เศรษฐา ศิระฉายา & The Impossibles “จากวันนั้น ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ”
กลับมาอีกครั้งกับ Concert เต็มรูปแบบของศิลปินแห่งชาติคนล่าสุด “เศรษฐา ศิระฉายา” ซึ่งจะขึ้นเวทีพร้อมกับเพื่อน ๆ ในวง The Impossibles โดยนำเสนอเพลงไพเพราะยอดนิยมของวง The Impossibles และที่ถือเป็นความพิเศษของ Concert ครั้งนี้ คือ การเปิดตัวครั้งแรกของ “เศรษฐา ศิระฉายา” กับ Album ใหม่ “จากวันนั้น ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ” ที่ได้นำบทเพลงอันเป็นอมตะและทรงคุณค่าของ 4 ศิลปินแห่งชาติ : พยงค์ มุกดา, สง่า อารัมภีร, สุรพล โทณวณิก และชาลี อินทรวิจิตร ท่านละ 10 เพลง รวมเป็น 40 เพลง แยกการทำงานกับ 4 Producer คือ ชาตรี คงสุวรรณ, พนเทพย์ สุวรรณบุณย์, วิชัย ปุญญยันต์ และปทัย วิจิตรเวชการ
โดย “เศรษฐา ศิระฉายา” ได้คัดเลือกเพลงดังกล่าวจาก 40 เพลง มาแสดงเป็นครั้งแรกบนเวทีนี้มากกว่า 10 เพลง อาทิเช่น “หนึ่งในร้อย” , “แรมพิศวาส”, “คีรีบูนบิน”, “หยาดเพชร”, “พิษรัก”, “รอ” เป็นต้น โดยทั้ง 4 Producer ข้างต้นจะได้ร่วมแสดง Concert ครั้งนี้ในฐานะศิลปินรับเชิญ เศรษฐา ศิระฉายา & The Impossibles “จากวันนั้น ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ” 1 ศิลปินแห่งชาติ ร้องเพลงของ 4 ศิลปินแห่งชาติ
* ซื้อบัตร Concert ครั้งนี้ พร้อมสิทธิพิเศษจองซื้อ CD ชุด “เศรษฐา ศิระฉายา – จากวันนั้น ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ” ในราคาพิเศษ 800 บาท จากราคาเต็ม 1,200 บาท
เศรษฐา ศิระฉายา
เศรษฐา ศิระฉายา ชื่อเล่น ต้อย (6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 - ) เป็นพิธีกร ศิลปินแห่งชาติ นักแสดงชื่อดัง และนักร้องนำวงดิอิมพอสซิเบิ้ล จบมัธยมปลายจากโรงเรียนวัดบวรนิเวศ เศรษฐา ศิระฉายา เคยสมรสกับแอร์โฮสเตส ปัจจุบัน สมรสกับ อรัญญา นามวงศ์ มีบุตรสาว ชื่อ พุทธธิดา หรือน้องอิ๊ฟ เคยทำธุรกิจร้านขายหอยทอดร่วมกับภรรยา ที่ศูนย์อาหาร ศูนย์การค้ามาบุญครองตั้งแต่ศูนย์การค้าเริ่มเปิดดำเนินการใหม่ๆ ปัจจุบันเป็นผู้สร้างละครโทรทัศน์ในสังกัดช่อง 3
ผลงานทางดนตรี
- ตั้งวงหลุยส์กีต้าร์เกิร์ล
- ตั้งวงดนตรี Holiday J-3 ร่วมกับ วินัย พันธุรักษ์,พิชัย ทองเนียม,อนุสรณ์ พัฒนกุล และสุเมธ อินทรสูต ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น Joint Reaction และเปลี่ยนอีกครั้งในชื่อ The Impossibles ดิอิมพอสซิเบิ้ล ซึ่งเป็นชื่อการ์ตูนชื่อดังของอเมริกาในสมัยนั้น เป็นวงดนตรีสตริงคอมโบที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นวงดนตรีระดับตำนาน และเป็นวงดนตรียุคบุกเบิก ในยุค 60 ทั้งยังเป็นวงดนตรีต้นแบบและเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงดนตรีรุ่นหลังต่อ ๆ มามากมาย
