นิสสันอัลมีร่า(Nissan Almera)Eco Carรุ่นที่2ของนิสสัน
Nissan ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวอีโคคาร์เวอร์ชั่น Sedan 4 ประตู ในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยขุมพลังของเวอร์ชั่น Sedan ยังเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในเวอร์ชั่น Hatchback ซึ่งทำยอดขายถล่มทลายชนิดไร้คู่แข่ง โดยเป็นเครื่องยนต์ชนิด 3 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร รหัส HR12DE ผลิตกำลังสูงสุดได้ 79 แรงม้า ขับเคลื่อนผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์ CVT และมีสเปคเป็นไปตามเงื่อนไขข้อกำหนดในการเป็นอีโคคาร์ของ BOI
สำหรับรูปร่างหน้าตาคาดว่าจะเป็นไปตามข่าวที่รายงานไปก่อนหน้านี้คือ การใช้รูปโฉมเดียวกันกับ Nissan Sunny ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศจีนไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ขุมพลังที่ใช้ในเมืองจีนเป็นเครื่องยนต์ขนาดความจุกระบอกสูบ 1.5 ลิตร 110 แรงม้า รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆก็จะดูหรูหรามากกว่าที่ใช้กับอีโคคาร์ในเมืองไทยที่จะทำตลาดภายใต้ชื่อรุ่นว่าAlmera
ภาพ Nissan Sunny มากกว่า 100 ภาพที่นำมาให้ชมเป็น Sunny รุ่นปี 2011 เวอร์ชั่นจีนที่เพิ่งเปิดตัวไป ซึ่งเป็นโฉมต้นแบบของอีโคคาร์ซีดานตัวใหม่ของ Nissan ที่รายละเอียดจะแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นภาพเหล่านี้จะเป็นเพียงแนวทางให้เห็นถึงโฉมของ Almera ในไทยเท่านั้น
มาชมกันครับ
มาชมกันครับ
มาชมกันครับ
มาชมกันครับ
ชมกันต่อเลยครับ
ชมกันต่อครับ
เรียกน้ำย่อยด้วยบรรยากาศหน้างานครับ
ต่อด้วยพริตตี้สาวสวยของนิสสัน
ตามด้วยข้างหน้า babyteana
แล้วก็บั้นท้ายอันอวบอิ่ม (ดูแล้วยิ่งเหมือน teana เข้าไปใหญ่!)
มามุมข้างๆกันบ้างครับ
แล้วก็ป้ายโฆษณาเจ้า all-new almera (ขอบอกว่าสีทองคันจริงสวยกว่าในรูปมาก ++)
ภายในงานครับ เริ่มมืดแล้วคนเริ่มเยอะ (อย่าหาว่าไรเลยขี้เกียดแซะตัวไปหน้าเวที แต่เดี๋ยวมีรูปพี่โดมมาฝากแน่นอนไม่ต้องห่วงครับ )
และแล้วพี่โดมก็มาเปิดตัว all-new almera ตามคอนเซปต์ "ความสุขที่กว้างขึ้น"
ที่นี้เรามาชมตัวรถกันเลย ถ่ายมาเท่าที่ได้นะครับ (อาจไม่คมชัดบ้างเพราะแสงในงาน ก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ)
คันสีขาวนี้ถ้าไม่ผิดน่าจะเป็นตัว E CVT ครับ ตามรูปเลย
งามๆ หรูสะดุดตา
เครื่อง1.2 ที่ผ่านการปรับจูนให้ดีขึ้น
เกะใส่ของเหมือนกันหมดทุกรุ่น
ที่จับเปิดประตูทุกรุ่นเว้นตัวทอปเป็นสีดำแบบนี้
ไฟท้ายสวยหยดย้อย
ท้ายรถกว้างมากๆ เรียกว่าคนเข้าไปนอนได้เลย (เดี๋ยวลองดูรูปห้องโดยสารหลังประกอบ จะเห็นว่า ท้ายรถที่กว้างไม่กระทบห้องโดยสารหลังเลย)
แอร์แบบปรับหมุนมือและ CDMP3 1 แผ่นพร้อมช่องต่อ AUX ที่ให้มาเหมือนกันในทุกรุ่น "ยกเว้นตัวล่างสุด" (ผมว่าปุ่มปรับ volume นี่ดูดีกว่าตัวในจีนที่เคยเห็นๆกันอีก)
เครื่องยนต์อีกสักรูปนึงละกัน
บั้นท้ายสุดอิ่ม
มาตรวัด analog ไม่เรืองแสง
หัวเกียร์ไม่มีแถบสีเงินมาตัด เป็นยูรีเทนธรรมดา
E MT/E CVT/ES CVTจะให้มาเป็นล้อเหล็ก+ฝาครอบ ขนาด 14" ตามรูป (ส่วนตัว V CVT/VL CVT จะเป็นแมกอัลลอย 15'')
ตัวสูงขึ้นมาก็จะคล้ายกันแต่ได้แอร์ออโต้ ES CVT (ถ่ายมาเฉพาะที่ต่างนะครับ)
แปะสีแดง และ น้ำเงินให้ดูเป็นทางเลือกนะครับ
มาตัว Top เลยละกันครับ ถ่ายแต่ที่ต่างมาเช่นกันครับ
เริ่มกันที่ทราจับเปิดประตูแบบโครเมียม ดูหรูสะดุดตา
อันนี้คือปุ่ม เปิด/ปิด idling stop ครับ
มาตรวัดแบบเรืองแสง fine vision+multi-display ครับสวยมาก คล้ายเทียน่าเลย!! (เสียดายไม่มีเปิดแสงให้ดู)
ปุ่มกด push start สะดวกสะบายทันสมัย
พวงมาลัย multi-funtion+ตกแต่งแถบสีเงิน (สิ่งที่หายไปในมาร์ช )
หัวเกียร์ตกแต่งแถบเงิน
ซูมแอร์ดิจิตอลมาให้ดูอีกรูปชัดๆ
แมกอัลลอย 15'' (เปลี่ยนลายหน่อยแหล่มแน่ๆ ดูจากทรงแล้วเป็นรถที่แต่งสวย)
ส่วนอันนี้เป็นตัวแต่ง luxury package นะครับ สีทองนะครับอันนี้ สิ่งที่เพิ่มมาก็ตามรูปเลย
มีจอทัชสกรีน (เห็นเซลบอกซื้อเพิ่ม 2x,xxx เฮื๊อกเลยครับ ) ตัวนี้ไม่รวมในแพคเก็จนะครับ
ไฟตัดหมอก LED บร่ะเจ้าาา งดงามจริงๆอันนี้
มาดูห้องโดยสารกันครับ (สักทีเนอะ 55) ไม่ได้ถ่ายข้างหน้ามาเพราะเห็นว่าเบสิคอยู่แล้วว่าต้องนั่งสบาย
เลยถ่ายห้องโดยสารหลังมาอย่างเดียวครับ กว้างไม่กว้างดูด้วยตาท่านเองเลย เบิ่งๆๆ
รูปแรกนี่ขาผมเอง เหลือ space เยอะเลย >> ติงนิดเดียวเบาะรองนั่งยาวกว่าอีกนิดจะดีมาก
