง หลังจากพบหลักฐานที่น่าสงสัยว่า การปลิดชีพครั้งนี้อาจจะมีมูลเหตุมาจากภายในครอบครัว เพราะเอ็กซ์ก็เหมือนจะระแคะระคายอยู่แล้วว่าตนเองกำลังถูกปองร้าย

          ภายหลังการสอบสวนได้สักระยะหนึ่ง กลับพบกับความจริงที่น่าเศร้า เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังสั่งตายเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กลับกลายเป็นนางสุรางค์ ดวงจินดา แม่ของหมอนิ่มเอง โดยนางสุรางค์ยอมสารภาพว่าได้ว่าจ้างมือปืนให้ไปลอบยิงลูกเขย เนื่องจากทนไม่ได้ที่ลูกเขยทำร้ายลูกสาวอยู่บ่อยครั้ง และยังทำให้ลูกสาวแท้งลูกคนที่ 3 ด้วย ก่อนที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาจ้างวานฆ่าแก่นางสุรางค์และหมอนิ่ม 
          เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อ นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม พ่อของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ได้ยื่นต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดกของลูกชายแทนหมอนิ่มที่ตกเป็นผู้ต้องหา ทำให้หมอนิ่มโพสต์เฟซบุ๊กต่อว่านายมานพที่จะมาเอาสมบัติของหลาน กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ทำให้คนในสังคมเคลือบแคลงใจอยู่ไม่น้อยว่า มูลเหตุต่าง ๆ ของคดีนี้ที่แท้จริงจะมาจากเรื่องทรัพย์สมบัติมากกว่าหรือไม่ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ต้องเร่งคลี่คลายความจริงข้อนี้ต่อไป
 

 อ่านข่าวเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ถูกยิง ทั้งหมด ได้ที่นี่ 



  ชาวพุทธทั่วโลกถวายอาลัย สมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์

สมเด็จพระสังฆราช

          นับเป็นข่าวเศร้าอย่างยิ่งของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เมื่อในเวลา 19.30 น. ของวันที่ 24 ตุลาคม 2556 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สิ้นพระชนม์ลง ด้วยพระชันษา 100 ปี เนื่องจากติดเชื้อในกระแสพระโลหิต หลังจากก่อนหน้านี้ พระองค์ประชวรเข้าประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว

          การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ไว้ทุกข์ในพระราชสำนักเป็นเวลา 30 วัน ขณะที่บริษัทห้างร้านต่าง ๆ ก็พร้อมใจกันไว้ทุกข์ เพื่อถวายอาลัยต่อสมเด็จพระสังฆราชผู้ทรงคุณธรรม และได้มีชาวพุทธจำนวนมากหลั่งไหลมาสักการะพระศพ ที่พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหารอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งพระองค์นับเป็นพระสังฆราชที่ทรงดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดถึง 23 ปี และทรงมีพระชันษายืนยาวที่สุดในประวัติคณะสงฆ์ไทย

 เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม

  ไทยสะท้าน ม็อบปลุกกระแสสังคมต้านนิรโทษกรรมสุดซอย

 ไทยสะท้าน ม็อบปลุกกระแสสังคมต้านนิรโทษกรรมสุดซอย

          เรื่องการนิรโทษกรรมให้คนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาตลอดสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่เมื่อสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.สุดซอยฉบับนี้ ในวาระ 3 ด้วยการรีบโหวตอย่างรวบรัดในเวลาตี 4 ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ก็ทำให้เกิดกระแสสังคมตีกลับอย่างรวดเร็วชนิดที่คาดไม่ถึง

          นั่นเพราะหลังจากผ่านร่างกฎหมายไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็มีภาคประชาชน มหาวิทยาลัย ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ เริ่มออกมาสมทบกับการชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ ณ สถานีรถไฟสามเสนมากขึ้น เพราะไม่เห็นด้วยต่อกฎหมายฉบับนี้ พร้อมเป่านกหวีดอันเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้อย่างพร้อมเพรียงกัน กระทั่งนำไปสู่การเดินขบวนมาปักหลักที่ถนนราชดำเนิน อันเป็นถนนประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยมาทุกยุคทุกสมัย ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556

          ภาพการเดินขบวนของคนจำนวนมากตามเส้นทางต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกลายเป็นภาพประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่งของการเมืองไทย โดย นายสุเทพ ซึ่งภายหลังตั้งชื่อกลุ่มว่า คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ได้ประกาศขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ เนื่องจากมีความพยายามล้างผิดให้พี่ชาย อีกทั้งพรรคเพื่อไทยยังแถลงไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่ได้ตัดสินให้การแก้รัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ส.-ส.ว. มิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้นายสุเทพมองว่า รัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมแล้ว และเรียกร้องให้มีการจัดตั้ง "สภาประชาชน" ขึ้นมาแทน

          การชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ มีกลุ่มนักวิชาการ ปัญญาชน ดารานักแสดง และพลังเงียบจำนวนมหาศาลเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ และมีการเดินขบวนไปกดดันสื่อมวลชน หน่วยงานรัฐต่าง ๆ กระทั่งเข้าบุกยึดกระทรวงการคลัง ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ซึ่งถือเป็นการต่อสู้อีกขั้นของนายสุเทพ จนในที่สุด รัฐบาลต้องยอมถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม-ปรองดอง 6 ฉบับออกจากสภาฯ เพื่อหวังให้ม็อบยุติการชุมนุม
          อย่างไรก็ตาม ม็อบไม่ได้ยุติการชุมนุมดังที่รัฐบาลต้องการ เนื่องจากมองว่า พ.ร.บ.ที่ถอนไปนั้น ไม่ใช่ฉบับที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยยังคงปักหลักชุมนุมปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างดุเดือดต่อเนื่อง พร้อมกับประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ซึ่งนายสุเทพลั่นวาจาว่าครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