- คอนเสิร์ต ดิอิมพอสซิเบิ้ล 2008 อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก
[แก้]ผลงานพิธีกร
- พิธีกรรายการมาตามนัด (คู่กับ ญาณี จงวิสุทธิ์) (10 มิถุนายน พ.ศ. 2529 - มิถุนายน 2537) [1]
- พิธีกรรายการ น่ารักน่าลุ้น (พ.ศ. 2531 - พ.ศ. 2538)
- พิธีกรรายการ ทีวีเกม '28 (พ.ศ. 2528)
- พิธีกรรายการ พีเพิลทูไนท์ (พ.ศ. 2536 - พ.ศ. 2539)
- พิธีกรรายการ เศรษฐาโชว์ (พ.ศ. 2539 - พ.ศ. 2540)
- พิธีกรรายการ ดวงกับดาว (พ.ศ. 2537 - พ.ศ. 2542)
- พิธีกรรายการ ยังคลับ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น แบบ เด็ก เด็ก)
- พิธีกรบนเวทีคอนเสิร์ตของ ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ทุกซีซั่น (พ.ศ. 2547 - ปัจจุบัน)
- พิธีกรบนเวทีคอนเสิร์ตรายการ เดอะ มาสเตอร์ (พ.ศ. 2552)
[แก้]ผลงานละคร
- ชาวเขื่อน (พ.ศ. 2524)
- เขยบ้านนอก (พ.ศ. 2532) กำกับการแสดงและร่วมแสดง
- ตะกายดาว (พ.ศ. 2532 - พ.ศ. 2533)
- ปีศาจหรรษา (พ.ศ. 2534)
- พ่อปลาไหลแม่พังพอน (พ.ศ. 2534)
- เขยบ้านนอก ภาค 2 (พ.ศ. 2535) กำกับการแสดงและร่วมแสดง
- พ่อปลาไหล (พ.ศ. 2541)
- หัวใจและไกปืน (พ.ศ. 2541)
- 18-80 เพื่อนซี้ไม่มีซั้ว (พ.ศ. 2540)
- เก็บแผ่นดิน (พ.ศ. 2544)
- รังนกบนปลายไม้ (พ.ศ. 2549)
- โบตั๋นกลีบสุดท้าย (รับบทเป็นอาฉาง) (พ.ศ. 2551)
- หาบของแม่ (รับบทเป็นอาเฉียว) (พ.ศ. 2551)
- แม่ค้าขนมหวาน(พ.ศ. 2552)
- ก๊วนกามเทพ (พ.ศ. 2552)
- ล่าผีปอบ (พ.ศ. 2552)
- สะใภ้เจ้าสัว (พ.ศ. 2553)
- เขยบ้านนอก (พ.ศ. 2553)
- ปลาไหลป้ายแดง (พ.ศ. 2554)
- สองผู้ยิ่งใหญ่ (พ.ศ. 2554)
- นายสุดซ่าส์ ข้าสุดแสบ (พ.ศ. 2554)
- สะใภ้พญายม (พ.ศ. 2555)
- ฯลฯ
[แก้]ผลงานภาพยนตร์ในยุคปัจจุบัน
- ภาพยนตร์แห่งประวัติศาสตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี (รับบท พญาละแวก กษัตริย์แห่งกัมพูชา พ.ศ. 2554)
- ภาพยนตร์แห่งประวัติศาสตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ยุทธหัตถี (รับบท พญาละแวก กษัตริย์แห่งกัมพูชา พ.ศ. 2554)
- บิ๊กบอย (พ.ศ. 2553)
[แก้]เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2551 : เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์
- พ.ศ. 2552 : เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)
[แก้]รางวัลที่ได้รับ
- พ.ศ. 2552 : รางวัลพระราชทานบันเทิงเทิดธรรม (พ.ศ. 2552) จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- พ.ศ. 2553 : รางวัลการเชิดชูบุคคล ทางด้านผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2553