เปิดตัวไปแล้วสำหรับ นิสสัน อัลเมรา หรือ Nissan Almera อีโค คาร์ รุ่นใหม่จากค่ายนิสสัน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 429,000 - 599,000 บาท เอาใจคนรุ่นใหม่อาศัยในเมือง แต่ชอบอีโคคาร์ สไตล์ซีดาน
นิสสัน อัลเมร่า เปิดตัวแล้วในประเทศไทยในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะมีการจัดงานเปิดตัวที่สยามพารากอน ในวันที่ 8 - 9 ตุลาคม 2554 ด้วย โดยทาง Nissan Almera ได้เลือกพระเอกหล่อขั้นเทพอย่าง โดม ปกรณ์ ลัม มาเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา นิสสัน อัลเมร่า
ทั้งนี้ ทางนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้ดำเนินการผลิตและประกอบนิสสัน อัลเมร่าแล้วดังนั้น จึงยืนยันความพร้อมในการส่งมอบรถยนต์รุ่นนี้ได้ทันทีหลังจากการเปิดตัวอย่างแน่นอน โดยคาดว่า นิสสัน อัลเมร่า จะแบ่งเป็น 6 รุ่น ได้แก่ S MT, E MT, E CVT, ES CVT, V CVT, VL CVT มีทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีน้ำตาล เกรย์ยิช บรอนซ์, สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์, สีดำ แบล็ก สตาร์, สีขาว ไวท์ โวลิด, สีแดง เบิร์นนิ่ง เรด, สีน้ำเงิน ดาร์ค บลู (สำหรับรุ่น 1.2 S จะมีเฉพาะสีเงิน สีดำ และสีขาวเท่านั้น) และสำหรับเบาะที่นั่งจะเป็น เบาะผ้าสีดำเป็นมันในรุ่น 1.2 S และเป็นเบาะผ้าสีดำธรรมดาในรุ่น 1.2 E, 1.2 ES, 1.2 V, 1.2 VL
ส่วนเรื่องของราคานั้น จะเริ่มต้นที่ 429,000 - 599,000 บาท ซึ่งจุดเด่นหลัก ๆ ของอีโคคาร์รุ่นใหม่นี้คือ ห้องโดยสารกว้างขวาง หรูหรา ประหยัดน้ำมัน และมีระบบ Idelling Stop แยกการทำงาน
สำหรับ Almera ตัวนี้ ทางนิสสันได้นำโครงพื้นฐานเดิมของ Sunny มาต่อยอดและดีไซน์แบบรถขึ้นมาใหม่ในสไตล์ซีดาน รวมถึงนำสไตล์ของ Tiida มาปรับตกแต่งให้ผสมผสานกันจนออกมาเป็น นิสสัน อัลเมร่า เวอร์ชั่นปี 2012 ให้เห็นกันในที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จากการออกแบบใหม่ทั้งคันด้วยไฟหน้าขนาดใหญ่ กระจังหน้าที่เข้ากับรูปทรงของตัวรถซึ่งเป็นวัสดุที่ทำมาจากโครเมี่ยม พร้อมล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารมีการออกแบบให้มีความกว้างสบายมากกว่ารุ่นก่อน ๆ ของนิสสัน พร้อมด้วยการตกแต่งภายในที่ดูธรรมดา ๆ แต่เรียบหรูตามสไตล์ของนิสสัน แถมด้วยลูกเล่นต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะบนพวงมาลัย ที่เอื้อต่อการใช้งานของคนขับโดยตรง พร้อมด้วยจุดเด่นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจกับระบบ "ไอเดิล สต็อป" (Idle Stop) หรือระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ โดยจะติดตั้งสวิตช์แยกการทำงาน ซึ่งผู้ขับสามารถเลือกใช้หรือไม่ใช้ระบบดังกล่าวได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง
ขณะที่ในส่วนของเครื่องยนต์ นิสสัน อัลเมร่า มาพร้อมกับเครื่องยนต์ HR12DE 3 สูบ 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ขับเคลื่อนผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด มีอ็อปชั่นเป็นเกียร์ Xtronic CVT เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งไม่ว่าจะขับในเมืองหรือนอกเมือง ก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้อยู่พอสมควร
นิสสัน อัลเมร่า คันนี้ถือเป็นอีโคคาร์แบบ 4 ประตูซีดานรายแรกของเมืองไทย ต่อยอดความสำเร็จต่อจาก "มาร์ช" (March) ที่ครองใจคนเมืองจนมียอดขายชนิดที่ว่าถล่มทลาย นี่เองจึงทำให้นิสสัน ได้ก้าวขึ้นมาท้าชิงกับตำแหน่งผู้นำด้านตลาดอีโคคาร์ค่ายอื่น ๆ แบบเต็มตัวเลยทีเดียวเชียวล่ะ
ตลาดรถอีโคคาร์ในเมืองไทยร้อนแรงและหอมหวลเกินกว่าที่ใครจะคาดถึง เมื่อ Nissan เตรียมเปิดตัว EcoCar รุ่นที่ 2 ของบริษัทฯ หลังจากได้ครองตำแหน่งเจ้าตลาดและเป็นรายแรกที่ได้แนะนำ EcoCar สู่ตลาดเมืองไทยด้วยการเปิดตัว March ด้วยยอดขายและยอดจองรวมกว่า 30,000 คันภายในเวลาเพียงแค่ 1 ปี จน Honda อดรนทนไม่ได้ต้องรีบเข็น Brio ออกมาชิงเค้กก้อนใหญ่นี้ ก่อนที่จะมี Mitsubishi และ Suzuki ตามมาติดๆในปี 2012 ยังไม่รวมบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆที่เหลือซึ่งกำลังจะตามออกมาอีก
มาชมกันครับ
มาชมกันครับ
มาชมกันครับ
|
ชมกันต่อครับ
ชมกันต่อแบบชัดๆ |
ต่อด้วยพริตตี้สาวสวยของนิสสัน
ตามด้วยข้างหน้า babyteana
แล้วก็บั้นท้ายอันอวบอิ่ม (ดูแล้วยิ่งเหมือน teana เข้าไปใหญ่!)
มามุมข้างๆกันบ้างครับ
แล้วก็ป้ายโฆษณาเจ้า all-new almera (ขอบอกว่าสีทองคันจริงสวยกว่าในรูปมาก ++)
ภายในงานครับ เริ่มมืดแล้วคนเริ่มเยอะ (อย่าหาว่าไรเลยขี้เกียดแซะตัวไปหน้าเวที แต่เดี๋ยวมีรูปพี่โดมมาฝากแน่นอนไม่ต้องห่วงครับ )
และแล้วพี่โดมก็มาเปิดตัว all-new almera ตามคอนเซปต์ "ความสุขที่กว้างขึ้น"
ที่นี้เรามาชมตัวรถกันเลย ถ่ายมาเท่าที่ได้นะครับ (อาจไม่คมชัดบ้างเพราะแสงในงาน ก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ)
คันสีขาวนี้ถ้าไม่ผิดน่าจะเป็นตัว E CVT ครับ ตามรูปเลย
งามๆ หรูสะดุดตา
เครื่อง1.2 ที่ผ่านการปรับจูนให้ดีขึ้น
เกะใส่ของเหมือนกันหมดทุกรุ่น
ที่จับเปิดประตูทุกรุ่นเว้นตัวทอปเป็นสีดำแบบนี้
ไฟท้ายสวยหยดย้อย
ท้ายรถกว้างมากๆ เรียกว่าคนเข้าไปนอนได้เลย (เดี๋ยวลองดูรูปห้องโดยสารหลังประกอบ จะเห็นว่า ท้ายรถที่กว้างไม่กระทบห้องโดยสารหลังเลย)
แอร์แบบปรับหมุนมือและ CDMP3 1 แผ่นพร้อมช่องต่อ AUX ที่ให้มาเหมือนกันในทุกรุ่น "ยกเว้นตัวล่างสุด" (ผมว่าปุ่มปรับ volume นี่ดูดีกว่าตัวในจีนที่เคยเห็นๆกันอีก)
เครื่องยนต์อีกสักรูปนึงละกัน
บั้นท้ายสุดอิ่ม
มาตรวัด analog ไม่เรืองแสง
หัวเกียร์ไม่มีแถบสีเงินมาตัด เป็นยูรีเทนธรรมดา
E MT/E CVT/ES CVTจะให้มาเป็นล้อเหล็ก+ฝาครอบ ขนาด 14" ตามรูป (ส่วนตัว V CVT/VL CVT จะเป็นแมกอัลลอย 15'')
ตัวสูงขึ้นมาก็จะคล้ายกันแต่ได้แอร์ออโต้ ES CVT (ถ่ายมาเฉพาะที่ต่างนะครับ)
แปะสีแดง และ น้ำเงินให้ดูเป็นทางเลือกนะครับ
มาตัว Top เลยละกันครับ ถ่ายแต่ที่ต่างมาเช่นกันครับ
เริ่มกันที่ทราจับเปิดประตูแบบโครเมียม ดูหรูสะดุดตา
อันนี้คือปุ่ม เปิด/ปิด idling stop ครับ
มาตรวัดแบบเรืองแสง fine vision+multi-display ครับสวยมาก คล้ายเทียน่าเลย!! (เสียดายไม่มีเปิดแสงให้ดู)
ปุ่มกด push start สะดวกสะบายทันสมัย
พวงมาลัย multi-funtion+ตกแต่งแถบสีเงิน (สิ่งที่หายไปในมาร์ช )
หัวเกียร์ตกแต่งแถบเงิน
ซูมแอร์ดิจิตอลมาให้ดูอีกรูปชัดๆ
แมกอัลลอย 15'' (เปลี่ยนลายหน่อยแหล่มแน่ๆ ดูจากทรงแล้วเป็นรถที่แต่งสวย)
ส่วนอันนี้เป็นตัวแต่ง luxury package นะครับ สีทองนะครับอันนี้ สิ่งที่เพิ่มมาก็ตามรูปเลย
มีจอทัชสกรีน (เห็นเซลบอกซื้อเพิ่ม 2x,xxx เฮื๊อกเลยครับ ) ตัวนี้ไม่รวมในแพคเก็จนะครับ
ไฟตัดหมอก LED บร่ะเจ้าาา งดงามจริงๆอันนี้
มาดูห้องโดยสารกันครับ (สักทีเนอะ 55) ไม่ได้ถ่ายข้างหน้ามาเพราะเห็นว่าเบสิคอยู่แล้วว่าต้องนั่งสบาย
เลยถ่ายห้องโดยสารหลังมาอย่างเดียวครับ กว้างไม่กว้างดูด้วยตาท่านเองเลย เบิ่งๆๆ
รูปแรกนี่ขาผมเอง เหลือ space เยอะเลย >> ติงนิดเดียวเบาะรองนั่งยาวกว่าอีกนิดจะดีมาก
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เปิดตัวแล้ว Nissan Almera เคาะราคาเริ่มต้น 429,000 บาท
เปิดตัวไปแล้วสำหรับ นิสสัน อัลเมรา หรือ Nissan Almera อีโค คาร์ รุ่นใหม่จากค่ายนิสสัน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 429,000 - 599,000 บาท เอาใจคนรุ่นใหม่อาศัยในเมือง แต่ชอบอีโคคาร์ สไตล์ซีดาน
นิสสัน อัลเมร่า เปิดตัวแล้วในประเทศไทยในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะมีการจัดงานเปิดตัวที่สยามพารากอน ในวันที่ 8 - 9 ตุลาคม 2554 ด้วย โดยทาง Nissan Almera ได้เลือกพระเอกหล่อขั้นเทพอย่าง โดม ปกรณ์ ลัม มาเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา นิสสัน อัลเมร่า
ทั้งนี้ ทางนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้ดำเนินการผลิตและประกอบนิสสัน อัลเมร่าแล้วดังนั้น จึงยืนยันความพร้อมในการส่งมอบรถยนต์รุ่นนี้ได้ทันทีหลังจากการเปิดตัวอย่างแน่นอน โดยคาดว่า นิสสัน อัลเมร่า จะแบ่งเป็น 6 รุ่น ได้แก่ S MT, E MT, E CVT, ES CVT, V CVT, VL CVT มีทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีน้ำตาล เกรย์ยิช บรอนซ์, สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์, สีดำ แบล็ก สตาร์, สีขาว ไวท์ โวลิด, สีแดง เบิร์นนิ่ง เรด, สีน้ำเงิน ดาร์ค บลู (สำหรับรุ่น 1.2 S จะมีเฉพาะสีเงิน สีดำ และสีขาวเท่านั้น) และสำหรับเบาะที่นั่งจะเป็น เบาะผ้าสีดำเป็นมันในรุ่น 1.2 S และเป็นเบาะผ้าสีดำธรรมดาในรุ่น 1.2 E, 1.2 ES, 1.2 V, 1.2 VL
ส่วนเรื่องของราคานั้น จะเริ่มต้นที่ 429,000 - 599,000 บาท ซึ่งจุดเด่นหลัก ๆ ของอีโคคาร์รุ่นใหม่นี้คือ ห้องโดยสารกว้างขวาง หรูหรา ประหยัดน้ำมัน และมีระบบ Idelling Stop แยกการทำงาน
สำหรับ Almera ตัวนี้ ทางนิสสันได้นำโครงพื้นฐานเดิมของ Sunny มาต่อยอดและดีไซน์แบบรถขึ้นมาใหม่ในสไตล์ซีดาน รวมถึงนำสไตล์ของ Tiida มาปรับตกแต่งให้ผสมผสานกันจนออกมาเป็น นิสสัน อัลเมร่า เวอร์ชั่นปี 2012 ให้เห็นกันในที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จากการออกแบบใหม่ทั้งคันด้วยไฟหน้าขนาดใหญ่ กระจังหน้าที่เข้ากับรูปทรงของตัวรถซึ่งเป็นวัสดุที่ทำมาจากโครเมี่ยม พร้อมล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารมีการออกแบบให้มีความกว้างสบายมากกว่ารุ่นก่อน ๆ ของนิสสัน พร้อมด้วยการตกแต่งภายในที่ดูธรรมดา ๆ แต่เรียบหรูตามสไตล์ของนิสสัน แถมด้วยลูกเล่นต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะบนพวงมาลัย ที่เอื้อต่อการใช้งานของคนขับโดยตรง พร้อมด้วยจุดเด่นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจกับระบบ "ไอเดิล สต็อป" (Idle Stop) หรือระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ โดยจะติดตั้งสวิตช์แยกการทำงาน ซึ่งผู้ขับสามารถเลือกใช้หรือไม่ใช้ระบบดังกล่าวได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง
ขณะที่ในส่วนของเครื่องยนต์ นิสสัน อัลเมร่า มาพร้อมกับเครื่องยนต์ HR12DE 3 สูบ 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ขับเคลื่อนผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด มีอ็อปชั่นเป็นเกียร์ Xtronic CVT เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งไม่ว่าจะขับในเมืองหรือนอกเมือง ก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้อยู่พอสมควร
นิสสัน อัลเมร่า คันนี้ถือเป็นอีโคคาร์แบบ 4 ประตูซีดานรายแรกของเมืองไทย ต่อยอดความสำเร็จต่อจาก "มาร์ช" (March) ที่ครองใจคนเมืองจนมียอดขายชนิดที่ว่าถล่มทลาย นี่เองจึงทำให้นิสสัน ได้ก้าวขึ้นมาท้าชิงกับตำแหน่งผู้นำด้านตลาดอีโคคาร์ค่ายอื่น ๆ แบบเต็มตัวเลยทีเดียวเชียวล่ะ
ตลาดรถอีโคคาร์ในเมืองไทยร้อนแรงและหอมหวลเกินกว่าที่ใครจะคาดถึง เมื่อ Nissan เตรียมเปิดตัว EcoCar รุ่นที่ 2 ของบริษัทฯ หลังจากได้ครองตำแหน่งเจ้าตลาดและเป็นรายแรกที่ได้แนะนำ EcoCar สู่ตลาดเมืองไทยด้วยการเปิดตัว March ด้วยยอดขายและยอดจองรวมกว่า 30,000 คันภายในเวลาเพียงแค่ 1 ปี จน Honda อดรนทนไม่ได้ต้องรีบเข็น Brio ออกมาชิงเค้กก้อนใหญ่นี้ ก่อนที่จะมี Mitsubishi และ Suzuki ตามมาติดๆในปี 2012 ยังไม่รวมบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆที่เหลือซึ่งกำลังจะตามออกมาอีก
ล่าสุด Nissan เดินหน้าเต็มสูบในตลาดรถเล็กประหยัดน้ำมันด้วยการเปิดเผยแผนการเปิดตัว EcoCar รุ่นที่ 2 ของบริษัทฯที่จะเปิดตัวภายในปีนี้ ซึ่งทันทีที่มีการเริ่มการผลิตรถรุ่นนี้ Nissan คาดว่าจะมียอดผลิต EcoCar รวมกว่า 1 แสนคันในปีนี้ จากการเปิดเผยของผู้บริหารท่านหนึ่งของ Nissan ประเทศไทยกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ หลังจากที่ได้กวาดยอดจอง Nissan March กว่า 2,000 คันในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และก็มีความเป็นไปได้สูงสำหรับลูกค้าที่สั่งจอง March ในงานนี้ ที่อาจจะต้องรอนานมากกว่าเดิมอีก 1-2 เดือน จากปัญหาการขาดอะไหล่ที่ส่งมาจากประเทศญี่ปุ่น
ทาง Nissan เองมีแผนในการผลิต March ในระดับ 80,000-90,000 คันต่อปี ซึ่งรวมถึงรุ่นที่้ส่งไปจำหน่ายยังประเทศญี่ปุ่นด้วย(Nissan March Bolera) และการที่จะต้องผลิต EcoCar รุ่นใหม่ทำให้ยอดการผลิตในโรงงานที่ประเทศไทยสูงถึง 100,000 คันเลยทีเดียว ในขณะที่บริษัทแม่ฯกำลังจะเริ่มผลิตรถรุ่นนี้ในประเทศจีน ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยชื่อรุ่นในขณะนี้ แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า Nissan จะใช้ Sunny ที่กำลังจะผลิตเชิงพาณิชย์ในประเทศจีนเป็นพื้นฐานในการผลิต EcoCar ตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Almera สำหรับตลาดเมืองไทยโดยมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ที่เริ่มมีการวิ่งทดสอบในเมืองไทยไปบ้างแล้ว ซึ่งรถรุ่นนี้จะเจาะตลาดอีโคคาร์สไตล์ซีดาน
กำหนดเปิดตัว Nissan Almera Eco Car Sedan คันแรกของไทยจะเจอกันไม่เกินวันที่ 7 ตุลาคม 2011 ครับNissan Almera จะแบ่งเกรดย่อย 5 เกรด ได้แก่ S, E, ES, V และ VL
รุ่น ล่างเกรด S จะมีอุปกรณ์มาตรฐานเหมือนกับ March S ไม่มีกระจกไฟฟ้า, ไม่มีเซ็นทรัลล๊อค, ไม่มีวิทยุซีดี, ติดตั้งล้อกระทะพร้อมยาง 175/70 R14 และถุงลมนิรภัย 1 ใบ
เกรด E มีให้เลือกเกียร์ธรรมดาและ XtronicCVT ติดตั้งกระจกไฟฟ้า, เซ็นทรัลล๊อค, กระจกมองข้างไฟฟ้า, ชุดเครื่องเสียงเล่น mp3 ได้, ล้อกระทะพร้อมยางเหมือนเกรด S แต่มีฝาครอบล้อ
เกรด ES เพิ่ม ABS, EBD+BA, ถุงลมนิรภัยคู่ เกรด V เพิ่มแอร์อัตโนมัติ, กระจกมองขับพับไฟฟ้า, ล้ออัลลอยด์ 15 นิ้ว และเกรด VL เพิ่มหน้าปัดเรืองแสง แสดงผลคู่, กุญแจอัจฉริยะ, ชุดปุ่มควบคุมเครื่องเสียงวิทยุบนพวงมาลัย, ไฟตัดหมอกหน้า, ที่ปัดน้ำฝนหน่วงเวลา, แผงประตูหุ้มผ้า
พร้อมออฟชั่นพิเศษกว่าบ้านเมืองอื่นเขานั่นก็คือ “สปอยเลอร์ท้าย” ที่มีรูปร่างคล้าย ๆ กับสปอยเลอร์ท้ายของ Toyota Corona Exior สมัย 12 ปีที่แล้ว
ตั้งแต่รุ่นถูกสุดถึงแพงสุดจะได้สปอยเลอร์ท้ายพร้อมชุดไฟเบรคเหมือนกัน
ไฮไลต์สำคัญของ Nissan Almera เกียร์ XtronicCVT ทุกรุ่น ก็คือระบบ Idle Stop อัจฉริยะสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย ณ เวลานี้ (แน่นอนว่าไม่นับรวมพวก Hybrid) ด้วยเงื่อนไขการทำงานที่น้อยกว่า Nissan March มาก ๆ เพียงแค่จอดรถรอไว้ตามเงื่อนไขที่กำหนด ระบบจะดับเครื่องยนต์โดยไม่ต้องปิดปุ่มแอร์ A/C แต่อย่างใด หากอยากให้กลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้งก็เพียงแค่ "ขยับ" พวงมาลัยเล็กน้อยเท่านั้น
สีทั้งหมดจะมี 6 สีด้วยกัน
สีขาว สีเงินซิลเวอร์
สีไทเทเนี่ยม สีน้ำเงิน
สีแดง สีดำ
โดยใช้สีไทเทเนี่ยมเป็นสีโปรโมตหลักเหมือนกันทั่วเอเชีย ห้องโดยสารใช้สีดำเป็นสีมาตรฐานสำหรับทุกรุ่น ราคาจำหน่ายเทียบรุ่นต่อรุ่นกับ Nissan March คาดว่าจะแพงกว่าเฉลี่ยประมาณ 3 หมื่นบาท
หลายคนอาจจะสงสัยสีไทเทเนี่ยมคือสีอะไร ซึ่งที่อเมริกาใช้เรียกสำหรับทองสำหรับรุ่นนี้ครับ
แน่นอนว่า คงไม่ใช่สีทองเหมือนกับสีทองทั่วไปในท้องตลาดแน่ๆ ที่จริงผมเคยเห็นตัวจริงมาแล้วที่กวางโจว มันไม่ค่อยทองนะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Almera เป็นรถที่สร้างอยู่บนพื้นฐาน V platform ร่วมกับ Nissan March และมีวัสดุ
อุปกรณ์ แนวทางการออกแบบ และชิ้นส่วนใช้ร่วมกันอยู่หลายชิ้นมาก แต่ก็เป็น
องค์ประกอบทั่วๆ ไปที่ใช้ร่วมกันเป็นปกติเหมือนกับรถเล็กหลายๆ รุ่นในท้องตลาด
แต่ความตั้งใจของ Nissan ก็ไม่ใช่การผลิตอัลมีร่าเป็นมาร์ชรุ่นซีดาน เหมือนกับที่
ค่ายอื่นๆ ทำ เช่น Toyota มี Yaris กับ Yaris sedan (Vios) ในอเมริกา
Nissan ตั้งใจทำ Almera ให้ใหญ่กว่า B car ทั่วๆ ไป ตามที่ Hasegawa ประธาน
Nissan Thailand คนปัจจุบันประกาศไว้ Almera คือ B พลัส หรือ B บวก ในขณะที่
March นั้นคือ B ปกติ ในกระทู้นี้เราจะมาลองวัดกันดูว่า Almera นั้นใหญ่กว่า อย่าง
ที่ท่านประธานพูดจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องราคา Almera จะมีราคาแพงกว่า March ใน
ทุกๆ รุ่น คาดหมายจากการเปิดตัวในตลาดอื่น เช่น จีน แล้ว ในระดับเครื่องยนต์
เดียวกัน Almera จะแพงกว่า March ประมาณ 3-50,000 ในทุกๆ รุ่น
แต่ Nissan ก็ดูจะยังมั่นอกมั่นใจกับโปรเจ็คนี้อยู่มาก ถึงแม้ค่าตัวของ Almera จะสูง
ขึ้นกว่า March มาก ซึ่งจุดขายของ March ก็คือมีราคาที่ย่อมเยาว์ดูคุ้มค่ากว่าคู่แข่ง
หรือว่า Almera จะเน้นคุณภาพมากขึ้นสุดๆ คำตอบก็คือ "ใช่" จากข้อมูลวงในที่อยู่
ใน Thai Almera Club Almera ใหญ่กว่า March มาก และใหญ่เกือบเท่าเทียมกับ
C segment ในบางมิติ ขณะที่ option และอุปกรณ์ต่างๆ ปรับปรุงขึ้นให้อยู่ใน
ระดับ B+ จริงๆ อย่างที่ท่านประธานกล่าวไว้ ก็ต้องลองดูกันว่า Almeraจะขึ้นแท่น
ชนะเลิศอย่างที่ Nissan คาดการณ์ไว้หรือไม่ ก่อนอื่นเรามาลองดูขนาดคร่าวๆ กัน
ในกระทู้นี้ก่อนครับ
เมื่อเทียบกับ March ซึ่งเป็นลูกพี่-ลูกน้องกัน
ทั้ง Almera และ March ต่างอยู่ในระดับ B segment เครื่องยนต์ที่ใช้ก็ไล่ไปตั้งแต่
1200cc สำหรับ eco car บ้านเรา, 1500cc, 1600cc และทั้งคู่ต่างก็เป็นตัวแรง
ในตลาดโลก นอกเหนือจากเป็นรถประหยัดพลังงานด้วยแล้ว สองตัวถังนี้ในอนาคต
ใครจะริลองไปใส่เครื่องใหญ่ก็ไม่ว่ากันเพราะ size body นั้นรองรับไหวอยู่แล้ว...
|
|
http://www.facebook.com/AlmeraClub?sk=wall
++++++SPY SHOT Nissan Almera ว่าที่Eco car sedan +++++
V10993290-4.jpg (191.31 kB, 620x465 - ดู 10269 ครั้ง.)
V10993290-6.jpg (188.97 kB, 620x465 - ดู 10245 ครั้ง.)
V10993290-2.jpg (194.08 kB, 620x465 - ดู 10111 ครั้ง.)
V10993290-1.jpg (194.78 kB, 620x465 - ดู 4491 ครั้ง.)
ส่วนราคารถออกมาแล้วนะครับดูราคาอัลมีร่าที่อันดับ20ถึง23นะครับ
ตารางคืนภาษีรถยนต์คันแรกจากกรมสรรพสามิต
นิสสันอัลมีร่า(Nissan Almera)จะเปิดตัวรอบสื่อมวลชนวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ณ สยามพารากอนส่วนรอบประชาชนก็วันที่8-9 ตุลาคม 2554
ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลก่อนใคร
โดยมีโดม ปกรณ์ ลัม เป็นพรีเซ็นเตอร์นิสสันอัลมีร่า(Nissan Almera)ครับ
นิสสัน อัลเมร่า "อีโคคาร์" คันนี้ มีดี ไม่ธรรมดา...
คอลัมน์ เทสต์คาร์โดย วุฒิณี ทับทอง
นี่หรือ...อีโคคาร์ ?
ทำไม...ดูกว้างจัง ?
แล้วมัน...วิ่งออกรึเปล่า ?
หลาย ๆ คำถามที่เกิดขึ้น หลังจากที่ค่ายนิสสันตัดสินใจเปิดตัวรถยนต์อีโคคาร์ ซีดาน แบบ 4 ประตู ออกสู่ตลาดบ้านเราอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมปีก่อน ภายใต้ชื่อ "นิสสัน อัลเมร่า" รถยนต์ภายใต้โครงการอีโคคาร์ของประเทศไทย ซึ่ง นิสสันถือเป็น "ผู้นำ" ฉบับนี้เราจะพาท่านไปค้นหาโดยย้อนกลับไปเมื่อ 12 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา นิสสันส่งอีโคคาร์ มาร์ช คันแรกของโลกและคันแรกของเมืองไทยทำตลาด สร้างความประทับใจให้ลูกค้าคนไทยแบบไม่เคยมีมาก่อน ชนิดที่ว่าผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้ว รถรุ่นนี้ยังต้องใช้เวลารอรับรถอย่างน้อย ๆ 2-3 เดือนเลยทีเดียว
สำหรับนิสสัน อัลเมร่า สร้างความ ฮือฮาด้วยจุดขาย กว้างขวาง โอ่อ่า ราคาย่อมเยา กับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร เมื่อเทียบกับขนาดตัวแล้ว หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า รถคันนี้วิ่งออกจริงหรือ ?...เดิมทีเดียว นิสสันเตรียมจัดทริปทดสอบให้กับบรรดาสื่อมวลชนได้มีโอกาสสัมผัสกับอัลเมร่าคันนี้หลังเปิดตัวไม่นาน แต่เนื่องจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้แผนงานต่าง ๆ ต้องชะลอและหยุดลงไป และเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย นิสสันไม่รอช้า โหมกระแส ความแรงของอัลเมร่าคันนี้ทันที ด้วยการจัดทดสอบในเส้นทางกรุงเทพฯ-เพชรบุรี-ปราณบุรี
ทำไม...ดูกว้างจัง ?
แล้วมัน...วิ่งออกรึเปล่า ?
หลาย ๆ คำถามที่เกิดขึ้น หลังจากที่ค่ายนิสสันตัดสินใจเปิดตัวรถยนต์อีโคคาร์ ซีดาน แบบ 4 ประตู ออกสู่ตลาดบ้านเราอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมปีก่อน ภายใต้ชื่อ "นิสสัน อัลเมร่า" รถยนต์ภายใต้โครงการอีโคคาร์ของประเทศไทย ซึ่ง นิสสันถือเป็น "ผู้นำ" ฉบับนี้เราจะพาท่านไปค้นหาโดยย้อนกลับไปเมื่อ 12 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา นิสสันส่งอีโคคาร์ มาร์ช คันแรกของโลกและคันแรกของเมืองไทยทำตลาด สร้างความประทับใจให้ลูกค้าคนไทยแบบไม่เคยมีมาก่อน ชนิดที่ว่าผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้ว รถรุ่นนี้ยังต้องใช้เวลารอรับรถอย่างน้อย ๆ 2-3 เดือนเลยทีเดียว
สำหรับนิสสัน อัลเมร่า สร้างความ ฮือฮาด้วยจุดขาย กว้างขวาง โอ่อ่า ราคาย่อมเยา กับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร เมื่อเทียบกับขนาดตัวแล้ว หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า รถคันนี้วิ่งออกจริงหรือ ?...เดิมทีเดียว นิสสันเตรียมจัดทริปทดสอบให้กับบรรดาสื่อมวลชนได้มีโอกาสสัมผัสกับอัลเมร่าคันนี้หลังเปิดตัวไม่นาน แต่เนื่องจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้แผนงานต่าง ๆ ต้องชะลอและหยุดลงไป และเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย นิสสันไม่รอช้า โหมกระแส ความแรงของอัลเมร่าคันนี้ทันที ด้วยการจัดทดสอบในเส้นทางกรุงเทพฯ-เพชรบุรี-ปราณบุรี
เปิดประตูเข้ามานั่งภายใน ห้องโดยสาร คำถามเรื่องความกว้างขวางของรถคันนี้ได้หมดไป เพราะนิสสันเขาออกแบบมาให้ความรู้สึกภายในห้องโดยสารกลายเป็นเสมือนห้องส่วนตัวที่มีพร้อมทั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มองผาด ๆ ที่บริเวณคอนโซลด้านหน้านั้นทั้งแผงควบคุม วิทยุ ซีดีและเอยูเอ็กซ์ ที่อยู่ระหว่างช่องแอร์ที่คอนโซลกลางกับปุ่มควบคุมแอร์ ซึ่งออกแบบ เป็นแผงลักษณะวงกลม แนว เรโทรไม่แตกต่างจากอีโคคาร์คันก่อน เรียกว่าเป็นแบบเดียวกับแฝดน้องนิสสัน มาร์ช
บริเวณพวงมาลัย เพิ่มปุ่มควบคุมเครื่องเสียงเอาไว้ เพื่อให้ผู้ขับสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเอื้อมมือ หรือละสายตาจากการขับขี่ไปที่แผงควบคุมบริเวณคอนโซลกลาง มาถึงตรงนี้ต้องบอกว่าเกินความคาดหมาย ที่เบาะโดยสารด้านหลังมีพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ ทั้งเฮดรูมและเลตรูม นั่งได้สบาย ๆ แต่ที่ติดใจเล็กน้อยก็คือพนักพิงเบาะหลัง อาจจะด้วยการออกแบบที่ต้องการให้พื้นที่เก็บของในกระโปรงหลังมีมากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าพนักพิงหลังมีความชัน
โดดข้ามมานั่งหลังพวงมาลัย ยังอดหวั่นใจไม่ได้ว่าเครื่อง 1.2 ลิตรจะแบกรับน้ำหนักได้ดีขนาดไหนกันเชียว เอื้อมมือไปกดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ เลื่อนตำแหน่งคันเกียร์ให้มาอยู่ที่ตัว "D" ค่อย ๆ แตะเท้าขวาไปที่คันเร่ง เพื่อไต่ระดับ ปลุกม้าทั้ง 79 ตัวให้ทำงาน ความรู้สึกในช่วงออกตัวนั้น สัมผัสได้ถึงอัตราเร่งที่ตอบสนองค่อนข้างดี แต่จังหวะเร่งแซง อาจจะต้องใช้เวลารอให้เครื่องยนต์ทำงานเล็กน้อย
รถคันนี้เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่นิสสันภูมิใจนำเสนอคือ Idling Stop ช่วยประหยัดน้ำมันและลดไอเสีย ซึ่งระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ เมื่อรถจอดนิ่ง ๆ ภายใน 5 วินาที เช่น ติดสัญญาณไฟแดง และระบบจะสตาร์ตเครื่องยนต์ใหม่ เมื่อกดคันเร่ง ซึ่งในช่วงแรกที่ไม่คุ้นกับระบบนี้ อาจจะรู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย แต่เมื่อทำความเข้าใจสักพัก ก็ไร้ปัญหา หรือหากเราไม่ต้องการใช้ระบบดังกล่าว ก็สามารถกดปุ่มปิดการใช้งานระบบนี้ได้
ช่วงจังหวะถนนโล่ง ลองทำความเร็วดูสักหน่อย ว่าจัดจ้านสักแค่ไหน ? ปรากกฏว่าเข็มไมล์สูงสุดทำได้ไล่ไปแตะระดับกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะจากการฟังเสียงของเครื่องยนต์ ขณะนี้ถือว่าทำงานค่อนข้างหนัก จึงค่อย ๆ ลดระดับความเร็วมาให้วิ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 100-120 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่เหมาะสม
อัลเมร่าคันนี้ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะระดับความเร็ว ส่วนช่วงล่างเซอร์ไพรส์เลยล่ะ ทั้งแน่น ทั้งหนึบ ไม่มีอาการเบาร่อนให้เห็น แม้ช่วงเส้นทางเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ทั้งช่วงล่างและพวงมาลัยทำได้ค่อนข้างประทับใจ แม้ว่าความรู้สึกส่วนตัวแล้ว พวงมาลัยจะ "เบา" ไปหน่อย แต่เมื่อปรับและทำความเข้าใจกับบุคลิกของรถจนคุ้นชิน ก็ไร้ปัญหา
ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า นิสสัน อัลเมร่า ถือว่าเป็นอีโคคาร์ที่ให้ความคุ้มค่าและราคาสมตัว อัลเมร่า ราคาเริ่มต้นที่ 4.29 ไล่เรียงไปจนถึง 5.99 แสนบาท แต่ถ้าใครได้สิทธิ์รถยนต์คันแรก ซึ่งรัฐบาลใจป้ำสนับสนุนคืนภาษีให้สูงสุดถึง 1 แสนบาท ก็ยิ่งถูกลงไปอีก อย่าลืมลองแวะเวียนไปทดลองขับและสัมผัสประสบการณ์จริงกับ "อัลเมร่า" อีโคคาร์ 4 ประตู ที่โชว์รูมนิสสันทุกสาขาทั่วประเทศ
รีวิวนิสสันอัลมีร่า(Review Nissan Almera)
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=3138:exclusive-first-impression-nissan-almera-12-cvt-eco-car-&catid=62:sub-b-segment-1000-1300-cc&Itemid=73
User's review "Nissan Almera EMT" เครื่องเล็ก ในร่างใหญ่
http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V11419499/V11419499.html
คลิปรีวิวคุณแมงมุมกับน้องทองท่วม
คลิปรีวิวOn The Road with Almera V/CVTโดยคุณแมงมุม
ขับ Nissan Almera Eco car ขึ้นเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก
เมื่อแรกเริ่ม เดิมที ที่ส่อเค้า
ว่าจะเอา อัลเมร่า เข้ามาขาย
เครื่องพันสอง เว็ปแทบล่ม ถล่มทลาย
"ดูซิว่า จะไปได้ เท่าไหร่เชียว ?"
"หรือจะซื้อ เอาไว้ใช้ ไปซื้อผัก"
"คงอืดนัก แซงทีไร ให้หวาดเสียว"
"ลดต้นทุน คุณภาพ น่าเกลียดเชียว"
"อีโค คาร์ ใครจะเหลียว จะสนใจ ?"
ฟังคำเขา เล่าลือ อื้อในหู
"อยากจะรู้ ว่าจะแน่ สักแค่ไหน !!"
ถึงวันงาน เปิดตัวหรู อยู่เรียงราย
เทสไดร์ฟได้ แค่สั้นสั้น ไม่มันส์เลย
ท่านจึงจัด คลิปนี้ คลายสงสัย
เพื่อรับขวัญ น้องใหม่ ไม่นิ่งเฉย
เขื่อนขุนด่าน ปราการชล ขนไปเกย
จัดกันเลย สภาพจริง วิ่งเต็มตัว
หลังจากนี้ ดูคลิปเอา เราขี้เกียจ
สาธยายให้ยาวเหยียด เดี๋ยวเวียนหัว
ฝากถึงที่ ยังลังเล "อย่าไปกลัว"
ที่เคยด่า จะกลับตัว ก็ยังทัน !
ขอขอบคุณ Ann mera 2011@thaialmeraclub
Posted on : 08-10-2011 | By : Biere
สวัสดีครับเพื่อน ๆ
ผมเอาโบรชัวร์ของแต่งเจ้า Nissan Almera จากศูนย์นิสสันมาฝากครับ ดูกันไปได้ยาว ๆ เลยนะครับ และถ้าจะดูภาพใหญ่ ให้คลิ๊กที่ภาพนั้น ๆ เลยครับ
ชุดแต่ง Nissan Almera จาก Photoshop
ชุดแต่งผมสวยไหมครับ ชุดนี้มีชุดเดียวในเมืองไทย สั่งนำเข้าจากประเทศ Photoshop 55555+
ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ เปิดดูเว็ป Thaialmeraclub ก็ไม่มีความเคลื่อนไหว เลยจัดซะ
พี่ๆ ร้านประดับยนต์ที่กำลังจะออกชุดแต่ง Almera ขอคล้ายๆ แบบนี้บ้างนะครับ ถ้ามีผมสนับสนุนชุดหนึ่งเลย สวยไหม
มาทั้งหน้าและหลังแล้วนะครับ ได้เท่านี้ก็พอใจหล่ะ Almera น้องรัก
หลัง ก่อนทำ เป็นรถผมเอง Almera ES
หลัง หลังทำ กลายเป็น Almera GT-R
หน้า ก่อนทำ เป็นรถผมเอง Almera ES
หน้า หลังทำ กลายเป็น Almera GT-R
ขอขอบคุณ
WUT_Modify@thaialmeraclub
ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ เปิดดูเว็ป Thaialmeraclub ก็ไม่มีความเคลื่อนไหว เลยจัดซะ
พี่ๆ ร้านประดับยนต์ที่กำลังจะออกชุดแต่ง Almera ขอคล้ายๆ แบบนี้บ้างนะครับ ถ้ามีผมสนับสนุนชุดหนึ่งเลย สวยไหม
มาทั้งหน้าและหลังแล้วนะครับ ได้เท่านี้ก็พอใจหล่ะ Almera น้องรัก
หลัง ก่อนทำ เป็นรถผมเอง Almera ES
หลัง หลังทำ กลายเป็น Almera GT-R
หน้า ก่อนทำ เป็นรถผมเอง Almera ES
หน้า หลังทำ กลายเป็น Almera GT-R
ขอขอบคุณ
WUT_Modify@thaialmeraclub
สดๆร้อนๆจากอู่ PS (โฟโต้ช้อป)
ที่มา: Nissan/Bangkokpost,autospinn.com,คุณj.v.s.@naruk,คุณเน็ดคุง,Pantip.com,thaispyshot.com,marchecocar.com,thaialmeraclub.com,http://www.motortrivia.com,http://thaialmera.info,กระปุกดอทคอม,almeraclubs.com,prachachat.net
เรียบเรียง : Ruengdd.com
เนื้อหาในเว็บที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ใหม่ : http://www.ruengdd.com/2011/10/toyota-fortuner2012.html
เนื้อหาในเว็บที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ใหม่ : http://www.ruengdd.com/2011/10/toyota-fortuner2012.html
มิตซูบิชิ(Mitsubishi) เปิดตัว "มิราจ" (Mirage) อีโคคาร์พร้อมขายในไทยปี2555(2012)
ซูซูกิ สวิฟท์2012(Suzuki Swift ECO Car)
Motor Expo 2011 มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 28พร้อมภาพรถและพริตตี้ภายในงาน
http://www.ruengdd.com/2011/11/motor-expo-2011-28.html
|
Post a Comment