          สถานการณ์บ้านเมืองยิ่งงวดขึ้นไปอีก เมื่อในช่วงเย็นวันที่ 8 ธันวาคม 2556 ก่อนการเดินขบวนครั้งใหญ่เพียง 1 วัน ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์มีมติให้ ส.ส. ลาออกยกพรรค เพื่อประท้วงรัฐสภาระบอบทักษิณ พร้อมกับประกาศเข้าร่วมการเดินขบวนในวันที่ 9 ธันวาคมด้วย ทำให้หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่าจะเกิดเหตุอะไรร้ายแรงขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคมหรือไม่ กระทั่งในช่วงเช้าวันที่ 9 ธันวาคม นางสาวยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจประกาศยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ จึงช่วยคลายความกังวลของคนไปได้เปลาะหนึ่ง 


          อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้พอใจกับสิ่งที่รัฐบาลประกาศยุบสภา และไม่ยอมรับการเลือกตั้งที่จะเกิดในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 พร้อมกับเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์และคณะรัฐมนตรีต้องลาออกจากรักษาการทุกตำแหน่ง และเดินหน้าสู่การปฏิรูปการเมืองให้เสร็จสิ้น ก่อนจัดการเลือกตั้ง เพื่อขจัดระบอบทักษิณให้หมดไป

เดือนธันวาคม

   จับ ไอ้หนุ่ย ฆ่าข่มขืนเด็ก บทเรียนน่าเศร้าสะท้อนปัญหาสังคมไทย

ไอ้หนุ่ย ฝังใจ ! เผยตอน 6 ขวบ โดนตุ๋ย เลยข่มขืนเด็กมาตั้งแต่อายุ 15

          เดือนธันวาคมเดือนสุดท้ายของปีที่น่าจะมีเรื่องดี ๆ ต้อนรับศักราชใหม่ กลับเกิดคดีที่น่าสะเทือนใจส่งท้ายปีมะเส็ง เมื่อ น้องการ์ตูน หรือ ด.ญ.อธิตยา เพ็ชรดอน อายุ 6 ขวบ ถูกคนร้ายลักพาตัวไป ขณะไปเที่ยวงานวงดนตรีกับพ่อที่ซอยแบริ่ง ก่อนที่ตำรวจจะพบเสื้อผ้าของน้องและกะโหลกศีรษะของเด็กถูกทิ้งไว้อยู่ในป่าในละแวกใกล้ ๆ นำไปสู่การสอบสวนและจับกุม ไอ้หนุ่ย หรือติ๊งต่าง คนงานในคณะดนตรีไหมไทย ที่มาจัดงานในวันเกิดเหตุ


          เมื่อจำนนต่อหลักฐาน ไอ้หนุ่ย จึงยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลักพาตัวน้องการ์ตูนไปฆ่าข่มขืนจริง พร้อมกับเปิดปากสารภาพเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งว่า น้องการ์ตูนไม่ใช่เด็กหลายแรกที่ถูกไอ้หนุ่ยฆ่าข่มขืน แต่มีเด็กนับสิบรายทั้งเด็กชาย-เด็กหญิง ตกเป็นเหยื่อฆาตกรคนนี้มาแล้ว ทำให้ตำรวจเร่งสืบสวนขยายผล จนทราบว่า น้องหญิง และน้องแม็กซ์ ที่เคยหายตัวไปเมื่อหลายเดือนก่อนจนพ่อแม่เข้ามาแจ้งความ ก็คือเหยื่อของฆาตกรคนนี้ด้วย

          พฤติกรรมของไอ้หนุ่ยที่ชอบทำร้ายและข่มขืนเด็ก ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ไอ้หนุ่ยเป็นโรคจิตหรือไม่ ซึ่งภายหลัง แพทย์ก็ออกมาชี้แจงว่า อาการดังกล่าวไม่ใช่ผู้ป่วยโรคจิต แต่เป็นกามวิตถาร ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ในวัยเด็กที่นายหนุ่ยอ้างว่าเคยถูกล่วงละเมิด อีกทั้งไม่มีพ่อแม่คอยดูแลอบรมสั่งสอนในวัยเด็ก ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง และตกเป็นผู้ต้องหาเข้าเรือนจำ

          คดีน่าเศร้าที่เกิดขึ้นนี้ หากมองอีกมุมหนึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่า สังคมไทยกำลังมีปัญหาเรื่องเด็กกำพร้า ซึ่งเกิดจากพ่อแม่วัยรุ่นท้องไม่พร้อม เมื่อเด็กเกิดมาจึงถูกทอดทิ้ง และหากเด็กเข้าไปอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เลวร้าย ก็จะถูกบ่มเพาะความเป็นอาชญากรอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งสังคมต้องตระหนักและเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์น่าสะเทือนใจเกิดขึ้นอีกซ้ำสอง


           ...และนี่ก็คือ 20 ข่าวเด่นแห่งปี 2556 ที่กระปุกดอทคอมรวบรวมมาฝากกัน จะเห็นได้ว่าหลากหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดปี 2556 บางเรื่องก็เป็นความทรงจำดี ๆ ที่ชวนให้เราจดจำและมีความสุขไปกับมัน ส่วนเรื่องร้าย ๆ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดก็หวังว่าจะผ่านไปกับปี 2556 และเกิดแต่สิ่งดี ๆ ขึ้นในปีหน้าฟ้าใหม่ 2557 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม