เปิดคำสอบสวน วรยุทธ อยู่วิทยาทายาทกระทิงแดง(Red Bull)ขับรถชนตำรวจ
กรณีลูกชายเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดังประสบเหตุขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ทองหล่อ จนเสียชีวิต เมื่่อช่วงเช้ามืดวานนี้ (3 ก.ย.) จนกลายเป็นประเด็นข่าวที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันตลอดทั้งวัน ซึ่งในเวลาต่อมา นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ลูกชายคนเล็กของ นายเฉลิม อยู่วิทยา ก็ยอมเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท่ามกลางกระแสข่าวมากมายๆ ทั้งจับแพะหรือเมาแล้วขับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ให้เวลากว่า 5 ชั่วโมงในการสอบสวน นายวรยุทธ ผู้ต้องหาในการก่อเหตุดังกล่าว โดยได้ให้การกึ่งยอมรับกึ่งปฏิเสธว่า เป็นผู้ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ ตรงจุดเกิดเหตุจริง เพราะรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตได้ขับปาดหน้ารถตนเอง จึงทำให้หักหลบไม่ทัน ประกอบกับหลังเกิดเหตุแอร์แบคเกิดแตก ทำให้เกิดควันจนตนเองไม่ทราบว่าได้ลากร่างและจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาด้วย
นายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความประจำตระกูลอยู่วิทยา ได้เปิดเผยรายละเอียดของเหตุการณ์กับสื่อมวลชนว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ หลังจากเกิดเหตุ นายเฉลิม ได้ติดต่อให้ตนเองไปพบที่บ้านพักเพื่อขอปรึกษาด่วน เมื่อมาถึงที่บ้านจึงทราบเรื่องของ นายวรยุทธ ลูกชายคนเล็กของตระกูล ตนจึงได้แนะนำให้มอบตัวกับตำรวจ ไม่ว่าจะถูกหรือผิด
สำหรับสาเหตุที่ นายวรยุทธ ขับรถกลับเข้าบ้านพักทันที หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว เป็นเพราะความตกใจของเด็ก จึงรีบกลับไปปรึกษากับผู้ใหญ่ ไม่ได้หลบหนีหรือมีการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมาขับขี่รถยนต์แต่อย่างใด ส่วนเรื่องผิดหรือถูกหรือไม่ ขึ้นอยู่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน แต่ไม่ว่าเช่นไรฝ่ายผู้ต้องหายินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ส่วนกรณีที่ นายสุเวศ หอมอุบล อายุ 45 ปี พ่อบ้านดูแลโรงรถของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งก่อนการมอบตัวของ นายวรยุทธ ได้อ้างตัวว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์จนเกิดเหตุ จนต่อมากลายเป็นกรณีจับแพะ ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ของ พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ทันที กรณีนี้ นายสมัคร ทนายความประจำตระกูลปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน และภายหลัง นายสุเวศ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาให้การเท็จและดำเนินคดี
ขณะที่ด้าน นายเฉลิม อยู่วิทยา ที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานศพ ดต.วิเชียร ทุกคืน เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เดินทางไปร่วมพิธีรดน้ำศพที่วัดธาตุทอง ศาลา 10 โดยได้ยกมือไหว้ขอโทษและแสดงความเสียใจแก่ญาติของผู้เสียชีวิต ยินดีที่จะช่วยเหลือรับผิดชอบทุกอย่าง และให้คดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างเป็นธรรม
นายเฉลิม ยังเปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้นำรถเฟอร์รารี่คันที่เกิดเหตุ ออกไปวอร์มเครื่องและทดลองขับบนถนนตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเท่านั้น เพราะยังเป็นช่วงที่ยังมีรถสัญจรไปมายังไม่มาก แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ทำให้รู้สึกเสียใจ ลูกชายตนเองก็เสียใจเช่นกัน พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเช้าวันใหม่ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
หัวหน้าคดีเฟอร์รารี่ชนตำรวจดับ เผย ภาพวงจรปิดที่ได้ในที่เกิดเหตุ ไม่เห็น วรยุทธ อยู่วิทยา ขณะพุ่งชน ด.ต.วิเชียร ขณะยอมรับ สวป.สน.ทองหล่อ มีความสนิทสนมกับครอบครัวอยู่วิทยา
พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อายุ 27 ปี ที่ขับรถเฟอร์รารี่พุ่งชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อวานที่ผ่านมา ระบุว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ภาพวงจรปิด 3 จุด จากพื้นที่ใกล้เคียงในระหว่างที่ผู้ต้องหาขับรถด้วยความเร็วสูง แต่ไม่เห็นภาพขณะเกิดเหตุพุ่งชน ซึ่งจะมีการประสานขอภาพเพิ่มเติมในการประกอบสำนวนคดีด้วย
ส่วนการตรวจหาพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ อยู่ระหว่างการรอผลตรวจดีเอ็นเอ ผลตรวจเลือด เสื้อผ้า พยานวัตถุภายในรถที่เกิดเหตุ และผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดด้วย เพื่อประกอบการพิจารณาตั้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนพฤติกรรมว่าเจตนาพุ่งชน หรือขับขี่ด้วยความเร็วแข่งกับรถคันอื่นหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบจากพยานแวดล้อมว่าผู้ต้องหามีเจตนาอย่างไร
ด้าน พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ โดยยอมรับว่า สารวัตรคนดังกล่าวนั้น มีความสนิทสนมกับคนในบ้านอยู่วิทยา แต่ความชัดเจน ต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยัน จะให้ความเป็นธรรม และสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา
เจ้าสัวรุดไหว้ศพ ยอมรับผิด - ให้ประกัน วรยุทธ อยู่วิทยา
ทนายความใช้เงินสด 5 แสนบาท ประกันตัวลูกเจ้าสัวกระทิงแดง ผู้ต้องหาขับรถชน ด.ต.ทองหล่อ เสียชีวิต พร้อมส่งตรวจแอลกอฮอล์ อ้างไม่ได้ขับหนี แค่กลับไปปรึกษาพ่อ ยันชดใช้ และเป็นเจ้าภาพงานศพทุกคืน
จากเหตุการณ์รถสปอร์ตหรูเฟอร์รารี่ รุ่นเอฟเอฟ สีบรอนซ์เทา ขับชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตบริเวณซอยสุขุมวิท 49 ก่อนจะขับหนีไปหลบในบ้านพัก ซอยสุขุมวิท 53 และทราบภายหลังว่า คนขับคือ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อายุ 27 ปี ลูกชายคนเล็กของ นายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของกระทิงแดง ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด (3 กันยายน) นายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความส่วนตัว เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวในวงเงิน 5 แสนบาท จากนั้นได้นำตัวไปตรวจร่างกายเพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช โดยยืนยันว่า หลังเกิดเหตุจำเลยไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด แต่เนื่องจากยังเป็นเด็กจึงขับรถมาปรึกษากับบิดา จากนั้นทางบิดาจำเลยจึงได้โทรเรียกตน ซึ่งเป็นทนายความมาปรึกษา และพาเข้ามอบตัวดังกล่าว พร้อมกันนี้ยังยืนยัน พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ ด.ต.วิเชียร ทุกอย่าง พร้อมเป็นเจ้าภาพในการสวดศพทุกคืนด้วย
ญาติร่ำไห้รับศพ ด.ต.วิเชียร ตั้งศพวัดธาตุทอง
นายพรอนันต์ กลั่นประเสริฐ อายุ 58 ปี พี่ชาย และ น.ส.นงนุช แสงประพาฬ อายุ 31 ปี อดีตภรรยา พร้อมด้วยญาติ ๆ และเพื่อนร่วมงาน เดินทางมารับศพ ด.ต.วิเชียร ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก โดยทันทีที่ น.ส.นงนุช เห็นศพ ด.ต.วิเชียร ได้ตรงเข้ากอดพร้อมร่ำไห้อย่างเศร้าสลด ทั้งนี้ ผลการชันสูตรของแพทย์นิติเวช ระบุสาเหตุการเสียชีวิต ว่า กระดูกสันหลังส่วนคอหักเคลื่อน เนื่องจากถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก โดยหลังจากที่รับศพ ทางญาติได้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ศาลา 10 วัดธาตุทอง เป็นเวลา 5 วัน โดยในเวลา 16.30 น. ทาง พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ
นายพรอนันต์ กล่าวว่า ผู้ตายเป็นน้องชายคนสุดท้อง ตอนเด็กใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ จึงได้มาสอบ ร.ร.พลตำรวจนครบาล เริ่มรับราชการที่ สน.ทองหล่อ ตั้งแต่ปี 2534 และอยู่ที่นี่มาโดยตลอด ปกติน้องชายเป็นคนสุภาพเรียบร้อย อัธยาศัยดี และตั้งใจทำงาน จึงเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงานและผู้ใกล้ชิด หลังทราบจากข่าวทางโทรทัศน์ และมีคนโทรมาบอก ตนรู้สึกตกใจมาก จึงรีบเดินทางมาทันที ส่วนเรื่องคดีไม่ขอให้ความเห็น แต่จนถึงขณะนี้ ทางฝ่ายที่ขับรถชนก็ยังไม่มีการติดต่อมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
เฉลิม อยู่วิทยา เศร้ารุดร่วมรดน้ำศพ ด.ต.วิเชียร
บรรยากาศงานรดน้ำศพ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติผู้เสียชีวิต ผู้บังคับบัญชา และเพื่อนข้าราชการตรวจ ตลอดจนคู่กรณีต่างทยอยร่วมงานจำนวนมาก โดยภายในงาน นายเฉลิม อยู่วิทยา บิดาผู้ต้องหา ได้เดินทางมาร่วมงาน พร้อมกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย โดยได้แสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต พร้อมยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็ไม่ได้นิ่งเฉย ยืนยันจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีทุกอย่าง และยินดีให้ความช่วยเหลือกับญาติผู้เสียชีวิต ส่วนบุตรชายนั้น ไม่ได้เดินทางมาร่วมงาน เนื่องจากอยู่ในอาการตกใจ
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก สตช. ที่เดินทางมาร่วมงาน กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการปูนบำเหน็จให้ 3 ชั้นยศ จากดาบตำรวจ เป็นร้อยตำรวจเอก ให้แก่ ด.ต.วิเชียร ปูนบำเหน็จ 4 ขั้นเงินเดือน ส่วนในเรื่องการดำเนินคดีนั้น ทาง ผบช.น. ได้กำชับมาให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่กับผู้ต้องหา โดยไม่สนว่าผู้ต้องหาจะมาจากตระกูลดัง เพราะว่าชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวเหมือนกัน
น.1 ย้ำคดีทายาทกระทิงแดงไม่พลิก รอผลแอลกอฮอล์
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยัน คดีลูกบิ๊กกระทิงแดง ไม่มีพลิกแน่ มีพยานหลักฐานชัด เร่งสรุปสำนวนโดยเร็ว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ลูกชายนายเฉลิม อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง ว่า เรื่องนี้ขอให้รอความชัดเจนของพนักงานสอบสวน ที่มี พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องข้อกฎหมายอย่างชัดเจน และต้องรอผลแอลกอฮอล์ ยืนยันว่าคดีไม่มีพลิกแน่ เพราะตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนว่า ผู้ต้องหากระทำความผิดจริง ตามที่แจ้งข้อหาไว้เบื้องต้น โดยจะเร่งสรุปสำนวนโดยเร็ว
ตั้ง กก.สอบวินัยร้ายแรง สวป.นำแพะสวมคดี
พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมายให้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ในคดีที่ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ลูกชายของ นายเฉลิม อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ขับรถเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อวานนั้น ในส่วนของ พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ที่นำผู้ต้องหาตัวปลอม มารับผิดแทนผู้ต้องหาตัวจริงนั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ในเรื่องความผิดทางวินัยร้ายแรงแล้ว โดยมี พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ เป็นประธานในการสอบสวน ส่วนรายละเอียดทางคดี ตนจะแถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้งในวันนี้ เวลา 11.00 น.
มอบตัวแล้ว! วรยุทธ อยู่วิทยา ซิ่งรถหรูชนตำรวจดับ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3, ไทยพีบีเอส
ลูกชายเฉลิม อยู่วิทยา เข้ามอบตัวแล้ว อ้างถูกปาดหน้าจึงหักรถหลบไม่ทัน ขณะที่ ผบช.น. ฉุน สั่งเด้ง สวป.ทองหล่อ ทันที หลังพบนำตัวคนขับรถบ้านเฉลิมมาจัดฉากเป็นผู้ขับรถชนแทน ลั่น ยอมไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาไม่สนใจลูกน้องตาย พร้อมแจ้งข้อหาคนขับรถบ้านเฉลิมให้การเท็จ
เช้าวันนี้ (3 กันยายน) เวลา 05.30 น. ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 40 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ ถูกรถสปอร์ตสีดำ พุ่งชนขณะขับรถจักรยานยนต์ออกตรวจบนถนนสุขุมวิท ช่วงปากซอย 47 โดยผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า รถคันที่ก่อเหตุเป็นรถสปอร์ตหรูสีดำ หลังจากพุ่งชนได้ลากศพ พร้อมรถจักรยานยนต์ไปไกลกว่า 200 เมตร เมื่อมาถึงปากซอยสุขุมวิท 49 รถสปอร์ตคันดังกล่าวได้พยายามขับรถส่ายจนร่างของดาบตำรวจวิเชียรกระเด็นออกมาก่อนเสียชีวิตคาเครื่องแบบ
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้ตรวจสอบพบคราบน้ำมันเครื่องที่คาดว่าจะเป็นของรถคันที่ก่อเหตุ หยดไหลไปตามทางเข้าไปในซอยสุขุมวิท 53 ตรงกับคำให้การของพยาน ซึ่งตำรวจกำลังปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวที่มีเนื้อที่กว่า 3 ไร่ ไว้ โดยพบว่าเป็นบ้านของ นายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจกระทิงแดง
ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ได้เข้าไปสอบสวนข้อเท็จจริงภายในบ้าน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในแต่อย่างใด ขณะที่บริเวณหน้าบ้านพบคราบน้ำมันเครื่องเป็นทางยาวจากปากซอยเข้าไปในบ้านอย่างชัดเจน โดยมีรายงานว่า รถยนต์คันดังกล่าวนั้นยังคงจอดอยู่ภายในบ้านด้วย
ภายหลัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า รถยนต์คันก่อเหตุยังคงจอดอยู่ในบ้าน แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าผู้ใดเป็นคนขับ หลังจากนี้ต้องรอผู้ที่ก่อเหตุตัวจริงเดินทางเข้ามอบตัว แต่หากไม่เข้ามอบตัว ก็จะนำหมายศาลพร้อมกำลังตำรวจ 300 นาย บุกเข้าตรวจค้น เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจน ทั้งรอยคราบน้ำมันรถ และพยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งขับรถตามรถคันก่อเหตุเข้าด้วย
ขณะเดียวกัน ผบช.น. ได้ประกาศว่า จะต้องติดตามจับกุมคนร้ายตัวจริงให้ได้ เนื่องจากผู้ใต้บังคับบัญชาเสียชีวิต และหากยังไม่ได้ตัวคนร้าย ตนก็พร้อมจะลาออกจากตำแหน่ง เพราะยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตไปฟรี ๆ ไม่ว่าคนในบ้านจะใหญ่ขนาดไหน ก็ต้องนำผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้
จากนั้นในช่วงสาย มีรายงานว่า นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส บุตรชายคนเล็กของนายเฉลิม อยู่วิทยา ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เบื้องต้นรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ขับรถคันดังกล่าวชนตำรวจเสียชีวิตจริง โดยจากการเปิดเผยของ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านการสอบสวนในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว ทราบว่า ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่า ขับรถชนตำรวจจริง แต่เป็นเพราะรถของดาบตำรวจวิเชียรขับปาดหน้ากะทันหัน จึงหักหลบไม่ทัน ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมตั้งวงเงินประกัน 5 แสนบาท
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐานก็ได้ตรวจสอบสภาพรถยนต์คันที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบหมายเลขทะเบียนของรถเฟอร์รารี่ สีบรอนซ์เทา รุ่นพินอินฟาริน่า ที่ขับชนดาบตำรวจวิเชียรแล้ว คือ ญญ 1111 กรุงเทพฯ โดยถูกถอดทะเบียนออกไปหลังเกิดเหตุ
ผบช.น.สั่งเด้ง สวป.สน.ทองหล่อ หาแพะรับผิดแทนลูกเฉลิม
มีรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ได้เซ็นคำสั่งโยกย้าย พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ให้ไปช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แบบไม่มีกำหนดแล้ว หลังจากพบว่า พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ มีพฤติกรรมพยายามนำตัว นายสุเวศ หอมอุบล อายุ 45 ปี คนขับรถประจำบ้านของนายเฉลิม อยู่วิทยา มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนแทนนายวรยุทธ ซึ่งเป็นผู้ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตัวจริง โดย ผบช.น. ระบุว่า รับไม่ได้กับการพยายามจัดฉากหาแพะรับบาปเช่นนี้ เพราะแสดงให้เห็นว่า ผู้บังคับบัญชาไม่สนใจไยดีลูกน้องที่้เสียชีวิตเลย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุเวศ มาสอบปากคำ และตรวจร่างกายเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลและร่องรอยจากการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ได้ เบื้องต้น ถูกแจ้งข้อหาให้การเท็จกับเจ้าหน้าพนักงาน ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำตัวส่งศาลแขวงพระนครใต้ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภรรยาดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ
ภรรยา ด.ต.วิเชียร ร่ำไห้ เผย ฝันเห็นใส่ชุดดำเป็นลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวนงนุช แสงประพาฬ ภรรยาดาบตำรวจวิเชียร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย ว่า รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับสามี และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทั้งนี้ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ตนเพิ่งจะฝันเห็นสามีแต่งกายด้วยชุดดำมาชวนไปใส่บาตร ไม่คิดว่าจะเป็นลางสังหรณ์บอกเหตุเช่นนี้
ทั้งนี้ นางสาวนงนุช ยังบอกด้วยว่า ปกติแล้วสามีเป็นคนเรียบร้อย ขยัน ชอบให้คำปรึกษา จึงเป็นที่รักของคนรอบข้าง ตนรักสามีมากที่สุด โดยแต่งงานอยู่กินกันมากว่า 7 ปีแล้ว พร้อมกับตัดพ้อถึงผู้ก่อเหตุที่หนีการจับกุมว่า ผู้ก่อเหตุไม่มีจิตสำนึก และไม่ใช่คนดี และอยากให้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
วรยุทธ อยู่วิทยา ลูกชายเฉลิม อยู่วิทยา
วรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส เป็นทายาทธุรกิจกระทิงแดง หรือเรดบูลที่โด่งดังอยู่ทั่วโลก วรยุทธ อยู่วิทยา มีดีกรีการศึกษาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์จากประเทศอังกฤษ เป็นบุตรชายของนายเฉลิม อยู่วิทยา และนางดารณี อยู่วิทยา เป็นบุตรคนเล็ก ในจำนวนพี่น้อง 3 คน ประกอบไปด้วย น.ส.วรางคณา อยู่วิทยา (แชมเปญ) สมรสกับ ม.ล.กอกฤษต กฤดากร 2. นายวาริท อยู่วิทยา (ปอร์เช่) 3. นายวรยุทธ อยู่วิทยา (บอส)
สำหรับตระกูลอยู่วิทยา เป็นตระกูลที่สร้างฐานะมาจาก ′เฉลียว อยู่วิทยา′มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของไทยและอันดับที่ 205 ของโลก ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยโรคชราในวัย 89 ปี เป็นเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงหรือเรดบูลที่ดังไปทั่วโลก ทิ้งทรัพย์สินก้อนโตกว่า 1.5 แสนล้านบาท
นายเฉลียว อยู่วิทยา หรือโกเหลียว เป็นคนไทยเชื้อสายจีนไหหลำ ปู่มาจากเมืองจีน ย่าเป็นคนไทย เป็นคนบ้านเขารูปช้าง ตำบลหัวดง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน มีบุตร 11 คน เกิดในครอบครัวยากจนมีอาชีพเลี้ยงเป็ดและค้าขายผลไม้ ต่อมาช่วยพี่ชายทำงานร้านขายยาเป็นเซลส์แมนขายยาออริโอมัยซินของ บริษัท เอฟ.อี.ซิลลิคฯ อยู่ 7 ปี จากนั้นได้ลาออกมาเป็นตัวแทนนำเข้ายามาจำหน่ายเอง
ต่อมานายเฉลียวได้ลาออกจากการเป็นเซลส์แมนมารับยาขายเอง และได้ตั้งโรงงานผสมยาอยู่หลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ ราชดำเนิน จากนั้นก็ได้ตั้งบริษัท ทีซีมัยซิน โดยผลิตแป้ง "แทตทู" และยาเด็ก "เบบี้ดอล" ก่อนที่จะมาลงทุนครั้งสำคัญด้วยการเปิดบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง ซึ่งนับว่าเป็นการประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดเนื่องจากกระทิงแดงเป็นเครื่องดื่มชูกำลังอันดับต้นๆ ของตลาดโลก
ด้านชีวิตครอบครัวสมรสกับนางนกเล็ก สดสี มีบุตรด้วยกัน 5 คน ต่อมาสมรสใหม่กับนางภาวนา หลั่งธารา ก่อนจะร่วมกันบุกเบิกเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง มีบุตรด้วยกัน 6 คน ได้แก่ สุทธิรัตน์ อยู่วิทยา, จิราวัฒน์ อยู่วิทยา, ปนัดดา อยู่วิทยา, สุปรียา อยู่วิทยา, สราวุฒิ อยู่วิทยา และนุชรี อยู่วิทยา
ในปี พ.ศ. 2527 นายเฉลียวได้ขยายธุรกิจกระทิงแดงไปต่างประเทศ โดยลงทุนร่วมกับนายดีทริช เมเทสซิทซ์ (Dietrich Mateschitz) นักธุรกิจชาวออสเตรีย ก่อตั้งบริษัท Red Bull GmbH. ในประเทศออสเตรีย โดยนายเฉลียวถือหุ้น 49% และนายเฉลิม ลูกชายถือหุ้นอีก 2% ผลิตและวางจำหน่ายกระทิงแดงในยุโรปภายใต้ยี่ห้อ เรดบูล และส่งไปขายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
ลำดับเศรษฐีของนายเฉลียว
เศรษฐีของโลกอันดับ 208 ในปี พ.ศ. 2553
เศรษฐีของโลกอันดับ 260 ในปี พ.ศ. 2551
เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 1 ในปี พ.ศ. 2551
เศรษฐีของโลกอันดับ 279 ในปี พ.ศ. 2550
เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 2 ในปี พ.ศ. 2550
เศรษฐีของโลกอันดับ 292 ในปี พ.ศ. 2548
เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 2 ในปี พ.ศ. 2548
เศรษฐีของโลกอันดับ 356 ในปี พ.ศ. 2547
เศรษฐีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับ 12 ในปี พ.ศ. 2547
เศรษฐีของโลกอันดับ 386 ในปี พ.ศ. 2546
เศรษฐีของโลกอันดับ 279 ในปี พ.ศ. 2550
เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 2 ในปี พ.ศ. 2550
เศรษฐีของโลกอันดับ 292 ในปี พ.ศ. 2548
เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 2 ในปี พ.ศ. 2548
เศรษฐีของโลกอันดับ 356 ในปี พ.ศ. 2547
เศรษฐีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับ 12 ในปี พ.ศ. 2547
เศรษฐีของโลกอันดับ 386 ในปี พ.ศ. 2546
จากการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีของนิตยสารฟอร์บส์ประจำปี 2012 เฉลียว อยู่วิทยา ฟอร์บส์คำนวณว่ามีความมั่งคั่งร่ำรวย ปีนี้อยู่ในระดับ 5,000 ล้านดอลลาร์ หรืออยู่ในอันดับที่ 205 ของปี 2012
รู้จัก Ferrari FF ตัวแรงม้าลำพองผู้พิฆาต ดต. วิเชียร
กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับการกล่าวถึงในเช้าวันจันทร์ต้นเดือนกันยายน เมื่อเกิดเหตุรถหรู Ferrari ชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อภายหลังคือ ดต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสน.ทองหล่อ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที่ในที่เกิดเหตุ
เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ต้องยอมรับว่าได้รับความสนใจอย่างมาก วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักรถหรูFerrari FF ราคาเกือบ 32 ล้านบาทคันนี้
Ferrari FF คือรถยนต์รุ่นล่าสุดของค่าย Ferrari หรือที่หลายคนคงได้ยินในนามของฉายาม้าลำพอง Ferrari FF ถูกผลิตขึ้นมาด้วยความตั้งใจในการเข้ามาทำตลาดในกลุ่มใหม่ โดยรถยนต์รุ่นนี้สามารถนั่งถึง 4 คนในห้องโดยสาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชื่อ FF ที่มาจาก Ferrari Four ให้ความสปอร์ตด้วยเรือนร่างแบบเดียวกับรถรุ่นอื่น แต่ยังคงความพิถีพิถันของตัวรถมาสู่ภายในห้องโดยสาร ด้วยขนาดมิติตัวถังที่กว้าง 1953 มิลลิเมตร ยาว 4907 มิลลิเมตรและสูง 1379 มิลลิเมตร มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1790 กิโลกรัม ที่ได้รับการออกแบบมาให้ลงตัว แม้จะนั่งได้มากถึง 4 คนก็ตาม
ในส่วนของสมรรถนะ Ferrari FF นั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด V12 ขนาด 6,262 cc ทำมุม 65 องศา มีพละกำลังสูงสุด 660 แรงม้าที่ 8000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุด 683 นิวตันเมตร ที่ 6000 รอบต่อนาที มาพร้อมความเร้าใจด้วยชุดเกียร์ Transaxle Dual-Clutch แบบเดียวกับที่ใช้ในรถ Formula 1
Ferrari เคลมอัตราเร่ง Ferrari FF ด้วยตัวเลข 0-100 กิโลเมตรในเวลาเพียง 3.7 วินาทีและมีความเร็วสูงสุดถึง 335 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยในประเทศไทยรถรุ่นนี้เข้ามาเปิดตัวเมื่อช่วงเดือน กันยายนปีที่แล้ว จัดจำหน่ายโดยบริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ ในราคา 725,000 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทย 31,175,000 บาท ...
Credit : Sanook.com,kapook.com,Youtube.com
เรียบเรียง : Ruengdd.com
Post a Comment