- พ.ศ. 2554 : รางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง)
[แก้]คอนเสิร์ต
- คอนเสิร์ตSAF ร่วมกับ มูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส
- คอนเสริ์ต ดิอิมพอสซิเบิ้ล 2008 อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก
[แก้]อื่นๆ
- ประธานกรรมการ(พ.ศ. 2545 - ปัจจุบัน) มูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส
ดิอิมพอสซิเบิ้ล
ดิอิมพอสซิเบิ้ล หรือชื่อเรียกสั้นๆ ว่า ดิอิม เป็นวงดนตรีสตริงคอมโบวงแรกๆ ของไทย ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2509 มีสมาชิกรุ่นแรกประกอบด้วย วินัย พันธุรักษ์, อนุสรณ์ พัฒนกุล, สุเมธ แมนสรวง และพิชัย ทองเนียม และได้นักร้องนำคือ เศรษฐา ศิระฉายา ใช้ชื่อวงว่า Holiday J-3 ต่อมาเปลี่ยนเป็นจอยท์ รีแอ็กชั่น เล่นดนตรีเพลงสากลที่มีชื่อเสียง เช่น เพลงของคลิฟ ริชาร์ด เอลวิส เพรสลีย์ บางเพลงนำทำนองเพลงต่างประเทศที่เป็นที่นิยม มาแต่งเนื้อร้องเป็นภาษาไทย เช่นเดียวกับวงอื่นๆ ในยุคเดียวกัน เช่น ซิลเวอร์แซนด์ รอยัล สไปรท์ส เล่นดนตรีตามไนท์คลับต่างๆ
วงจอยท์ รีแอ็กชั่น เข้าร่วมการประกวดวงสตริงคอมโบ จัดโดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ. 2512 ได้รับรางวัลชนะเลิศ 3 ปีติดต่อกัน [1] ในปี(2512,2513,2515) วงจอยท์ รีแอ็กชั่น เปลี่ยนชื่อเป็น ดิอิมพอสซิเบิ้ล (The Impossibles) ชื่อนี้ตั้งโดยเศรษฐา ตามชื่อภาพยนตร์การ์ตูนทางโทรทัศน์ จากสหรัฐอเมริกา คือเรื่อง The Impossibles (1966) [2][3]
ช่วงหลังจากชนะเลิศในปีแรก ความนิยมได้พุ่งสูงอย่างมากมาย วงดิอิม ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมแสดงและบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องโทน(เพลงเริงรถไฟ ชื่นรัก ปิดเทอม) ของผู้กำกับเปี๊ยก โปสเตอร์ ทำให้ดิอิมได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้น ในขณะเดียวกันก็เกิดความเปลี่ยนแปลง สุเมธ แมนสรวง ได้ลาออกไป และได้สิทธิพร อมรพันธุ์ จากวงฟลาวเวอร์กับ ปราจีน ทรงเผ่า จากวงเวชสวรรค์ ได้เข้าร่วมวงแทน ระยะเวลานั้นดิอิม เล่นประจำอยู่ที่ศูนย์การค้าเพลินจิต แห่งเดียว ส่วนการแสดงตามโรงภาพยนตร์ในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ไทย หรือการแสดงในรอบเช้า 6.00 นาฬิกา ร่วมกับการฉายภาพยนตร์ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคนั้น (ภาพยนตร์ไทยเรื่อง เก๋า..เก๋า พ.ศ. 2549 ได้นำเสนอบรรยากาศของเรื่องการแสดงรอบเช้าของดิอิมด้วย ถึงจะไม่เหมือนไปทุกอย่าง แต่ก็ทำได้ใกล้เคียงและทำให้เห็นบรรยากาศในยุคนั้นได้ดีทีเดียว) ได้รวมถึงการแสดงตามเวทีลีลาศทั้งที่สวนลุมพินี สวนอัมพร ซึ่งมีขึ้นประจำทุกวันศุกร์หรือเสาร์ ช่วงปี 2511-2515 กลายเป็นปีทองของวงดิอิมอย่างแท้จริงราวปี พ.ศ. 2516-2518
ดิอิมพอสซิเบิ้ล มีชื่อเสียง และได้ทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมาก ผลงานแผ่นเสียงขายดีที่สุดในยุคนั้น ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในกลางปี 2515 ดิอิมพอสซิเบิ้ล ได้รับทาบทามให้ไปทำการแสดงที่มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ได้เพิ่มยงยุทธ มีแสง ทรัมเป๊ตจากวงวิชัย อึ้งอัมพร ร่วมวงไปด้วย ตลอดเวลา 1 ปีใน ฮาวาย ดิอิมพอสสิเบิลส์ได้รับความนิยมและความสำเร็จมากมาย เป็นวงดนตรีแรกที่ทำสถิติยอดขายต่อคืนสูงสุดตั้งแต่เปิดทำการของคลับที่แสดงอยู่ชื่อ ฮาวายเอี้ยนฮัท โรงแรมอลาโมอานา (ที่มีศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้นตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน) ดิอิมซ้อมนักมาก พิชัย ทองเนียม มือเบส ขอลาออก เศรษฐาต้องไปเล่นเบส ทำให้ไม่สะดวกในการร้องนำ จึงทำให้เกิดความคิดที่จะเรียกเรวัติ พุทธินันท์(เต๋อ) นักร้องนำวงเดอะแธ้งค์ ซึ่งเคยเล่นสลับที่อิมพอสสิเบิลส์คาเฟ่มาเป็นนักร้องนำแทนเศรษฐา ช่วงที่เต๋อเข้ามาได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นของการบรรเลง โดยได้เน้นเพลงที่มีเครื่องเป่ามากขึ้น และเป็นเพลงที่เหมาะกับการเต้น เช่นเพลงของวง Tower of Power เป็นต้น ขณะที่แสดงที่นั้นได้มีนักร้องศิลปินดัง ๆ ของโลกมาเปิดการแสดงที่ฮาวาย ทำให้วงดิอิม ได้ใช้ประสบการณ์ในการเข้าชมศิลปินดัง ๆ เหล่านี้มาปรับปรุงการแสดงของวงให้พัฒนาขึ้นตลอดเวลา
ดิอิมหมดสัญญาที่ฮาวายในเดือนสิงหาคม 2516 และได้เดินทางกลับเมืองไทยพร้อมกับผู้จัดการวงใหม่ ชื่อจรัล นันทสุนานนท์(ปัจจุบัน ดร.พุทธจรัล) เพื่อให้มีการจัดการวงในรูปแบบสากลอย่างมีระบบ ต้นเดือนพฤศจิกายน 2516 หลังเหตุการณ์วันมหาวิปโยค ดิอิม ได้เข้าทำการแสดง ณ เดอะเดนไนท์คลับโรงแรมอินทรา ประตูน้ำเป็นเวลา 6 เดือน และที่เดอะเดนนี้เอง ดิอิม ได้สร้างระบบใหม่ในการเข้าชมของวง โดยมีการเก็บค่าชม ก่อนการเข้าไปในคลับ ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของเมืองไทยและวงดนตรีไทย ในช่วงนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง ได้สมชาย กฤษณเศรณี(ปึ๊ด) มาเล่นเบสแทนเศรษฐา และปรีด์เทพ มาลากุล ณ อยุธยา(เปี๊ยก)มาเล่นกลองแทนอนุสรณ์ พัฒนกุล ได้ให้เรวัติเป็นนักร้องนำและเล่นออร์แกน เศรษฐาได้กลับไปเป็นนักร้องนำตามเดิม
การเดินทางเริ่มขึ้นอีกครั้งหลังหมดสัญญาที่เดอะเดน วงดิอิมได้รับการติดต่อไปแสดงในประเทศแถบสแกนดิเนียเวีย เริ่มจากสวีเดน ฟินแลนด์นอร์เวย์ ตั้งแต่เดือน มิถุนายนถึงธันวาคม 2517 จากนั้นกลับเมืองไทย และเปลี่ยนมือเบส ไพฑูรย์ วาทยะกร เข้ามาแทนสมชาย เดือนมิถุนายน ไปยุโรปอีกครั้ง เริ่มที่สวีเดน ฟินแลนด์ ข้ามไปสวิตเซอร์แลนด์ กลับมาสวีเดนอีกและไปจบที่สวิสในเดือนกุมภาพันธ์ 2519 กลับเมืองไทย เล่นที่โรงแรมมณเฑียรเหมือนเดิม
ในปี 2518 ระหว่างการกลับไปตระเวณแสดงในยุโรปครั้งที่ 2 ดิอิมพอสสิเบิ้ล ได้ทำการบันทึกเสียงเพลงสากลเป็นครั้งแรกของวง ในชื่ออัลบั้ม Hot pepper
หลังจากนี้ได้ว่าเกือบเป็นปลายยุคของวง ได้มีการประชุมตกลกที่จะยุบวง หลังจากวงมีอายุรวมกันมาถึง 9 ปี มีการแถลงข่าวยุบวงอย่างเป็นทางการต่อสื่อมวลชนช่วงเดือนเมษายน 2519 หลังจากนั้นได้เดินทางไปเล่นที่โรงแรมมาเจสติค กรุงไทเป ไต้หวัน โดยทำสัญญาเดือนต่อเดือน พอเริ่มทำงานหมดเดือนแรก เรวัติออกไปก่อน และได้เดินทางไปทำงานที่สวีเดน 3 เดือน ในไต้หวันทำงานค่อนข้างหนัก เพราะต้องแสดงทั้งกลางวันและกลางคืน (1 มิถุนายน-4 กันยายน 2519) หลังกลับเมืองไทยดิอิมได้แสดงในช่วงสุดท้ายที่คลับโรงแรมแมนฮัตตัน ทอปเปอร์คลับ ตึกนายเลิศ และที่เดอะฟ๊อกซ์ ชั้นใต้ดินศูนย์การค้าเพลินจิต โดยทำการแสดงคืนละ 3 แห่ง ในราวเดือนตุลาคม 2519 ก็ได้หยุดทำการแสดงอย่างเป็นการถาวรในนาม ดิอิมพอสซิเบิ้ล วงดนตรีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนานของวงดนตรีสากลแบบสตริงคอมโบ วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นของประเทศไทยต่อมาในช่วงพ.ศ. 2533ทางวงได้กลับมาออกอัลบั้มอีกครั้งกับนิธิทัศน์ โปรโมชั่นโดยเป็นการนำเอาเพลง ยอดนิยมมาออกใหม่
สรุปผลงาน
[แก้]อัลบั้มทางการ
- เป็นไปไม่ได้ (2515)
- หมื่นไมล์แค่ใจเอื้อม (2516)
- Hot pepper(2519)
- กลับมาแล้ว (2535)
[แก้]ผลงานการแสดงดนตรี [4]
(จากการบันทึกของสมาชิกวงพิชัย ทองเนียม และปราจีน ทรงเผ่า หนังสือ รวมบทเพลง The Impossibles)
[แก้]ช่วงปี 2509-2512 (ยุคเริ่มต้น)
- Holiday Carden ถนนเพชรบุรีตัดใหม่(ชื่อวง Holiday J-3)
- Wachington Bar ถนนเพชรบุรีตัดใหม่(ชื่อวง Joint Reaction)
- Progress Bar ถนนเพชรบุรีตัดใหม่(ชื่อวง The Impossibles)
- Las Vegas Bar ถนนเพชรบุรีตัดใหม่(ชื่อวง The Impossibles)
[แก้]ช่วงปี 2512-2517 (หลังชนะการประกวดสตริงคอมโบชิงถ้วยพระราชทานปีแรก)
- The Fire Cracker Club โรงแรม First ประตูน้ำ
- The impossibles Cafe ศูนย์การค้าประตูน้ำ ปทุมวัน
- ศาลาแดง ฮอลล์ ตรงข้างสวนลุมพินี (สลับกับวงวิชัย อิ้งอัมพร)
- Hawaiian Hut Ala Moana Hotel Honolulu Hawai U.S.A. - การแสดงต่างประเทศครั้งแรก
- The Den โรงแรมอินทรา ประตูน้ำ กรุงเทพฯ
[แก้]ช่วงปี 2517(ทัวร์ยุโรปครั้งแรก 1974)
- Europa Hotel - Gothenberg Sweden
- Norrköping - Sweden
- Monday Club - Stockholm Sweden
- Hesperia Hotel - Helsinki Finland
- Rainbow Club - Oslo Norway
- Noimalman - Stockholm Sweden
- Borsen Club - Stockholm Sweden
- Sundsvall - Sweden
- Grand Central Hotel - Gävle Sweden
- Hotel Jonkoping -Sweden
- New Yaki Club - Gothenberg Sweden
- แอน แอน ครับ - โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ (กลับเมืองไทยชั่วคราว)
[แก้]ช่วงปี 2518-2519 (ทัวร์ยุโรปครั้งแรก 1975-1976)
- Tragarn Restaurant - Gothenberg Sweden
- Hesperia Hotel - Helsinki Finland
- Malibu Club Basle - Switzerland
- New Yaki Club - Gothenberg Sweden
- Grinderwald - Switzerland
- Mascot Club Zurich - Switzerland
- Babalu Club Bern - Switzerland
- แอน แอน คลับ โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ (กลับเมืองไทย 2519|1976)
- ประกาศยุบวงในเดือนเมษายน 2519 ขณะเล่นที่ แอน แอน คลับ
- หลังประกาศยุบวงยังได้กลับมาวงตัวไปแสดงที่ ไต้หวัน ช่วง 1 มิถุนายน - 4 กันยายน 2519 Majestic Club Majestic Hotel - Taipei Taiwan
- ตุลาคม 2519 กลับเมืองไทย เล่นส่งท้าย (ประมาณ 14 วัน) คืนละ 3 แห่ง ที่ แมนฮัตตัน คลับ สุขุมวิท, ทอปเปอร์คลับ ตึกนายเลิศ, เดอะ ฟอกซ์ ศูนยการค้าเพลินจิต
[แก้]เพลงประกอบภาพยนตร์
- เริงรถไฟ-จากภาพยนตร์เรื่อง โทน (2512)
- ปิดเทอม-จากภาพยนตร์เรื่อง โทน (2512)
- ชื่นรัก-จากภาพยนตร์เรื่อง โทน (2512)
- รักกันหนอ-จากภาพยนตร์เรื่อง รักกันหนอ (2513)
- เจ้าพระยา-จากภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งนุช (2514)
- ลำนำรัก-จากภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งนุช (2514)
- เริงสายชล-จากภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งนุช (2514)
- ล่องวารี-จากภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งนุช (2514)
- เริงทะเล-จากภาพยนตร์เรื่อง ชื่นชีวาฮาวาย (2514)
- ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน-จากภาพยนตร์เรื่อง ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน (2514)
- ไปตามดวง-จากภาพยนตร์เรื่อง ดวง (2514)
- หนาวเนื้อ-จากภาพยนตร์เรื่อง ดวง (2514)
- ผม-จากภาพยนตร์เรื่อง ดวง (2514)
- โลกของเรา-จากภาพยนตร์เรื่อง สะใภ้หัวนอก (2514)
- น้ำผึ้งพระจันทร์(ร้องโดยชรินทร์ นันทนาคร)-จากภาพยนตร์เรื่อง น้ำผึ้งพระจันทร์ (2514)
- ใจหนุ่มใจสาว-จากภาพยนตร์เรื่อง น้ำผึ้งพระจันทร์ (2514)
- มันไหนล่ะ-จากภาพยนตร์เรื่อง สายชล (2514)
- จันทร์เพ็ญ-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
- ดีด สี ตี เป่า-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
- ความหวัง-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
- หาดสีทอง-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
- สายใยชีวิต-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
- ระเริงชล-จากภาพยนตร์เรื่อง ระเริงชล (2514)
- จูบฟ้า ลาดิน-จากภาพยนตร์เรื่อง ระเริงชล
- มิสเตอร์สโลลี่-จากภาพยนตร์เรื่อง ระเริงชล (2514)
- ข้าวเปลือก-จากภาพยนตร์เรื่อง ระเริงชล
- ค่าของคน-จากภาพยนตร์เรื่อง ค่าของคน (2514)
- ค่าของรัก-จากภาพยนตร์เรื่อง ค่าของคน (2514)
- ค่าของเงิน-จากภาพยนตร์เรื่อง ค่าของคน (2514)
- รอรัก-จากภาพยนตร์เรื่อง เจ้าลอย (2514)
- หนึ่งในดวงใจ-จากภาพยนตร์เรื่อง เจ้าลอย (2514)
- เดอะทีนเอจ-จากภาพยนตร์เรื่อง สวนสน (2514)
- ทะเลไม่เคยหลับ-จากภาพยนตร์เรื่อง สวนสน (2514)
- ครองจักรวาล-จากภาพยนตร์เรื่อง สวนสน (2514)
- โลกมายา-จากภาพยนตร์เรื่อง สาวกอด (2515)
- โอ้รัก-จากภาพยนตร์เรื่อง โอ้รัก (2515)
- หัวใจเหิร-จากภาพยนตร์เรื่อง สองสิงห์สองแผ่นดิน (2515)
- ยอดเยาวมาลย์-จากภาพยนตร์เรื่อง ภูกระดึง (2515)
- ไม่มีคำตอบจากสวรรค์-จากภาพยนตร์เรื่อง ไม่มีคำตอบจากสวรรค์ (2516)
- ทอง-จากภาพยนตร์เรื่อง ทอง (2516)
- ข้าวนอกนา-จากภาพยนตร์เรื่อง ข้าวนอกนา (2518)
- ชีวิตคนดำ-จากภาพยนตร์เรื่อง ข้าวนอกนา (2518)
- เกลียดคนสวย-จากภาพยนตร์เรื่อง ข้าวนอกนา (2518)
- ตัดเหลี่ยมเพชร-จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร (2518)
- แล้วเธอจะรู้-จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร (2518)
- ราตรีที่แสนเหงา-จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร (2518)
- The Great Friday(บรรเลง)-จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร (2518)
- ดับสุริยา-จากภาพยนตร์เรื่อง ดับสุริยา (2519)
- คมกุหลาบ-จากภาพยนตร์เรื่อง คมกุหลาบ (2519)
- ในช่วงปี 2517 บริษัทศรีกรุงภาพยนตร์ ได้จัดสร้างภาพยนตร์เรื่องเป็นไปไม่ได้ โดยมีรงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นผู้เขียนเรื่องและบทภาพยนตร์ มีเพลงประกอบที่สำคัญคือ เพลงเป็นไปไม่ได้ กังวลทะเล ผมเป็นโคบาลไทย และเพลงกุลา(ผลงานของสุรชัย จันทิมาธร) แต่งานสร้างประสบความล้มเหลว ไม่สามารถสร้างให้จบได้
[แก้]เพลงที่มีชื่อเสียง
- เป็นไปไม่ได้
- เริงทะเล
- ชื่นรัก
- ทะเลไม่เคยหลับ
- โอ้รัก
- ไหนว่าจะจำ
- คอยน้อง
- หนาวเนื้อ
- หนึ่งในดวงใจ
- จูบฟ้า ลาดิน
- ชั่วนิจนิรันดร
- ขาดเธอ ขาดใจ
- ทัศนาจร
- ชาวดง
- นกขมิ้น
- ข้าวนอกนา
- เกลียดคนสวย
- ชีวิตคนดำ
- ผมไม่วุ่น
ฯลฯ
Credit : th.wikipedia.org,bangkokeventscalendar.com,Youtube.com
เรียบเรียง : ruengdd.com,เรื่องดีดี.com
Post a Comment